เรื่องนี้เล่นผมนอนไม่หลับ จริงๆมันก็แค่เรื่อง ของคน คนหนึ่งที่ไม่พอใจกับสิ่งสิ่งหนึ่ง เริ่มเลยนะครับ
ขอเล่าย้อนไป สมัยที่เรียนมหาวิทยาลัย ผมเคยเอาโทรศัพย์มือถือไปขายฝากกับร้านโทรศัพย์ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง หรือเอาไปจำนำนั้นแหละ ดอกเบี้ยตอนนั้นรู้สึกว่าโหดมาก คือ จำนำไว้ 4000 บาท และต้องเอาเงินมาตัดดอกทุกเดือน เดือนละ 650 บาท แต่นี้ไม่เท่าไร คือที่จำไม่ลืมเลยก็คือ เพิ่งเจะอาโทรศัพย์ไปฝากขายไว้ที่ร้านเดือนแรก วันครบกำหนดมาไม่ทันร้านปิดไปก่อน วันรุ่งขึ้นมาแต่เช้าร้านบอกของหลุดไปแล้ว ตอนนั้นโทรศัพย์เพิ่งซื้อมา หมื่นกว่า ขอร้องก็บอกเครื่องไม่อยู่แล้ว ซื้อมาใช้ได้ไม่ถึง 3 เดือน ตอนนั้นอยากเอาระเบิดไปขว้าง ที่เอาไปขายฝากเพราะความจำเป็นใช้เงินจริงๆ และจากนั้นมาก็ไม่รู้สึกดีกับร้านขายมือถือเลย เพราะเจอเอาเปรียบมาอีก เช่น น้องชายเอาโทรศัพย์ไปซ่อมแค่ลำโพงไม่ดังโดนไป 800 และไปซื้อยี้ห้อหนึ่งเชียร์ให้เอาอีกยี่ห้อ แล้วยัดของแถมมาให้เพียบแต่คิดราคาเพิ่ม และล่าสุดโดยมาเอง เรื่องนี้ทำเอาผมต้องออกมาเล่าถึงพฤติกรรมของพวกร้านขายมือถือ และอุปกรณ์ที่มักจะมีทั้ง บริการซื้อขายแลกเปลี่ยน ซ่อม ฝากขาย เรียกว่าครบวงจร แต่เอาเปรียบลูกค้าสุดๆ
เรื่องคือ เมื่อเดือนที่แล้ว โทรศัพย์มือถือที่ใช้อยู่เป็น ซัมซุง รุ่นคูเปอร์ ซึ่งใช้มาเกือบจะ 3 ปี แล้วเกิดปัญญาหน้าจอติดๆดับๆ เลยคิดว่าคงถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยนโทรศัพย์ใหม่ แต่ก็มีภาระรายจ่ายอยู่หลายด้าน เลยตั้งงบในการซื้อมือถือไว้ที่ 9000 บาท และในใจอยากใช้ไอโฟนขึ้นมาเพราะเห็นเพื่อนในที่ทำงานใช้กันเยอะ ไปดูราคาในเว็บ ไอโฟน 4s มือสองราคากลาง อยู่ที่ ประมาณ 7500-8500 บาท สุดท้ายวันหยุดก็เลยดูตามร้านขายมือถือมือสอง ไปดู และต่อรองราคาจากหลายร้านมาก และหลายแหล่งด้วย ราคาที่ต่อรองได้จริง ต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 10500 บาท (และในจำนวนร้านที่ไปถามมีอยู่ร้านหนึ่งต่อรองได้ราคาอยู่ที่ 9500 ถ้วน แต่สภาพเครื่องมีตำหนิเยอะมาก เลยไม่เอา สุดท้ายกลับมาถามอีกทีบอก ลดได้ที่ 11000 ผมถามว่าไม่ให้ 9500 แล้วเหรอ บอก "ก็ไม่เอาตั้งแต่แรกนี่น่า" สรุปสุดท้ายวิ่งหาต่อรองอยู่หลายร้านหลายแหล่ง ได้ไอโฟน 4s 16G มือสอง อยู่ที่ 10500 สภาพเครื่องดี แต่ไม่แถมอะไรเลยนอกจากที่ชาร์ต ฟิล์มก็ของเก่าติดเครื่อง วันนั้นเสียความรู้สึกมาก หานานมาก หลายร้าน และรู้สึกว่าร้านพวกนี้เค้าถึงกัน
