ย้อนกับกลับไปปีที่แล้ว วันที่ทะเลาะกันในวันที่เราต้องเดินทางกลับบ้าน วันที่เราต้องหอบเอาเรื่องที่ตัวเองทุกข์ใจที่สุดกลับบ้าน.. กลับไปหาคนที่สำคัญ และรักเราที่สุด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่สำคัญที่ว่านั้นคือใคร ใช่...แม่กับพ่อ ของเราเอง
คนแก่สองคนนี้ โดยเฉพาะแม่ที่รับรู้ได้มากที่สุด ว่าเรามีเรื่องไม่สบายใจ ไม่สิ.. เรียกว่าเรื่อง "ทุกข์ใจ" เลยดีกว่า.. ไม่ต้องถามหรอกว่าท่านรู้ได้ยังไง รู้มั้ย..ว่าแม่รับมือกับปัญหานี้ยังไง
แม่เข้าเฟสบุค แล้วโพสรูป รูปหนึ่งบน Timeline ของเรา มันเป็นรูปครอบครัวทั้งสี่คน พ่อ แม่ พี่ชาย และเรา ที่ถ่ายกันในวันรับปริญญา
แค่รูปหรอ...แล้วไง..? มันมีมากกว่านั้น.. รูปที่มีคำบรรยายภาพว่า..
"รักเธอเสมอ...อยู่ที่นี่"
เธอรู้มั้ย... เป็นวินาทีที่ทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหว มีแต่น้ำตา กับความรู้สึกจุก เจ็บแปลบที่กำลังถาโถมเข้ามาในอกเรา
ใช่.. เรารีบลุก วางโทรศัพท์ลง แล้วเดินไปหา ผญ คนนั้น ผญ ผู้ซึ่งเป็นแม่ที่กำลังทำกับข้าวมื้อเช้ามื้อแรกให้ลูกสาว ผู้ซึ่งหอบความทุกข์ใจกลับบ้าน โดยไม่เคยปริปากเล่าความทุกข์ใจนั้นให้ผู้เป็นแม่ฟังเลย... เราสวมกอดแม่จากด้านหลังพร้อมน้ำตาที่ไหลล้นจนกลั้นไม่อยู่ พร้อมกับคำพูดที่พูดออกมาว่า "แม่...ลูกรักแม่น่ะ"
ทันทีที่จบประโยค ผญ ผู้ซึ่งเป็นแม่รีบหันหน้าเข้าหา แล้วกอดเราแน่น และกระชับมากขึ้น จนเราปล่อยโฮกแบบไม่อายใคร เสียงร้องได้ที่เคล้าอยู่กับคำว่า "ไม่เป็นไรลูก... แม่อยู่นี่แล้ว ลูกไม่เป็นไรนะ อย่าร้องไห้ เข้มแข็งไว้" ดูเหมือนจะเป็นประโยคปลอบใจทั่วๆไปที่สื่อความหมายถึงความรักที่แม่อยากให้ลูกได้อุ่นใจว่ามีแม่เคียงข้างลูกเสมอ
แต่คุณรู้มั้ยว่าครั้งนี้...
เป็นการสวมกอด "ครั้งแรก" ที่ผู้เป็นลูกกอดแม่แล้วร้องไห้ได้มากมายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
การสวมกอด... แล้วร้องไห้กับเรื่องที่เกิดจาก "คนอื่น" เป็น "ครั้งแรก"
การสวมกอด...ที่ไม่มีคำถามใดๆจากผู้เป็นแม่เลย
การสวมกอด...แล้วมีแต่คำว่า "
ขอบคุณ" ที่มาจากผู้ปลอบใจ ผู้ซึ่งเป็นแม่
"ขอบคุณ ที่เค้าทำให้ลูกได้รู้, ขอบคุณ..ที่ทำให้ลูกได้เห็น, ลูกต้องขอบคุณเค้านะ..., ขอบคุณเค้าในทุกๆเรื่อง"
การสวมกอด..ที่ดูเหมือนไม่มีการถามหาบุคคลต้นเรื่อง ไม่มีการถามหาว่าใครผิด ไม่มีการถามหาแม้กระทั่งว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น...
เรื่องราวทุกอย่างราวกับถูกยุติลง แต่จะมีใครรู้มั้ยว่า..
เรา...กำลังทำให้ ผญ ที่กำลังสวมกอดอยู่ต้องร้องไห้
เรา...ผู้ซึ่งแบกรับความทุกข์มาแบ่งกับคนในบ้าน...คนที่รักเราที่สุด คงไม่ต้องอธิบายถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
ความรู้สึก...ที่เราไม่ได้แบกรับคนเดียวอีกต่อไป...
ไม่อยากโทษความผิดให้ใครทั้งนั้น
ไม่อยากโทษเค้า...ที่ทำให้เราเสียใจ และผิดหวัง
ไม่อยากโทษตัวเรา.. ที่ทำไมไม่เก็บความทุกข์นี้ไว้คนเดียว แล้วโยนมันทิ้งซะ ทำไมต้องเก็บมันเข้าบ้าน
การตั้งกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเราเพียงเพื่อ...
อยากให้ ผช หลายๆคนได้รับรู้คะ ว่าการที่คุณได้ก้าวเข้ามาในชีวิตของ ผญ คนนึงแล้วคุณมีอิทธิพลกับเธอมากแค่ไหน
เพราะถึงจุดๆนี้แล้ว มันไม่ใช่เรื่องของ "คนสองคน" อีกต่อไป... ถ้าคุณคิดว่ายังไม่พร้อม คุณน่าจะมีวิธีรับมือกับมันได้ดีกว่านี้..
