เยอรมัน-อาร์เจนตินา..สู่ดาวดวงที่ 4 ด้วยหยาดเหงื่อ น้ำตา หัวใจนักสู้และสปิริตทีม

ก่อนแข่งกลัวมาก กลัวทีมรักของเราต้องเสียน้ำตาอีก เพราะนี่คือโอกาสสุดท้ายในบอลโลกของนักเตะยุคทองอย่างน้ามิโร ลาห์ม ไชวนี่ แพร์และโพลดี้ และคือโอกาศสุดท้ายของเลิฟด้วยเช่นกัน เมื่อครั้งที่เราแพ้อิตาลีในรอบรองบอลยูโรก็มีหลายคนปรามาสเลิฟว่า น้ำหน้าอย่างเลิฟเก่งแค่สร้างบอลสวยงามแต่ไม่มีวันได้ตำแหน่ง ลาออกไปถ่ายโฆษณานีเวียจะดีกว่า อย่ามาทำร้ายวงการบอลให้มากกว่านี้เลย ความเจ็บช้ำจากการวางแผนผิดและการถูกกระทืบแทบจมดินทำให้เลิฟเก็บตัวหนักขึ้นและมุ่งมั่นที่จะลบล้างคำปรามาสให้ได้

น้ามิโร ลาห์ม ไชวนี่ แพร์และโพลดี้ กล้ำกลืนน้ำตาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง นี่จะไม่มีวันของเรามั่งเลยหรือ บอลโลกปีนี้จะต้องลาจากอย่างราชาไร้บรรลังก์จริงน่ะ ก่อนแข่งทั้งน้ามิโร ไชวนี่ และเคดีร่าก็ไม่ฟิตเต็มร้อย แต่เลิฟคิดว่าทั้ง 3 คนนี่คือนักเตะที่จะประคองทีมเราให้ตลอดรอดฝั่งได้ จึงตัดสินใจให้ร่วมทีมไปด้วยและแบ่งงานให้ทำตามความสามารถและสังขาร ทั้ง 3 คนผลัดกันเล่นเป็นตัวสำรองมั่งตัวจริงมั่ง แม้แต่แพร์ที่เล่นรอบแบ่งกลุ่มได้ดีก็ยังถูกลดฐานะเป็นตัวสำรองในรอบรอง โพลดี้เองก็ได้ลงรวมแล้วแค่ 53 นาที แต่ไม่มีนักเตะคนไหนอารมณ์เสีย มีแต่จะยอมรับด้วยน้ำใจนักกีฬาและด้วยสปิริตทีมที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อความสำเร็จของทีม

ตอนวอร์มอัพก่อนแข่ง เคดีร่าเกิดบาดเจ็บ คราเมอร์มีเวลาเตรียมตัวลงแทนแค่ 10 นาที แฟนๆเริ่มกังวล มาเจ็บอะไรกันนาทีสุดท้ายยังงี้ล่ะ แต่โชคดีที่คราเมอร์สู้สุดความสามารถ แต่ก็โดนฤทธิ์คู่ต่อสู้จนน่วม โดนเอาหัวโขกขมับแทบหมดสติ ท้ายสุดต้องเปลี่ยนตัวออกภายในเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเศษ คาดเบื้องต้นว่าสมองกระทบกระเทือนจนเล่นต่อไม่ไหว เชือร์เล่ได้ลงแทนเพราะเลิฟกะให้เราบุกเต็มที่

ครึ่งแรกอาเจนบุกหนักแต่ตั้งรับอย่างมั่นคงจนเราหาทางเข้ากรอบประตูแทบไม่ได้ แถมยังทำให้แฟนๆเยอรมันหัวใจแทบวายเมื่อมีโอกาสทำประตูจะๆตั้งแต่เริ่มเกม จ่อมาเดี่ยวๆหน้าประตูมั่ง ยิงเฉียดประตูไปคืบเดียวมั่ง แถมยิงประตูเราได้ในนาทีที่ 30 กว่าๆ หัวใจแฟนๆเกือบหยุดเต้น ลางหายนะเริ่มมา แต่สาธุ มันเป็นลูกล้ำหน้า บรรดากองเชียร์ถอนใจเฮือก เกือบไปแล้วมั๊ยล่ะ แต่อาเจนไม่เคยทำให้เราหายใจคล่อง เมสซี่ได้บอลทีไรหัวใจแฟนๆก็ตกไปอยู่ตาตุ่มทุกที อาเจนได้ลูกตั้งเตะ ลูกเตะมุมแต่ละครั้งแทบไม่กล้ามอง ทีมเราเองก็ส่งบอลผิดๆพลาดๆบ่อยจนเกือบเสียประตู กว่าจะตั้งสติควบคุมเกมได้ก็เกือบจะหมดเวลาครึ่งแรก โชคไม่ดีที่เฮอเวเดสโหม่งไปโดนเสาในนาทีสุดท้าย แต่เอาน่ะ 0-0 ก็ยังดีกว่าถูกนำ

