เงิน 500 กับการสู้ชีวิตในเมืองกรุง?

เนื่องจากกระทู้
http://pantip.com/topic/31546057
เลยอยากเล่าเรื่องของผมมั่ง ยาวนิดหน่อยแต่ก็อยากให้อ่านกันดูนะครับ

ผมเพิ่งจบ ม6 ปีนี้คับ จริงๆแล้วเด็กที่จบม.6 ก็ควรต้องหามหาลัยเพื่อเรียนต่อใช่ไหมล่ะ แต่ผมไม่เลย ไม่มีคนส่งเรียน
ต้องย้อนไปสักนิดว่าว่าเพิ่งมาเรียนที่กรุงเทพตอน ม.4 มาอยู่กับครอบครัวครอบครัวหนึ่ง แต่ก่อนก็อยุต่างจังหวัดคับอยุกับตายาย พ่อแม่เป็นใคร ? ไม่เคยรู้ครับ เขียนแต่ชื่อไม่เคยเห็นหน้า ซึ่งครอบครัวนี้เค้าก็รักผมเหมือนลูกนะคับ อยากได้อะไรก็ได้ เอาเป็นว่ามีพร้อมทุกอย่างที่เด็กสมัยนั้นเค้ามีกัน จน กระทั่ง ม.5 ครอบครัวนี้เค้าทะเลาะกัน พ่อแม่แยกทาง บ้านเค้ามีลูก 2 คนอะนะครับพ่อแม่ต่างเอาลูกไปคนละคน แล้วผมล่ะ ?

ตอนแรกเค้ากะจะส่งกลับไปต่างจังหวัดครับแต่ผมไม่ไป เลยออกมาอยุหอกับเพื่อน จริงๆถ้าผมเลือกที่จะกลับไปมันคงไม่ลำบากแบบนี้ เริ่มตั้งแต่ ม.5 เลยคับ ผมต้องอยู่แบบไม่มีตัง อดๆอยาก ๆ คือตังที่ได้เนี่ยก็จะมีแค่ขอจากน้าบ้างบางวันครับ แต่ขอบ่อยๆเค้าก็ไม่มีให้ เพราะเค้าก็ต้องให้ลูกของเค้าด้วย คือเพื่อนก็มีแหละ แต่ถ้าจะยืมมันทุกวันก็ไม่ไหว แล้วไหนจะเอาตังที่ไหนมาคืนมันอีก ก็เลยคิดหาวิธี สรุปคือรุจักป้าแถว รร ครับเป็นป้าที่ขายอาหารตามสั่งเลยไปขอทำงานกับเค้าเพราะทุกๆเย็นเค้าต้องทำกับข้าวไปขายตลาด หลังเลิกเรียนก็ไปทำงาน ป้าก็ใจดีให้ทำ โดยให้วันละ 150 มันก็ดีกว่าไม่ได้อะไร...

แรกๆก็อายนะ ไม่อยากทำเลยแหละ เพราะมันต้องเจอกับคนรุจัก เพื่อนที่รร. บ้าง รุ่นนน้อง รุ่นพี่ เค้าก็จะแซวกันว่าทำไมได้มาทำ จริงๆเค้าอาจไม่ได้อะไร แต่ผมก็อายๆ ได้แต่ท่องไว้ จะอายหรืออดยาก แรกๆโดนบ่นบ่อยมาก เพราะทำไรไม่เป็นเลย ท้อจนร้องให้ แอบน้อยใจว่าทำไมต้องมาเป็นแบบนี้พ่อแม่เราอยุไหนทำไมเค้าไม่สนใจเลย ? แต่ก็นะ ได้แต่เพ้อ มันเปลี่ยนอะไรไม่ได้หรอก ก็สู้มาเรื่อยๆ สู้มาแบบไม่มีใคร มีบ้างที่โทรหาตา พอได้มีแรงสู้ต่อ

จนกระทั่งจบ ม.6 มาได้แหละครับ เกือบตายเหมือนกัน
ระหว่างที่ปิดเทอม ผมก็ได้รู้จักกะคนๆนึง เป็นรุ่นน้องอะคับ เค้ามาเรียนพิเศษที่ กทม แต่บ้านอยุต่างจังหวัด จริงๆรู้จักกันนานแล้ว แต่เพิ่งมาได้เจอกัน หลังจากได้เจอกันครั้งแรกก็เจอกันบ่อยๆ จนสุดท้ายเราก็เกิดความรุสึกดีๆต่อกัน -////- แอบนอกเรื่องนิด อ่อ หลังจากที่จบ ม.6 แล้วผมก็ไม่ได้ไปทำงานกับป้าแล้วนะครับ โดยมีตังติดตัวอยู่ 4000 กว่าบาท ขอเท้าความนานนิดนึงเดี๋ยยวจะไม่เข้าใจ -0-

