รีวิว The Fault in our Stars ดูแล้วต่อมน้ำตาแตก ทั้งเศร้าทั้งฟีลกู้ด ไม่ควรพลาดเลย

The Fault in our Stars


ชื่อไทยของ The Fault in our Stars คือ ดาวบันดาล ยังแอบคิดเลยว่าใครหนอช่างตั้งชื่อ ทำไมเพราะแบบนี้ ผมเห็นตัวอย่างหนังเรื่องนี้ในโรงก็บอกกับตัวเองว่าต้องดูให้ได้ เพราะคู่พระ นางคู่นี้เป็นคู่ที่น่ารักมากคือ  Shailene Woodley กับ Ansel Elgort ตัว  Shailene Woodley เคยแสดงเป็นลูกสาว จอร์จ คลูนี่จากเรื่อง The Descendants  มาแล้ว ตอนที่ดูจำได้แม่นเลยว่าสวยมากก และแสดงดีมาก จนเราแอบชอบเธอ และจนตามมาดูเรื่อง Divergent ก็มาประกบคู่กับ Ansel Elgort แม้ในเรื่อง Divergent ทั้งสองคนจะแสดงเป็นพี่น้องกัน แต่พอมาเรื่องดาวบันดาล นี้สองคนกลับมาแสดงเป็นคนรักกัน หลายๆคนบอกว่าขัดตา แต่ส่วนตัวผมไม่ขัดตาเลย เพราะตอนเรื่อง Divergent สองคนนี้ก็ไม่ค่อยเจอกันเท่าไหร่ แต่ในเรื่อง ดาวบันดาล(ขอเรียกชื่อไทยละกันนะครับ เพราะขี้เกียจเปลี่ยนภาษา) ทั้งสองคนกลับเป็นคู่นักแสดงที่ลงตัวและเคมีเข้ากันอย่างแรง แม้ชะตากรรมของตัวละครในเรื่องจะเล่นตลกให้ทั้งสองคนเป็นเด็กหนุ่มเด็กสาวที่เป็นมะเร็งทั้งคู่มาพบรักกันในสถานบำบัดทางใจก็ตาม

เรื่องย่อไม่อยากเล่าเยอะ อยากให้คนไปดูกันเอง อยากให้เข้าไปดื่มด่ำกันเอง ดูคลิปหนังตัวอย่างกันเองละกัน

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แต่สิ่งที่ได้จากหนังเรื่องนี้ประกอบด้วย

1.ความรักช่างสวยงาม
ในความทุกข์ของเด็กหนุ่มเด็กสาวคู่นี้ที่เกิดจากดรคมะเร็ง ใยขณะที่คนบางคนฝันถึงชีวิตครอบครัว ฝันถึงอนาคต แต่เด็กสองคนนี้แทบจะไม่มีโอกาสนึกถึง พวกเค้าต่างรู้ดีว่าความตายจะมาพรากจากพวกเค้าไป แต่พวกเค้าสองคนกลับใช้ความรักทุ่มเทให้กันและกันอย่างคุ้มค่า เค้าสองคนไม่เพียงจะเข้มแข็งเพื่อเตรียมเผชิญความตาย เฮเซลปีติเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่าแม่บอกกับเธอว่า แม่เตรียมตัวไปเป็นอาสาสมัครปลอบใจครอบครัวอื่นที่ต้องประสบชะตากรรมลูกตายเพราะโรคร้าย เธอโผเข้ากอดแม่ด้วยความดีใจว่าแม้เธอตาย แต่แม่เธอจะไม่จมอยู่ในกองทุกข์ แต่ในขณะเดียวกับเมื่อตอนที่ย้อนไปเมื่อตอนที่อายุ 15 และมีทีท่าว่าจะไม่รอด เธอยังมีสติและเสียใจมากที่แม่บอกว่า "ฉันจะไม่ได้เป็นแม่อีกแล้ว" ปมในใจของเธอคือเธอคิดว่าหลังจากเธอตายทุกคนจะลืมเธอ แต่สุดท้าย ออกัสเด็กหนุ่มที่เข้ามาทำให้ชีวิตของเธอมีคุณค่า ออกัสนั้นหายจากอาการมะเร็งกระดูกและต้องตัดขาไปข้างหนึ่งเป็นเด็กที่ร่าเริง ใสมากน่ารักมาก มองโลกในแง่ดี มีเสน่ห์ เค้าเติมเต็มชีวิตให้เฮเซล ทำให้เฮเซลมีชีวิตอย่างมีคุณค่า มีความสุขมากขึ้น ในขณะที่คนที่มีอายุยืนยาวปกติกลับไม่สามารถใช้ชีวิตและความรักได้สวยงามแบบเด็กสองคนนี้เลย

