มาคิดวิธีป้องกันตัวแบบโหดๆกันเถอะ

กระทู้สนทนา
ภัย 'ข่มขืน' เรื่องใกล้ตัวที่ต้องระแวดระวัง โดยเฉพาะผู้หญิงที่ตกเป็น 'เหยื่อ' ไม่เว้นแต่ละวัน หลายเหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศอาจไม่ได้เป็นข่าวใหญ่โต หรือคืนความเป็นธรรมให้ผู้ถูกกระทำเสียทั้งหมด แม้จะมีบทลงโทษทางกฎหมายไว้จัดการผู้กระทำความผิด แต่อำนาจการบังคับใช้ที่ไม่เข้มงวดก็ทิ้งร้างคำถามทำนองว่า โทษแค่นี้..สาสมกับความผิดต่ำช้าที่ทำลงไปแล้วหรือ? เพราะจิตใจของเหยื่อต้องบอบช้ำแสนสาหัส และตกอยู่ในภาวะหวาดระแวงวิตกกังวลไปเนิ่นนาน ทั้งยังถูกตอกย้ำจากทัศนคติคร่ำครึจากสังคมไทย

พลอย (นามสมมุติ) นักศึกษาสาวปี 1 มหาวิทยาเอกชนชื่อดัง เล่าให้ฟังด้วยความคับแค้นใจเพราะถูกเพื่อนชายร่วมชั้น ล่อลวงเพื่อไปทำการข่มขืน
เพราะเรื่องงานที่ต้องส่งอาจารย์อย่างเร่งด่วน บวกกับความไว้ใจในฐานะเพื่อน จึงทำให้พลอยไม่ปฏิเสธการช่วยเหลือและเดินทางมายังห้องพักของผู้ชายคนนั้น อย่างไรก็ตาม ฝ่ายชายทำทีปรึกษาเรื่องงานอยู่สักครู่ก็เริ่มมีการลวมลาม และพยายามจะจู่โจมอย่างหนัก พลอยรู้ตัวและมีสติจึงเริ่มตะโกนต่อว่า และใช้แรงที่มีทั้งหมดผลักเพื่อนชายคนนั้นออกไป จากนั้นเธอรีบวิ่งเข้าไปซ่อนในห้องน้ำและทำการโทรบอกเพื่อนที่พักอยู่บริเวณใกล้เคียงให้มาช่วยเหลือ
       
        ไม่นานเพื่อนของพลอยเดินทางมาถึงพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ เธอได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย และคนร้ายในคราบเพื่อนถูกจับกุม ดำเนินคดีทางกฎหมาย

เสียค่าปรับไปเพียง5,000 บาท

แท็กซี่มอมยาล็อกรถข่มขืน ภัยใกล้ตัวสำหรับหญิงสาวที่เดินทางเวลาค่ำคืน ก้อย (นามสมมุติ) เปิดใจถึงกรณีการถูกข่มขืนจากแท็กซี่ใจบาป

โจรชั่วข่มขืนสำเร็จพร้อมกับพูดเย้ยกฎหมายว่าทำแบบนี้มาไม่ 7 ครั้งแล้ว ตำรวจไม่เคยจับตัวได้
จากนั้นมันปล่อยเธอไว้ในที่เปลี่ยวให้หาทางรอดจากเหตุการณ์เลวร้ายนั่นด้วยตัวเอง
ก้อย กล่าวถึงผลลัพธ์ของคดีที่ทำร้ายจิตใจเธอว่าตำรวจไม่สามารถจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้

รปภ. ชั่วแฝงตัวคอนโดดัง เหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นบริเวณคอนโดชื่อดัง ย่านลาดพร้าว โบว์ (นามสมมุติ) นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เปิดใจว่า เธอถูก รปภ. ล่อลวงไปข่มขืนยังพื้นที่ก่อสร้างตึกใหม่กหลังคอนโดที่ตนพักอาศัยอยู่
ในคดีนี้เธอขอความช่วยเหลือเบื้องต้นจาก รปภ. คนอื่นๆ ที่ดูแลคอนโด และเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ห้องติดกัน ซึ่ง รปภ. ผู้ก่อเหตุยังเหิมเกริมโทรมายังห้องพักของเหยื่อ พยายามเรียกเธอลงไปก่อเหตุซ้ำ และข่มขู่หากแจ้งความจะฆ่าให้ตาย แต่ความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านทำให้เธอปลอดภัย
ขณะที่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีวี่แววจะเดินทางมายังที่เกิดเหตุ จนรุ่งเช้าครอบครัวของเธอเดินทางมารับตัวไปแจ้งความดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นคดีที่สะท้อนความหละหลวมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เธอบอกว่าตำรวจรับเรื่องแต่ไม่ใส่ใจที่จะช่วยเหลือ
ขณะเดียวกันทางครอบครัวต้องจ่ายเงินเป็นสินจ้างกระตุ้นการทำงานของเจ้าหน้าที่ฯ ให้เร่งตามจับคนร้าย จนผ่านไป 2 เดือน ถึงตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้

