กรณีโค้ชเช หวนนึกถึงตัวเองสมัยเล่นกีฬาเฟรชชี่เลยครับ

เรื่องโค้ชเชถูกหรือผิด ริวจะไม่ยุ่งนะครับ เพราะไม่ทราบข้อเท็จจริง เข้าไปอ่านผมก็สับสนเหมือนกัน ถ้ารุนแรงถึงขั้นกรามหักโค้ชเชก็ผิดจริง ต่อให้หวังดี มันก็รุนแรงเกินไป แต่ผมไม่ค่อยเชื่อน้องก้อยเท่าไหร่ ก็ได้แต่ติดตามข่าวต่อไปครับ

แต่สิ่งที่อยากจะพูดคือในวงการกีฬาต่อสู้นั้นคุณจะหลีกเลี่ยงหรือกลัวความเจ็บไม่ได้เด็ดขาดเลยครับ ย้อนไปสมัยผมเข้าปี 1 ได้สมัครเป็นตัวแทนชกมวยสากลสมัครเล่นของคณะ โดยมีรุ่นพี่สองสามคนซึ่งเคยชกมาก่อนคอยเทรนให้ ผมเป็นคนเล่นกีฬาหนักอยู่แล้ว ร่างกายก็บึกบึนพอสมควร แต่ไม่เคยชกกับใครมาก่อน เวลาซ้อมพี่ๆก็จะล่อเป้าให้ ปล่อยให้ผมไปชกกระสอบทรายบ้าง วิ่งบ้าง แต่ไม่เคยลงนวมต่อยจริงเลยครับ

ไฟท์แรกชกกับคนไม่เป็นมวย ตัวเล็กกว่าผม ผมรัวหมัดใส่เขาไม่ยั้งเลยครับ ไม่โดนต่อยเลยสักหมัด ชนะ RSC Outclass ไปได้อย่างงดงาม  

ไฟท์ที่สองก้าวขึ้นเวทีอย่างมั่นใจ คู่ต่อสู้ผอมๆดูไม่น่ากลัว ระฆังเริ่มยกดังปุ๊บผมบุกลุยทันที แต่คนนี้เป็นมวย สวนผมมาหมัดเดียว หมัดเดียวจริงๆครับ ผมทรุดลงกับพื้นผ้าใบ มึนไปหมด ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน พอลุกขึ้นมาได้ ใจมันป๊อดไปหมดเลยครับ ก้าวขาไม่ค่อยออก เพราะกลัวจะโดนชกอีก สรุปคือกลัวเจ็บครับ ได้แต่ยืนทิ้งระยะเก้ๆกังๆ พี่เลี้ยงบอกให้เข้าไปลุยเลย ผมก็ไม่กล้า สรุปคือแพ้คะแนนไปอย่างน่าอับอาย  อายตัวเองที่ใจป๊อดขนาดนั้น

มานั่งคิดดูวันนี้ อาการใจป๊อดในตอนนั้นเพราะตอนซ้อมเราเอาแต่ใช้กำลังแต่ไม่รู้จักการถูกต่อยดูบ้าง ไม่รู้จักเจ็บปวดดูบ้าง หัวจิตหัวใจเลยปรับตัวไม่ทันครับ การแข่งขันไฟท์นั้นมันเป็นตราบาปติดค้างในใจผมจนถึงทุกวันนี้ ตอนนั้นผมน่าจะเข้าไปลุยเลย โดนน็อคก็คงไม่ถึงตาย แต่คงภูมิใจกับความกล้าของตัวเอง ไม่มัวมานั่งค้างคาใจในความขลาดของตัวเองแบบนี้

วงการกีฬาการต่อสู้การเจ็บตัวต้องซึมลึกอยู่ในหัวใจอย่างหลีกหนีไม่พ้น แต่มันก็ต้องสมควรแก่เหตุและผลของมัน เพื่อให้เรากล้าที่จะเจ็บตัวเพื่อแลกกับชัยชนะทั้งในเกมกีฬาและชนะความกลัวของตัวเอง

ที่พล่ามมาไม่เกี่ยวกับโค้ชเชเท่าไหร่ จริงๆแล้วแค่อยากระบายน่ะครับ 555
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่