บริษัทประกันภัยแบบนี้ใครอยากจะเจอบ้าง สงสัยตายตั้งแต่วันแรก?

ที่ต้องมาตั้งกระทู้นี้ ก็เพราะไม่รู้ว่าจะให้ไปเรียกร้องหรือขอความเห็นใจกับใครดีคับ คือเรื่องมันมีอยู่ว่า

วันที่ 26 กันยายน 2556 เวลา 15:57:09  มีรถยนต์เสียหลักพุ่งชนร้านชำ เจ็บ 2 ราย
รถยนต์ชนเกาะกลางถนนย่านราชพฤกษ์ ก่อนพุ่งเข้าชนร้านขายของชำ ทั้งผู้ขับขี่และเจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บเหตุ เกิดบนถนนราชพฤกษ์ขาเข้าเยื้องโฮมโปร หน้าร้านขายของชำ รถยนต์นิสสัน ทีด้า สีดำ สภาพพังยับทั้งคันนี้ เจ้าของรถคือนางสาวกันต์กนก สำเภาโภค ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลถลอกตามตัว เล่าให้ฟังว่าขับรถออกมาจากบ้านย่านบางแค จะไปถ่ายแบบเสื้อผ้าย่านพระราม 5 แต่ไม่ชินกับเส้นทาง จึงเกิดลังเลว่าจะไปเส้นทางไหน ก่อนตัดสินใจเบี่ยงซ้ายกระทันหัน ชนเกาะกลางถนนพลิกคว่ำ และไถลพุ่งชนร้านขายของชำ นายปรีชา ยูมีน เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ
นายปรีชา เล่าว่าขณะเกิดเหตุอยู่หน้าร้าน ได้ยินเสียงรถหันไปดู เห็นรถคันดังกล่าวลอยมา ชนเข้ากับรถกระบะวีโก้ของตน ก่อนชนป้ายร้าน และรถจักรยานยนต์ ก่อนพุ่งชนตน ซึ่งลดแรงปะทะไปแล้ว แต่ก็ทำให้หัวฟาดพื้นสลบไป ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ แขน และขา

เนื้อหาจาก ครอบครัวข่าว 3 » ข่าวอาชญากรรม » รถยนต์เสียหลักพุ่งชนร้านชำ เจ็บ 2 ราย

http://www.krobkruakao.com/ข่าวอาชญากรรม/80685/รถยนต์เสียหลักพุ่งชนร้านชำ-เจ็บ-2-ราย.html

http://morning-news.bectero.com/social-crime/13-Jul-2014/2398

เบื้องต้น หลังจากที่ผม (นายปรีชา ยูมีน) โดนชนจนสลบไป ได้ถูกนำส่ง โรงพยาบาลยันฮี โดยรถของมูลนิธิฯ  จากการตรวจของแพทย์พบว่า กระดูกต้นคอเคลื่อน และได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก ต้องได้รับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยภรรยาใช้ประกันอุบัติเหตุของของผมซึ่งมีวงเงินอยู่ 17,000 บาท เพื่อให้โรงพยาบาลรับรักษา เพราะทาง คู่กรณี และ บริษัทกรุงเทพประกันภัย ของคู่กรณีไม่ได้ออกใบเครมหรือติดต่อมาเลย

หลังจากนั้นผ่านไป 2 วัน ภรรยาก็ยังพยายามประสานติดต่อกับ บริษัทกรุงเทพประกันภัย เพราะกลัวว่าค่ารักษาจะเกินวงเงินประกัน แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อหรือให้ความร่วมมือใดๆ ผมพอจะมีกำลังอยู่บ้าง ทั้งที่ปีนี้อายุ 60 แล้ว จำต้องตัดสินใจออกจากโรงพยาบาลทั้งๆที่ยังมีอาการปวดหัว ปวดหลัง คอเคล็ดหันไม่ได้ ด้วยเกรงว่าจะไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา โดยทางโรงพยาบาลยินยอม พร้อมจ่ายยาและให้คำแนะนำอย่างดี

เมื่อกลับถึงบ้าน พบทรัพย์สินในร้านได้รับความเสียหายหลายรายการ ป้าย ประตูรั้ว รถมอเตอร์ไซค์ ตู้แช่ ตู้เย็น รถกะบะไฮลักวีโก้ ทุกรายการได้รับการชดเชยและซ่อมจาก บริษัทกรุงเทพประกันภัย ให้ทั้งหมด ยกเว้นรถกะบะที่โดนชนจนบิดเบี้ยว แม้ซ่อมเสร็จสภาพภายนอกเหมือนเดิมแต่การวิ่งก็ไม่เหมือนเดิม(รถเสียศูนย์สบัดไปมา) จึงร้องขอค่าเสื่อมสภาพกับบริษัทฯก็ไม่ได้รับการสนใจใยดี จนในที่สุดก็ต้องยอมขายทิ้งแบบขาดทุน ดีกว่าเอาชีวิตไปเสี่ยงอีก

