คุณคิดว่ากรณีนี้ใครควรเป็นผู้รับผิดชอบระหว่างลูกค้ากับพนักงานโรงแรม???

กระทู้คำถาม
หยุดเข้าพรรษาที่ผ่านมา มีโอกาสได้ไปเที่ยวจังหวัดทางภาคใต้ และได้พักที่รีสอร์ทมีชื่อแห่งหนึ่ง ขอลำดับหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยาวนิดนึงเพื่อให้ทราบที่มาที่ไปค่ะ ประเด็นคำถามจะอยู่ท้ายเรื่องค่ะ

- ย้อนไปประมาณ 1 เดือนที่แล้วก่อนหน้าที่จะไปเที่ยว เราได้โทรจองที่พักไว้ โดยเบื้องต้นได้เชคราคาที่เวบ agoda และ booking เข้าพัก 10-11-12 ก.ค. ราคาอยู่ที่ประมาณพันนิดๆ รวมอาหารเช้า จากนั้นเราได้โทรไปสอบถามราคาเองที่โรงแรมพบว่าราคาถูกกว่าเวบทั้ง 2 เวบ

- พนักงานปลายสายแจ้งว่าช่วงที่เราจะเข้าพักจะติดเป็นช่วงเทศกาลโดยวันที่ 11-12 คิด 850, 950- รวมอาหารเช้า ส่วนวันที่ 10 คิดเป็นราคาปกติ 550, 650- รวมอาหารเช้า(แต่ตอนนี้ห้องราคาต่ำเต็มแล้ว เหลือ 950) และตอนนี้เหลือห้องว่างไม่กี่ห้อง (คิดในใจพนักงานโรงแรมนี้ดีเนอะ ไม่หมกเม็ดเรื่องราคา วันไหนราคาปกติก็บอก)

- เราขอต่อรองไม่เอาอาหารเช้าได้หรือไม่ เพราะปกติไม่ค่อยชอบอาหารเช้าโรงแรม อีกอย่างดูรีวิวร้านติ่มซำ/อาหารเช้า ไว้หลายๆ ร้านแล้ว พนักงานปลายสายแจ้งว่าไม่ได้ เป็นนโยบายของทางโรงแรม ท่านจะรับหรือไม่รับอาหารเช้าก็คิดราคาเดิม อะโอเคค่ะ ขอคิดดูก่อนเดี๋ยวรีบโทรมาจองนะคะ

- สัก 10-15 นาที หลังจากปรึกษาแฟนแล้วว่าเอาโรงแรมนี้แหล่ะ ดูในรูปและรีวิวก็สวยดี อาหารเช้าก็กินๆ ไปเถอะ อะ เอาก็เอาฟระ พร้อมโทรไปจองห้องกับโรงแรมปลายสายรับจองห้องพร้อมสรุปยอดเงิน 650+950+950 = 2,550 บาท ต้องจ่ายมัดจำ 50% พนักงานปลายสายถามว่าสะดวกโอนภายในกี่วัน 5 วัน โอเคไหม เราบอกโอเค โอนแล้วจะรีบโทรแจ้ง

- จากนั้นประมาณ 2-3 วันก็โทรไปแจ้งโรงแรมว่าโอนเงินเรียบร้อยแล้ว และวันที่ 10 จะถึงโรงแรมดึกมากประมาณเที่ยงคืน พนักงานบอกโอเคค่ะ ที่ล็อบบี้มีพนักงานเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง

- วันที่ 10 กำลังเดินทาง พนักงานโรงแรมโทรมาสอบถามว่าตกลงวันนี้จะเข้าพักใช่ไหมคะ เลยแจ้งกลับไปว่าเข้าค่ะ กำลังเดินทาง (คิดในใจ โรงแรมดีเนอะ มีโทรมาสอบถามลูกค้าด้วย) ถึงโรงแรมเชคอิน พร้อมโชว์ลลิปโอนเงิน พนักงานขอเก็บไว้ และให้มาจ่ายส่วนที่เหลือวันเชคเอ้า ได้กุญแจเดินวนหาห้อง เพราะพนักงานไม่ได้บอกว่าตรงไหน แต่ไม่เป็นไร โรงแรมเล็กนิดเดียวเดินหาเองได้ ของไม่เยอะไม่หนักมากหิ้วเองไม่ลำบาก

- เช้าวันที่ 11 ไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร พนักงานแจ้งว่าให้มารับคูปองที่ล็อบบี้ก่อน โอเค ได้ค่ะ พร้อมเดินไปแจ้งพนักงานล็อบบี้ขอคูปองอาหารเช้า 2 ใบ และสังเกตุเห็นว่ามีป้ายราคาอาหารเช้า 130 บาทต่อท่าน ก็คิดว่าสำหรับคนที่พักเกินจำนวนมั้ง(ไม่ได้เอะใจ) พนักงานให้คูปองมา 2 ใบ โดยไม่ได้แจ้งอะไร วันนี้อาหารเช้าเป็นแบบให้สั่งได้ 1 อย่าง (ข้าวต้ม ข้าวผัด และอเมริกันฯ) ผลไม้ 1 อย่าง ปริมาณที่ได้เยอะพอสมควร

