การบริการห่วย ๆ ของบริษัทประกันธนชาติประกันภัย

เรื่องที่เล่ามาขอโทษนะค่ะ เป็นการตำหนิบริการล้วน ๆ ใครที่ทนฟังทนอ่านไม่ได้ ขอให้ผ่านไปเลยค่ะ

ฉันออกรถ Chevrolet มือสองจากเต้นท์แถวพระรามเก้าโดยใช้สินเชื่อของธนชาติ  
ที่ออกมือสองเพราะราคามือหนึ่งรุ่นท๊อป 7 แสนกว่า แต่มือสองเหลือ 3 แสนห้า
รถวิ่งระยะ 28,000 กว่าโล เราสภาพยังดีมากมากค่ะ อีกเหตุผลหนึ่ง คือ บ้านอยู่ลาดพร้าว 71 ค่ะ
มีปั้ม NGV เยอะนะค่ะและอยากประหยัด อยากเปลี่ยนรถอยู่แล้ว เลยโอเคกับรถ
ทั้งที่ชื่อเสียของ Chevrolet ค่อนข้างไม่ดีในเรื่องบริการแต่ต้องยอมรับว่าราคาจูงใจจริง ๆ ค่ะ
เนื่องจากว่ารถคันแรกฉันพึงพอใจในบริการประกันรถยนต์อันรวดเร็วของธนชาติ
คันที่สองเลยเลือกสินเชื่อของธนชาติ (ซึ่งเคยมาบ่นครั้งนึงแล้วว่า ฉันได้รับอันตราดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรมจากธนชาติเลย)

ครั้งนี้ขอมาเล่าเรื่องบริการประกันค่ะ
อุบัติเหตุเกิดในวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน 2557
ฉันขับรถประสบอุบัติเหตุโดยคู่กรณีเป็นเด็กอายุ 16 ไม่สวมหมวกกันน็อค ไม่มีใบขับขี่
ขี่ลื่นทรายมาชนฉันตั้งแต่กระจกหน้าด้านคนขับครูดไปจนถึงประตูท้าย
ประตูหน้าประตูหลังบุบในสภาพที่แย่มากค่ะ
ฉันเลือกที่จะเปลี่ยนค่ะ ไม่เคาะแล้วทำสีใหม่และเลือกเข้าศูนย์ Chevrolet สาขาโพธิแก้ว
(ก็เรื่องอะไรค่ะ รถยังใหม่อยู่เลยค่ะ แล้วฉันก็ไม่ได้ผิดด้วย ทำไมต้องแค่เคาะหล่ะ เปลี่ยน ต้องเปลี่ยนให้ฉันสิ)
ที่คิดถึง Chevrolet สาขาโพธิแก้วเนื่องจากว่า สัปดาห์ก่อนหน้านี้ฉันเพิ่งเอารถเข้าศูนย์ตรวจสภาพทั่วไป
แต่ฉันกำลังจะมีนัดในวันเสาร์ที่ 14 เพื่อตรวจสภาพลงเล่ม
(ก็งง ๆ ว่า ตอนเอารถออกมาเข้าศูนย์แล้ว เสียค่าบริการหลักร้อยเติมน้ำมันเบรคให้ลิตรนึงมั้งค่ะ
แต่ไม่มีลงเล่ม จุดประสงค์ที่เข้าศูนย์อยากให้ประวัติรถดีค่ะ มีการเช็คระยะถูกต้อง
ขอเมาท์ดัง ๆ เช็คสภาพรถดิฉันยังไงไม่รู้ ก่อนหน้านั้นขับรถนิ่ง เงียบ นุ่มมาก
ออกมาจากศูนย์ มีเสียงดังด้านหลัง สรุปต้องเสียเงินปอีกเกือบพัน
สาเหตุ คือ พนักงานศูนย์ปิดส่วนของแก๊สกลับไปไม่เหมือนเดิม
ไม่ยักกะมีพนักงานโทรมาสอบถามความพึงพอใจในบริการแหะ แม่จะจัดให้)

ขอสรุปนะค่ะ อุบัติเหตุตรงนี้เกิดจากการที่เด็กแว้นขับรถมาชนฉันเต็ม ๆ

พอประกันมาเคลียร์ ตอนแรกฉันก็ถามว่าสามารถเข้าศูนย์ได้ไม๊
คนรับเคลมบอกว่าของพี่ชั้น 1 ซ่อมอู่ครับ เราเลยพูดขึ้นทันทีว่าจะเข้าศูนย์เพราะเพิ่งเข้ามา
เขาก็ไม่พูดอะไร

