รักมากเจ็บมาก
แก้ไข
สวัสดีครับ ผมขอแชร์ประสบการณ์ความรักที่แสนเจ็บปวดให้ฟังกันนะครับ
เรื่อง อาจจะยาวสักหน่อยนะครับ
เหตุการณ์นี้ผ่านมาได้ 2-3 ปีแล้ว เริ่มเลยแล้วกันครับ ตัวผมเองในตอนนั่นอายุประมาณ 25 ปี ผมได้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่งอายุ 29ปี โดยรู้จักผ่านทางผู้ใหญ่เป็นคนแนะนำมา เริ่มแรกก็คุยกันทางโทรศัพท์ ทาง MSN Facebook คุยได้ประมาณ 2 อาทิตย์ หลังจากนั่นผมก็เริ่มไป รับส่ง เธอตอนเธอเลิกงาน ระหว่างคอนโดกับที่ทำงานเธอ เพราะที่ทำงานผมไม่ไกลจากที่ทำงานเธอมาก(ตอนนั่นเธอยังไม่ซื้อรถ)โดยจะรับส่งเป็นบางวัน และมีเรื่องน่าส่งสัย เกิดขึ้น 2 อย่าง คือ
1.เวลาไปส่งเธอที่คอนโด เธอจะไม่ให้ผมขึ้นคอนโด (เธออ้างว่าสัญญากับเพื่อนไว้ว่าไม่ให้ใครคนอื่นขึ้นห้อง เธอเคยบอกผมว่าเธอพักอยู่กับเพื่อน 3 คน ซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งหมด บางครั้งผมโทรไป ก็เหมือนเสียงเพื่อนของเธอรับโทรศัพท์)
2.เรื่องคุยโทรศัพท์ (ระหว่างคุยโทรศัพท์นั่นผมสังเกตุว่าเวลาเธอคุยโทรศัพท์นั่นได้เฉพาะเวลาแต่บางครั้งเธอก็โทรคุยตอนดึกๆ บางครั้งก็วางสายไปเลยโทรกลับก็ไม่รับเลยและโทรกลับมาในตอนเช้า)
ผมก็ไม่ค่อยนะสนใจอะไรมากนัก ทั้ง 2 อย่าง จากนั่นสัก 3-4 เดือน เราเริ่มสนิทกันมากขึ้นโดยผมพาเธอไปหาพ่อแม่ที่บ้าน พ่อแม่ที่บ้านผมก็ชอบเธอมากเพราะเธอเป็นคนภาคเหนือ เหมือนกัน และก็มีอยู่วันหนึ่งเธอโทรมาหาผม ร้องไห และบอกให้ผมรีบไปรับที่ คอนโด พอผมไปรับเธอก็ร้องไหและบอกกับผมว่าทะเลาะกับพี่ชาย เพราะพี่ชายไม่เข้าใจ (ซึ่งเธอเคยบอกว่าพี่ชายนั่นเป็นญาติลูกพี่ลูกน้องกันแม่ให้ค่อยดูแลเธอตอนอยู่ กทม.) หลังจากนั่นผมก็ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอ
ณ ตอนนั่นทุกอย่างก็เหมือนเดิมทั้งเรื่องคุยโทรศัพท์เรื่องไปรับไปส่งเธอ และมีอยู่เรื่อง คือเวลาผมไปส่งเธอที่คอนโด พอเธอลงจากรถ เธอให้ผมรีบไป โดยมีอยุ่ครั้ง ผมไปส่งเธอเสร็จแล้วผมก็ติดสายโทรศัพท์ โดยเครื่องรถติดอยู่ อีกสักพักเธอก็โทรมาด่าผมว่าทำไหมยังไม่ไปอีก ผมโดนด่าแบบว่าเหมือนไปฆ่าใครเลย ผมก็งง
หลังจากคบกันมาได้ 6-7 เดือน จนเธอซื้อรถผมก็ช่วยเลือกทุกอย่างให้ทั้งฟิมล์ชุดแต่ง "แต่วันรับรถเธอไม่ให้ผมไปและก็หายไปทั้งวัน"โดยอ้างว่าอยู่กับแม่พ่อพี่ชาย ญาติ คุยไม่ได้ และเธอก็ขับรถไม่เป็น และผมก็เป็นคนสอนเธอขับรถ และพาไปทำใบขับขี่ (ตอนเธอขับรถไปทำงานจะมีผมเป็นเพื่อนคุยโทรศัพท์ใส่สมอลทอร์คอยู่เสมอๆ)
....วันที่รู้ความจริง....
