"สุทธิ อัชฌาสัย" เอ็นจีโอสิ่งแวดล้อมเสียชีวิตแล้ว - ครอบครัวชี้ยิงตัวตาย ปมเครียดหนี้สิน
จากกรณีเมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 15 ก.ค. ร.ต.ท.อุดม ศรีสงค์ ร้อยเวร สภ.เมือง ระยอง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุใช้อาวุธยิงภายในรถยนต์จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บ้านเลขที่ 115 ม.7 บ้านขวากลิง ต.บ้านแลง อ.เมือง จ.ระยอง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรีบเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ภายในสวนผลไม้ เป็นบ้านไม้ยกพื้น พบรถยนต์แค็ป ยี่ห้อโตโยต้าสีเขียว ทะเบียน พ-1426 ระยอง จึงเข้าไปตรวจสอบพบกับผู้ชายนั่งอยู่ในเบาะคนขับสภาพมีเลือดเต็มศีรษะและเลือดกระจายทั่วรถ และพบอาวุธปืน ขนาด .38 อยู่ในมือของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ตรวจสอบพบปลอกกระสุนจำนวน 4 ปลอกอยู่ในลูกโม่ และยังพบว่าแรงกระสุนทะลุกระจกจำนวน4 รู และยังไปทะลุหลังคาโรงรถอีก 4 รู หลังจากนั้นก็รีบนำตัวส่ง รพ.ระยองทันที ซึ่งแพทย์ก็ได้เหลืออย่างเต็มที่พบมีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ขมับด้านขวาทะลุหน้าผาก อาการโคม่าเป็นตายเท่ากัน
ทราบต่อมาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บคือนายสุทธิ อัชฌาสัย อายุ 38 ปี แกนนำองค์การพัฒนาเอกชน หรือ เอ็นจีโอ จ.ระยอง อดีตประธานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก อดีตแกนนำพันธมิตรฯ และนักต่อสู้และอนุรักษ์ด้านสิ่งแวดล้อม โดยนางฉิ่น อัชฌาศัย มารดาเป็นผู้พบเห็นเหตุการณ์คนแรก ให้การเบื้องต้นว่าบุตรชายยิงตัวเอง ก่อนจะเรียกญาติมาช่วยกันตัวส่ง รพ.ระยอง
ความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 16 ก.ค. หลังจากแพทย์ผ่าตัดช่วยยื้อชีวิต แต่ไม่สำเร็จเพราะกระสุนเข้าจุดสำคัญ ทำให้นายสุทธิเสียชีวิตในที่สุด
ต่อมา ช่วงเช้าวันเดียวกันญาติเดินทางมารับศพของนายสุทธิ ที่รพ.ระยอง นำศพกลับไปทำพิธีทางศาสนา ที่วัดตรีมิตรประดิษฐาราม หรือวัดขวากลิง ต.บ้านแลง อ.เมือง จ.ระยอง โดยมีญาติและผู้ร่วมอุดมการณ์มารอรับศพกันจำนวนหนึ่งด้วยความอาลัย สำหรับกำหนดพิธีศพ จะมีพิธีสวดอภิธรรมศพตั้งวันนี้เป็นต้นไป และฌาปณกิจศพในเวลา 16.00 น.วันจันทร์ที่ 21 ก.ค.57
จากการสอบสวนนางฉิ่น อัชฌาศัย อายุ 74 ปี มารดาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้เดินทางกลับมาที่บ้านซึ่งปกติพักอยู่ในตัวเมืองระยองกับภรรยาและบุตร โดยไม่ได้แสดงอาการเครียด ยังทักทายตนตามปกติ แต่จู่ๆ ขณะที่ตนเองกำลังปรุงอาการอยู่ภายในครัวหลังบ้านก็ต้องตกใจกับเสียงปืนที่ดังปังหลายครั้ง จึงรีบวิ่งออกมาดูก็แทบช็อคเพราะมองไปในรถยนต์ที่จอดอยู่ในโรงจอดรถหน้าบ้านพบร่างของผู้ตายฟุบจมกองเลือดอยู่ภายในรถ หลังตั้งสติจึงเรียกพี่ชายของผู้ตายมาช่วยเพราะผู้ตายยังไม่เสียชีวิต และรีบนำตัวส่ง รพ.ระยองทันที