- เช้าวันที่ 12 วันนี้แฟนไปรับคูปอง พนักงานล็อบบี้บอกว่าเดินมาทานได้เลย แต่พอไปห้องอาหารพนักงานไม่ยอม ยังไงก็ต้องเอาคูปอง แฟนเราหน้าหงิกยืนรอรับคูปองอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง จนเราออกมาถามว่าทำไมยังไม่กิน แฟนบอกคูปองยังไม่ได้ พนักงานไม่ให้กิน สักพักพนักงานล็อบบี้เอาคูปองมาให้พนักงานห้องอาหารถึงได้ทาน อาหารวันนี้เป็นบุฟเฟต์เบสิกตามโรงแรมทั่วไป

- เช้าวันที่ 13 รับคูปองอาหารเช้าที่ล็อบบี้ปกติ ทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ เก็บของเชคเอ้า เอากุญแจไปคืน พร้อมจ่ายเงินส่วนที่เหลือ ระหว่างรอเคลียร์เงินมีลูกค้าเดินมาขอคูปองอาหารเช้าให้ลูก พนักงานหยิบให้พร้อมให้ชำระเงินเลย ตอนคิดเงินพนักงานแจ้งยอด 2,850 บาท จ่ายแล้ว 1,275 บาท ต้องจ่ายเพิ่มอีก 1,575 บาท เราบอกว่า อ้าว ไหนบอกคืนแรกคิดเป็นเรทปกติ 650 บาทไง ที่โอนมาคือมัดจำ 50% นะ เราต้องจ่ายเพิ่มอีกแค่ 1,275 บาทพนักงานบอกหรอคะ งั้นก็ 1,275 บาทค่ะ

- จ่ายเงินเสร็จก็ขับรถออกจากโรงแรมเพื่อไปเที่ยวต่อ สักประมาณ 30-45 นาที มีโทรศัพท์จากโรงแรม แต่สัญญาณไม่ค่อยดี พูดไม่ได้ยิน เลยถามกับแฟนว่าเธอลืมอะไรไว้ป่าว โรงแรมน่าจะโทรมาบอก เลยจอดรถกำลังจะโทรกลับ ก็มีสายของโรงแรมเข้า บทสนทนาคร่าวๆ
พนักงาน : น้องคะเมื่อกี้พี่คิดเงินขาดไป 260 อาหารเช้าวันแรกไม่ได้รวมในค่าห้อง
ลูกค้า: อ้าว ทำไมไม่บอกตอนไปรับคูปองละคะ
พนักงาน : เข้าใจผิดน่ะค่ะ
ลูกค้า : หนูก็ถามย้ำแล้วย้ำอีกตอนจอง และก็แจ้งความจำนงตั้งแต่ทีแรกแล้วว่าไม่เอาอาหารเช้า
พนักงาน: ยังไงน้องก็รับไปแล้ว ต้องจ่ายเงินอีก 260
ลูกค้า: จะให้จ่ายยังไงละคะ หนูออกมาตั้งไกลแล้ว
พนักงาน: น้องขับกลับมาจ่ายได้ไหมคะ ถ้าน้องไม่มาจ่ายวันนี้พี่ต้องควักจ่ายเอง ซึ่งวันนี้โดนไปหลายรายแล้วค่ะ
ลูกค้า: (อึ้ง ชั่วคราว คิดในใจ เฮ้ย นี่ต้องให้กุขับรถกลับไปจ่ายอีกหรอฟะ) พี่คะ หนูขับออกมาไกลแล้ว ไม่สะดวกย้อนกลับไปจ่ายหรอกค่ะ เสียเวลาไปที่อื่นๆ หนูอีก
พนักงาน: แล้วน้องจะจ่ายยังไงละคะ พี่จ่ายให้ไม่ไหวนะ
ลูกค้า: เอาเป็นว่าถ้าหนูสะดวกหนูจะโอนไปให้แล้วกันนะคะ
พนักงาน: โอนมา 260 บาทเนี่ยนะคะ
ลูกค้า: ค่ะ
พนักงาน: แล้วน้องจะโอนมาบัญชีไหนคะ
ลูกค้า: ก็บัญชีที่โอนค่ามัดจำไปนั่นแหล่ะค่ะ
พนักงาน: ถอนหายใจ และบ่นๆ หลายคำ (แต่เราได้ยินไม่ถนัด)
ลูกค้า: ไว้สะดวกเมื่อไหร่จะโอนแล้วกันนะคะ ตอนนี้อยู่ระหว่างทางยังไม่สะดวก

- จากนั้นเราก็วางสาย และเล่าให้แฟนฟัง แฟนด่าจะบร้าหร้อออ จะไปจ่ายทำไม มันไม่ใช่ความผิดเธอนี่ แล้วจะให้เราขับย้อนไปจ่าย บ้าไปแล้ว จนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่ได้จ่าย เพราะยังไม่สะดวกไปธนาคาร

ประเด็นคำถาม
กรณีควรต้องเป็นความรับผิดชอบที่เราต้องจ่ายเหรอคะ เพราะพนักงานมีโอกาสตั้ง 3 วันที่จะแจ้งเราเรื่องอาหารเช้า แต่ไม่ยอมแจ้ง ในความคิดเรา เราก็เข้าข้างตัวเองอยู่แล้วว่า เราไม่ควรต้องรับผิดชอบเพราะคุยกันเคลียร์ตั้งแต่ตอนจองแล้ว แถมตอนเชคอินก็แจ้งจำนวนเงินที่ต้องจ่าย ไม่รู้ว่าพนักงานไม่ได้คุยกันหรือยังไง ทุกท่านมีความคิดเห็นว่าอย่างไรบ้างคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่