พอมาถึงที่ สน.โชคชัย 4 คนรับเคลมประกันบอกพี่เอารถเข้าศูนย์ได้ครับ
ทางเราเข้าใจเอาเองนะค่ะ ว่าเหตุผลเพราะฝ่ายประกันจะทำหน้าที่ไล่เบี้ยกับประกันหรือพรบ.คู่กรณีเอง

วันนั้นเอารถเข้าศุนย์เลย ทางศูนย์บอกว่าต้องมีการตรวจสอบเอกสารก่อนนะค่ะ
ทราบเรื่องอีกทีวันพุธที่ 18 มิถุนายน ทางศูนย์โทรมาแจ้งมีค่าส่วนต่าง 6-7 พันบาท
คือ ทางเราโลกสวยมากค่ะเข้าใจว่าจะคุยกับทางธนชาติได้ อาจเป็นความผิดพลาดของศูนย์
เพราะเราคิดว่าประกันธนชาติโอเคนะอีกอย่างเราอยากให้กระบวนการซ่อมไม่มีปัญหาอ่ะค่ะ ไม่อยากเรื่องมากกับศูนย์
ก็กะว่าจะมาเคลียร์ในวันที่ 5 กรกฎาที่นัดเราเอาเข้าศูนย์
ส่วนที่เราไม่เอารถเข้าศูนย์ทันทีสาเหตุว่า เรามีความจำเป็นต้องใช้รถมากค่ะ เข้างาน 7.30 น.
ลาดพร้าว ไป สำโรงมันก็ไกลนะค่ะ ช่วงต้นเดือนเป็นช่วงที่งานเบาขึ้น กลับได้เร็วขึ้นเลยโอเคที่จะต้องไปกลับรถไฟฟ้ารถเมล์
เราสะดวกกว่า จึงเลือกช่วงนั้น
พอวันที่เราเอารถเข้าศูนย์ก่อนเซ็นเอกสารกับทางโชว์รูม
เราก็โทรหาทางธนชาติก่อนนะค่ะเกี่ยวกับเรื่องค่าส่วนต่าง
ครั้งแรกเจ้าหน้าที่เป็นผู้หญิงรับสาย ซักไปซักไปวางสายไปเลย (ทำงี้กับลูกค้าได้ไงค่ะ)
ครั้งที่สองโทรเข้าไปเจอคุณธนาทิพย์ เขาบอกว่าให้โทรเข้าวันจันทร์อีกครั้งวันนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่รับเรื่อง
เราก็ออกตัวเลยว่าเรากลัวว่างานเราจะยุ่งมาเดี๋ยวลืมอีกเขารับปากว่าจะมีเจ้าหน้าที่โทรมาในวันจันทร์
วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม 2557 มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงโทรมา น้ำเสียงดูเห็นอกเห็นใจลูกค้า เราคิดว่าเขาจะช่วย
และเข้าใจว่า process จะช้า (เปรียบเทียบกับเคลียร์ประกันที่แจ้งวันศุกร์กว่าจะทราบเรื่องวันพุธถัดมา)
เราก็โลกสวยรอบสอบคงติดวันศุกร์มั้งค่ะเป็นวันพระคงหยุด ส่วนวันจันทร์ก็อาจจะหยุดอีก
ส่วนวันอังคารยุ่งมากไม่ได้โทรวุ้ย วันนี้วันพุธที่ 16 โทรไปประมาณ 9 โมงกว่า เจ้าหน้าที่ชื่อกิ่งแก้ว หรือกิ่งอะไรสักอย่างรับเรื่อง
สรุป คือ ไม่มีแมวหน้าไหนโทรกลับมาจากธนชาติเลยหลังจากวันที่ 7 วันนี้ต้องโทรไปเอง
ช่วงเที่ยงมีเจ้าหน้าที่จาก Chevrolet สาขาโพธิแก้วโทรมาสอบถามว่าไม่มีการแจ้งค่าส่วนต่างเหรอค่ะ
เราตอบไปว่า ไม่มีค่ะ ในวันที่ 13 มิถุนายน ไม่มีการบอกสักคำจากเจ้าหน้าที่ Chev ว่ามีส่วนต่างนะค่ะ
มารู้ในวันพุธ 18 มิถุนายน ถัดมา ซ้ำเจ้าหน้าที่ที่โทรมาไม่ใช่เจ้าหน้าที่ที่รับเรื่อง
เจ้าหน้าที่ที่โทรมาบอกว่าเจ้าหน้าที่ท่านนั้นลาออกไปแล้ว
(แอบสมน้ำหน้ามันจริง ๆ นะค่ะ เนื่องจากเป็นพนักงานที่พูดจาทางโทรศัพท์ได้แย่มาก
เน้นมากในคำว่า “เห็นว่าลูกค้าเดือนร้อน เลยเร่งให้แล้วค่ะ 10 วันนี้เร็วที่สุดแล้วหรืออาจจะช้ากว่านั้นก็ไม่ทราบ”
ภาพนอยด์เกี่ยวกับการบริการแย่ ๆ ของ Chev เริ่มวิ่งเข้ามาในหัวเพราะนางคนนี้แหละค่ะ
ฟังบ่อยมากจนรู้สึกเป็นบุญคุณจากนางทั้งที่ชั้นเป็นลูกค้านะย่ะ)