สุดท้ายเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว พอดีพี่สาวซื้อโทรศัพย์ใหม่ เลยเอยปากขอเครื่องเก่าพี่เล่นๆ เป็นซัมซุง โน้ต 3 พี่ก็ให้มา แต่มีตำหนิคือหน้าจอริมๆแตกนิดหน่อยแต่ก็ยังใช้ได้ดี สรุปพอมาใช้โน้ต 3 รู้สึกว่าคล่องกว่า เลยให้มาตลอด
เมื่อวานนี้ ด้วยคิดว่าโทรศัพย์ไอโฟน 4s ที่ซื้อมาไม่ได้ใช้เลยคิดจะเอาไปขาย เลยเอาไปถามที่ร้านมือถือและอุปกรณ์ คิดในใจคงได้สัก 6-7 พัน
ร้านแรก : (ร้านใกล้ที่พัก) "น้องครับรับซื้อมือถือมืองสองเปล่า" ร้านเอาเครื่องไปดูแล้วถาม "ทำไมถึงขาย" ก็ตอบว่า พอดีมี 2 เครื่อง ร้านขอดูสักพัก แล้วบอกว่า "พี่ครับ เครื่องนอก ราคาขายต่อไม่ดีนะ พี่จะเอาสักเท่าไหร่" "น้องให้ได้สักเท่าไร" ผมถาม สุดท้ายให้ได้ แค่ 4500 บาท เต็มที่ แต่ผมไม่ได้ตกลงขายครับ
(แต่ร้านนี้ก็แนะวิธีดูเครื่องนอก และเครื่องศูนย์ว่าดูยังไง ได้ความรู้)
ร้านที่ 2 : (ร้านในห้างสรรพสินค้าโซนมือถือ) ร้านนี้ถามหาอุปกรณ์ว่าได้เอาอะไรมาบ้าง แล้วดูเครื่อง บอกว่าให้ได้เต็มที่ 4500 ต่อรองขอเพิ่มให้ได้ 5000 บาท
ร้านที่ 3 : (อยู๋คนละฝั่งกับร้านที่ 2) บอก "เครื่องศูนย์ตอนนี้ซื้อเขาไม่เกิน 5000 บาท ของพี่เครื่องนอกพี่จะเอาสักเท่าไรให้ได้ก็จะให้" ผมไม่พูดอะไรมากก็ขอบคุณ แล้วก็คิดว่าคงไม่ขายแล้ว (จะเก็บเอาไว้เผ่ากระดูกกรู) และเสียความรู้สีกมากๆ
สุดท้ายแล้วไม่รู้นึกยังไง ถ้าเอาไปขายคือร้านที่ซื้อมา น่าจะได้ราคาเพราะเพิ่งซื้อมาได้ไม่ถึง สองเดือน
ร้านที่ซื้อเครื่องมา: ถามหลายอย่าง สุดท้ายเลยบอกว่า ผมซื้อมาจากร้านนี้แหละเมื่อต้นเดือนที่แล้วที่ราคา 10500 บาท เขาดูแล้วถามว่าทำไมถึงขาย(อีกล่ะ) สุดท้ายให้ราคา 4500 บาท ผมก็ถามว่าทำไมราคาตกเยอะจัง คุยกันเขาก็บ่ายเบี่ยง และพอดีมีสายเข้าเจ้าของก็คุยยาว บลาๆๆๆ ไม่สนใจลูกหน้าสองนิ้วอย่างเราเลย เหมือนไม่มีตัวตนในทันที แต่ลูกน้องในร้านว่างอยู่เลยถามว่าโทรศัพย์ที่ว่างขายรุ่นเดี่ยวกัน ขายเท่าไร บอกต่ำสุด 11000 ย้อนถามว่าทำไมขายแพงได้ละ ซื้อถูก ลูกน้องบอก เครื่องที่ว่างขายอยู่เป็นเครื่องศูนย์ ของพี่เป็นเครื่องนอก ราคาไม่ดี (แล้วตอนซื้อไม่เป็นมิ่งบอกว่าที่ขายให้กรูเป็นเครื่องนอก และไม่ยอมลดเลย แสดงว่ากรูโดนหลอกตั้งแต่แรกแล้ว คิดในใจ)
