
อิเกียด เป็นชาวเมืองลงเสีย อยู่ทางตะวันออกของเมืองกังตั๋ง เมื่อนานมาแล้วได้ไปเที่ยวเก็บตัวยา
ที่ตำบลเขาขยกหยง ได้ตำราในถ้ำประมาณร้อยฉบับ สำหรับทำการเสกน้ำรักษาโรคต่าง ๆ จึงใช้ความ
รู้ในตำรานั้นรักษาไข้คนทั้งปวง โดยมิได้เอาทรัพย์สินเงินทอง ทำให้มีราษฎรรักใคร่เคารพบูชามาก
วันหนึ่งอิเกียด ถือไม้เท้าเดินทางเข้ามาทางประตูเมืองกังตั๋ง ชาวเมืองมากมายก็ถือดอกไม้ธูปเทียนคำนับต้อนรับ
ซึ่งขณะนั้นซุนเซ็กเจ้าเมือง กำลังกินเลี้ยงกับขุนนาง และแม่ทัพนายกองอยู่บนหอรบ ชะโงกหน้าลงไปเห็น
เข้าจึงเกิดความริษยา ที่ชาวเมืองดูจะรักใคร่เคารพนับถือ มากกว่าเจ้าเมืองเสียอีก จึงให้ทหารไปจับตัวเอามา
สอบสวน หาว่าหลอกลวงชาวบ้าน ลีฮวยซึ่งเป็นโหรประจำเมืองก็แนะนำว่า อิเกียดนี้มีความรู้เรียกลมเรียกฝนได้
เมืองเราบัดนี้ก็ฝนแล้งราษฎรทำนาขัดสน จงทดลองให้อิเกียดเรียกฝนให้ตกลงมา ถ้าทำได้ก็ค่อยปล่อยตัวไป
ซุนเซ็กเห็นด้วยจึงให้ทหารปลูกโรงพิธีขึ้น สูงประมาณสิบวาตั้งกลางแจ้ง ให้อิเกียดทำพิธีขอฝน อิเกียดก็ชำระกาย
ให้หมดมลทิน ครั้นเวลาเช้าแดดกล้า ก็ขึ้นไปบนโรงพิธีเอาเชือกมัดตัวหมอบตากแดดบริกรรมขอฝนอยู่ มีชาวเมือง
พากันมาดูเป็นอันมากอิเกียดจึงร้องบอกชาวเมืองว่า จะขอฝนให้ตกลงมาท่วมพื้นดินประมาณสองศอก ราษฎรทั้ง
ปวงจะได้ทำนาบริบูรณ์ แต่ถึงมาตรว่าจะทำได้ดังปรารถนาก็ดี อันชีวิตของตนก็เห็นจะไม่รอดจากความตายขณะนั้น
ซุนเซ็กก็ให้ทหารขนฟืนและฟาง มากองไว้ใต้โรงพิธี สั่งว่าถ้าพ้นเวลาเที่ยงแล้วฝนไม่ตก ให้จุดเพลิงเผาอิเกียดเสีย
ครั้นถึงเวลาเที่ยงก็เกิดลมพายุใหญ่มืดมัวไปทั้งอากาศ ซุนเซ็กเห็นฝนยังไม่ตกจะรีบฆ่า จึงให้ทหารขึ้นไปเอาตัว
อิเกียดลงมามัดไว้บนกองฟืน แล้วให้จุดไฟขึ้น พอเพลิงลุกฮือขึ้น ก็มีเสียงฟ้าร้องสนั่น แล้วฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่
จนน้ำนองท่วมแผ่นดินประมาณสองศอกเศษ เพลิงนั้นก็ดับไปสิ้นอิเกียดก็ร้องบอกให้ฝนหยุด ฝนก็หายในทันที
ขุนนางและราษฎรทั้งปวงก็ลุยน้ำเข้าไปโดยมิได้รังเกียจโคลนตม ช่วยแก้มัดอิเกียดแล้วอุ้มตัวออกมา และต่างก็
คำนับด้วยความนับถือ ซุนเซ็กก็พาลว่า ฝนนั้นตกลงมาด้วยอำนาจเทพยดา อิเกียดโกหกว่าตนเรียกฝนได้ เหตุใดคน
ทั้งปวงจึงนับถือว่าศักดิ์สิทธิ์ แล้วก็ชักกระบี่ส่งให้ทหารเอาตัวไปประหารเสีย และให้เอาศพไปประจานไว้ที่ทาง
สามแพร่ง อย่าให้ผู้ใดเอาเยี่ยงอย่างอีกต่อไป
แต่พอถึงกลางคืนวันนั้น ฝนก็ตกลงมาอีกห่าใหญ่ พอรุ่งเช้าศพอิเกียดก็หายไปโดยไม่มีร่องรอย
