เราเป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวด้วยตัวเองและส่วนใหญ่ก็จะเดินทางคนเดียวมาโดยตลอด
เมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมา เราได้จัดอีกหนึ่งทริปในฝันนั้นคือ อิตาลี ดินแดนแห่งศิลปะ อาหาร และ ไวน์
ด้วยข้อจำกัดด้านหน้าที่การงาน หากจะลาหยุดยาวๆไปเที่ยวไหนไกลๆสักที ก็ไม่มีช่วงไหนจะเหมาะไปกว่าช่วงหยุดยาววันจักรีต่อเนื่องถึงวันสงกรานต์
ตั๋วเครื่องบิน
เมื่อโจทย์คือต้องเดินทางช่วงสงกรานต์ ซึ่งก็เป็นช่วงที่คนส่วนใหญ่ออกเดินทางกันนี่แหละ การหาตั๋วเครื่องบิน ในราคาที่ตัวเองพอรับได้ จึงเป็นด่านปราการแรกของเรา
เราเริ่มมองหาตั๋วไป-กลับโรม ไว้ตั้งแต่เดือนสิงหาปี 56 (เร็วไปไหน)
โดยเล็งศรีลังกาแอร์ ไว้ เพราะไปถึงเช้าวันที่ 5 เมษาเที่ยวได้เต็มวัน แล้วกลับ 15 เมษา ตอนบ่ายสาม ทำให้ไม่ต้องรีบร้อนเดินทางไปสนามบินเร็วนัก แต่ราคาตั๋วตอนนั้นยังประมาณ 3.1 หมื่นอยู่ เราจึงยังไม่จอง
พอกลางๆเดือนกันยา ราคาตั๋วเดิมที่เล็งไว้มันลงมาที่ ประมาณ สองหมื่นห้า เราจึงตัดสินใจจองไปเลย เพราะเงื่อนไขของตั๋วถ้าเกิดวีซ่าไม่ผ่าน หรืออะไร ก็สามารถยกเลิกได้โดยเสียค่ายกเลิกสองพันบาท
ถามว่าสำหรับตั๋วสายการบินนี้ และราคานี้ เป็นราคาที่ถูกที่สุดที่เจอช่วงนั้นมั้ย คำตอบคือไม่ใช่ เพราะถ้าลองใช้ทริค จองของ Etihad แบบ Multi-City ขึ้นเครื่องขาไปจากสิงคโปร์ ลงโรม แล้วกลับมิลาน มากรุงเทพ ราคาตั๋วไม่ถึง สองหมื่นยังมี (ล่อใจเรามาก เกือบเขว) ต่อให้รวมราคาตั๋วเครื่องบินโลว์คอสต์จากกรุงเทพ -สิงคโปร์ สามสี่พันบาท ยังไงก็ถูกกว่าของศรีลังกาอยู่ดี แต่ตั๋วราคาขนาดนี้มันจะมีเงื่อนไขคือไม่สามารถคืนเงินได้ เราจึงตัดสินใจไม่เสี่ยงเพราะเป็นครั้งแรกสำหรับการเดินทางไปยุโรปของเรา ตอนนั้นเรายังไม่ค่อยมีความมั่นใจเรื่องวีซ่าเท่าไหร่นัก
แผนการเดินทาง
เมื่อได้ตั๋วมานอนกอดสมใจแล้ว แผนที่เคยคิดไว้ในหัวก็เริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้น โดยนั่งคิดกับตัวเอง เถียงกับตัวเองอยู่นาน จนเกิดเป็นแผนการเดินทาง ดังนี้
Day 1-3 / 5-7 เมษา Rome & Vatican City
Day 4 / 8 เมษา Assisi แวะพักเมืองกลางทางระหว่าง Rome กะ Florence เพื่อไปตามหาผลงานที่ชาวเมือง claim ว่าเป็น lost fresco ของ Giotto ศิลปินยุค early renaissance
Day 5-6 / 9-10 เมษา Florence เป็น The must ที่ต้องไปให้ได้สำหรับทริปนี้
