รีวิวนี้เป็นรีวิวแรก ผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ตอนแรกตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนไป ว่าจะกลับมาทำรีวิวอย่างละเอียด เผื่อคนหลังๆจะได้มีข้อมูลที่จะไปได้อย่างง่ายที่สุด
เพราะเราก็ได้ข้อมูล และคำแนะนำจากเพื่อนๆใจดีในพันทิปเหมือนกัน
แต่กลายเป็นว่าเพื่อนชาวมาเลย์ของเพื่อนพาเที่ยวซะงั้น ไปทางรถเลยคงแนะนำการเดินทางไม่ได้
แถมยังไม่ได้ไปจุดสำคัญอีกหลายจุด ทั้ง Masjid Jamek, Sultan Abdul Samad, Merdaka square, Bukit Bintang
ซึ่งคงจะต้องตามเก็บวันหลังในทริปหน้า พร้อมมะละกา กับเกนติ้ง
คิดเหมือนกันว่าไปตั้ง 4 วัน แต่ไปเที่ยวจริงๆไม่กี่ที่เอง (จริงๆ 3 วันเพราะวันแรกดึกแล้วไปถึงนอนเลยค่ะ)
แต่ถือว่าเป็นทริปไปพักผ่อน พร้อมเยี่ยมเยียนเพื่อนชาวมาเลย์แทนแล้วกันค่ะ ประทับใจทีเดียว
เอาเป็นว่า รีวิวทริปพร้อมการเดินทางอย่างละเอียด ขอเปลี่ยนเป็นรีวิวเฉพาะจุด
พร้อมเพิ่มเติมส่วนที่เราคิดว่าถ้ารู้ก่อนไปก็น่าจะดีแล้วกันค่ะ
ก่อนแรกออกตัวก่อนเลย ว่าเป็นการไปมาเลเซียครั้งแรก ข้อมูลอาจไม่แน่นปึก ถูกไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าใครมีข้อผิดพลาด ขออภัยล่วงหน้านะคะ
เรื่องที่ 1 แลกเงิน : จขกท แลกเงินจากร้านชื่อดังที่ทุกคนคงทราบว่าเป็นที่ไหน ได้เรท 10 บาท ต่อ 1 ริงกิตค่ะ
ธนาคารอยู่ที่ 10.3 สนามบินที่มาเลย์อยู่ 10.5 ส่วนที่ KLCC 10.05 ค่ะ ซึ่ง จขกท คิดว่าไปแลกที่นั่นก็ไม่เลวร้ายอะไรค่ะ
แต่ระหว่างทางเราก็ต้องใช้ แลกไปเลยก็อุ่นใจดีค่ะ
เรื่องที่ 2 ปลั๊กไฟ : ที่มาเลใช้เป็นปลั๊กสามขา รูปสี่เหลี่ยมๆ ตามรูปค่ะ บางโรงแรมมีหัวปลั๊กให้ยืม แนะนำให้เขียนเมลล์ไป
ถามโรงแรมที่จะไปพักนะคะ บางที่มีให้ค่ะ แต่เพื่อความสบายใจ ซื้อปลั๊ก Universal ไปก็ได้ค่ะ หาซื้อไม่ยาก จขกทซื้อ 200 บาทใช้ได้ดีค่ะ
เรื่องที่ 3 ของฝาก : คนส่วนมากซื้อช็อคโกแลต หรือกาแฟเป็นของฝากค่ะ
เครื่องสำอางค์ได้ข่าวว่า Body shop กับ Sephora ถูกกว่าไทย แต่ จขกทไม่แต่งหน้า เลยไม่ได้ดูมา
แต่เห็นเพื่อนบอกว่าถูกกว่ากันไม่มากค่ะ สู้ที่สิงคโปร ไม่ได้ค่ะ
สำหรับช็อคโกแลต และกาแฟ ตอนแรกเห็นรีวิวบอกให้ไปซื้อที่ Central Market แต่หลังจาก จขกท ลองเทียบดู