นางฉิ่นกล่าวต่ออีกว่า ตนเองยืนยันว่าบุตรชายเป็นคนยิงตัวเองภายในรถ ส่วนสาเหตุนั้นน่าจะเกิดจากความเรียดเรื่องหนี้สินที่บุตรชายนำเอาที่ดินที่เกิดเหตุไปจำนองเป็นเงินจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อนำไปลงทุนในธุรกิจร้านอาหาร ในตัวเมืองระยอง แต่ขาดทุนจนต้องปิดร้านไป และยังมาลงทุนทำตลาดให้เช่าแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ จึงอาจเป็นสาเหตุในการยิงตัวเอง แต่ปกติผู้ตายจะเป็นคนพูดน้อยและไม่ยอมปรึกษากับใครมักจะเก็บไว้คนเดียวโดยที่ไม่มีใครทราบ จึงทำให้เกิดอาการเครียดจนหาทางออกไม่ได้ ซึ่งตนเองก็รู้สึกเสียใจมากไม่คาดคิดว่าบุตรชายจะคิดสั้นทั้งที่ยังมีทางออกอื่นอีก
ด้านนายมณฑล อัชฌาศัย อายุ 49 ปี พี่ชายของผู้ตาย ได้เปิดเผยว่า สาเหตุที่น้องชายคิดสั้นน่าจะมาจากปัญหาเรื่องหนี้สินจากการทำธุรกิจที่ไม่ประสบผลสำเร็จ เมื่อเดือนก่อนยังเคยมาปรึกษากับตนเรื่องธุรกิจที่ประสบปัญหาขาดทุนและยังมาเอ่ยขอยืมเงินจากตนเองไป แต่ก็ไม่มีลางบอกเหตุว่าจะทำแบบนี้ ทั้งที่เป็นคนหนักแน่นต่อสู้กับสารพันปัญหามาได้มากมาย แต่ไม่ทราบว่าทำไมคิดเช่นนี้ รู้สึกเสียใจมากต่อการสูญเสียในครั้งนี้ด้านผู้ร่วมอุดมการณ์ที่มารอรับศพต่างก็เสียใจกับครอบครัวของผู้ตาย
ช่วงเที่ยงวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจกองวิทยาการจังหวัดระยอง ได้เดินทางไปตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุพบมีร่องรอยกระสุนทั้งหมด 4 นัด เป็นอาวุธปืนขนาด .38 ยิงทะลุกระจกหน้ารถยนต์ 3 นัดเป็นรูไปทะลุหลังคาสังกะสีโรงรถ จนหลังคาทะลุจากแรงกระสุนปืน ส่วนอีกหนึ่งนัดใช้ยิงเข้าที่ศีรษะผู้ตาย จึงพบว่ามีการยิงปืนทั้งหมด 4 นัด คาดว่าคงจะยิงออกจากในรถทะลุกระจกก่อน3นัด ก่อนจะจ่อยิงเข้าขมับตัวเองในนัดสุดท้าย เพราะตรวจในลูกโม่พบมีปลอกกระสุนทั้งหมด4นัด และยังตรวจสอบพบคราบเขม่าดินปืนจากมือของเสียชีวิตด้วย ส่วนวิถีกระสุนก็ตรงกับที่มารดาของผู้ตายให้การคือเป็นการยิงตัวเอง จึงสรุปเบื้องต้นว่าเป็นการยิงตัวเอง และทางญาติก็ไม่ติดใจเอาความและยอมรับว่าผู้ตายยิงตัวเอง อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นการยิงตัวเองหรือไม่นั้น ต้องรอตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ให้ชัดต่อไป
สำหรับประวัติของนายสุทธิ เคยเป็นแกนนำในการต่อต้านโครงการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ร่วมกับชาวระยองในการต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่จะก่อสร้างในพื้นที่ 3ตำบล ประกอบไปด้วย ตำบลบ้านแลง ตำบลนาตาขวัญ และ ตำบลตะพง จ.ระยอง จนทำให้ต้องพับโครงการไป รวมไปถึงการเป็นแกนนำช่วยเหลือชาวมาบตาพุด ระยอง ในการต่อต้านและเอาผิดกับกลุ่มโรงงานที่สร้างมลพิษ และเคยได้รับรางวัลในฐานะนักต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อม
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd05UUTROemt5TVE9PQ==&subcatid=
แกนนำพันธมิตรระยอง ยิงตัวตาย !!
จากกรณีเมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 15 ก.ค. ร.ต.ท.อุดม ศรีสงค์ ร้อยเวร สภ.เมือง ระยอง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุใช้อาวุธยิงภายในรถยนต์จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บ้านเลขที่ 115 ม.7 บ้านขวากลิง ต.บ้านแลง อ.เมือง จ.ระยอง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรีบเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ภายในสวนผลไม้ เป็นบ้านไม้ยกพื้น พบรถยนต์แค็ป ยี่ห้อโตโยต้าสีเขียว ทะเบียน พ-1426 ระยอง จึงเข้าไปตรวจสอบพบกับผู้ชายนั่งอยู่ในเบาะคนขับสภาพมีเลือดเต็มศีรษะและเลือดกระจายทั่วรถ และพบอาวุธปืน ขนาด .38 อยู่ในมือของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ตรวจสอบพบปลอกกระสุนจำนวน 4 ปลอกอยู่ในลูกโม่ และยังพบว่าแรงกระสุนทะลุกระจกจำนวน4 รู และยังไปทะลุหลังคาโรงรถอีก 4 รู หลังจากนั้นก็รีบนำตัวส่ง รพ.ระยองทันที ซึ่งแพทย์ก็ได้เหลืออย่างเต็มที่พบมีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ขมับด้านขวาทะลุหน้าผาก อาการโคม่าเป็นตายเท่ากัน
ทราบต่อมาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บคือนายสุทธิ อัชฌาสัย อายุ 38 ปี แกนนำองค์การพัฒนาเอกชน หรือ เอ็นจีโอ จ.ระยอง อดีตประธานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก อดีตแกนนำพันธมิตรฯ และนักต่อสู้และอนุรักษ์ด้านสิ่งแวดล้อม โดยนางฉิ่น อัชฌาศัย มารดาเป็นผู้พบเห็นเหตุการณ์คนแรก ให้การเบื้องต้นว่าบุตรชายยิงตัวเอง ก่อนจะเรียกญาติมาช่วยกันตัวส่ง รพ.ระยอง
ความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 16 ก.ค. หลังจากแพทย์ผ่าตัดช่วยยื้อชีวิต แต่ไม่สำเร็จเพราะกระสุนเข้าจุดสำคัญ ทำให้นายสุทธิเสียชีวิตในที่สุด
ต่อมา ช่วงเช้าวันเดียวกันญาติเดินทางมารับศพของนายสุทธิ ที่รพ.ระยอง นำศพกลับไปทำพิธีทางศาสนา ที่วัดตรีมิตรประดิษฐาราม หรือวัดขวากลิง ต.บ้านแลง อ.เมือง จ.ระยอง โดยมีญาติและผู้ร่วมอุดมการณ์มารอรับศพกันจำนวนหนึ่งด้วยความอาลัย สำหรับกำหนดพิธีศพ จะมีพิธีสวดอภิธรรมศพตั้งวันนี้เป็นต้นไป และฌาปณกิจศพในเวลา 16.00 น.วันจันทร์ที่ 21 ก.ค.57
จากการสอบสวนนางฉิ่น อัชฌาศัย อายุ 74 ปี มารดาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้เดินทางกลับมาที่บ้านซึ่งปกติพักอยู่ในตัวเมืองระยองกับภรรยาและบุตร โดยไม่ได้แสดงอาการเครียด ยังทักทายตนตามปกติ แต่จู่ๆ ขณะที่ตนเองกำลังปรุงอาการอยู่ภายในครัวหลังบ้านก็ต้องตกใจกับเสียงปืนที่ดังปังหลายครั้ง จึงรีบวิ่งออกมาดูก็แทบช็อคเพราะมองไปในรถยนต์ที่จอดอยู่ในโรงจอดรถหน้าบ้านพบร่างของผู้ตายฟุบจมกองเลือดอยู่ภายในรถ หลังตั้งสติจึงเรียกพี่ชายของผู้ตายมาช่วยเพราะผู้ตายยังไม่เสียชีวิต และรีบนำตัวส่ง รพ.ระยองทันที