ขณะที่ร่างกายก็ต้องได้รับการกายภาพอีกเป็นเดือนๆ ต้องจ่ายค่ารักษาไป 70,000.- ยังไม่ร่วมค่าเดินทาง ค่าเสียเวลา เสียโอกาสรายได้(เพราะจะต้องปิดร้าน)  และคุณหมอยังให้ไปรับการกายภาพอีก 60 ครั้ง ครั้งละ 3,370.- รวมเป็นเงิน 202,200.-  ยังไม่นับรวมค่าเดินทาง ค่าเสียเวลา เสียโอกาสรายได้อีกเช่นกัน  ดังนั้นในเบื้องต้น / ครั้งแรก... ผม จึงเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทประกันไป 1,000,000.- (เพราะรู้ว่ายังงัยก็ไม่ได้หรืออาจจะโดนต่อรอง)  และก็เป็นจริงดังคาด บริษัทประกันภัยกรุงเทพ ก็ต่อลองจริงๆ ตกลงจ่ายแค่ 10,000.- (ย้ำว่า หนึ่งหมื่นบาท)  และจะช่วยรักษาจนกว่าจะหาย (และจนถึงวันนี้ร่างกายก็ยังต้องได้รับการกายภาพบำบัดต่อเนื่อง หากต้องใช้เวลาเกินปีซึ่งหมดอายุความในเดือน กย.ศกนี้ จะทำอย่างไรต่อไป?)  

ดังนั้น..ในครั้งที่สอง....ผมจึงลดค่าเสียหายลงมาที่ 500,000.-(อย่างน้อยให้เกิดความเป็นไปได้บ้าง ไม่ได้หวังจะขูดรีดหรือเอาเปรียบใคร เพราะคำนวนจากค่ารักษา ค่าเสียประโยชน์ทั้งหมดก็น่าจะจบ)  แต่ทางกรุงเทพประกันภัยก็เปลี่ยนข้อเสนอใหม่ คือ ยินดีชดใช้ค่าเสียหายให้ด้วยเงิน 20,000.- ส่วนค่ารักษาพยาบาล ให้ทางผมสำรองค่ารักษาไปก่อนแล้วเอาบิลไปเบิกตามจริง(เฉพาะค่ารักษาพยาบาล)

มันก็เลยมีแค่คำถามว่า หากผม นายปรีชา ยูมิน เป็นแค่ตาสีตาสา ไม่มีเงิน ไม่มีประกันเป็นของตัวเอง ผมไม่ต้องตายไปตั้งแต่วันแรกแล้วหรือ?  เพราะโรงพยาบาลไม่รับรักษาแน่ๆ และจากวันนั้นถึงวันนี้ ถ้าผม ไม่มีเงิน ไปรักษาตัวเองเบื้องต้น และอีกครั้งละสามพันสี่พันต่อๆไปจะทำอย่างไร? ไหนจะ ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าเดินทาง กับสภาพร่างกายที่ไม่เหมือนเดิม ทุกอย่างมันพันกันไปหมด ทำให้ขาดโอกาสขาดรายได้ ซึ่งหากไม่มีสมบัติเก่าอยู่บ้าง หรือเปิดร้านขายของชำที่พอมีเงินหมุน ก็คงรับกรรมเจ็บหนัก หรือไม่ก็อดตายไปเลยใช่หรือไม่? นั่นยังไม่รวมรถกะบะที่ใช้สำหรับทำมาหากิน รับส่งลูกเล็กๆไปโรงเรียน (ผมมีลูกเล็ก2คน คนนึง4ขวบ คนนึงเพิ่งจะ 1 ขวบ) ต้องทำใจขายรถทิ้งอย่างขาดทุนเพื่อฟาดเคราะห์ให้กับดวงซวยของตัวเองกระนั้นหรือ?

ถึงตรงนี้...ก็เลยอยากจะถามดังๆ ให้ทุกคนในสังคมได้ยินชัดๆว่า “เนี่ยน่ะ!! กรุงเทพประกันภัย กับสโลแกน ที่บอกว่า  แคร์คุณทุกย่างก้าว!!!”
ป่านนี้แล้วเรื่องราวยังไม่ยอมจบ เพราะเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันยังคงยืนยันตามเดิม ประมาณว่า.. “นายปรีชา มีปัญญาก็ไปฟ้องร้องเอาเอง!”  แถมยังบอกว่า ต่อให้ไปฟ้องกับ สรยุทธ์ก็ไม่สน (เรื่องนี้เคยเป็นข่าวในครอบครัวข่าว3 กับเรื่องเล่าเช้านี้ ตามรายละเอียดด้านบน) เจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยกรุงเทพ ยังงัยก็ยืนยันที่จะจ่ายให้เท่านี้ และก็คงจะยื้อๆไปเรื่อยๆ สงสัยเพื่อให้พ้น กันยายน เมื่อคดีหมดอายุความ เรื่องจะได้จบๆอย่างนั้นสิน่ะคับ

ใครในห้องพันทิปพอจะมีข้อแนะนำดีๆให้ผมบ้างหรือเปล่าครับ? ผมในฐานะสมาชิกใหม่ ขอน้อมรับทุกความคิดเห็นครับ  ขอบคุณ

http://upload.sodazaa.com/share-AC28_53C500DE.html
http://upload.sodazaa.com/share-3C22_53C500DE.html
(ภาพตอนรักษาตัวครับ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่