จริงๆแล้วแต่ชนิดค่ะ ถ้าเป็นช็อคโกแลตกลมๆที่มีถั่วข้างใน ที่ใส่ขวดบ้าง ถุงบ้าง อันนี้ซื้อที่ Central Market ถูกกว่าค่ะ
แต่ถ้าเป็นช็อคโกแลตกล่องเหล็กที่ดูมียี่ห้อหน่อยๆ ที่ซุปเปอร์ก็ราคาเท่ากันค่ะ
ยิ่งถ้าเป็นพวกที่เป็นแบรนด์นอก จะซื้อที่ไหนก็ราคาไม่ต่างกันค่ะ
แนะนำว่าตอนขาไปให้ดูราคาของช็อคโกแลตที่ตัวเองอยากซื้อที่สนามบินก่อน แล้วค่อยเปรียบเทียบกันค่ะ
เพราะบางทีมีโปรที่สนามบินถูกกว่าก็มีค่ะ แล้วเราค่อยมาซื้อตอนกลับก็ได้ค่ะ
แอบฟ้อง จขกท ชอบดาร์คช็อค ตอนไป Central Market เลยเลือกซื้อช็อคโกแลตที่เป็นถุงใหญ่ๆ
แพคไม่สวยแต่ราคาถูก โดยในถุง จะมีช็อคโกแลตเล็กๆในถุงอีกอีกที เพื่อง่ายต่อการกินและแจกจ่าย
ทั้งๆที่หน้าถุงเขียนว่า Dark Chocolate แต่ปรากฎว่าข้างในเป็นรวมรสค่ะ ยกโทษให้เพราะอร่อย ถ้าใครจะซื้อทำใจนะคะว่าจะได้รสรวมค่ะ
แนะนำเพิ่มสำหรับคนที่ต้องมาขึ้นรถที่ KL Sentral แบบ จขกท สามารถมาซื้อที่ NU Sentral ที่ติดกับสถานีรถไฟได้เลยค่ะ
ทางเชื่อมอยู่ชั้นสาม ที่นี่มีทั้งซุปเปอร์ที่ชั้นใต้ดิน ตอน จขกท ไปมีเชอรี่กิโลละ 500 บาท เลือกเองทีละเม็ดได้เลยค่ะ
ตรงข้ามผลไม้มีร้านขนมมาเลย์ด้วย (แต่ร้านนี้แอบแพงค่ะ ร้านขนมนะค่ะ) ซุปเปอร์ราคาปกติค่ะ
จะได้ไม่ต้องแบกไกล แถมยังมี Sephora, Parkson, l'occitane, Body shop, Crabtree and Evelyn มีหมดเลยค่ะ
แอบเสียใจที่นั่งรถไป KLCC รอบสองเพื่อไปดูของที่กล่าวมา โธ่สถานีก็มี 5555
แถมเดินออกไปตรงทางเชื่อมระหว่าง Nu Sentral กับ KL Sentral ยังมีอีกหลายร้านให้เพื่อนๆที่ไม่อยากช็อปแล้วได้นั่งรออีกต่างหากค่ะ
เพื่อน จขกทนั่งที่ Cream&Fudge มีเน็ตฟรีอีกต่างหากค่ะ แอร์เย็นกว่ารอที่สถานี้ด้วยค่ะ
ของเล่นสำหรับลูกหลาน ที่สนามบินมี Toy r us ค่ะ ราคาเท่ากับข้างนอกค่ะ ถ้าจะแพ็คลงกระเป๋าซื้อมาเลยก็ได้ค่ะ
แต่ถ้าไม่อยากแบกมาซื้อที่สนามบินก็ได้ค่ะ (สนามบินที่ จขกทใช้คือ Klia2 นะคะ)
เรื่องที่ 4 ถุงพลาสติก : ถ้าไปซื้อของซุปเปอร์วันเสาร์เค้ามีวันถุงพลาสติกค่ะ ถ้าจะเอาถุงต้องเสียเงินเพิ่มอีกประมาณ 2 บาทต่อถุงค่ะ
เพื่อลดให้การใช้ถุงพลาสติก แต่ไม่แน่ใจว่าถ้าเป็นร้านอื่นๆ จะเหมือนกันรึเปล่า จขกท วันนั้นซื้อแต่ซุปเปอร์ค่ะ