ชีวิตก็อยู่ไปเรื่อยๆครับ ช่วงปิดเทอมไม่ได้ทำงานเลย เพราะมันหายากจริงๆ บวกกับไม่ได้ตั้งใจหาจริงจัง จนกระทั่งแฟนผมอะครับ ขอเรียกว่าแฟนเพราะคบกันแล้ว เค้าเรียนพิเศษเสร็จแล้วละต้องกลับบ้าน แล้วในขณะนั้นตัง 4000 กว่าก็หมดแล้วด้วยจึงไม่รู้จะทำยังไง แฟนผมเค้าเลยชวนไปที่บ้านเค้าก่อน ไปอยู่ได้เกือบครึ่งเดือนครับ แต่รุสึกเกรงใจ เลยขอกลับ ซึ่งกลับก็ไม่รู้ว่าจะกลับไปไหน

ผมเลยกลับมาที่ กทม อีกทีนึงนึกไม่ออกก็ไปอยู่หอเพื่อนนี่แหละคับ 555 แต่มันก็อยู่ไม่ได้นานหรอกครับเพราะรุสึกว่าตังเราก็ไม่มี ไม่รุจะออกไปหางานยังไง อยู่เฉยๆได้ 2 3 วันเลยเล่าให้แฟนฟังเพราะเพื่อนมันก็จะย้ายออกไปเรียนที่ต่างจังหวัดแล้ว เค้าก็บอกให้ไปบ้านเค้าก่อน มาอยู่นี่สักเดือนเพื่อหาเงิน เสร็จแล้วค่อยไปเช่าหออยู่ ผมก็ถามเค้าว่าพ่อแม่โอเครึป่าวถามดีหรือยัง เค้าก็บอกโอเคแล้วนะครับ จนกระทั่งผมไป ไปถึงตอนเช้าครับ ก็ปกติดี จนกระทั่งถึงตอนเที่ยงมีโทรศัพท์จากพี่ของแฟนผมโทรหาเค้าอะครับ คุยกันอยู๋นาน ซึ่งผมก็พอรู้ว่ามันคงหมายถึงผมนั่นแหละ ซึ่งมันก็จริงครับ สักพักมีพี่ที่สอนพิเศษอยู่ที่ รร อะครับ ปล. ผมไปหาเค้าที่ที่เรียนพิเศษเพราะบ้านเค้าเปิดสอนพิเศษ ไปรอเพื่อที่ตอนเย็นจะกลับไปที่บ้านอีกที

ต่อนะครับ สักพักมีพี่ที่เรียนพิเศษมาขอคุยกับเราสองคน เริ่มแรกเค้าก็ถามเลยว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน อ่อ ลืมบอกไปว่าผมกะแฟนเป็นผู้ชายทั้งคู่นะคับ TT ผมก็บอกกะเค้าไปตามความจริง แล้วเค้าก็บอกว่า รู้ไหมว่ามันไม่ถูก จะมาอยู่ด้วยกันแบบนี้มันไม่ได้ คือเค้าบอกว่าแม่ก็ไม่ได้ว่าหรือรังเกียจอะไรนะ แต่ว่าคนข้างๆจะมองว่าไงเอาใครมาอยู่บ้าน ตอนนั้นผมไม่รู้จะทำหน้ายังไง มันตื้อไปหมดเลย ซึ่งตามที่ผมฟังแล้วคิด คือคนข้างๆจะมามองว่ายังไงล่ะ? ก็เพื่อนมาพักด้วยเฉยๆ ซึ่งปกติบ้านเค้าก็ไม่ได้สุงสิงกับใครอยู่แล้ว อีกอย่างเพื่อนแฟนผมก็มานอนเกือบทุกๆวันอยู่ เค้าก็คงไม่อยากให้ผมยุ่งกับลูกเค้ามากกว่าแหละมั้ง

และพี่คนนั้นก็ขอให้ผมกลับ กทม ไปโดยให้ตัง 500 เพราะผมไม่มีตังติดตัวแล้วจริง และนี่ก็เป็นที่มาของเรื่อง และเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตคนเดียวจริงๆ *** กว่าจะเข้าเรื่องได้ 555555

