มาชวนสาวๆ แชร์เทคนิคปิดการขายของตามคลีนิคต่างๆกันค่ะ
วันนี้เราไปถามเรื่องดูดไขมัน เจอมาแต่ละมุก ได้แต่หัวเราะหึหึในใจ จากตอนแรกสนใจ เลยกลายเป็นว่าไม่ได้เงินชั้นแน่ๆ
พนักงาน : ไม่จองเลยเหรอคะ แล้วค่อยมาทำก็ได้ เดือนหน้าก็มีวันหยุด วันแม่ไงคะ มาทำเลย เป็นของขวัญวันแม่
(คิดในใจ ... หยุดสี่วันที่ผ่านมา เราก็ยังนั่งทำงานอยู่ ... แต่ ไอ้ของขวัญวันแม่นี่มันอะร้ายยยย)
พนักงาน : เดี๋ยวเดือนหน้าทางคลีนิคจะรีแบรนดิ้งนะคะ แล้วราคาจะปรับเพิ่มขึ้น
ลูกค้าหน้าตาย : แล้วรีแบรนดิ้งไปทำไมเหรอคะ (คิดตังค์เพิ่ม แล้ว value proposition คืออะไร จง defend ตัวเองมา)
พนักงาน : อ๋อ เพราะทางเราอยากจะทำคุณภาพให้เหมือนโรงพยาบาล แล้วตอนนี้ลูกค้าต่างชาติไม่ค่อยรู้จักเรา ไม่ต้องห่วงนะคะ ปรับราคาเพิ่มแล้วเราก็คิดคนไทย คนต่างชาติเรทเดียวกัน
ลูกค้าหน้าตาย (คิดในใจ) : ลอจิกอะไรวะเนี่ยยยยยยย
พนักงาน : เดือนหน้าเราจะปรับเพิ่มราคาจริงๆแล้วนะคะ ตอนนี้เหลือแค่การ
จดลิขสิทธิ์กับทางกรมสรรพากร
ลูกค้าหน้าตาย (คิดในใจ) : หือออออออ ที่ผ่านมาชั้นเสียภาษีผิดที่??? ชั้นต้องไปจ่ายที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาป่าววะ
ไม่มีอะไรค่ะ แค่อยากบอกว่า เวลาเราคุยกับหมอ หรือเซลส์ เราแค่อยากรู้ว่า 1) ถ้ามันเกิดปัญหา คุณจะรับผิดชอบยังไง ,, ถ้ามาแนวแถๆ ลอจิกเสียๆ เนี่ย คือนึกออกเลยว่าถ้าเกิดปัญหา ไม่มีการรับผิดชอบแน่นอน และ 2) ช่วยเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดเถอะ ว่าปัญหาที่อาจเจอมีอะไรบ้าง ทางแก้คืออะไร โดยเฉพาะคลีนิคที่มีเรื่องมีราวว่อนเน็ตเนี่ย ไม่ใช่บอกว่า "อ๋อออออ ไม่มีเลยนะคะ มีแต่อยากมาทำเพิ่ม" คือถ้าคุณบอกว่า เออ มันอาจจะเกิดแบบนี้ a b c d ทางแก้คือ x y z มันดู
จริงใจ และ
มีความรับผิดชอบ กว่าการมาขายของปากหวานก่อนได้ตังค์อ่ะค่ะ
ที่สำคัญ อย่าทำเหมือนลูกค้าโง่เลย คนจะกำเงินเป็นหมื่นเป็นแสนไปจ่ายเรื่องที่นอกเหนือจากปัจจัย 4 เค้าก็ทำการบ้านมาระดับนึง แค่อยากมาคอนเฟิร์มว่าเค้าทำการบ้านมาดีแล้ว เท่านั้นเอง เป็นการวัดความจริงใจ + ความถูกชะตาล้วนๆเลย การฮาร์ดเซลส์(แบบแถๆ) ทำเอาขีดทิ้งได้เลยนะ
แล้วมุกเปิดราคามาสูงเว่อร์ๆ พร้อมบอกว่า "มี budget ในใจเท่าไหร่คะ เผื่อจะไปขอคุณหมอ แต่อย่าขอแรงนะคะ เดี๋ยวคุณหมอไม่มีอารมณ์ทำ" คืออะไรอ่ะ ศัลยกรรมหรือว่าขายผักคะ ถ้าหมอไม่สบอารมณ์ชั้น หมอก็จะรับทำ แต่ทำห่วยๆเหรอ ... ฟังแล้วแบบ นี่ตั้งใจจะปิดการขายงี้จริงๆหราตัวววววววว ... ถ้ามั่นใจว่าราคานี้เหมาะแล้ว ก็ตั้งให้เป็นมาตรฐานเถอะ ลูกค้าตัดสินใจเองได้ว่าราคานี้มันโอเคกับเค้ารึเปล่า ตั้งเผื่อต่อนี่นึกถึงตลาดสดจริงๆ