เรื่องที่ 5 ภาษา : คนส่วนมากที่ จขกท เจอสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ในขั้นเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร รถเมลล์ ข้างทาง
และยินดีที่จะช่วยเหลือนักท่องเที่ยว วันแรกหลงหา โรงแรมไม่เจอ คนที่ จขกท ถามเดินไปส่งถึงโรงแรมเลยทีเดียว
ทั้งๆที่ระยะทางพอสมควร ปลาบปลื้มมากค่ะ
เรื่องที่ 6 แอร์เอเซีย : จริงๆไม่เกี่ยวกันเท่าไหร่ แต่คิดว่าคนไทยส่วนมากที่ไปน่าจะเป็นสายการบินนี้ค่ะ
เลยเอาส่วนที่ จขกท เคยสงสัยมาแชร์ค่ะ
ขนาดเก้าอี้ : เพื่อนบอกว่าเล็ก ส่วนตัว จขกท ไม่เคยนั่งแอร์เอเซียมาก่อน กังวลพอสมควร แต่จริงๆแล้วไม่ได้เล็กมากนะคะ
จขกท เป็นคนตัวใหญ่ไม่ได้รู้สึกว่าเล็กขนาดที่อึดอัด
น้ำเปล่า : ซื้อที่ Mac ในสนามบินถูกกว่าบนเครื่องค่ะ เป็นน้ำสิงห์ ถ้าจำไม่ผิด 25 บาทค่ะ
กระเป๋า : อนุญาติให้นำกระเป๋าขึ้นได้ค่ะ มีขนาดแจ้งไว้ในเวป พร้อมกระเป๋าถือ หรือ กระเป๋าโน๊ตบุ๊ค
จขกท มีกระเป๋าลาก และ เป้ ก็เข้าได้ไม่มีปัญหาค่ะ
ตอนนี้คิดออกแค่นี้ ถ้าคิดอะไรได้เพิ่มเติม จะเอามาใส่เพิ่มให้นะคะ ส่วนด้านล่างจะแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ ที่ จขกทไปค่ะ
รีวิว : ลั๊นลา 4 วัน 3 คืนที่กัวลาลัมเปอร์ (มาเลเซีย)
ตอนแรกตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนไป ว่าจะกลับมาทำรีวิวอย่างละเอียด เผื่อคนหลังๆจะได้มีข้อมูลที่จะไปได้อย่างง่ายที่สุด
เพราะเราก็ได้ข้อมูล และคำแนะนำจากเพื่อนๆใจดีในพันทิปเหมือนกัน
แต่กลายเป็นว่าเพื่อนชาวมาเลย์ของเพื่อนพาเที่ยวซะงั้น ไปทางรถเลยคงแนะนำการเดินทางไม่ได้
แถมยังไม่ได้ไปจุดสำคัญอีกหลายจุด ทั้ง Masjid Jamek, Sultan Abdul Samad, Merdaka square, Bukit Bintang
ซึ่งคงจะต้องตามเก็บวันหลังในทริปหน้า พร้อมมะละกา กับเกนติ้ง
คิดเหมือนกันว่าไปตั้ง 4 วัน แต่ไปเที่ยวจริงๆไม่กี่ที่เอง (จริงๆ 3 วันเพราะวันแรกดึกแล้วไปถึงนอนเลยค่ะ)
แต่ถือว่าเป็นทริปไปพักผ่อน พร้อมเยี่ยมเยียนเพื่อนชาวมาเลย์แทนแล้วกันค่ะ ประทับใจทีเดียว
เอาเป็นว่า รีวิวทริปพร้อมการเดินทางอย่างละเอียด ขอเปลี่ยนเป็นรีวิวเฉพาะจุด
พร้อมเพิ่มเติมส่วนที่เราคิดว่าถ้ารู้ก่อนไปก็น่าจะดีแล้วกันค่ะ
ก่อนแรกออกตัวก่อนเลย ว่าเป็นการไปมาเลเซียครั้งแรก ข้อมูลอาจไม่แน่นปึก ถูกไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าใครมีข้อผิดพลาด ขออภัยล่วงหน้านะคะ