ผมขอกลับไปในตอนเย็นเลย เพราะไม่รู้จะอยู่สู้หน้าคนที่นั่นยังไง เพราะเค้าทำแบบนี้ก็เหมือนไล่ผมทางอ้อมแหละครับ ก่อนจะกลับแม่เค้าเรียกมาคุยพร้อมบอกว่าตอนนี้อยากให้แฟนผมเคร่งเรียนก่อน ให้ผมไป กทม หางานทำ งานอะไรก็ทำไปอย่าเลือก พร้อมให้ตังอีก 200 ตอนนั้นในสมองมันคิดมั่วไปหมด ทั้งน้อยใจ เสียใจ ท้อ ผมไม่รู้จริงๆว่าจะไปไหนต่อยังไงหลังจากที่กลับ กทม แล้ว รุสึกโกรธแฟนที่ให้ผมไปหาแล้วกลับกลายมาเป็นแบบนี้ ผมต้องลำบากกว่าเดิมอีก แต่ก็เข้าใจอะครับ เค้าคงหวังดี คิดแค่ว่าหลังจากกลับไปก็คงจะเลิกติดต่อเลย แต่ก็ทำไม่ได้อะครับ เหมือนผมเหลือเค้าคนเดียวที่ยังรักผมอยู่

มาถึง กทม เวลา ทุ่มกว่าๆลงที่อนุเสาวรี นั่งอยู๋นานเหมือนกัน ผมไม่รู้จะไปไหนจริงๆ ตังก็มีเหลือ 500 เพราะจ่ายค่ารถมากทม 200 จนกระทั่งเที่ยงคืน ผมก็ยังอยู่ที่เดิม ไม่ได้ละ ถ้านานกว่านี้รถเมล์หมดได้นอนนี่แน่ๆ ผมเลยหารถเมล์ฟรีสาย 34 ไปลงที่หัวลำโพง ใช่แล้วล่ะครับ ผมจะไปนอนที่สถานีรถไฟ ไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยไปหางานทำแล้วกัน คืนนั้นก็หลับไปด้วยความเหนื่อย

พอรุ่งเช้าทำธุระส่วนตัวเสร็จก็นั่งรถเมล์ไปหางานทำ บอกตามตรงว่าตอนนั่งรถนิน้ำตาซึมตลอด รุสึกเหมือนตัวเองไม่เหลือใครเลยจริงๆ ไม่มีใครช่วยเราได้ ถ้าจะกลับไปหาตาที่ต่างจังหวัดก็คงไม่ได้เพราะไม่มีตังค่ารถหรอก แล้วรถเมล์ก็พาผมมาถึงหอเพื่อนเอ้ย หอเก่าเพื่อนสิ แถวสะพานใหม่อะนะครับ เริ่มก็เดินไ-ปตามทางเท้า หางานประมาณว่าร้านไหนประกาศรับก็เข้าไปถามหมด แต่เค้าก็ไม่รับอะครับ มีแต่บอกจะโทรมาบอก จนเกือบๆเย็นละ ท้อมากจริงๆครับ ไม่รู้จะทำยังไง เลยมานั่งร้องให้ในห้องน้ำห้าง 55555 ตลกจริง แต่ก็ไม่รู้จะไปร้องให้ที่ไหน

สักพักความคิดก็แว๊บเข้ามา ลองเปิดหางานร้านเน็ตดีกว่า งานง่ายๆสบายดี ว่าแล้วก็หยิบมือถือขึ้นมาเสิร์ชหา แต่ส่วนมากก็จะเป็นรับแค่ ผญ บ้างล่ะ ต้องมีตังค์มัดจำบ้างล่ะ บางที่ก็มีคนสมัครแล้ว คือแบบมันไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย อารมตอนนั้นคือ โทษทุกอย่างอะที่ทำเราเป็นแบบนี้ คิดแค่ว่า วันนี้กุต้องนอนสถานีรถไฟอีกแล้วหรอ ?

ปล ถ้าถามว่าทำไมไม่ไปอยุกับน้าไปขอตังน้าล่ะ เพราะว่าตอนผมจบ ม6 น้าผมก็กลับต่างจังหวัดไปละครับ ที่ไม่ขอเพราะช่วง ม6 ขอแล้วก็ไม่ให้บ้างไม่ได้บ้าง เลยเลิกขอครับ

***ไว้เดี๋ยวมาต่อนะคับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
เขียนให้จบก่อนค่อยมาตั้งกระทู้ ไม่งั้นก้ไปตั้งห้องนิยายจะได้เป็นตอนๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่