อิเกียด หมอผู้รักษาโดยมิได้เอาทรัพย์สินเงินทอง
อิเกียด เป็นชาวเมืองลงเสีย อยู่ทางตะวันออกของเมืองกังตั๋ง เมื่อนานมาแล้วได้ไปเที่ยวเก็บตัวยา
ที่ตำบลเขาขยกหยง ได้ตำราในถ้ำประมาณร้อยฉบับ สำหรับทำการเสกน้ำรักษาโรคต่าง ๆ จึงใช้ความ
รู้ในตำรานั้นรักษาไข้คนทั้งปวง โดยมิได้เอาทรัพย์สินเงินทอง ทำให้มีราษฎรรักใคร่เคารพบูชามาก
วันหนึ่งอิเกียด ถือไม้เท้าเดินทางเข้ามาทางประตูเมืองกังตั๋ง ชาวเมืองมากมายก็ถือดอกไม้ธูปเทียนคำนับต้อนรับ
ซึ่งขณะนั้นซุนเซ็กเจ้าเมือง กำลังกินเลี้ยงกับขุนนาง และแม่ทัพนายกองอยู่บนหอรบ ชะโงกหน้าลงไปเห็น
เข้าจึงเกิดความริษยา ที่ชาวเมืองดูจะรักใคร่เคารพนับถือ มากกว่าเจ้าเมืองเสียอีก จึงให้ทหารไปจับตัวเอามา
สอบสวน หาว่าหลอกลวงชาวบ้าน ลีฮวยซึ่งเป็นโหรประจำเมืองก็แนะนำว่า อิเกียดนี้มีความรู้เรียกลมเรียกฝนได้
เมืองเราบัดนี้ก็ฝนแล้งราษฎรทำนาขัดสน จงทดลองให้อิเกียดเรียกฝนให้ตกลงมา ถ้าทำได้ก็ค่อยปล่อยตัวไป
ซุนเซ็กเห็นด้วยจึงให้ทหารปลูกโรงพิธีขึ้น สูงประมาณสิบวาตั้งกลางแจ้ง ให้อิเกียดทำพิธีขอฝน อิเกียดก็ชำระกาย
ให้หมดมลทิน ครั้นเวลาเช้าแดดกล้า ก็ขึ้นไปบนโรงพิธีเอาเชือกมัดตัวหมอบตากแดดบริกรรมขอฝนอยู่ มีชาวเมือง
พากันมาดูเป็นอันมากอิเกียดจึงร้องบอกชาวเมืองว่า จะขอฝนให้ตกลงมาท่วมพื้นดินประมาณสองศอก ราษฎรทั้ง
ปวงจะได้ทำนาบริบูรณ์ แต่ถึงมาตรว่าจะทำได้ดังปรารถนาก็ดี อันชีวิตของตนก็เห็นจะไม่รอดจากความตายขณะนั้น
ซุนเซ็กก็ให้ทหารขนฟืนและฟาง มากองไว้ใต้โรงพิธี สั่งว่าถ้าพ้นเวลาเที่ยงแล้วฝนไม่ตก ให้จุดเพลิงเผาอิเกียดเสีย
ครั้นถึงเวลาเที่ยงก็เกิดลมพายุใหญ่มืดมัวไปทั้งอากาศ ซุนเซ็กเห็นฝนยังไม่ตกจะรีบฆ่า จึงให้ทหารขึ้นไปเอาตัว
อิเกียดลงมามัดไว้บนกองฟืน แล้วให้จุดไฟขึ้น พอเพลิงลุกฮือขึ้น ก็มีเสียงฟ้าร้องสนั่น แล้วฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่
จนน้ำนองท่วมแผ่นดินประมาณสองศอกเศษ เพลิงนั้นก็ดับไปสิ้นอิเกียดก็ร้องบอกให้ฝนหยุด ฝนก็หายในทันที
ขุนนางและราษฎรทั้งปวงก็ลุยน้ำเข้าไปโดยมิได้รังเกียจโคลนตม ช่วยแก้มัดอิเกียดแล้วอุ้มตัวออกมา และต่างก็
คำนับด้วยความนับถือ ซุนเซ็กก็พาลว่า ฝนนั้นตกลงมาด้วยอำนาจเทพยดา อิเกียดโกหกว่าตนเรียกฝนได้ เหตุใดคน
ทั้งปวงจึงนับถือว่าศักดิ์สิทธิ์ แล้วก็ชักกระบี่ส่งให้ทหารเอาตัวไปประหารเสีย และให้เอาศพไปประจานไว้ที่ทาง
สามแพร่ง อย่าให้ผู้ใดเอาเยี่ยงอย่างอีกต่อไป
แต่พอถึงกลางคืนวันนั้น ฝนก็ตกลงมาอีกห่าใหญ่ พอรุ่งเช้าศพอิเกียดก็หายไปโดยไม่มีร่องรอย