Day 7-8 /11-12 เมษา Venice เป็นเมืองที่ชั่งใจอยู่นานเลยว่าจะไปดีมั้ย เพราะเราคิดว่ามันน่าจะไม่ถูกกับจริตของตัวเองเท่าไหร่ แต่พออ่านกระทู้ของคุณ ha-meow กระทู้นี้
http://pantip.com/topic/30953700
และหลังไมค์ไปคุยกะคุณ ha-meow ซึ่งเธอก็แสนจะใจดี
ให้คำแนะนำมาอีกมากมาย ก็ตัดสินใจเลยว่ายังไงก็ต้องไปเวนิซให้ได้
Day 9-10 / 13-14 เมษา South Tyrol
http://www.suedtirol.info/it/Scopri-lAlto-Adige/Culturonda.html?movie=true#/Culturonda/Castel-Tirolo
เจอภูมิภาคนี้โดยบังเอิญจากการเสิร์ชหาข้อมูลเพราะติดใจ Japan Alps จากทริปที่ผ่านมา เลยอยากลองไปดู Italy Alps บ้าง
และมีอีกอย่างที่อยากไปดู คือ Iceman หรือ Otzi มัมมี่ธรรมชาติ ที่พบบริเวณชายแดนระหว่าง อิตาลี และ ออสเตรีย ตอนเราเด็กๆ จำได้ว่าการขุดค้นพบครั้งนี้ เป็นข่าวใหญ่พอสมควร
คืนวันที่ 14 เมษา จับรถไฟนอน จาก Bolzano ถึง Rome ตอนเช้า หาที่ฝากกระเป๋า แล้วไปเดินเที่ยวโรมหาซื้อของฝากอีกนิดหน่อย ตอนเที่ยงกลับมารับกระเป๋า แล้วนั่งรถไฟไปสนามบินเพื่อขึ้นเครื่องกลับ
ที่จริงออกจะเป็นการเสี่ยงมากที่เลือกเดินทางข้ามคืนจากชายแดนภาคเหนือกลับมาโรมเพื่อนั่งเครื่องกลับในวันถัดมา แต่เพราะเราอยากเที่ยวเมืองใหญ่ๆในวันธรรมดา จะได้ไม่ต้องไปเบียดเสียดกะผู้คน และอาจทำให้ค่าที่พักแพงขึ้น แผนเลยออกมาอย่างที่เห็น พอให้ได้ตื่นเต้นกันเล็กๆ
[CR] รีวิว Trip Italy 11 วัน ด้วยงบ 7หมื่น ไม่อด ไม่Dorm
เมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมา เราได้จัดอีกหนึ่งทริปในฝันนั้นคือ อิตาลี ดินแดนแห่งศิลปะ อาหาร และ ไวน์
ด้วยข้อจำกัดด้านหน้าที่การงาน หากจะลาหยุดยาวๆไปเที่ยวไหนไกลๆสักที ก็ไม่มีช่วงไหนจะเหมาะไปกว่าช่วงหยุดยาววันจักรีต่อเนื่องถึงวันสงกรานต์
ตั๋วเครื่องบิน
เมื่อโจทย์คือต้องเดินทางช่วงสงกรานต์ ซึ่งก็เป็นช่วงที่คนส่วนใหญ่ออกเดินทางกันนี่แหละ การหาตั๋วเครื่องบิน ในราคาที่ตัวเองพอรับได้ จึงเป็นด่านปราการแรกของเรา
เราเริ่มมองหาตั๋วไป-กลับโรม ไว้ตั้งแต่เดือนสิงหาปี 56 (เร็วไปไหน)
พอกลางๆเดือนกันยา ราคาตั๋วเดิมที่เล็งไว้มันลงมาที่ ประมาณ สองหมื่นห้า เราจึงตัดสินใจจองไปเลย เพราะเงื่อนไขของตั๋วถ้าเกิดวีซ่าไม่ผ่าน หรืออะไร ก็สามารถยกเลิกได้โดยเสียค่ายกเลิกสองพันบาท
