เรียน ม.ราชภัฏ ไม่ดีหรอครับ เห็นบางคนชอบดูถูกดูเเคลน ???

เห็นบ่อยมากในโลกไซเบอร์ ชอบว่าม.ราชภัฏเเบบเสียๆหาย บางคนบอกว่าจะไม่รับคนจบจากที่นี่เข้าทำงานบ้าง  ไม่มีคุณภาพบ้าง บางคนเข้าขั้นอคติไปเลย เคยเห็นมีผู้ปกครองรายหนึ่งมาโพสในพันทิปบอกว่าถ้ารู้ว่าครูคนไหนจบจากม.ราชภัฏจะไม่ยกมือไหว้เด็ดขาด

ผมก็เป็นคนนึงครับ ที่เรียนที่ม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานี ผมก็เห็นว่ามีคุณภาพดี อาคารเรียน ตึกก็ใหญ่พอๆกับมหาลัยดังๆเลย มหาลัยก็ใหญ่โตกว้างขวาง ตอนนี้ก็กำลังสร้างเพิ่มอีกหลายตึก อาจารย์ก็สอนดี รุ่นพี่ที่นี่ก็อบอุ่นไม่เเพ้ที่อื่น เเละไม่ใช่ว่านึกศึกษาจะเรียนจบทุกคน คนที่ไม่ตั้งใจก็โดนรีไทน์ไปเยอะเเยะ

เเต่ทำไมหลายๆคนยังมีอคติกับที่นี่
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 31
ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างในอดีต (จนถึงปัจจุบัน) ทำให้ราชภัฏยังไม่เป็นที่ยอมรับในหลายๆ ที่ ครับ

1. ราชภัฏเป็นทางเลือกสำหรับคนที่เอนซ์ทรานซ์ไม่ติด
ซึ่งต้องยอมรับข้อนี้ ผมว่ามีน้อยถึงน้อยมากๆ ที่สมัครใจ เข้าเรียนราชภัฏโดยตรง โดยที่ไม่สอบเอนทรานซ์เลย จากประสบกรณ์ของผมที่เรียนโรงเรียนสาธิตฯ มา พอถึง ม.6 ม.ราชภัฏที่อยู่ข้างๆ โรงเรียน จะเชิญเด็ก ม.6 ของ ร.ร.สาธิตฯ ไปนั่งฟังบรรยาย ซึ่งอาจารย์ก็จะพยายามพูดว่า อย่ามองราชภัฏเป็นตัวเลือกอันดับที่ 2 ซึ่งปกติเกรดต้องมากกว่า 2.00 ถึงจะรับเข้าราชภัฏ แต่ถ้าเป็นเด็กสาธิตฯ ถ้าเกรดต่ำกว่า ทางราชภัฏ ก็สามารถรับเข้าได้เลยเป็นกรณีพิเศษ ทำให้เป็นเหตุผลแรกที่น่าเศร้าใจของสังคม ว่าเด็กที่มาเรียนคือเด็กที่สอบเอนทรานซ์ไม่ติด และสอบตรงที่ไหนไม่ได้แล้ว จึงมาเรียนราชภัฎ

และจึงเป็นเหตุผลที่ จขกท ว่าผู้ปกครองมาโพสว่าครูคนไหนจบราชภัฏจะไม่ได้รับการยอมรับ เพราะผู้ใหญ่ส่วนใหญ่มองว่า ครู ส่วนใหญ่ที่จบจากราชภัฎมาจากเหตุผลจากข้างต้น คือสอบอะไรไม่ติดจึงมาเรียน ทำให้ไม่มั่นใจว่าจะเป็นคนสามารถถ่ายทอดความรู้ที่ดีได้ (จากประสบการณ์ตรงของผม จะมีครูฝึกสอนจากราชภัฏมาสอนที่โรงเรียนสาธิตฯ บ่อยๆ บางคน ผมยอมรับว่าถ่ายทอดความรู้ดีมากๆ ดีกว่าคนที่จบโทมหาลัยดีๆ ซะอีก แต่ก็ยอมรับว่าน้อยคนที่จะเป็นแบบนั้น)

