เยอรมัน กับความลงตัวในการวางแท็คติคและการจัดตัวนักเตะที่ลงตัวพอดี

ผมล่ะเอะใจ ที่มีคนเอานัด ''กาน่า กับ สหรัฐ'และแอลจีเรีย''มาเทียบ

ลืมไปหรือเปล่าครับ กาน่าน่ะขนาดบอลโลกปี 2010เยอรมันชนะแค่ลูกเดียวเอง กับสหรัฐก็ไม่ใช่คู่แข่งที่จะเคี้ยวง่ายตั้งแต่แรกแล้ว ถึงเยอรมันจะชนะมาตลอดเมื่อเจอกันแต่กว่าจะชนะอเมริกาได้นี่ลิ้นห้อยเลยทุกครั้ง  

ส่วนแอลจีเรีย ก่อนทัวร์นาเม้นท์นี้ การเจอกันระหว่างคู่นี้เยอรมัน ไม่เคยชนะแอลจีเรียได้เลยครับ กินกันไม่ลง

และเมื่อเทียบกับพวกทีมใหญ่ๆด้วยกันในรอบแบ่งกลุ่ม ก็ไม่ใช่ว่าจะดีกันสักทีมสะเปะสะปะกันทั้งนั้น ที่ดีหน่อยก็ฮอลแลนด์  อาจเป็นเพราะผลกระทบจากการเตะบอลลีค ด้วยส่วนนึง และมาตรฐานของแต่ละทีมขยับเข้ามาไกล้กันมากขึ้นอีกส่วนนึง

ถึงแม้นัดเหล่านั้นเยอรมันเหมือนเล่นไม่ออกก็จริง แต่ที่จริงแล้วผมว่า การปรับจูนทางด้านแท็คติคของเยอรมันยังไม่ลงตัวก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญเช่นกัน

ความเป็นจริงคือ กุนซือ โยกี้ เลิฟ แกดื้อที่ดันทุรังเอา ลาห์มไปเล่นเป็นมิดฟิลตัวกลาง เกมส์เลยไม่แน่นและมีช่องให้พวกปีกหรือศูนย์หน้าความเร็วสูงเจาะทะลุทะลวงทางแบ็ค และแท็คติคที่เอาลาห์ม มาเป็นมิดฟิลตรงกลางใช้ได้ผลแค่เกมส์เดียวคือนัด ฉะ กับโปรตุเกส

แต่พอ มุสตาฟี่ คีย์แมนสำคัญได้ลงในตำแหน่งที่ควรจะอยู่ คือม้านั่งข้างสนาม โยก ฟิลลิปส์ ลาห์ม มายืนแบ็คขวา  ปล่อย ซามี่ เคดิร่า กับ Boss ชไวนี่ คุมเกมส์ตรงกลาง แนวรุกอาศัยการปั้นเกมส์จากโทนี่โครส  ส่วนเมซุต เออซิล แม้ฟอร์มจะตกลงมากๆเหมือนเป็นจุดอ่อนในแนวรุก แต่หากเผลอปล่อยให้เล่นแม้เสี้ยววินาที ผลคือคิลเลอร์พาสสำแดงพิษสงทันทีเหมือนกัน  ฝั่งขวาเป็นนักเตะที่เหมือนไม่มีอะไร แต่สปีดต้นกับการออกตัวเร็วที่สุดในเยอรมัน แบบโธมัส มุลเลอร์  ศูนย์หน้าตำนาน16ประตู มิโรสลาฟ โคลเซ่  แม้จะอายุเยอะไม่น่าจะเข้าปะทะสู้กับกองหลังได้ แต่ลืมไปแล้วเหรอครับ จุดเด่นของ โคลเซ่ คือการจ่ายบอลให้คู่หูเข้าทำประตู  (ดูได้จาก สถิติดาวซัลโวของ ลูก้า โทนี่ และ 40กว่าประตูในทีมชาติของ ลูคัส โพดอลสกี้) และการฉวยโอกาสจากลูกเข้าฮอสพังประตู ไม่ว่าจะลูกกลางอากาศหรือภาคพื้นดิน ใครเล่นกับพี่เซ่ ก็เล่นง่ายขึ้นทั้งนั้น

ผมว่าเยอรมันเจอจุดเปลี่ยนไปตั้งแต่ มุสตาฟี่เจ็บแล้วครับ  ดูได้จากนัดที่เจอฝรั่งเศส เกมส์เยอรมันแม้ไม่ได้บุกมากเพราะเหตุผลทางด้านแท็คติค เนื่องจากยิงนำไปก่อน ทำให้ฝรั่งเศสมีโอกาสบุกกดดัน แต่รูปเกมส์จริงๆแล้วเยอรมันเหนือชั้นกว่าเยอะเลย

ส่วนนัดเจอบราซิล ด้วยแท็คติคการวางตำแหน่งนักเตะที่ไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่ ผลที่ออกมาคือ ขยี้ทัพเซเลเซา 7-1  

การวางแท็คติค โดยเอาฟิลลิปส์ ลาห์ม มาเล่นตรงกลาง >>ทำให้เยอรมันได้ มิดฟิลส์ ระดับกลางๆมา 1คน และได้แบ็คสมัครเล่นมา1คน(มุสตาฟี่) เสียมิดฟิลส์ชั้นดีไป1คน(ชไวนี่หรือเคดิร่า) เสียแบ็คระดับโลก1คน