สรุปแล้วก็ยังไม่ได้ขาย เสียดายของ เสียความรู้สึก เสียหน้า สารพัด ....กลับมานั่งคุยกับเพื่อนและญาติเกี่ยวกับเรื่องนี้ ญาติแนะนำให้ทำใจ เป็นเรื่องธรรมดา และแนะนำถ้าจะขายให้ไปถามขายให้คนรู้จักจะได้ราคาดีกว่า และยังบอกอีกว่า รู้จักคนหนึ่ง ที่ขายมือถือและอุปกรณ์เหมือนกัน และบอกว่า น่าจะกำไลดีมาก เห็นเปิดร้านกับญาติๆ มาได้แค่ 5-6 ปี มีเงินผ่อนบ้าน 2 หลัง ซื้อสดรถกระบะ 4 ประตูมือสอง คือมีเงินอ่ะครับ จริงๆไม่ได้อิจฉาเขา และเข้าใจว่ามันเป็นอาชีพหาเลี้ยงครอบครับ มันเป็นธุรกิจ แต่ผมว่ามันจะเอาเปรียบกันเกินไปมั้ย เข้าข่ายหลอกลวงกันหรือเปล่า แล้วการทำธุรกิจแบบนี้แล้วมีกินมีใช้สบายๆ ภูมิใจนักเหรอ เงินแต่ละบาทผมก็หามาด้วยความยากลำบาก ไม่เคยเอาเปรียบใคร ไม่โกงใคร ไม่ทุจริตต่อหน้าที่ และคิดว่าไม่ใช่แต่ผมที่ต้องประสบกับเรื่องนี้ คิดเล่นๆกำไล เน่อะๆ แบบไม่ได้ลำบากลงแรง 4000 กว่า บาทต่อเครื่อง ถ้าผมขายให้มันไป แล้วจะมีวิธีไหนแก้ไขไม่ให้ใครต้องมาเสียรู้ พวกร้านโทรศัพย์มือถือและอุปกรณ์พวกนี้บ้าง ท่านที่ไม่เคยมีประสบการณ์เอาเครื่องไปขายไปเทินก็แล้วไป แต่ถ้าท่านต้องไปซื้อเครื่องมือสอง หรือไปขายก็คงจะเจอเหมือนกับผมนี้แหละ แชร์ๆกันไปครับ
ร้านโทรศัพย์มือถือ คุณเอาเปรียบลูกค้าเกินไปมั้ย
ขอเล่าย้อนไป สมัยที่เรียนมหาวิทยาลัย ผมเคยเอาโทรศัพย์มือถือไปขายฝากกับร้านโทรศัพย์ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง หรือเอาไปจำนำนั้นแหละ ดอกเบี้ยตอนนั้นรู้สึกว่าโหดมาก คือ จำนำไว้ 4000 บาท และต้องเอาเงินมาตัดดอกทุกเดือน เดือนละ 650 บาท แต่นี้ไม่เท่าไร คือที่จำไม่ลืมเลยก็คือ เพิ่งเจะอาโทรศัพย์ไปฝากขายไว้ที่ร้านเดือนแรก วันครบกำหนดมาไม่ทันร้านปิดไปก่อน วันรุ่งขึ้นมาแต่เช้าร้านบอกของหลุดไปแล้ว ตอนนั้นโทรศัพย์เพิ่งซื้อมา หมื่นกว่า ขอร้องก็บอกเครื่องไม่อยู่แล้ว ซื้อมาใช้ได้ไม่ถึง 3 เดือน ตอนนั้นอยากเอาระเบิดไปขว้าง ที่เอาไปขายฝากเพราะความจำเป็นใช้เงินจริงๆ และจากนั้นมาก็ไม่รู้สึกดีกับร้านขายมือถือเลย เพราะเจอเอาเปรียบมาอีก เช่น น้องชายเอาโทรศัพย์ไปซ่อมแค่ลำโพงไม่ดังโดนไป 800 และไปซื้อยี้ห้อหนึ่งเชียร์ให้เอาอีกยี่ห้อ แล้วยัดของแถมมาให้เพียบแต่คิดราคาเพิ่ม และล่าสุดโดยมาเอง เรื่องนี้ทำเอาผมต้องออกมาเล่าถึงพฤติกรรมของพวกร้านขายมือถือ และอุปกรณ์ที่มักจะมีทั้ง บริการซื้อขายแลกเปลี่ยน ซ่อม ฝากขาย เรียกว่าครบวงจร แต่เอาเปรียบลูกค้าสุดๆ