เม้าท์มอยการ "ปิดการขาย" ตามคลีนิคความงามต่างๆ
วันนี้เราไปถามเรื่องดูดไขมัน เจอมาแต่ละมุก ได้แต่หัวเราะหึหึในใจ จากตอนแรกสนใจ เลยกลายเป็นว่าไม่ได้เงินชั้นแน่ๆ
พนักงาน : ไม่จองเลยเหรอคะ แล้วค่อยมาทำก็ได้ เดือนหน้าก็มีวันหยุด วันแม่ไงคะ มาทำเลย เป็นของขวัญวันแม่
(คิดในใจ ... หยุดสี่วันที่ผ่านมา เราก็ยังนั่งทำงานอยู่ ... แต่ ไอ้ของขวัญวันแม่นี่มันอะร้ายยยย)
พนักงาน : เดี๋ยวเดือนหน้าทางคลีนิคจะรีแบรนดิ้งนะคะ แล้วราคาจะปรับเพิ่มขึ้น
ลูกค้าหน้าตาย : แล้วรีแบรนดิ้งไปทำไมเหรอคะ (คิดตังค์เพิ่ม แล้ว value proposition คืออะไร จง defend ตัวเองมา)
พนักงาน : อ๋อ เพราะทางเราอยากจะทำคุณภาพให้เหมือนโรงพยาบาล แล้วตอนนี้ลูกค้าต่างชาติไม่ค่อยรู้จักเรา ไม่ต้องห่วงนะคะ ปรับราคาเพิ่มแล้วเราก็คิดคนไทย คนต่างชาติเรทเดียวกัน
ลูกค้าหน้าตาย (คิดในใจ) : ลอจิกอะไรวะเนี่ยยยยยยย
พนักงาน : เดือนหน้าเราจะปรับเพิ่มราคาจริงๆแล้วนะคะ ตอนนี้เหลือแค่การจดลิขสิทธิ์กับทางกรมสรรพากร
ลูกค้าหน้าตาย (คิดในใจ) : หือออออออ ที่ผ่านมาชั้นเสียภาษีผิดที่??? ชั้นต้องไปจ่ายที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาป่าววะ
ไม่มีอะไรค่ะ แค่อยากบอกว่า เวลาเราคุยกับหมอ หรือเซลส์ เราแค่อยากรู้ว่า 1) ถ้ามันเกิดปัญหา คุณจะรับผิดชอบยังไง ,, ถ้ามาแนวแถๆ ลอจิกเสียๆ เนี่ย คือนึกออกเลยว่าถ้าเกิดปัญหา ไม่มีการรับผิดชอบแน่นอน และ 2) ช่วยเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดเถอะ ว่าปัญหาที่อาจเจอมีอะไรบ้าง ทางแก้คืออะไร โดยเฉพาะคลีนิคที่มีเรื่องมีราวว่อนเน็ตเนี่ย ไม่ใช่บอกว่า "อ๋อออออ ไม่มีเลยนะคะ มีแต่อยากมาทำเพิ่ม" คือถ้าคุณบอกว่า เออ มันอาจจะเกิดแบบนี้ a b c d ทางแก้คือ x y z มันดู จริงใจ และ มีความรับผิดชอบ กว่าการมาขายของปากหวานก่อนได้ตังค์อ่ะค่ะ
ที่สำคัญ อย่าทำเหมือนลูกค้าโง่เลย คนจะกำเงินเป็นหมื่นเป็นแสนไปจ่ายเรื่องที่นอกเหนือจากปัจจัย 4 เค้าก็ทำการบ้านมาระดับนึง แค่อยากมาคอนเฟิร์มว่าเค้าทำการบ้านมาดีแล้ว เท่านั้นเอง เป็นการวัดความจริงใจ + ความถูกชะตาล้วนๆเลย การฮาร์ดเซลส์(แบบแถๆ) ทำเอาขีดทิ้งได้เลยนะ
แล้วมุกเปิดราคามาสูงเว่อร์ๆ พร้อมบอกว่า "มี budget ในใจเท่าไหร่คะ เผื่อจะไปขอคุณหมอ แต่อย่าขอแรงนะคะ เดี๋ยวคุณหมอไม่มีอารมณ์ทำ" คืออะไรอ่ะ ศัลยกรรมหรือว่าขายผักคะ ถ้าหมอไม่สบอารมณ์ชั้น หมอก็จะรับทำ แต่ทำห่วยๆเหรอ ... ฟังแล้วแบบ นี่ตั้งใจจะปิดการขายงี้จริงๆหราตัวววววววว ... ถ้ามั่นใจว่าราคานี้เหมาะแล้ว ก็ตั้งให้เป็นมาตรฐานเถอะ ลูกค้าตัดสินใจเองได้ว่าราคานี้มันโอเคกับเค้ารึเปล่า ตั้งเผื่อต่อนี่นึกถึงตลาดสดจริงๆ