ล้างสมองลบทัศนคติมายา
        อย่างไรก็ตาม หญิงสาวทั้ง 3 คน ที่ตกเป็นเหยื่อในคดีล่วงละเมิดทางเพศ บอกตรงกันว่ารู้สึกกลัว โดยเฉพาะผู้เคราะห์ร้าย 2 คน ที่ตกเป็นผู้ถูกกระทำ ยอมรับว่าตกอยู่ในสภาวะหวาดระแวงและบอบซ้ำมาก ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ก้าวผ่านความรู้สึกหวาดกลัวนั้น ฝันร้ายตามหลอกหลอนพวกเธอทุกครั้งที่หลับตา บางครั้งได้ยินเสียงดังก็ตกใจเพราะระแวงเหตุร้ายที่ตามหลอกหลอน
       
        ดูเหมือนเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นจะแตกต่างจากความฟุ้งฝันในละครโดยสิ้นเชิง
ละครไทยหลายเรื่องชูโรงเรื่องพระเอกข่มขืนนางเอกว่าเป็นเรื่องชอบธรรม
หรือทัศนคติโง่เง่าที่ฝังรากในสังคมเรื่องผู้ชายข่มขืมทอมแล้วจะเป็นผู้หญิง เพราะได้รับความสุขทางเพศที่ดีกว่า
แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่เลย และถึงเวลาที่ต้องรื้อแก้ทัศนคติเหล่านี้แล้ว

ผศ.ดร.ปนัดดา ชำนาญสุข อาจารย์ภาควิชาจิตวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อธิบาย
        “การถูกข่มขืนเป็นการบาดเจ็บทางจิตใจที่ลงลึกระดับจิตไร้สำนึก ความรู้สึกหวาดกลัวความรู้สึกกระทำรุนแรงด้วยวิธีการข่มขืนมันจะฝังความรู้สึกที่ตนเองได้รับการกระทำที่รุนแรง มันจะยากต่อการเยียวยาตรงนี้เป็นกลไกภายในจิตของแต่ละคน สบทบไปด้วยบรรทัดฐานทางสังคม ความอับอาย

บรรทัดฐานกฎเกณฑ์ที่สังคมมีต่อผู้หญิงว่าผู้หญิงจะต้องคงความบริสุทธิ์จนถึงวันแต่งงาน ทีนี้ตราบาปที่ถูกข่มขืนมันมาขัดแย้งกับคุณค่าทางสังคม เท่ากับว่าเหยื่อจะถูกกระทำรุนแรงซ้ำจากกฎเกณฑ์นี้ เขาจะรู้สึกได้รับความไม่เป็นธรรม ตายทั้งเป็น ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า”
       
        ประเด็นหนึ่งที่สำคัญ ทัศนคติแบบเก่าที่ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง โดยถูกแพร่ภาพซ้ำผ่านสื่อมาหลายยุคหลายสมัย อย่างละครจำพวกพระเอกข่มขืนนางเอกแล้วก็ลงเอยด้วยความสุข ซึ่งมันไม่ใช่เลยและควรรื้อระบบความคิดนี้ออกไป
       
        “ไม่ควรปล่อยให้คุณค่าเรื่องเหล่านี้ยังดำรงอยู่ แนวละครการขืนใจต้องเป็นเรื่องที่ถูกประณาม เดี๋ยวนี้มันต้องคำนึงถึงเรื่องสิทธิ การเคารพกันเรื่องสิทธิ ผู้หญิงควรจะสร้างค่านิยมใหม่ ผู้หญิงไม่ใช่สมัยก่อนแล้วที่อยู่ๆ กันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง เขาทำร้ายฉันฉันก็รักเขาได้ มันเป็นค่านิยมที่มันล้าสมัย ควรที่จะรื้อไปได้แล้ว เราอยู่ในประเทศที่เจริญแล้ว”

ครั้นจะหวังพึ่งผู้พิทักษ์สันติราษฎ์อย่างเดียวก็คงไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้องเท่าไหร่ เพราะผลงานที่ผ่านตอกย้ำความบอบซ้ำแก่ประชาชนให้ได้เห็นกันเป็นระยะ ปัญหาล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ควรเป็นประเด็นวัวหายล้อมคอก

อ่านฉบับเต็มได้ตามนี้นะ http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9570000079959

เศร้า
คืออ่านข่าวแล้วสลดใจง่ะ คือเราจะหวังพึ่งอะไรได้บ้างจากสังคมนี้เนี่ย
มาคิดวิธีป้องกันตัวเองแบบโหดๆกันเถอะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่