เรื่องที่ 1 แลกเงิน : จขกท แลกเงินจากร้านชื่อดังที่ทุกคนคงทราบว่าเป็นที่ไหน ได้เรท 10 บาท ต่อ 1 ริงกิตค่ะ
ธนาคารอยู่ที่ 10.3 สนามบินที่มาเลย์อยู่ 10.5 ส่วนที่ KLCC 10.05 ค่ะ ซึ่ง จขกท คิดว่าไปแลกที่นั่นก็ไม่เลวร้ายอะไรค่ะ
แต่ระหว่างทางเราก็ต้องใช้ แลกไปเลยก็อุ่นใจดีค่ะ
เรื่องที่ 2 ปลั๊กไฟ : ที่มาเลใช้เป็นปลั๊กสามขา รูปสี่เหลี่ยมๆ ตามรูปค่ะ บางโรงแรมมีหัวปลั๊กให้ยืม แนะนำให้เขียนเมลล์ไป
ถามโรงแรมที่จะไปพักนะคะ บางที่มีให้ค่ะ แต่เพื่อความสบายใจ ซื้อปลั๊ก Universal ไปก็ได้ค่ะ หาซื้อไม่ยาก จขกทซื้อ 200 บาทใช้ได้ดีค่ะ
เรื่องที่ 3 ของฝาก : คนส่วนมากซื้อช็อคโกแลต หรือกาแฟเป็นของฝากค่ะ
เครื่องสำอางค์ได้ข่าวว่า Body shop กับ Sephora ถูกกว่าไทย แต่ จขกทไม่แต่งหน้า เลยไม่ได้ดูมา
แต่เห็นเพื่อนบอกว่าถูกกว่ากันไม่มากค่ะ สู้ที่สิงคโปร ไม่ได้ค่ะ
สำหรับช็อคโกแลต และกาแฟ ตอนแรกเห็นรีวิวบอกให้ไปซื้อที่ Central Market แต่หลังจาก จขกท ลองเทียบดู
จริงๆแล้วแต่ชนิดค่ะ ถ้าเป็นช็อคโกแลตกลมๆที่มีถั่วข้างใน ที่ใส่ขวดบ้าง ถุงบ้าง อันนี้ซื้อที่ Central Market ถูกกว่าค่ะ
แต่ถ้าเป็นช็อคโกแลตกล่องเหล็กที่ดูมียี่ห้อหน่อยๆ ที่ซุปเปอร์ก็ราคาเท่ากันค่ะ
ยิ่งถ้าเป็นพวกที่เป็นแบรนด์นอก จะซื้อที่ไหนก็ราคาไม่ต่างกันค่ะ
แนะนำว่าตอนขาไปให้ดูราคาของช็อคโกแลตที่ตัวเองอยากซื้อที่สนามบินก่อน แล้วค่อยเปรียบเทียบกันค่ะ
เพราะบางทีมีโปรที่สนามบินถูกกว่าก็มีค่ะ แล้วเราค่อยมาซื้อตอนกลับก็ได้ค่ะ
แอบฟ้อง จขกท ชอบดาร์คช็อค ตอนไป Central Market เลยเลือกซื้อช็อคโกแลตที่เป็นถุงใหญ่ๆ
แพคไม่สวยแต่ราคาถูก โดยในถุง จะมีช็อคโกแลตเล็กๆในถุงอีกอีกที เพื่อง่ายต่อการกินและแจกจ่าย
ทั้งๆที่หน้าถุงเขียนว่า Dark Chocolate แต่ปรากฎว่าข้างในเป็นรวมรสค่ะ ยกโทษให้เพราะอร่อย ถ้าใครจะซื้อทำใจนะคะว่าจะได้รสรวมค่ะ
แนะนำเพิ่มสำหรับคนที่ต้องมาขึ้นรถที่ KL Sentral แบบ จขกท สามารถมาซื้อที่ NU Sentral ที่ติดกับสถานีรถไฟได้เลยค่ะ
ทางเชื่อมอยู่ชั้นสาม ที่นี่มีทั้งซุปเปอร์ที่ชั้นใต้ดิน ตอน จขกท ไปมีเชอรี่กิโลละ 500 บาท เลือกเองทีละเม็ดได้เลยค่ะ