....วันที่รู้ความจริง....
มีอยู่วันหนึ่งเธอตั้งกลับบ้านที่ภาคเหนือ ซึ่งตอนแรกเธอบอกให้ผมไปส่ง แต่ต่อมาเธอบอกไม่ต้องไปเพราะพี่ชายกลับบ้านเลยกลับไปด้วยและมีญาติๆกลับด้วย ระหว่างวันกลับ ผมติดต่อได้บ้างไม่ได้บ้างเพราะเธอไม่รับโทรศัพท์ หรือถ้ารับเธอก็บอกมีเด็กกลับด้วยเด็กเมารถต้องเปิดกระจกขับ เลยไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ ระหว่างเธออยู่บ้านโทรศัพท์ก็คุยได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะเธอไม่รับ พอมาถึงวันกลับ กทม. เธอก็หายไปทั้งวันเลย ผมเป็นห่วงเธอมากๆว่าเธอจะกลับกับใคร จะเป็นอะไรไหม ผมเลยคิดขึ้นได้ว่าระหว่างเธออยู่บ้าน ตจว.เธอใช้โทรศัพท์แม่โทรมา ผมเลยโทรกลับไปโดยถามว่าแม่เธอใช่ไหมเขาบอกว่าใช่ เลยถามว่าเธอกลับ กทม.กลับใคร แม่เธอบอกกลับมาว่า กลับไปกับแฟนของเธอ (ผมหน้าชาตัวชาไปทั้งตัวทำอะไรไม่ถูกเลย) แล้วแม่เธอก็วางสายไป แต่ผมโทรกลับไปถามอีกว่าออกจาก ที่นั่นตั้งแต่กี่โมง เพราะผมคำนวณเวลาถูกว่าจาก จังหวัดนั่นควรใช้เวลาเท่าไรในการเดินทาง ผมเลยขับรถไปดักรอที่คอนโดเธอ ผมใช้เวลาไม่ถึง 2ชั่วโมงก็ได้เห็นรถเธอขับเข้ามา โดยมีผู้ชายขับรถให้ พอรถจอดผมก็ได้เห็นเขาขนข้าวขนของลงจากรถ แล้วผู้ชายก็เอารถไปจอด และผมก็ลงจากรถเดินไปหาเธอ พอเธอเห็นผมเธอก็หน้าซีดตกใจ และก็บอกให้ผมกลับไปก่อน ผมบอกไม่กลับ พอผู้ชายเดินมา เขาก็ถามผมว่ามีอะไรกัน ผมก็บอกไปว่า คุณเป็นอะไรกับเธอคนนี้ ผู้ชายคนนั่นก็บอกผมว่า เขาเป็นแฟนกันอยู่ด้วยกัน ผมเลยบอกว่าเธอบอกผมว่าไม่มีแฟน และมาหลอกผมเพื่ออะไรต้องการอะไรจากผม ผมไปทำอะไรให้เธอ รู้ไหมว่าผมรักเธอมากขนาดไหน ทั้งเธอและแฟนเธอไม่พูดอะไรคงอึ้งไปเลยทีเดียว หลังจากนั่นผมก็เดินออกมาขึ้นรถพร้อมกับร้องไห จะเป็นจะตาย ความรู้สึกตอนนั่นเจ็บปวดที่สุด ที่โดนหลอกมาตลอดเวลา เพิ่งรู้ตัวว่าที่ผ่านมากินน้ำใต้ศอกมาตลอด
หลังจากนั่นเธอก็โทรเข้ามาแต่เสียงในสายมันเป็นของแฟนเธอ เสียงของเขาก็เหมือนจะร้องไหเหมือนกัน เขาก็ถามผมว่ารู้จักกันได้อย่างไร ทำงานที่ไหน คบกันมานานยัง มีอะไรกับเธอหรือยัง ผมก็ตอบตามจริงไปทุกอย่าง เพราะไม่รู้จะโกหกเขาทำไหมในเมื่อเป็นความจริง และผมก็ถามเลยถามกลับไปว่าทำงานที่ไหน คบกันนานหรือยัง ที่เธอเปลี่ยนไปเขาไม่รู้หรือไง เขาตอบว่า เขาทำงานที่เดียวกันเป็น วิศวกร เขาบอกว่าคบกัน ประมาณ 4 ปี แล้ว และเธอก็ย้ายมาอยู่ได้ 3 ปีแล้ว และห้องที่อยู่เป็นห้องของเขา และที่ไม่รู้ว่าเธอมีใคร เพราะว่าเขาไม่ค่อยได้กลับบ้าน กลับดึกบ้าง แต่ก็สงสัยอยู่แต่ก็ไวใจเธอ
ผมคุยกับเขาอยู่ประมาณ 1 ชม.