สรุป คือวันพุธช่วงบ่ายสามโทรไปอีกที เจ้าหน้าที่กิ่งอะไรนั่นก็ไม่โทรมา โทรกลับไปเป็นเจ้าหน้าที่ท่านอื่นรับเรื่องแทน
พูดอย่างเดียวว่า ทาง Chev แจ้งส่วนต่างแล้วลูกค้าตัดสินใจทำเองให้รับสภาพไป ลองเป็นรถหล่อนสิย่ะจะพูดแบบนี้ไม๊
ส่วนการบริการในส่วนของพนักงานรับเคลมที่ผิดพลาดจะจัดการเอง
ขอด่าต่ำ ๆ นะค่ะ อันนี้คิดในใจ
(อีflower ความผิดพลาดจากการทำงานของพวก ผลักมาให้ลูกค้าจ่ายเงิน 6-7 พัน แล้วก็ไม่ทำอะไรกันเลย
พูดเพื่อให้ลูกค้าวางสาย ขอทีเถอะค่ะพนักงานอะไรก็แล้วแต่ ถ้าไม่เข้าใจคำว่าขอโทษอย่าพูดออกมา
ซึ่งครั้งนี้ไม่ได้ยินจากปากนางด้วยซ้ำ)
ฉันจะจ่ายค่าประกันไปเพื่ออะไร
อุบัติเหตุฉันไม่ผิดเลย จะฟ้องร้องค่าเสียหาย พ่อเด็กก็เป็นกรรมกรแถวนั้น คงได้ติดคุกแทนค่าเสียหายอะค่ะ
คำนวณคร่าว ๆ นะค่ะ ค่าแท็กซี่ไปกลับวันละ 700 บาทจะอยู่ไม๊ ฉันทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน เท่ากับ
เสียค่าแท็กซี่ 10 วันก็เกือบ 7 พันแล้วนะค่ะ
คือ ถ้าฉันขับรถชนมอเตอร์ไซด์ แล้วเสล่อไปเข้าศูนย์มีส่วนต่างต้องจ่ายฉันไม่แปลกใจที่ต้องรับผิดชอบนะค่ะ
แต่นี่ฉันถูกชนนะค่ะ ย้ำว่าถูกชน และฉันไม่ได้ขับรถผิดกฎจราจรอะไรเลย
พนักงานรับแจ้งเหตุเป็นคนบอกกับฉันเองว่าเข้าศูนย์ได้ แต่ฉันต้องรับผิดชอบความผิดพลาดของการทำงานของคุณเเหรอค่ะ ธนชาติทำอะไรค่ะ
มีพนักงานโทรมาติดต่อรับแจ้งเรื่อง แล้วก็รับจริง ๆ ไม่ได้ดำเนินการอะไรเลยคืออะไรค่ะ ไม่รู้มีระบบตรวจสอบการทำงานกันบ้างไม๊
แม้กระทั่งวันนี้ทางธนชาติก็ไม่สนใจแม้แต่จะโทรกลับมาแจ้งความคืบหน้า
ฉันเสียค่าประกันนะค่ะให้คุณนะค่ะ ฉันเป็นผู้เสียหาย คุณต้องพิทักษ์ผลประโยชน์ให้ฉันซิค่ะ
ไม่ใช่เรียกเอาประโยชน์จากลูกค้าทั้งที่ได้ค่าประกันไปแล้ว ย้ำขอเมาท์พนักงานจากศุนย์ Chev บอกเป็นค่าใช้จ่ายที่ทางธนชาติเรียกเก็บ
สรุปฉันทำประกันกับเธอเพื่ออะไร
ฉันเป็นฝ่ายถูก ฉันจ่ายค่าประกัน แต่ฉันต้องมาจ่ายส่วนต่างที่ธนชาติเรียกเก็บทั้งที่ธนชาติมีหน้าที่ต้องไปเคลียร์กับประกันหรือพรบ.ของคู่กรณีแต่มาเรียกเก็บเงินกับลูกค้า ซึ่งฉันคิดว่าธนชาติต้องเรียกเก็บ 100% อยู่แล้ว
สรุปประกันมีหน้าที่อะไรเหรอค่ะ???