ถามว่าสำหรับตั๋วสายการบินนี้ และราคานี้ เป็นราคาที่ถูกที่สุดที่เจอช่วงนั้นมั้ย คำตอบคือไม่ใช่ เพราะถ้าลองใช้ทริค จองของ Etihad แบบ Multi-City ขึ้นเครื่องขาไปจากสิงคโปร์ ลงโรม แล้วกลับมิลาน มากรุงเทพ ราคาตั๋วไม่ถึง สองหมื่นยังมี (ล่อใจเรามาก เกือบเขว) ต่อให้รวมราคาตั๋วเครื่องบินโลว์คอสต์จากกรุงเทพ -สิงคโปร์ สามสี่พันบาท ยังไงก็ถูกกว่าของศรีลังกาอยู่ดี แต่ตั๋วราคาขนาดนี้มันจะมีเงื่อนไขคือไม่สามารถคืนเงินได้ เราจึงตัดสินใจไม่เสี่ยงเพราะเป็นครั้งแรกสำหรับการเดินทางไปยุโรปของเรา ตอนนั้นเรายังไม่ค่อยมีความมั่นใจเรื่องวีซ่าเท่าไหร่นัก
แผนการเดินทาง
เมื่อได้ตั๋วมานอนกอดสมใจแล้ว แผนที่เคยคิดไว้ในหัวก็เริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้น โดยนั่งคิดกับตัวเอง เถียงกับตัวเองอยู่นาน จนเกิดเป็นแผนการเดินทาง ดังนี้
Day 1-3 / 5-7 เมษา Rome & Vatican City
Day 4 / 8 เมษา Assisi แวะพักเมืองกลางทางระหว่าง Rome กะ Florence เพื่อไปตามหาผลงานที่ชาวเมือง claim ว่าเป็น lost fresco ของ Giotto ศิลปินยุค early renaissance
Day 5-6 / 9-10 เมษา Florence เป็น The must ที่ต้องไปให้ได้สำหรับทริปนี้
Day 7-8 /11-12 เมษา Venice เป็นเมืองที่ชั่งใจอยู่นานเลยว่าจะไปดีมั้ย เพราะเราคิดว่ามันน่าจะไม่ถูกกับจริตของตัวเองเท่าไหร่ แต่พออ่านกระทู้ของคุณ ha-meow กระทู้นี้
http://pantip.com/topic/30953700
และหลังไมค์ไปคุยกะคุณ ha-meow ซึ่งเธอก็แสนจะใจดี
Day 9-10 / 13-14 เมษา South Tyrol
http://www.suedtirol.info/it/Scopri-lAlto-Adige/Culturonda.html?movie=true#/Culturonda/Castel-Tirolo
เจอภูมิภาคนี้โดยบังเอิญจากการเสิร์ชหาข้อมูลเพราะติดใจ Japan Alps จากทริปที่ผ่านมา เลยอยากลองไปดู Italy Alps บ้าง
และมีอีกอย่างที่อยากไปดู คือ Iceman หรือ Otzi มัมมี่ธรรมชาติ ที่พบบริเวณชายแดนระหว่าง อิตาลี และ ออสเตรีย ตอนเราเด็กๆ จำได้ว่าการขุดค้นพบครั้งนี้ เป็นข่าวใหญ่พอสมควร
คืนวันที่ 14 เมษา จับรถไฟนอน จาก Bolzano ถึง Rome ตอนเช้า หาที่ฝากกระเป๋า แล้วไปเดินเที่ยวโรมหาซื้อของฝากอีกนิดหน่อย ตอนเที่ยงกลับมารับกระเป๋า แล้วนั่งรถไฟไปสนามบินเพื่อขึ้นเครื่องกลับ
ที่จริงออกจะเป็นการเสี่ยงมากที่เลือกเดินทางข้ามคืนจากชายแดนภาคเหนือกลับมาโรมเพื่อนั่งเครื่องกลับในวันถัดมา แต่เพราะเราอยากเที่ยวเมืองใหญ่ๆในวันธรรมดา จะได้ไม่ต้องไปเบียดเสียดกะผู้คน และอาจทำให้ค่าที่พักแพงขึ้น แผนเลยออกมาอย่างที่เห็น พอให้ได้ตื่นเต้นกันเล็กๆ