หลังจากนั่นเธอได้โทรมาร้องไห และด่าผมว่าบอกเขาทำไหมว่าเรามีอะไรกัน บอกทำไหมว่าเราคบกัน บอกแล้วใช่ไหมให้กลับไปก่อน(วาจาไม่สุภาพหน่อยนะครับ) โทรกลับไปบอกเขาเลยว่ากูรกับไม่มีอะไรกัน ตอนนี้เขาออกไปจากห้องแล้ว ต้องรับผิดชอบ โทรไปบอกเขาเลย ไอ้
ผมก็บอกเธอไปว่าให้ผมทำแบบนั้นไม่ได้หลอกมันเป็นความจริง และผมจะบอกเพื่ออะไร แล้วคุณทำกับผมแบบนี้ต้องการอะไร และอย่าทำแบบนี้อีกกับใครที่ไหนอีก จากกันแค่นี้ ขอให้โชคดี (ไม่รู้ว่าผม
หรือป่าว)
หายไปสัก ชม. ผมยังขับรถอยู่กลางถนนฝนตกรถติด พร้อมกับน้ำตา เธอโทรมาอีกก็ผู้แต่ประโยคเดิมๆ และก็บอกว่าแฟนเธอเพิ่งบอกว่าปีหน้าตั้งใจจะขอเธอแต่งงาน แต่เพราะเธอเลยต้องเป็นแบบนี้ เธอขอโทษเขาขอขมาเขา เขายังไม่ให้อภัยเลย ขอร้องโทรไปบอกเขาให้หน่อยว่าเราไม่มีอะไรกัน ช่วยหน่อยขอร้องหน่อย ผมบอกไปว่าไม่ได้ เธอก็บอกว่าไม่ได้ก็แค่นี้แหละ ไม่ต้องเจอไม่ต้องคุณกันอีกแล้ว ตัดสายไป
หลังจากกันผมถึงบ้าน เบอร์โทรแปลกๆโทรมา เป็นเสียงของแฟนเธอเหมือนจะเมา เขาชวนผมคุณต่างๆเกี่ยวกับเธอ และบอกว่าเขาก็มีครอบครัวแล้วมีลูก2คนแต่เลิกกันไปนานแล้ว แต่ยังส่งเสียอยู่ และชวนผมแก้แค้นเธอ ผมบอกว่าไม่เอา เพราะผมกลัวเวรกรรม หลังจากนั่นก็คุยกันเหมือนจะถูกคอกัน
และผมก็ได้คุยกว่า2 ชม. อีก2-3วัน เธอก็โทรมาอีกและก็ให้ผมโทรไปบอกแฟนเขาว่าเราไม่มีอะไรกัน ผมก็ปฏิเสธไป
พอผ่านไปสัก 2 อาทิตย์ผมก็มีแฟนใหม่ เพราะเหมือนจะประชดชีวิตหาใหม่ให้ได้เร็วๆ จะได้ลืมๆเรื่องร้ายๆ ไปพอผมมาคบแฟนใหม่ได้ประมาณ5-6 (ระหว่างนั่นเธอก็ค่อยโทรหา พ่อ แม่ ผู้ใหญ่ ของผมโดยตลอดเพราะเหตุผลเรื่องที่เลิกกันผมไม่เคยบอกใคร) โดยความรักไม่มีปัญหาอะไร จนุ6-7ผ่านมา มีอยู่วันหนึ่ง เธอคนนั่นโทรเข้ามา โดยแฟนของผมรับโทรศัพท์ให้ เพราะผมไม่อยู่ โดยเธอถามกับแฟนผมว่าคบกันนานยังผมเป็นไงบ้าง แล้วบอกว่าเป็นพี่สาวของผมที่เคยทำงานด้วยกัน และก็บอกว่าผมไม่ค่อยเชื่อฟังอะไรใครหลอกนอกจากเธอเพียงคนเดียว แล้วผมก็มารับสาย เธอบอกกับผมว่ามีความสุขดีไหม สบายดีไหม รู้ไหมว่าชีวิตเธอพังเพราะผม ตอนนี้เธอได้เลิกกับเขาแล้ว ผมต้องรับผิดชอบชีวิตเขาด้วย และผมก็บอกเขาว่าแค่นี้ก่อนเพราะว่าผมอยู่กับแฟนผม