นางฉิ่นกล่าวต่ออีกว่า ตนเองยืนยันว่าบุตรชายเป็นคนยิงตัวเองภายในรถ ส่วนสาเหตุนั้นน่าจะเกิดจากความเรียดเรื่องหนี้สินที่บุตรชายนำเอาที่ดินที่เกิดเหตุไปจำนองเป็นเงินจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อนำไปลงทุนในธุรกิจร้านอาหาร ในตัวเมืองระยอง แต่ขาดทุนจนต้องปิดร้านไป และยังมาลงทุนทำตลาดให้เช่าแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ จึงอาจเป็นสาเหตุในการยิงตัวเอง แต่ปกติผู้ตายจะเป็นคนพูดน้อยและไม่ยอมปรึกษากับใครมักจะเก็บไว้คนเดียวโดยที่ไม่มีใครทราบ จึงทำให้เกิดอาการเครียดจนหาทางออกไม่ได้ ซึ่งตนเองก็รู้สึกเสียใจมากไม่คาดคิดว่าบุตรชายจะคิดสั้นทั้งที่ยังมีทางออกอื่นอีก
ด้านนายมณฑล อัชฌาศัย อายุ 49 ปี พี่ชายของผู้ตาย ได้เปิดเผยว่า สาเหตุที่น้องชายคิดสั้นน่าจะมาจากปัญหาเรื่องหนี้สินจากการทำธุรกิจที่ไม่ประสบผลสำเร็จ เมื่อเดือนก่อนยังเคยมาปรึกษากับตนเรื่องธุรกิจที่ประสบปัญหาขาดทุนและยังมาเอ่ยขอยืมเงินจากตนเองไป แต่ก็ไม่มีลางบอกเหตุว่าจะทำแบบนี้ ทั้งที่เป็นคนหนักแน่นต่อสู้กับสารพันปัญหามาได้มากมาย แต่ไม่ทราบว่าทำไมคิดเช่นนี้ รู้สึกเสียใจมากต่อการสูญเสียในครั้งนี้ด้านผู้ร่วมอุดมการณ์ที่มารอรับศพต่างก็เสียใจกับครอบครัวของผู้ตาย
ช่วงเที่ยงวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจกองวิทยาการจังหวัดระยอง ได้เดินทางไปตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุพบมีร่องรอยกระสุนทั้งหมด 4 นัด เป็นอาวุธปืนขนาด .38 ยิงทะลุกระจกหน้ารถยนต์ 3 นัดเป็นรูไปทะลุหลังคาสังกะสีโรงรถ จนหลังคาทะลุจากแรงกระสุนปืน ส่วนอีกหนึ่งนัดใช้ยิงเข้าที่ศีรษะผู้ตาย จึงพบว่ามีการยิงปืนทั้งหมด 4 นัด คาดว่าคงจะยิงออกจากในรถทะลุกระจกก่อน3นัด ก่อนจะจ่อยิงเข้าขมับตัวเองในนัดสุดท้าย เพราะตรวจในลูกโม่พบมีปลอกกระสุนทั้งหมด4นัด และยังตรวจสอบพบคราบเขม่าดินปืนจากมือของเสียชีวิตด้วย ส่วนวิถีกระสุนก็ตรงกับที่มารดาของผู้ตายให้การคือเป็นการยิงตัวเอง จึงสรุปเบื้องต้นว่าเป็นการยิงตัวเอง และทางญาติก็ไม่ติดใจเอาความและยอมรับว่าผู้ตายยิงตัวเอง อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นการยิงตัวเองหรือไม่นั้น ต้องรอตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ให้ชัดต่อไป
สำหรับประวัติของนายสุทธิ เคยเป็นแกนนำในการต่อต้านโครงการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ร่วมกับชาวระยองในการต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่จะก่อสร้างในพื้นที่ 3ตำบล ประกอบไปด้วย ตำบลบ้านแลง ตำบลนาตาขวัญ และ ตำบลตะพง จ.ระยอง จนทำให้ต้องพับโครงการไป รวมไปถึงการเป็นแกนนำช่วยเหลือชาวมาบตาพุด ระยอง ในการต่อต้านและเอาผิดกับกลุ่มโรงงานที่สร้างมลพิษ และเคยได้รับรางวัลในฐานะนักต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อม
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd05UUTROemt5TVE9PQ==&subcatid=