แท็คติคที่มีลาห์มยืนฝั่งขวา >>ทำให้เยอรมัน ได้แบ็คขวาระดับโลกมา1คน มิดฟิลระดับคลาสอินเตอร์มา 2คน(ชไวนี่กับเคดิร่าได้ลงพร้อมกันหรือสลับกับโครส แล้วเอาเกิตเซ่ลงตัวรุก )

ผลทางด้านแท็คติค เมื่อลาห์มมาคุมทางแบ็คขวา พวกความเร็วสูงๆแบบฮัคส์ ก็จะทำอะไรไม่ได้มากเพราะลาห์มเด่นทั้งรุก-รับ มีความเร็วในการเติมเกมส์ แบ็คฝั่งตรงข้ามก็ไม่กล้าผลีผลาม ทำให้เกมส์รุกฝั่งตรงข้ามลดประสิทธิภาพลง ตรงกลางมี2ยอดมิดฟิลส์ระดับต้นๆของยุโรปแบบชไวนี่และเคดิร่า คอยสกรีนก่อนถึงแผงกองหลัง ที่มี พระราชมนู(เอล) นอยส์เออร์คอยสั่งการในกรอบเขตโทษ ทำให้เกมส์รับของเยอรมันแน่นขึ้นมาก ทำให้พวกแนวรุกสามารถใช้ประสิทธิภาพได้เต็มที่โดยไม่ต้องพะวงหลัง  จะมีจุดอ่อนอยู่บ้างคือตรงแบ็คซ้าย เพราะโฮเวเดส ตำแหน่งจริงๆคือกองหลังตัวกลางซึ่งจุดนี้คิดว่า ทางฝั่งอาเจนติน่า คงไม่ปล่อยไปง่ายๆ รูปแบบแทคติคดังกล่าวทำให้แดนกลางเยอรมันเกิดความเสถียรเป็นอย่างมาก

สภาพจิตใจนักเตะ แม้ไม่เทียบปี1990 เพราะปี1990มีนักเตะที่มีภาวะผู้นำสูงแต่ปกครองยาก ส่วนชุด2014 ถึงภาวะผู้นำจะด้อยกว่าแต่แลกมาซึ่งสุดยอดทีมเวิร์คที่ทั้งแกร่งในเกมส์รับและอ่อนตัวในแนวรุก และภาวะผู้นำของนักเตะเหมือนกับจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเมื่อเข้ารอบลึกๆ  สุขุม ไม่โหวกเหวกโวยวายแต่ไม่ยอมง่ายๆ มีคนคอยกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมแบบมุลเลอร์ นอยเออร์ กัปตันลาห์มเล่นบอลโคตระสุขุมเลย ชไวนี่ก็ไม่เหมือนเดิมดูเป็นผู้ใหญ่มาก ไม่เกรี้ยวกราดแบบเอฟเฟ่แต่หน้าเหมือนเอฟเฟ่ 55+ ผมว่าทีมชุดนี้ลงตัวสุดๆไปเลย

ส่วนความฟิตนั้น นัดเจอฝรั่งเศสนี่เห็นๆเลยว่าเยอรมันฟิตจริงๆ ไม่ยวบ ง่ายๆ ไม่ป้อแป้ แม้โดนบุกเข้าโจมตีหนักในครึ่งหลังก็ตาม

ขอบคุณแท็คติค ติกิ-ตะกะ ของบาซ่า โดยบล๊อคนักเตะจากบาเยิร์น ทำให้การครองบอลของเยอรมันเหนียวแน่น จ่ายบอลเท้าต่อเท้าได้ดี ลดการเสียพลังงานเพราะให้ลูกบอลเคลื่อนตัวแทนผู้เล่น และกินพลังงานฝ่ายตรงข้ามหากใช้การเพลสซิ่งเร็ว

ทั้งหลายทั้งปวงนี้เกิดขึ้นได้เพราะ สุดยอดคีย์แมน ซเวดาน มุสตาฟี่ คอยสั่งการเพื่อนๆข้างสนามนั่นเอง
ส่วนผสมทางด้านแท็คติคและนักเตะลงตัวพอดี ในรอบ 8ทีมและ4ทีม ซึ่งสำคัญมากครับสำหรับทีมที่จะคว้าแชมป์  ต้องมาดูกับครับว่าในเกมส์ดวลระหว่างสุดยอดทีมเวิร์คแบบเยอรมัน กับ สุดยอดนักเตะหมายเลข1ของโลก ลิโอเนล เมสซี่และเพื่อนๆ ใครจะเป็นฝ่ายได้ชูโทรฟี่

มีหลายคนคิดถึงปี1986และ1990 แต่ผมจินตนาการถึง ปี1974(ที่จริงดูไม่ทัน) ระหว่างทีมที่เน้นระบบแบบเยอรมัน  แย่งโทรฟี่กับ ยอดกองกลางหมายเลข1ของโลกนักเตะเทวดาโยฮัน ครอยส์ +โททัน ฟุตบอล    แบบ 1สุดยอดทีม vs 1สุดยอดนักเตะ เหมือนเยอรมันกับเมสซี่ยุคนี้

ปล.ส่วนผมนั้น เชียร์เยอรมัน แต่อยากให้เมสซี่ชูถ้วยด้วยจะได้สมบูรณ์แบบขึ้นทำเนียบตำนาน เลือกไม่ถูกเลยครับ555+ นัดชิงปีนี้ผมสบายๆ ใครแชมป์ก็ได้winwinทั้งคู่เลย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่