เรื่องคือ เมื่อเดือนที่แล้ว โทรศัพย์มือถือที่ใช้อยู่เป็น ซัมซุง รุ่นคูเปอร์ ซึ่งใช้มาเกือบจะ 3 ปี แล้วเกิดปัญญาหน้าจอติดๆดับๆ เลยคิดว่าคงถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยนโทรศัพย์ใหม่ แต่ก็มีภาระรายจ่ายอยู่หลายด้าน เลยตั้งงบในการซื้อมือถือไว้ที่ 9000 บาท และในใจอยากใช้ไอโฟนขึ้นมาเพราะเห็นเพื่อนในที่ทำงานใช้กันเยอะ ไปดูราคาในเว็บ ไอโฟน 4s มือสองราคากลาง อยู่ที่ ประมาณ 7500-8500 บาท สุดท้ายวันหยุดก็เลยดูตามร้านขายมือถือมือสอง ไปดู และต่อรองราคาจากหลายร้านมาก และหลายแหล่งด้วย ราคาที่ต่อรองได้จริง ต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 10500 บาท (และในจำนวนร้านที่ไปถามมีอยู่ร้านหนึ่งต่อรองได้ราคาอยู่ที่ 9500 ถ้วน แต่สภาพเครื่องมีตำหนิเยอะมาก เลยไม่เอา สุดท้ายกลับมาถามอีกทีบอก ลดได้ที่ 11000 ผมถามว่าไม่ให้ 9500 แล้วเหรอ บอก "ก็ไม่เอาตั้งแต่แรกนี่น่า" สรุปสุดท้ายวิ่งหาต่อรองอยู่หลายร้านหลายแหล่ง ได้ไอโฟน 4s 16G มือสอง อยู่ที่ 10500 สภาพเครื่องดี แต่ไม่แถมอะไรเลยนอกจากที่ชาร์ต ฟิล์มก็ของเก่าติดเครื่อง วันนั้นเสียความรู้สึกมาก หานานมาก หลายร้าน และรู้สึกว่าร้านพวกนี้เค้าถึงกัน
สุดท้ายเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว พอดีพี่สาวซื้อโทรศัพย์ใหม่ เลยเอยปากขอเครื่องเก่าพี่เล่นๆ เป็นซัมซุง โน้ต 3 พี่ก็ให้มา แต่มีตำหนิคือหน้าจอริมๆแตกนิดหน่อยแต่ก็ยังใช้ได้ดี สรุปพอมาใช้โน้ต 3 รู้สึกว่าคล่องกว่า เลยให้มาตลอด
เมื่อวานนี้ ด้วยคิดว่าโทรศัพย์ไอโฟน 4s ที่ซื้อมาไม่ได้ใช้เลยคิดจะเอาไปขาย เลยเอาไปถามที่ร้านมือถือและอุปกรณ์ คิดในใจคงได้สัก 6-7 พัน
ร้านแรก : (ร้านใกล้ที่พัก) "น้องครับรับซื้อมือถือมืองสองเปล่า" ร้านเอาเครื่องไปดูแล้วถาม "ทำไมถึงขาย" ก็ตอบว่า พอดีมี 2 เครื่อง ร้านขอดูสักพัก แล้วบอกว่า "พี่ครับ เครื่องนอก ราคาขายต่อไม่ดีนะ พี่จะเอาสักเท่าไหร่" "น้องให้ได้สักเท่าไร" ผมถาม สุดท้ายให้ได้ แค่ 4500 บาท เต็มที่ แต่ผมไม่ได้ตกลงขายครับ
(แต่ร้านนี้ก็แนะวิธีดูเครื่องนอก และเครื่องศูนย์ว่าดูยังไง ได้ความรู้)
ร้านที่ 2 : (ร้านในห้างสรรพสินค้าโซนมือถือ) ร้านนี้ถามหาอุปกรณ์ว่าได้เอาอะไรมาบ้าง แล้วดูเครื่อง บอกว่าให้ได้เต็มที่ 4500 ต่อรองขอเพิ่มให้ได้ 5000 บาท