หลังจากนั่นที่ผมไม่ได้อยู่กับแฟน ผมเลยโทรกลับหาเธอ โดยเธอบอกว่า ตอนนนี้เลิกกับแฟนเขาแล้วและต้องหาที่พักใหม่ให้ ผมต้องรับผิดชอบชีวิตเธอเพราะผมทำให้ชีวิตเขาพังทั้งชีวิตไม่เหลือใครแล้ว ผมเลยบอกว่าโอเค งั้นวันไหนว่างๆ ผมจะพาไปหาห้องเช่า เขาก็นัดวัน
ขอไปทำงานก่อนเดี๋ยวกับมาเล่าให้ฟังต่อนะครับมีเรื่องที่ทำให้ผมเจ็บปวดมากกว่านี้อีกครับ
รักมากเจ็บมาก ใครเคยเป็นแบบนี้บ้างไหม
แก้ไข
สวัสดีครับ ผมขอแชร์ประสบการณ์ความรักที่แสนเจ็บปวดให้ฟังกันนะครับ
เรื่อง อาจจะยาวสักหน่อยนะครับ
เหตุการณ์นี้ผ่านมาได้ 2-3 ปีแล้ว เริ่มเลยแล้วกันครับ ตัวผมเองในตอนนั่นอายุประมาณ 25 ปี ผมได้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่งอายุ 29ปี โดยรู้จักผ่านทางผู้ใหญ่เป็นคนแนะนำมา เริ่มแรกก็คุยกันทางโทรศัพท์ ทาง MSN Facebook คุยได้ประมาณ 2 อาทิตย์ หลังจากนั่นผมก็เริ่มไป รับส่ง เธอตอนเธอเลิกงาน ระหว่างคอนโดกับที่ทำงานเธอ เพราะที่ทำงานผมไม่ไกลจากที่ทำงานเธอมาก(ตอนนั่นเธอยังไม่ซื้อรถ)โดยจะรับส่งเป็นบางวัน และมีเรื่องน่าส่งสัย เกิดขึ้น 2 อย่าง คือ
1.เวลาไปส่งเธอที่คอนโด เธอจะไม่ให้ผมขึ้นคอนโด (เธออ้างว่าสัญญากับเพื่อนไว้ว่าไม่ให้ใครคนอื่นขึ้นห้อง เธอเคยบอกผมว่าเธอพักอยู่กับเพื่อน 3 คน ซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งหมด บางครั้งผมโทรไป ก็เหมือนเสียงเพื่อนของเธอรับโทรศัพท์)
2.เรื่องคุยโทรศัพท์ (ระหว่างคุยโทรศัพท์นั่นผมสังเกตุว่าเวลาเธอคุยโทรศัพท์นั่นได้เฉพาะเวลาแต่บางครั้งเธอก็โทรคุยตอนดึกๆ บางครั้งก็วางสายไปเลยโทรกลับก็ไม่รับเลยและโทรกลับมาในตอนเช้า)
