วันที่ 16 กรกฎาคม นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะกรรมทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า
ตนได้ส่งอีเอ็มเอสไปยังป.ป.ช. เพื่อให้ป.ป.ช.ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินฯผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดังต่อไปนี้
1.ตามที่มีข่าวทางสื่อมวลชนว่า ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบรายการทรัพย์สินของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรณีการแจ้งว่ามีทองคำแท่งๆละ 10 บาทจำนวน 5 แท่งน้ำหนักรวม 50 บาท มูลค่าที่แสดงไว้ 979,000 บาท โดยมีเอกสารใบเสร็จรับเงินประกอบ
แต่ไม่มีรูปถ่าย ต่อมา ป.ป.ช. ได้ขอให้ส่งภาพถ่ายของทองคำแท่งมาให้ตรวจสอบเพิ่ม
จากข่าวกรณีดังกล่าวตามแนวทางของป.ป.ช. จึงมีเหตุที่ควรแจ้งให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบทรัพย์สินของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในรายการที่เป็นนาฬิกา IWC 1 เรือน มูลค่า 170,000 บาท ที่ได้แสดงไว้ในบัญชีทรัพย์สิน ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2556
โดยระบุวันเดือนปีที่ได้มาว่า จำไม่ได้ เมื่อย้อนไปดูการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ณ วันที่ 9 สิงหาคม 2555 วันที่ 9 พฤษภาคม 2555 วันที่ 10 สิงหาคม 2554 หรือการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2554 จะพบว่า มีการระบุถึงนาฬิกาเรือนดังกล่าวตลอดมา
โดยแจ้งวันเดือนปีที่ได้มาว่า “จำไม่ได้” เช่นกัน
ส่วนกรณีรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ปรากฏว่ามีการยื่นรายการนาฬิกาเรือนดังกล่าวแต่อย่างใด ดังนั้น จึงน่าเชื่อว่านาฬิกาเรือนดังกล่าวคือทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นมาในระหว่างที่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงมีเหตุที่ควรตรวจสอบว่าได้มาโดยวิธีใด เพราะในการยื่นบัญชีต่อ ป.ป.ช. มีเพียงรูปถ่ายนาฬิกาเท่านั้น
ไม่มีใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีมาแสดงด้วยแต่อย่างใด ดังนั้น การระบุวันได้มาเพียงว่า จำไม่ได้ อาจจะไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้
เพราะบัญชีทรัพย์สินของนายอภิสิทธิ์ มีเพียงไม่กี่รายการ และนาฬิกาดังกล่าวเป็นรายการเดียวที่เพิ่มขึ้น จึงไม่น่าเชื่อว่า จะจำไม่ได้ ทั้งนี้เนื่องจากหากไม่สามารถระบุได้ว่านาฬิกาดังกล่าวได้มาโดยวิธีใด อาจเข้าข่ายเป็นการมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติหรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่สมควร และเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าเกิน 3,000 บาท ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 103 ตามมาได้ จึงควรตรวจสอบว่านายอภิสิทธิ์ ได้นาฬิกาเรือนดังกล่าวมาโดยวิธีใด เพราะหากมีใบเสร็จหรือใบกำกับภาษีมาแสดงก็จะน่าเชื่อมากกว่าการแสดงโดยรูปถ่ายเพียงอย่างเดียว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1405483724
สงสัยเรื่องนาฬิกาเจ้ปูคงจะรอดเพราะมาร์คนี่เอง
′เรืองไกร′ ร้องป.ป.ช.ตรวจสอบนาฬิกา IWC ของ"อภิสิทธิ์" ที่เจ้าตัวระบุว่า"จำไม่ได้"
วันที่ 16 กรกฎาคม นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะกรรมทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ตนได้ส่งอีเอ็มเอสไปยังป.ป.ช. เพื่อให้ป.ป.ช.ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินฯผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดังต่อไปนี้
1.ตามที่มีข่าวทางสื่อมวลชนว่า ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบรายการทรัพย์สินของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรณีการแจ้งว่ามีทองคำแท่งๆละ 10 บาทจำนวน 5 แท่งน้ำหนักรวม 50 บาท มูลค่าที่แสดงไว้ 979,000 บาท โดยมีเอกสารใบเสร็จรับเงินประกอบแต่ไม่มีรูปถ่าย ต่อมา ป.ป.ช. ได้ขอให้ส่งภาพถ่ายของทองคำแท่งมาให้ตรวจสอบเพิ่ม
จากข่าวกรณีดังกล่าวตามแนวทางของป.ป.ช. จึงมีเหตุที่ควรแจ้งให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบทรัพย์สินของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในรายการที่เป็นนาฬิกา IWC 1 เรือน มูลค่า 170,000 บาท ที่ได้แสดงไว้ในบัญชีทรัพย์สิน ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2556 โดยระบุวันเดือนปีที่ได้มาว่า จำไม่ได้ เมื่อย้อนไปดูการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ณ วันที่ 9 สิงหาคม 2555 วันที่ 9 พฤษภาคม 2555 วันที่ 10 สิงหาคม 2554 หรือการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2554 จะพบว่า มีการระบุถึงนาฬิกาเรือนดังกล่าวตลอดมา โดยแจ้งวันเดือนปีที่ได้มาว่า “จำไม่ได้” เช่นกัน
ส่วนกรณีรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ปรากฏว่ามีการยื่นรายการนาฬิกาเรือนดังกล่าวแต่อย่างใด ดังนั้น จึงน่าเชื่อว่านาฬิกาเรือนดังกล่าวคือทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นมาในระหว่างที่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงมีเหตุที่ควรตรวจสอบว่าได้มาโดยวิธีใด เพราะในการยื่นบัญชีต่อ ป.ป.ช. มีเพียงรูปถ่ายนาฬิกาเท่านั้น ไม่มีใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีมาแสดงด้วยแต่อย่างใด ดังนั้น การระบุวันได้มาเพียงว่า จำไม่ได้ อาจจะไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้
เพราะบัญชีทรัพย์สินของนายอภิสิทธิ์ มีเพียงไม่กี่รายการ และนาฬิกาดังกล่าวเป็นรายการเดียวที่เพิ่มขึ้น จึงไม่น่าเชื่อว่า จะจำไม่ได้ ทั้งนี้เนื่องจากหากไม่สามารถระบุได้ว่านาฬิกาดังกล่าวได้มาโดยวิธีใด อาจเข้าข่ายเป็นการมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติหรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่สมควร และเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าเกิน 3,000 บาท ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 103 ตามมาได้ จึงควรตรวจสอบว่านายอภิสิทธิ์ ได้นาฬิกาเรือนดังกล่าวมาโดยวิธีใด เพราะหากมีใบเสร็จหรือใบกำกับภาษีมาแสดงก็จะน่าเชื่อมากกว่าการแสดงโดยรูปถ่ายเพียงอย่างเดียว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1405483724
สงสัยเรื่องนาฬิกาเจ้ปูคงจะรอดเพราะมาร์คนี่เอง