ขอบคุณ ขอบคุณ แล้วก็..ขอบคุณ...ค่ะ
เธอจำได้มั้ยว่า.. เราทะเลาะกัน “ก่อน” ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อไหร่..?
คนแก่สองคนนี้ โดยเฉพาะแม่ที่รับรู้ได้มากที่สุด ว่าเรามีเรื่องไม่สบายใจ ไม่สิ.. เรียกว่าเรื่อง "ทุกข์ใจ" เลยดีกว่า.. ไม่ต้องถามหรอกว่าท่านรู้ได้ยังไง รู้มั้ย..ว่าแม่รับมือกับปัญหานี้ยังไง
แม่เข้าเฟสบุค แล้วโพสรูป รูปหนึ่งบน Timeline ของเรา มันเป็นรูปครอบครัวทั้งสี่คน พ่อ แม่ พี่ชาย และเรา ที่ถ่ายกันในวันรับปริญญา
แค่รูปหรอ...แล้วไง..? มันมีมากกว่านั้น.. รูปที่มีคำบรรยายภาพว่า.. "รักเธอเสมอ...อยู่ที่นี่"
เธอรู้มั้ย... เป็นวินาทีที่ทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหว มีแต่น้ำตา กับความรู้สึกจุก เจ็บแปลบที่กำลังถาโถมเข้ามาในอกเรา
ใช่.. เรารีบลุก วางโทรศัพท์ลง แล้วเดินไปหา ผญ คนนั้น ผญ ผู้ซึ่งเป็นแม่ที่กำลังทำกับข้าวมื้อเช้ามื้อแรกให้ลูกสาว ผู้ซึ่งหอบความทุกข์ใจกลับบ้าน โดยไม่เคยปริปากเล่าความทุกข์ใจนั้นให้ผู้เป็นแม่ฟังเลย... เราสวมกอดแม่จากด้านหลังพร้อมน้ำตาที่ไหลล้นจนกลั้นไม่อยู่ พร้อมกับคำพูดที่พูดออกมาว่า "แม่...ลูกรักแม่น่ะ"
ทันทีที่จบประโยค ผญ ผู้ซึ่งเป็นแม่รีบหันหน้าเข้าหา แล้วกอดเราแน่น และกระชับมากขึ้น จนเราปล่อยโฮกแบบไม่อายใคร เสียงร้องได้ที่เคล้าอยู่กับคำว่า "ไม่เป็นไรลูก... แม่อยู่นี่แล้ว ลูกไม่เป็นไรนะ อย่าร้องไห้ เข้มแข็งไว้" ดูเหมือนจะเป็นประโยคปลอบใจทั่วๆไปที่สื่อความหมายถึงความรักที่แม่อยากให้ลูกได้อุ่นใจว่ามีแม่เคียงข้างลูกเสมอ
แต่คุณรู้มั้ยว่าครั้งนี้...
เป็นการสวมกอด "ครั้งแรก" ที่ผู้เป็นลูกกอดแม่แล้วร้องไห้ได้มากมายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
การสวมกอด... แล้วร้องไห้กับเรื่องที่เกิดจาก "คนอื่น" เป็น "ครั้งแรก"
การสวมกอด...ที่ไม่มีคำถามใดๆจากผู้เป็นแม่เลย
การสวมกอด...แล้วมีแต่คำว่า "ขอบคุณ" ที่มาจากผู้ปลอบใจ ผู้ซึ่งเป็นแม่
"ขอบคุณ ที่เค้าทำให้ลูกได้รู้, ขอบคุณ..ที่ทำให้ลูกได้เห็น, ลูกต้องขอบคุณเค้านะ..., ขอบคุณเค้าในทุกๆเรื่อง"
การสวมกอด..ที่ดูเหมือนไม่มีการถามหาบุคคลต้นเรื่อง ไม่มีการถามหาว่าใครผิด ไม่มีการถามหาแม้กระทั่งว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น...
เรื่องราวทุกอย่างราวกับถูกยุติลง แต่จะมีใครรู้มั้ยว่า..
เรา...กำลังทำให้ ผญ ที่กำลังสวมกอดอยู่ต้องร้องไห้
เรา...ผู้ซึ่งแบกรับความทุกข์มาแบ่งกับคนในบ้าน...คนที่รักเราที่สุด คงไม่ต้องอธิบายถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
ความรู้สึก...ที่เราไม่ได้แบกรับคนเดียวอีกต่อไป...
ไม่อยากโทษความผิดให้ใครทั้งนั้น
ไม่อยากโทษเค้า...ที่ทำให้เราเสียใจ และผิดหวัง
ไม่อยากโทษตัวเรา.. ที่ทำไมไม่เก็บความทุกข์นี้ไว้คนเดียว แล้วโยนมันทิ้งซะ ทำไมต้องเก็บมันเข้าบ้าน
การตั้งกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเราเพียงเพื่อ...
อยากให้ ผช หลายๆคนได้รับรู้คะ ว่าการที่คุณได้ก้าวเข้ามาในชีวิตของ ผญ คนนึงแล้วคุณมีอิทธิพลกับเธอมากแค่ไหน
เพราะถึงจุดๆนี้แล้ว มันไม่ใช่เรื่องของ "คนสองคน" อีกต่อไป... ถ้าคุณคิดว่ายังไม่พร้อม คุณน่าจะมีวิธีรับมือกับมันได้ดีกว่านี้..
ขอบคุณ ขอบคุณ แล้วก็..ขอบคุณ...ค่ะ