ร้านที่ 3 : (อยู๋คนละฝั่งกับร้านที่ 2) บอก "เครื่องศูนย์ตอนนี้ซื้อเขาไม่เกิน 5000 บาท ของพี่เครื่องนอกพี่จะเอาสักเท่าไรให้ได้ก็จะให้" ผมไม่พูดอะไรมากก็ขอบคุณ แล้วก็คิดว่าคงไม่ขายแล้ว (จะเก็บเอาไว้เผ่ากระดูกกรู) และเสียความรู้สีกมากๆ
สุดท้ายแล้วไม่รู้นึกยังไง ถ้าเอาไปขายคือร้านที่ซื้อมา น่าจะได้ราคาเพราะเพิ่งซื้อมาได้ไม่ถึง สองเดือน
ร้านที่ซื้อเครื่องมา: ถามหลายอย่าง สุดท้ายเลยบอกว่า ผมซื้อมาจากร้านนี้แหละเมื่อต้นเดือนที่แล้วที่ราคา 10500 บาท เขาดูแล้วถามว่าทำไมถึงขาย(อีกล่ะ) สุดท้ายให้ราคา 4500 บาท ผมก็ถามว่าทำไมราคาตกเยอะจัง คุยกันเขาก็บ่ายเบี่ยง และพอดีมีสายเข้าเจ้าของก็คุยยาว บลาๆๆๆ ไม่สนใจลูกหน้าสองนิ้วอย่างเราเลย เหมือนไม่มีตัวตนในทันที แต่ลูกน้องในร้านว่างอยู่เลยถามว่าโทรศัพย์ที่ว่างขายรุ่นเดี่ยวกัน ขายเท่าไร บอกต่ำสุด 11000 ย้อนถามว่าทำไมขายแพงได้ละ ซื้อถูก ลูกน้องบอก เครื่องที่ว่างขายอยู่เป็นเครื่องศูนย์ ของพี่เป็นเครื่องนอก ราคาไม่ดี (แล้วตอนซื้อไม่เป็นมิ่งบอกว่าที่ขายให้กรูเป็นเครื่องนอก และไม่ยอมลดเลย แสดงว่ากรูโดนหลอกตั้งแต่แรกแล้ว คิดในใจ)
สรุปแล้วก็ยังไม่ได้ขาย เสียดายของ เสียความรู้สึก เสียหน้า สารพัด ....กลับมานั่งคุยกับเพื่อนและญาติเกี่ยวกับเรื่องนี้ ญาติแนะนำให้ทำใจ เป็นเรื่องธรรมดา และแนะนำถ้าจะขายให้ไปถามขายให้คนรู้จักจะได้ราคาดีกว่า และยังบอกอีกว่า รู้จักคนหนึ่ง ที่ขายมือถือและอุปกรณ์เหมือนกัน และบอกว่า น่าจะกำไลดีมาก เห็นเปิดร้านกับญาติๆ มาได้แค่ 5-6 ปี มีเงินผ่อนบ้าน 2 หลัง ซื้อสดรถกระบะ 4 ประตูมือสอง คือมีเงินอ่ะครับ จริงๆไม่ได้อิจฉาเขา และเข้าใจว่ามันเป็นอาชีพหาเลี้ยงครอบครับ มันเป็นธุรกิจ แต่ผมว่ามันจะเอาเปรียบกันเกินไปมั้ย เข้าข่ายหลอกลวงกันหรือเปล่า แล้วการทำธุรกิจแบบนี้แล้วมีกินมีใช้สบายๆ ภูมิใจนักเหรอ เงินแต่ละบาทผมก็หามาด้วยความยากลำบาก ไม่เคยเอาเปรียบใคร ไม่โกงใคร ไม่ทุจริตต่อหน้าที่ และคิดว่าไม่ใช่แต่ผมที่ต้องประสบกับเรื่องนี้ คิดเล่นๆกำไล เน่อะๆ แบบไม่ได้ลำบากลงแรง 4000 กว่า บาทต่อเครื่อง ถ้าผมขายให้มันไป แล้วจะมีวิธีไหนแก้ไขไม่ให้ใครต้องมาเสียรู้ พวกร้านโทรศัพย์มือถือและอุปกรณ์พวกนี้บ้าง ท่านที่ไม่เคยมีประสบการณ์เอาเครื่องไปขายไปเทินก็แล้วไป แต่ถ้าท่านต้องไปซื้อเครื่องมือสอง หรือไปขายก็คงจะเจอเหมือนกับผมนี้แหละ แชร์ๆกันไปครับ