มาต่อกันจากความเดิมเมื่อตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/32326381 กทม-โคลัมโบ-แคนดี้
ตอนนี้ ตอนที่ 2 แคนดี้-นูวาร่า
ตอนที่ 3
http://pantip.com/topic/32327438 จากนูวาร่า - เอลล่า - แทนกอลล์
ตอนที่ 4
http://pantip.com/topic/32330884 เอลล่า-แทนกอลล์-โคลัมโบ-เนกอมโบ
ตอนนี้เราจะพาไปเที่ยวไร่ชา อยากจะบอกว่า เมืองนี้เป็นเหตุผลแรกที่ดึงดูดเราไปศรีลังกา เราอยากไปนั่งจิบชา มองวิวพาโนราม่าไร่ชาสีเขียวๆ อากาศเย็นๆ มาถึงนี่แบบใช่จริงๆ และไม่คิดว่าความฝันจะเข้ามาใกล้กับเราขนาดนี้
ต่อนะคะ เช้าวันต่อมา เมื่อวานเราได้ไปจอง รถไฟจากแคนดี้ไปนูวาร่าราคา 1000 รูปี ชั้น1 (แอบกลัวว่าคราวนี้จะเป็นลม ขอชั้น1) สบายค่ะ มีแอร์ แต่จริงๆแล้วชั้น 2 ก็พอ 600 รูปี ต่างกันแค่ไม่มีแอร์ ไม่เป็นไรค่ะ เมืองอื่นเราซื้อแค่ชั้น 2 พอ
รถไฟรอบ 8.50 ตอนเช้านะคะ ที่สถานีจะมีป้ายบอกชัดเจนว่า ชั้น 1 ชั้น 2 และ ชั้น 3 ขึ้นทางไหน มีเครื่องหมาย wifi แอบดีใจว่ามีเนตเล่น ที่ไหนได้ ถึงเวลาจริงๆ หาสัญญาณไม่เจ้อเล้ยย ให้ตายซิ
บนรถไฟค่ะ แอบเหมือนเครื่องบินเนอะ เบาะสามารถหมุนได้นะคะ อยากจะนั่งหันทิศไหนตามสะดวก
มีคนมาขาย ขนม นมเนย เยอะ แต่อย่าได้สบตาเลยทีเดียว เดี๋ยวจะกลายเป็นเหยื่อ ระหว่างทาง เราก็เลยออกมานอกตู้เพื่อมารับลม แล้วถ่ายภาพไร่ชา วิว สวยๆ สวยจริงๆค่ะ
ผ่านน้ำตก
พอเราลงรถไฟมา ก็มีผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาทักบอกว่าเค้ามาส่งคนที่สถานีรถไฟ จะเข้าไปในเมือง จะไปด้วยกันไหม คิด 200 รูปี เราก็แบบก็ได้ แต่ความบังเอิญมาอยู่ตรงนี้แหละค่ะ เราแว่บไปเจอฝรั่งคนนึง ที่เจอกันที่แคนดี้ที่เล่าไปเมื่อตอนแรก ที่จริงเค้าจะไปอีกเมืองนึง แต่มารอต่อรถไฟที่นูวาร่า อีก3 ชม. เราเลย เดินไปหา say hi ต่างคนต่างตกใจมาก แบบว่าไม่คิดว่าจะมาเจอกันอีก เค้าเลยตัดสินใจ ยกเลิกเมืองนั้นไปพรุ่งนี้แทน แล้วก็เลยมาแชร์ค่าทัวร์+ที่พัก เราเบยประหยัดไปได้มากเลยทีเดียว
คนที่อาสาพาเข้าเมืองเค้าเป็นเจ้าของโฮมสเตย์ค่ะ แต่ของเค้าเต็มแล้ว เลยพาเรามาอีกที่นึง ห้องก็โอเคค่ะ มี 3 เตียง ราคา 2000 รูปี เราเลยแชร์กัน เค้าอาสาพาทัวร์ ในราคา 2500 รูปี (ถ้าเราคนเดียว ดูแพงนะคะ แต่พอดีมีคนหารด้วย เราเลยโอเคเพราะพอหารแล้วก็ถูกอยู่)