ครึ่งหลังเราเริ่มเล่นเป็นระบบขึ้น ทุกคนเล่นเพื่อกันและกันอย่างแท้จริง เมสซี่หลุดมาทีไรใครที่อยู่ใกล้ก็ช่วยกันประกบ ใครทำพลาดอีกคนจะเข้าช่วยทันที เรามีโอกาสทำประตูบ้างแต่ไม่คมพอ อาเจนเองก็หลุดเดี่ยวไปหน้าประตูเราอีก บุญเหลือเกินที่นักเตะของเขาคงประหม่านอยเออร์ที่ยืนเป็นยักษ์ปักหลั่นขวางประตูอยู่จนทำประตูไม่ได้ ฝ่ายเรามัทส์เริ่มอ่อนแรง เริ่มเจ็บน่องแต่กัดฟันสู้สุดๆ บัวเต็งมองอาการก็รู้จึงเข้าสู้แทนไม่ลดละ ทั้งวิ่งช่วยกองหน้า ทั้งป้องกันประตูในหน้าที่ของตัวเองและช่วยป้องกันแทนมัทส์ ทุกคนสู้กันด้วยหัวใจนักสู้อย่างแท้จริง ในนาที่ 88 น้ามิโรลมแทบใส่ เลิฟเปลี่ยนเอาเกิตเซ่ลง แฟนๆเริ่มกังวล ตาอวบนี่เล่นไม่ค่อยจะได้เรื่องมาทั้งทัวร์นาเมนต์ แล้วนี่จะไหวเรอะนี่ แต่เลิฟบีบคางอวบและบอกว่า “ แสดงให้ทั้งโลกรู้ว่าคุณเก่งกว่าเมสซี่ แสดงให้ทุกคนเห็นว่าคุณสามารถเป็นคนตัดสินเกมได้” หมดเวลาแบบสุดหวาดเสียวด้วยสกอร์ 0-0 สาธุ

ต่อเวลาครึ่งแรก เชือร์เล่เกือบได้ประตู แฟนๆร้องเฮ้อฮ้า เมื่อไรเราจะยิงได้ซักที หัวใจเต้นโครมครามแทบออกนอกอกอยู่แล้ว ต่างฝ่ายต่างผลัดกันรุกผลัดกันรับ ต่างฝ่ายต่างเริ่มหมดแรง แต่เราฟิตกว่าหน่อย เหลือเชื่อที่นักเตะของเราทนกับสภาพอากาศแบบนี้ได้ คงเป็นเพราะเรามาฝึกซ้อมก่อนแข่งนานพอสมควรเพื่อปรับร่างกาย อีกอย่างเราก็ลงแข่งช่วงบ่ายโมงตรงถึง 3 ครั้ง มาวันนี้เราจึงอึดและทนกว่า หมดเวลาครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0 หัวใจยิ่งบีบหนักขึ้น เราจะแพ้หรือชนะนี่ ได้แต่พยายามปลอบใจตัวเองว่ากีฬามีแพ้มีชนะ ถ้าแพ้เราก็สู้เต็มที่แล้ว แต่ถ้าชนะก็คงจะดี

