สิทธิขั้นพื้นฐาน ต้องฟรี ยากมีดีเลว ต้องไม่แบ่งแยกทุกคนต้องเท่าเทียมกัน

ประเด็นร่วมจ่ายคงไม่จบง่ายๆแม้ปลัด สธ.จะออกมายืนยันว่าไม่มีแนวความคิดนี้ แต่บรรดาคนรอบข้างต่างออกมาขานรับกันถ้วนหน้าว่าไม่จนไม่มีสิทธิ์ ความคิดที่ผ่านออกมาจาก ประธานสมาพันธ์ มันสื่ออะไรเป็นนัยยะว่าคนกลุ่มนี้คิดอะไรอยู่ มากกว่าที่เราๆท่านๆมองเห็น การเปิดประเด็นเรื่องนี้มิใช่การทะเลาะเบาะแว้งแต่อย่างใด แต่เป็นโจทย์ที่ท้าทายสังคมว่าคิดเช่นไรกับระบบสุขภาพ หน่วยงานของรัฐทั้งสองหน่วยงาน ที่มีวิธีคิดคนละแบบอย่างสุดขั้ว สธ.เป็นระบบราชการที่เคยชินกับการใช้อำนาจ สั่งการ เป็นใหญ่ เป็นขาใหญ่ ต้องนั่งหัวโต๊ะจะเอาอะไรสั่งได้ เคยชินกับการใช้อำนาจ คน เงิน ของ อำนาจ แต่ สปสช.เป็นหน่วยงานเกิดใหม่ เพิ่งก่อตั้งมา10ปีเศษ คนส่วนใหญ่ก็มาจากกระทรวงสาธารณสุขนี่แหละ แต่คนเหล่านี้หัวก้าวหน้า ถือหลักว่าต้องไม่ใช้อำนาจแต่เป็นการประสานความร่วมมือ เลขา สปสช.ถูกออกแบบมาเป็น เลขา เหมือนเลขานุการ ดีๆนี่เอง ทำงานธุรการ โดยมีบอร์ด คลุมอีกทีหนึ่ง มี รมต.สธ.ประธาน และมีตัวแทนจากหลายภาคส่วนที่ทำงานด้านสุขภาพ รวมถึงประชาชน เวลาประชุม เลขา สปสช.เขาไม่ได้นั่งหัวโต๊ะ เขามีหน้าที่รายงานให้ กรรมการทราบและตัดสินใจ เมื่อบอร์ดตัดสินใจอย่างไรก็ปฏิบัติไปตามนั้น แต่ปลัดกระทรวง ยังมองว่า ตนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ สัง่ นพ.สสจ. ผอ.รพ.ในกำกับ ซ้ายหันขวาหัน ได้ แต่ อำนาจยิ่งใช้มากยิ่งหมดไป การออกหนังสือห้าม ของ สธ.ไม่ให้ นพ.สสจ.และ ผอ.รพ.เข้าร่วมกับ สปสช.ถือเป็นการใช้อำนาจที่มิชอบ และไม่ก่อให้เกิดความร่วมมือในการทำงานเพื่อประชาชนแต่อย่างไร เรื่องนี้ยังคงต้องติดตามต่อไปครับพี่น้องทั้งหลาย แต่เรื่องยุ่งๆใน สธ.คงตามมาอีกมากครับ ถ้าปลัด สธ.นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ยังบริหารเชิงอำนาจนิยม
Credit:ชมรมแพทย์ชนบท