ผมก็ไม่ค่อยนะสนใจอะไรมากนัก ทั้ง 2 อย่าง จากนั่นสัก 3-4 เดือน เราเริ่มสนิทกันมากขึ้นโดยผมพาเธอไปหาพ่อแม่ที่บ้าน พ่อแม่ที่บ้านผมก็ชอบเธอมากเพราะเธอเป็นคนภาคเหนือ เหมือนกัน และก็มีอยู่วันหนึ่งเธอโทรมาหาผม ร้องไห และบอกให้ผมรีบไปรับที่ คอนโด พอผมไปรับเธอก็ร้องไหและบอกกับผมว่าทะเลาะกับพี่ชาย เพราะพี่ชายไม่เข้าใจ (ซึ่งเธอเคยบอกว่าพี่ชายนั่นเป็นญาติลูกพี่ลูกน้องกันแม่ให้ค่อยดูแลเธอตอนอยู่ กทม.) หลังจากนั่นผมก็ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอ
ณ ตอนนั่นทุกอย่างก็เหมือนเดิมทั้งเรื่องคุยโทรศัพท์เรื่องไปรับไปส่งเธอ และมีอยู่เรื่อง คือเวลาผมไปส่งเธอที่คอนโด พอเธอลงจากรถ เธอให้ผมรีบไป โดยมีอยุ่ครั้ง ผมไปส่งเธอเสร็จแล้วผมก็ติดสายโทรศัพท์ โดยเครื่องรถติดอยู่ อีกสักพักเธอก็โทรมาด่าผมว่าทำไหมยังไม่ไปอีก ผมโดนด่าแบบว่าเหมือนไปฆ่าใครเลย ผมก็งง
หลังจากคบกันมาได้ 6-7 เดือน จนเธอซื้อรถผมก็ช่วยเลือกทุกอย่างให้ทั้งฟิมล์ชุดแต่ง "แต่วันรับรถเธอไม่ให้ผมไปและก็หายไปทั้งวัน"โดยอ้างว่าอยู่กับแม่พ่อพี่ชาย ญาติ คุยไม่ได้ และเธอก็ขับรถไม่เป็น และผมก็เป็นคนสอนเธอขับรถ และพาไปทำใบขับขี่ (ตอนเธอขับรถไปทำงานจะมีผมเป็นเพื่อนคุยโทรศัพท์ใส่สมอลทอร์คอยู่เสมอๆ)
....วันที่รู้ความจริง....
....วันที่รู้ความจริง....
มีอยู่วันหนึ่งเธอตั้งกลับบ้านที่ภาคเหนือ ซึ่งตอนแรกเธอบอกให้ผมไปส่ง แต่ต่อมาเธอบอกไม่ต้องไปเพราะพี่ชายกลับบ้านเลยกลับไปด้วยและมีญาติๆกลับด้วย ระหว่างวันกลับ ผมติดต่อได้บ้างไม่ได้บ้างเพราะเธอไม่รับโทรศัพท์ หรือถ้ารับเธอก็บอกมีเด็กกลับด้วยเด็กเมารถต้องเปิดกระจกขับ เลยไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ ระหว่างเธออยู่บ้านโทรศัพท์ก็คุยได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะเธอไม่รับ พอมาถึงวันกลับ กทม. เธอก็หายไปทั้งวันเลย ผมเป็นห่วงเธอมากๆว่าเธอจะกลับกับใคร จะเป็นอะไรไหม ผมเลยคิดขึ้นได้ว่าระหว่างเธออยู่บ้าน ตจว.