2.บทสนทนาในหนังน่าคิดตามและไม่น่าเบื่อเลย
พระเอกอยากเป็นที่จดจำของคนมากมาย ในขณะที่นางเอก เธอบอกว่าแค่เธอเป็นที่จดจำของพระเอกคนเดียวก็มีคุณค่าแล้ว นางเอกบอกว่า สุดท้ายทุกอย่างก็จะถูกลืมอยู่ดี ชอบที่สองคนใช้ช่วงเวลาที่ดีต่อกัน หนังเรื่องนี้เป็นหนังพูด พระเอก นางเอก คุยกันเยอะมาก แต่ภาษากายของคนสองคน สีหน้า ตลอดจนจังหวะของบทสนทนาไม่ทำให้หนังน่าเบื่อเลย พระเอกในเรื่องหน้าตาชวนมองมาก เห็นหน้าตาน่ารักสดใสของพระเอก ทำให้เรามองเค้าได้อย่างไม่ละสายตาและไม่น่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย ส่วนนางเอกแม้จะผมสั้น ไม่แต่งหน้า แต่เราก็เห็นความสดใสในตัวเธอ และสะท้อนในใจตลอดเวลาว่าเฮ้อ ทำไมพวกเค้าอายุสั้นจัง

3.พลังนักแสดง

พระเอกนางเอกแสดงดีมาก ดีมากจริงๆ นางเอกนั้นพื้นฐานเธอเป็นคนมีฝีมืออยู่แล้ว เธอเอาอยู่ทั้งเรื่อง สีหน้า น้ำเสียง แววตา อารมณ์ อินเนอร์ของความเป็นผู้ป่วย ที่เริ่มเรื่องเหมือนเป็นคนที่เป็นโรคซึมเศร้ากับพัฒนาการณ์ของตัวละครที่ค่อยๆสดใสขึ้น ชีวิตมีความสุขมากขึ้น เราเห็นชัดครับ ส่วนพระเอก ออกัส แสดงดีมากแบบเกินคาด น่ารัก สดใส มีเสน่ห์ จิตใจดี และยังมีความไร้เดียงสา แถมในเรื่องเค้าบอกว่าเค้าเป็นเด็กหนุ่มขาเดียวที่ยังเวอร์จิ้นอยู่เสียด้วย คือสาวๆที่ไปดูหนังเรื่องนี้มั่นใจมากว่าคงจขะตกหลุมรักเด็กหนุ่มคนนี้พร้อมทั้งอยากดูแลเค้าแม้เค้าจะเป็นมะเร็งก็ตาม


สรุปคือหนังเดินไปตามสูตรครับ แต่อารมณืมันปริ่มมาก ดูแล้วคืออินมาก ร้องไห้ตาม ทั้งสุขและเศร้า น้ำตามีความหลกหลาย ทั้งเสียใจและปีติไปตามๆกัน สรุป ผมไม่อยากให้ใครพลาดชมหนังเรื่องนี้ในโรงใหญ่นะครับ ถ้าใครอยากไปนั่งร้องไห้ในโรงหนังคือแนะนำนะครับ ต้องไปดูนะครับ

ปล.จบแล้ว  ไม่มีลากลิงค์ไปเยี่ยมชมเพจนะครับ เต็มใจเขียนในพันทิปแบบเต็มๆไม่กั๊กครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่