ต่อเวลาครึ่งหลังยังมองไม่ออกว่าใครจะชนะ สูสีและสู้กันเต็มที่ทั้ง 2 ทีม ยิ่งใกล้หมดเวลาใครต่อใครก็นึกว่าคงต้องยิงจุดโทษ เริ่มคิดไปไกลว่าใครจะดวงดีดวงแตก แต่แล้วในนาทีที่ 113 เชือร์เล่สวมหัวใจสิงห์ ด้วยแรงเฮือกสุดท้ายพาบอลหนีเข้าไปใกล้ประตูอาเจนพร้อมสอดสายตาหาคนที่วิ่งตาม คราวนี้เทพีแห่งโชคอยู่ข้างเราที่ให้กองหลังอาเจนที่ตั้งรับสุดจะเหนียวแน่นเริ่มหมดแรงวิ่งตามกันแทบไม่ทัน เชือร์เล่เห็นอวบอยู่ในกรอบโทษจึงส่งลูกสุดสวยไปให้ อวบพักลูกด้วยอกแล้วยิงเลียดประตูขวาเข้าไปอย่างสุดยอดเทคนิค เยอรมันเฮกันทั้งประเทศ อวบทำได้ อวบสามารถเป็นคนตัดสินเกมได้จริงๆอย่างที่เลิฟกระตุ้น แต่ยัง ยังเหลือเวลาอีก 7 นาทีไม่นับเวลาทดเจ็บ เราเริ่มกระสับกระส่ายนับเวลาถอยหลัง เจ้าประคุณ เทพีแห่งโชค ขอจงยืนอยู่กับเราอีกซัก 10 นาทีเถอะ ไชวนี่ถูกหมัดเข้าใต้ตาจนเลือดไหลย้อย หมอเทวดาเยอรมันรีบแป๊กแผลให้ ไชวนี่ลุกขึ้นมาสู้ สู้เหมือนที่สู้มาตลอดเกม สู้ทั้งที่ขาแทบจะรับน้ำหนักตัวอีกต่อไปไม่ไหว ท้ายเกมเลิฟให้แพร์ลงเพื่อป้องกันประตู ต่อเวลาทดเจ็บ 2 นาที โอย เวลาเดินช้าจัง นักเตะทำท่าจะดีใจก็ดีใจไม่สุดซักที กรรมการเป่านั่นเป่านี่อยู่นั่นแหละ แต่ท้ายสุดก็เป่าหมดเวลา เราชนะแล้ว เราเป็นแชมป์โลกแล้ว ไชโย

ทั้งนักเตะ โคช ทีมสตาฟและทุกคนวิ่งเข้ากอดกันนัว น้ำตาลูกผู้ชายไหลหลั่ง น้ามิโรน้ำตาคลอ ความฝันของผมที่จะก้าวขึ้นไปรับถ้วย ไปยืนบนเวทีแล้วมองลงมายังสนามเป็นจริงแล้วหรือนี่ น้าซบหน้ากับฝ่ามือพร้อมส่ายหน้าแบบไม่อยากจะเชื่อ เลิฟน้ำตาคลอกอดไชวนี่ที่น้ำตาไหลพราก นอยเออร์ เชือร์เล่ และทุกคนร้องไห้ กัปตันลาห์มพาลูกทีมขึ้นรับถ้วยอย่างปลื้มปิติ ภาระหนักอึ้งที่เลิฟและนักเตะยุคทอง น้ามิโร ลาห์ม ไชวนี่ แพร์และโพลดี้ แบกรับไว้บนบ่านานถึง 8 ปีถูกปลดทิ้งพร้อมรอยยิ้มและน้ำตา พวกเขาสนุกสนานเฮฮากันสุดๆ ชูถ้วยเต้นรำกันชื่นมื่น มุสตาฟี่เต้นสวยกว่าใครเพื่อน ทั้งเต้นทั้งส่ายสะโพกแบบวัยรุ่น กองเชียร์ยิ้มเบิกบานทั้งน้ำตา ดีใจเหลือเกินกับทีมรักของเรา

นี่คือผลงานของทีมชาติที่ดีที่สุดนับแต่ปี 1990 พวกเขาคือทีมที่สามัคคีกันอย่างที่สุด พวกเขาทั้ง 23 คนคือกันและกัน และด้วยความสามารถ ด้วยหยาดเหงื่อ แรงงาน น้ำตา และด้วยหัวใจนักสู้ พวกเขาก็ทำได้จริงๆ เขาคือแชมป์โลกปี 2014 ที่สร้างประวัติศาสตร์มากมาย เขาคือทีมที่แฟนๆรอมานานแสนนาน และพรุ่งนี้พวกเขาจะกลับสู่กรุงเบอร์ลินที่แฟนๆนับล้านคนจะมารอต้อนรับอย่างสมศักด์ศรี

ขอบคุณเลิฟ ขอบคุณนักเตะ ทีมสตาฟและผู้เกี่ยวข้องทุกคนที่ช่วยกันนำถ้วยกลับคืนสู่เยอรมัน ขอบคุณมากที่คว้าดาวดวงที่ 4 มาประดับเกียรติให้แก่เยอรมัน

จากใจแฟนพันธ์แท้ทีมชาติเยอรมัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่