เธอใช้โทรศัพท์แม่โทรมา ผมเลยโทรกลับไปโดยถามว่าแม่เธอใช่ไหมเขาบอกว่าใช่ เลยถามว่าเธอกลับ กทม.กลับใคร แม่เธอบอกกลับมาว่า กลับไปกับแฟนของเธอ (ผมหน้าชาตัวชาไปทั้งตัวทำอะไรไม่ถูกเลย) แล้วแม่เธอก็วางสายไป แต่ผมโทรกลับไปถามอีกว่าออกจาก ที่นั่นตั้งแต่กี่โมง เพราะผมคำนวณเวลาถูกว่าจาก จังหวัดนั่นควรใช้เวลาเท่าไรในการเดินทาง ผมเลยขับรถไปดักรอที่คอนโดเธอ ผมใช้เวลาไม่ถึง 2ชั่วโมงก็ได้เห็นรถเธอขับเข้ามา โดยมีผู้ชายขับรถให้ พอรถจอดผมก็ได้เห็นเขาขนข้าวขนของลงจากรถ แล้วผู้ชายก็เอารถไปจอด และผมก็ลงจากรถเดินไปหาเธอ พอเธอเห็นผมเธอก็หน้าซีดตกใจ และก็บอกให้ผมกลับไปก่อน ผมบอกไม่กลับ พอผู้ชายเดินมา เขาก็ถามผมว่ามีอะไรกัน ผมก็บอกไปว่า คุณเป็นอะไรกับเธอคนนี้ ผู้ชายคนนั่นก็บอกผมว่า เขาเป็นแฟนกันอยู่ด้วยกัน ผมเลยบอกว่าเธอบอกผมว่าไม่มีแฟน และมาหลอกผมเพื่ออะไรต้องการอะไรจากผม ผมไปทำอะไรให้เธอ รู้ไหมว่าผมรักเธอมากขนาดไหน ทั้งเธอและแฟนเธอไม่พูดอะไรคงอึ้งไปเลยทีเดียว หลังจากนั่นผมก็เดินออกมาขึ้นรถพร้อมกับร้องไห จะเป็นจะตาย ความรู้สึกตอนนั่นเจ็บปวดที่สุด ที่โดนหลอกมาตลอดเวลา เพิ่งรู้ตัวว่าที่ผ่านมากินน้ำใต้ศอกมาตลอด
หลังจากนั่นเธอก็โทรเข้ามาแต่เสียงในสายมันเป็นของแฟนเธอ เสียงของเขาก็เหมือนจะร้องไหเหมือนกัน เขาก็ถามผมว่ารู้จักกันได้อย่างไร ทำงานที่ไหน คบกันมานานยัง มีอะไรกับเธอหรือยัง ผมก็ตอบตามจริงไปทุกอย่าง เพราะไม่รู้จะโกหกเขาทำไหมในเมื่อเป็นความจริง และผมก็ถามเลยถามกลับไปว่าทำงานที่ไหน คบกันนานหรือยัง ที่เธอเปลี่ยนไปเขาไม่รู้หรือไง เขาตอบว่า เขาทำงานที่เดียวกันเป็น วิศวกร เขาบอกว่าคบกัน ประมาณ 4 ปี แล้ว และเธอก็ย้ายมาอยู่ได้ 3 ปีแล้ว และห้องที่อยู่เป็นห้องของเขา และที่ไม่รู้ว่าเธอมีใคร เพราะว่าเขาไม่ค่อยได้กลับบ้าน กลับดึกบ้าง แต่ก็สงสัยอยู่แต่ก็ไวใจเธอ
ผมคุยกับเขาอยู่ประมาณ 1 ชม.