ในโฮมเตย์ค่ะ สะอาด วิวข้างนอกบ้านนี่แบบ little England น้อยๆ เลย (คิดในใจว่าฉันมาถูกทางแล้ว นี่แหละสิ่งที่ฉันต้องการ)
เค้าพาเราไปไร่ชาคะ ให้เราเดินขึ้นไปเอง ส่วนเค้ารออยู่ข้างล่าง เราแบบ "นี่มันสวรรค์ชัดๆ" มันคือที่ที่ฝันไว้ เราอยากมายืนอยู่ ณ จุดๆ นี้อยู่แล้ว มันใกล้มาก ใกล้มากจริงๆ
มันใช่อ่ะค่ะ ดูภาพเอาเอง จะเข้าใจความรู้สึกและบรรยากาศ ณ ตอนที่เราอยู่เลยค่ะ
มองจากไร่ชา สมแล้วที่เค้าขึ้นชื่อว่า Little England
เค้าแวะให้ถ่ายรูปคู่กะป้าย Macwoods ค่ะ ซึ่งมีอยู่เยอะมากที่นูวาร่า เป็นเหมือนการโฆษณาไปในตัว
เสร็จแล้วพามาชม โรงงานผลิตชาค่ะ ก็จะมีไกด์พาเดินเข้าชม และชากินฟรี เราก็ให้เงินเล็กๆน้อยๆ ค่าเสียเวลาเค้าไป
พาชมไร่ชาของเขา
และด้วยความที่อยากลองเก็บใบชาดู ว่าเค้าทำกันยังไง เลยขอลอง จะมีเชือกรัดหัวเอาๆไว้ค่ะ หนักมาก จะมีแต่ผู้หญิงที่เก็บใบชา ค่าจ้างก็ได้ตามน้ำหนักของใบชาที่เก็บกัน พอเห็นนักท่องเที่ยวก็จะขอปากกา แปลกมาก ที่อื่นจะขอเงิน ที่ศรีลังกาขอปากกา ตอนเราไปพม่าจะขอลิปสติก
ชาฟรีค่ะ
[CR] Part 2 รีวิวทริปแบคเป้ ศรีลังกา ผู้หญิงบินเดี่ยว 1 อาทิตย์เบาๆ 7 เมือง (คุ้มมากๆ) แคนดี้ - นูวาร่า
ตอนนี้ ตอนที่ 2 แคนดี้-นูวาร่า
ตอนที่ 3 http://pantip.com/topic/32327438 จากนูวาร่า - เอลล่า - แทนกอลล์
ตอนที่ 4 http://pantip.com/topic/32330884 เอลล่า-แทนกอลล์-โคลัมโบ-เนกอมโบ
ตอนนี้เราจะพาไปเที่ยวไร่ชา อยากจะบอกว่า เมืองนี้เป็นเหตุผลแรกที่ดึงดูดเราไปศรีลังกา เราอยากไปนั่งจิบชา มองวิวพาโนราม่าไร่ชาสีเขียวๆ อากาศเย็นๆ มาถึงนี่แบบใช่จริงๆ และไม่คิดว่าความฝันจะเข้ามาใกล้กับเราขนาดนี้
ต่อนะคะ เช้าวันต่อมา เมื่อวานเราได้ไปจอง รถไฟจากแคนดี้ไปนูวาร่าราคา 1000 รูปี ชั้น1 (แอบกลัวว่าคราวนี้จะเป็นลม ขอชั้น1) สบายค่ะ มีแอร์ แต่จริงๆแล้วชั้น 2 ก็พอ 600 รูปี ต่างกันแค่ไม่มีแอร์ ไม่เป็นไรค่ะ เมืองอื่นเราซื้อแค่ชั้น 2 พอ
รถไฟรอบ 8.50 ตอนเช้านะคะ ที่สถานีจะมีป้ายบอกชัดเจนว่า ชั้น 1 ชั้น 2 และ ชั้น 3 ขึ้นทางไหน มีเครื่องหมาย wifi แอบดีใจว่ามีเนตเล่น ที่ไหนได้ ถึงเวลาจริงๆ หาสัญญาณไม่เจ้อเล้ยย ให้ตายซิ