ตรงข้ามผลไม้มีร้านขนมมาเลย์ด้วย (แต่ร้านนี้แอบแพงค่ะ ร้านขนมนะค่ะ) ซุปเปอร์ราคาปกติค่ะ
จะได้ไม่ต้องแบกไกล แถมยังมี Sephora, Parkson, l'occitane, Body shop, Crabtree and Evelyn มีหมดเลยค่ะ
แอบเสียใจที่นั่งรถไป KLCC รอบสองเพื่อไปดูของที่กล่าวมา โธ่สถานีก็มี 5555
แถมเดินออกไปตรงทางเชื่อมระหว่าง Nu Sentral กับ KL Sentral ยังมีอีกหลายร้านให้เพื่อนๆที่ไม่อยากช็อปแล้วได้นั่งรออีกต่างหากค่ะ
เพื่อน จขกทนั่งที่ Cream&Fudge มีเน็ตฟรีอีกต่างหากค่ะ แอร์เย็นกว่ารอที่สถานี้ด้วยค่ะ
ของเล่นสำหรับลูกหลาน ที่สนามบินมี Toy r us ค่ะ ราคาเท่ากับข้างนอกค่ะ ถ้าจะแพ็คลงกระเป๋าซื้อมาเลยก็ได้ค่ะ
แต่ถ้าไม่อยากแบกมาซื้อที่สนามบินก็ได้ค่ะ (สนามบินที่ จขกทใช้คือ Klia2 นะคะ)
เรื่องที่ 4 ถุงพลาสติก : ถ้าไปซื้อของซุปเปอร์วันเสาร์เค้ามีวันถุงพลาสติกค่ะ ถ้าจะเอาถุงต้องเสียเงินเพิ่มอีกประมาณ 2 บาทต่อถุงค่ะ
เพื่อลดให้การใช้ถุงพลาสติก แต่ไม่แน่ใจว่าถ้าเป็นร้านอื่นๆ จะเหมือนกันรึเปล่า จขกท วันนั้นซื้อแต่ซุปเปอร์ค่ะ
เรื่องที่ 5 ภาษา : คนส่วนมากที่ จขกท เจอสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ในขั้นเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร รถเมลล์ ข้างทาง
และยินดีที่จะช่วยเหลือนักท่องเที่ยว วันแรกหลงหา โรงแรมไม่เจอ คนที่ จขกท ถามเดินไปส่งถึงโรงแรมเลยทีเดียว
ทั้งๆที่ระยะทางพอสมควร ปลาบปลื้มมากค่ะ
เรื่องที่ 6 แอร์เอเซีย : จริงๆไม่เกี่ยวกันเท่าไหร่ แต่คิดว่าคนไทยส่วนมากที่ไปน่าจะเป็นสายการบินนี้ค่ะ
เลยเอาส่วนที่ จขกท เคยสงสัยมาแชร์ค่ะ
ขนาดเก้าอี้ : เพื่อนบอกว่าเล็ก ส่วนตัว จขกท ไม่เคยนั่งแอร์เอเซียมาก่อน กังวลพอสมควร แต่จริงๆแล้วไม่ได้เล็กมากนะคะ
จขกท เป็นคนตัวใหญ่ไม่ได้รู้สึกว่าเล็กขนาดที่อึดอัด
น้ำเปล่า : ซื้อที่ Mac ในสนามบินถูกกว่าบนเครื่องค่ะ เป็นน้ำสิงห์ ถ้าจำไม่ผิด 25 บาทค่ะ
กระเป๋า : อนุญาติให้นำกระเป๋าขึ้นได้ค่ะ มีขนาดแจ้งไว้ในเวป พร้อมกระเป๋าถือ หรือ กระเป๋าโน๊ตบุ๊ค
จขกท มีกระเป๋าลาก และ เป้ ก็เข้าได้ไม่มีปัญหาค่ะ
ตอนนี้คิดออกแค่นี้ ถ้าคิดอะไรได้เพิ่มเติม จะเอามาใส่เพิ่มให้นะคะ ส่วนด้านล่างจะแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ ที่ จขกทไปค่ะ