หลังจากนั่นเธอได้โทรมาร้องไห และด่าผมว่าบอกเขาทำไหมว่าเรามีอะไรกัน บอกทำไหมว่าเราคบกัน บอกแล้วใช่ไหมให้กลับไปก่อน(วาจาไม่สุภาพหน่อยนะครับ) โทรกลับไปบอกเขาเลยว่ากูรกับไม่มีอะไรกัน ตอนนี้เขาออกไปจากห้องแล้ว ต้องรับผิดชอบ โทรไปบอกเขาเลย ไอ้
หายไปสัก ชม. ผมยังขับรถอยู่กลางถนนฝนตกรถติด พร้อมกับน้ำตา เธอโทรมาอีกก็ผู้แต่ประโยคเดิมๆ และก็บอกว่าแฟนเธอเพิ่งบอกว่าปีหน้าตั้งใจจะขอเธอแต่งงาน แต่เพราะเธอเลยต้องเป็นแบบนี้ เธอขอโทษเขาขอขมาเขา เขายังไม่ให้อภัยเลย ขอร้องโทรไปบอกเขาให้หน่อยว่าเราไม่มีอะไรกัน ช่วยหน่อยขอร้องหน่อย ผมบอกไปว่าไม่ได้ เธอก็บอกว่าไม่ได้ก็แค่นี้แหละ ไม่ต้องเจอไม่ต้องคุณกันอีกแล้ว ตัดสายไป
หลังจากกันผมถึงบ้าน เบอร์โทรแปลกๆโทรมา เป็นเสียงของแฟนเธอเหมือนจะเมา เขาชวนผมคุณต่างๆเกี่ยวกับเธอ และบอกว่าเขาก็มีครอบครัวแล้วมีลูก2คนแต่เลิกกันไปนานแล้ว แต่ยังส่งเสียอยู่ และชวนผมแก้แค้นเธอ ผมบอกว่าไม่เอา เพราะผมกลัวเวรกรรม หลังจากนั่นก็คุยกันเหมือนจะถูกคอกัน
และผมก็ได้คุยกว่า2 ชม. อีก2-3วัน เธอก็โทรมาอีกและก็ให้ผมโทรไปบอกแฟนเขาว่าเราไม่มีอะไรกัน ผมก็ปฏิเสธไป
พอผ่านไปสัก 2 อาทิตย์ผมก็มีแฟนใหม่ เพราะเหมือนจะประชดชีวิตหาใหม่ให้ได้เร็วๆ จะได้ลืมๆเรื่องร้ายๆ ไปพอผมมาคบแฟนใหม่ได้ประมาณ5-6 (ระหว่างนั่นเธอก็ค่อยโทรหา พ่อ แม่ ผู้ใหญ่ ของผมโดยตลอดเพราะเหตุผลเรื่องที่เลิกกันผมไม่เคยบอกใคร) โดยความรักไม่มีปัญหาอะไร จนุ6-7ผ่านมา มีอยู่วันหนึ่ง เธอคนนั่นโทรเข้ามา โดยแฟนของผมรับโทรศัพท์ให้ เพราะผมไม่อยู่ โดยเธอถามกับแฟนผมว่าคบกันนานยังผมเป็นไงบ้าง แล้วบอกว่าเป็นพี่สาวของผมที่เคยทำงานด้วยกัน และก็บอกว่าผมไม่ค่อยเชื่อฟังอะไรใครหลอกนอกจากเธอเพียงคนเดียว แล้วผมก็มารับสาย เธอบอกกับผมว่ามีความสุขดีไหม สบายดีไหม รู้ไหมว่าชีวิตเธอพังเพราะผม ตอนนี้เธอได้เลิกกับเขาแล้ว ผมต้องรับผิดชอบชีวิตเขาด้วย และผมก็บอกเขาว่าแค่นี้ก่อนเพราะว่าผมอยู่กับแฟนผม
หลังจากนั่นที่ผมไม่ได้อยู่กับแฟน ผมเลยโทรกลับหาเธอ โดยเธอบอกว่า ตอนนนี้เลิกกับแฟนเขาแล้วและต้องหาที่พักใหม่ให้ ผมต้องรับผิดชอบชีวิตเธอเพราะผมทำให้ชีวิตเขาพังทั้งชีวิตไม่เหลือใครแล้ว ผมเลยบอกว่าโอเค งั้นวันไหนว่างๆ ผมจะพาไปหาห้องเช่า เขาก็นัดวัน
ขอไปทำงานก่อนเดี๋ยวกับมาเล่าให้ฟังต่อนะครับมีเรื่องที่ทำให้ผมเจ็บปวดมากกว่านี้อีกครับ