บนรถไฟค่ะ แอบเหมือนเครื่องบินเนอะ เบาะสามารถหมุนได้นะคะ อยากจะนั่งหันทิศไหนตามสะดวก
มีคนมาขาย ขนม นมเนย เยอะ แต่อย่าได้สบตาเลยทีเดียว เดี๋ยวจะกลายเป็นเหยื่อ ระหว่างทาง เราก็เลยออกมานอกตู้เพื่อมารับลม แล้วถ่ายภาพไร่ชา วิว สวยๆ สวยจริงๆค่ะ
ผ่านน้ำตก
พอเราลงรถไฟมา ก็มีผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาทักบอกว่าเค้ามาส่งคนที่สถานีรถไฟ จะเข้าไปในเมือง จะไปด้วยกันไหม คิด 200 รูปี เราก็แบบก็ได้ แต่ความบังเอิญมาอยู่ตรงนี้แหละค่ะ เราแว่บไปเจอฝรั่งคนนึง ที่เจอกันที่แคนดี้ที่เล่าไปเมื่อตอนแรก ที่จริงเค้าจะไปอีกเมืองนึง แต่มารอต่อรถไฟที่นูวาร่า อีก3 ชม. เราเลย เดินไปหา say hi ต่างคนต่างตกใจมาก แบบว่าไม่คิดว่าจะมาเจอกันอีก เค้าเลยตัดสินใจ ยกเลิกเมืองนั้นไปพรุ่งนี้แทน แล้วก็เลยมาแชร์ค่าทัวร์+ที่พัก เราเบยประหยัดไปได้มากเลยทีเดียว
คนที่อาสาพาเข้าเมืองเค้าเป็นเจ้าของโฮมสเตย์ค่ะ แต่ของเค้าเต็มแล้ว เลยพาเรามาอีกที่นึง ห้องก็โอเคค่ะ มี 3 เตียง ราคา 2000 รูปี เราเลยแชร์กัน เค้าอาสาพาทัวร์ ในราคา 2500 รูปี (ถ้าเราคนเดียว ดูแพงนะคะ แต่พอดีมีคนหารด้วย เราเลยโอเคเพราะพอหารแล้วก็ถูกอยู่)
ในโฮมเตย์ค่ะ สะอาด วิวข้างนอกบ้านนี่แบบ little England น้อยๆ เลย (คิดในใจว่าฉันมาถูกทางแล้ว นี่แหละสิ่งที่ฉันต้องการ)
เค้าพาเราไปไร่ชาคะ ให้เราเดินขึ้นไปเอง ส่วนเค้ารออยู่ข้างล่าง เราแบบ "นี่มันสวรรค์ชัดๆ" มันคือที่ที่ฝันไว้ เราอยากมายืนอยู่ ณ จุดๆ นี้อยู่แล้ว มันใกล้มาก ใกล้มากจริงๆ
มันใช่อ่ะค่ะ ดูภาพเอาเอง จะเข้าใจความรู้สึกและบรรยากาศ ณ ตอนที่เราอยู่เลยค่ะ
มองจากไร่ชา สมแล้วที่เค้าขึ้นชื่อว่า Little England
เค้าแวะให้ถ่ายรูปคู่กะป้าย Macwoods ค่ะ ซึ่งมีอยู่เยอะมากที่นูวาร่า เป็นเหมือนการโฆษณาไปในตัว
เสร็จแล้วพามาชม โรงงานผลิตชาค่ะ ก็จะมีไกด์พาเดินเข้าชม และชากินฟรี เราก็ให้เงินเล็กๆน้อยๆ ค่าเสียเวลาเค้าไป
พาชมไร่ชาของเขา
และด้วยความที่อยากลองเก็บใบชาดู ว่าเค้าทำกันยังไง เลยขอลอง จะมีเชือกรัดหัวเอาๆไว้ค่ะ หนักมาก จะมีแต่ผู้หญิงที่เก็บใบชา ค่าจ้างก็ได้ตามน้ำหนักของใบชาที่เก็บกัน พอเห็นนักท่องเที่ยวก็จะขอปากกา แปลกมาก ที่อื่นจะขอเงิน ที่ศรีลังกาขอปากกา ตอนเราไปพม่าจะขอลิปสติก
ชาฟรีค่ะ