2. การถูกเปรียบเทียบตอนสมัครงาน
เมื่อ Profile resume ถูกส่งเข้ามายังคนคัดเลือก (ฝ่ายบุคคล) โจทย์แรกที่จะถูกเปรียบเทียบระหว่างคนจบเกรด 3.5 ราชภัฏ กับคนจบเกรด 2.2 ม.รัฐดังๆ ใครคือคนที่จะถูกเลือกคนแรก แน่นอนว่า คนจบ ม.รัฐ คือคนที่ถูกคัดเลือกเบื้องต้นแล้ว ว่าเป็นคนเก่ง มีความรู้ มีสติปัญญา สามารถผ่านการสอบ สามารถชนะคนอีกหลายๆ คนมารวมกัน เกรด 2.2 จึงเป็นเกรดที่เกิดจากการต่อสู้อย่างโชกโชนกับคนเก่งๆ ด้วยกัน ในขณะที่เกรด 3.5 ราชภัฏ เป็นการแข่งกับคนในกลุ่มเดียวกันจากข้อที่ 1  (จากประสบการณ์ตรงของผม บางคนตอนเรียน ม.ปลายได้เกรดไม่ถึง 2.00 แต่พอเข้าราชภัฎได้เกียรตินิยมเลย แต่อาจใช้เป็นเหตุผลไม่ได้ เพราะตอนเรียนมหาลัย เขาอาจจะขยันจริงๆ ก็ได้) ทำให้เป็นอีก 1 เหตุผลว่าทำไมราชภัฎจึงไม่เป็นที่ถูกเลือก Choice แรกของหลายๆ บริษัท

3. อาจารย์ที่ถ่ายทอดความรู้
Profile อาจารย์ ม.รัฐ กับอาจารย์ ม.ราชภัฏ มันสู้กันไม่ได้ มันส่งผลไปถึงการถ่ายทอดความรู้ วิสัยทัศน์การสอนที่แตกต่างกัน เพราะอาจารย์ ม.รัฐ ส่วนใหญ่จะจบเอก จาก ม.ชั้นนำจากต่างประเทศ แต่ อ.ราชภัฎ ส่วนใหญ่จะจบเอกภายในประเทศ หรือ ม.ไม่ดังในต่างประเทศ (แต่อาจารย์บางคนก็ใช้ประสบการณ์ทำให้เหนือกว่า อาจารย์ ม.รัฐ ก็มีเหมือนกัน) สำหรับประเด็นนี้ เด็กที่ไปเรียนไม่ได้ผิดอะไร แต่มันส่งผลไปถึงตอนสัมภาษณ์งาน จากประสบการณ์ของผม ผมก็ทำหน้าที่คัดเลือกและสัมภาษณ์คนเข้าทำงานเหมือนกัน ผมไม่ค่อยมองว่าจบจากมหาลัยอะไร แต่จะทดสอบคนๆ นั้นตอนสัมภาษณ์เอา เพราะผมก็กลัวพลาดเพชรงามๆ ไปเหมือนกัน แต่....ส่วนใหญ่พอสัมภาษณ์จะเห็นถึงความแตกต่างอย่างมาก มุมมองการคิด การเข้าใจในสิ่งที่เรียนมา และที่ชัดเจนมาก คือ Project สุดท้ายก่อนจบ ผมไม่โทษเด็กนะ แต่โทษอาจารย์ ว่าให้เด็กทำ Project แบบไม่สร้างสรรค์ คือจะเดาได้ก่อนถามเลย ว่าต้องทำ Project แบบนี้แน่ๆ เป็น Pattern เลย (เช่นคนจบวิทย์คอม ส่วนใหญ่ 90% ทำเว็ปขายของบ้าง เว็ปสต๊อกบ้าง เว็ปสื่อเรียนรู้บ้าง ซึ่งมัน basic มากๆ)  ไม่แน่ใจว่าเพราะอาจารย์เองก็ไม่มีความรู้ที่มากพอ ที่จะให้เด็กทำ Project ที่ท้าทายความสามารถ หรือมุมกลับกัน อาจารย์มีความรู้ แต่รู้ว่าเด็กมีศักยภาพไม่พอที่จะทำ เลยไม่กล้าให้ เพราะให้ไปก็ทำไม่เสร็จ เรียนไม่จบอีก ดังนั้นตรงนี้โทษอาจารย์อย่างเดียวไมได้ เด็กต้องพัฒนาศักยภาพตัวเองด้วย

4. ศักยภาพเมื่อต้องแข่งขันหลังจากรับเข้าทำงาน
ต้องขอบอกตรงๆ เลย เด็กราชภัฎ 10 คน จะมีแค่ 1 คน ที่เอาชนะเด็กที่จบ ม.รัฐ ได้ ประเด็นสำคัญคือ มุมมองการคิด มุมมองการแก้ไขปัญหา มุมมองการตัดสินใจ ส่วนใหญ่เด็กที่จบราชภัฎจะเป็นผู้ปฏิบัติตามคำสั่งที่ดี แต่สิ่งที่แตกต่างคือการคิดนอกกรอบ การคิดหรือตัดสินใจเองในสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจเอง การคิดในสิ่งใหม่ๆ ซึ่งน้องต้องยอมรับและพยายามแก้ไขในส่วนนี้ให้ได้ ลองดู Feedback ของความคิดเห็นบนๆ ดู เขาต้องการให้เราปรับทัศนคติในการทำงานเพื่อให้เขาประทับใจ

ที่เขียนมาไม่ได้ดูถูกหรือว่าร้ายราชภัฎนะครับ แต่อยากให้เข้าใจมุมมองของสังคม และหาทางปรับปรุงพัฒนาครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่