สวัสดีครับทุกคน วันนี้ NokiaLumiaClub จะมา Review Nokia Lumia 930 ให้เพื่อนๆได้ชมกันครับ โดยทางเรานั้นได้ใช้งานมันมาแล้ว 1 สัปดาห์เต็มๆเพราะฉะนั้น วันนี้เราจะมาเฉลยข้อดีข้อเสีย เอาแบบสุดๆกันไปเลยครับ ไม่มีลำเอียง ไม่มี Bias เพราะเป็นเว็บที่เชียร์ Nokia Lumia เชื่อว่ารีวิวด้านล่างที่เพื่อนๆจะได้เห็นกันนี้ จะเป็นรีวิวที่สามารถเป็นที่ๆทำให้เพื่อนๆตัดสินใจเกี่ยวกับ Lumia 930 ได้ง่ายขึ้น ว่าจะเลือกหรือข้ามไปดี เชิญรับชมครับ
Specification Nokia Lumia 930 (ส่วนสเปคพื้นฐาน)
Hardware
CPU ( Chipset )
สำหรับเรื่องแรกเลยคือสเปคของ Nokia Lumia 930 มันมาพร้อมกับชิปเซ็ต CPU ที่เรียกว่าแรงที่สุดในปัจจุบันนี้ครับ จากค่าย Qualcomm ซึ่งก็คือ Snapdragon 800 แม้ในปัจจุบันหลายๆค่ายที่เป็น Android จะเริ่มขยับไปที่ Snapdragon 801 กันแล้ว แต่เราเชื่อว่ามันไม่ได้ต่างกันมากด้านผลลัพธ์ความเร็วและแรง อีกอย่างหนึ่งคือบน Windows Phone จริงๆ Snapdragon 800 นี้ก็เกินพอแล้วครับ จะใช้งานจริงๆแล้วเห็นผลคือ ตอนที่เล่นเกมส์กราฟฟิกสูงๆเท่านั้นครับ ถึงจะรู้ว่า Windows Phone รุ่นที่ไม่ได้ใช้ Snapdragon 800 จะแตกต่างกับรุ่นที่ไม่ใช่ Snapdragon 800 ยังไง (ลองใช้ Lumia 920 เล่นเกมสืกราฟฟิกสูงๆเทียบกับ Nokia Lumia 930 ดูแล้วยังมีความแตกต่างในเรื่อง Frame rate ในเกมส์)
ความจำภายใน หรือ รอม ( Rom )
เรื่องที่ 2 คือเรื่องความจำภายในหรือที่เรียกกันว่ารอม ( Rom ) โดยในส่วนนี้ Nokia ได้ออกแบบมาให้ Nokia Lumia 930 นั้นมีความจำภายในมากถึง 32 GB เลยทีเดียว ซึ่งเท่ากับฝาแฝดรุ่นพี่อย่าง Nokia Lumia 1520 ครับ แต่บน Nokia Lumia 930 นั้นไม่สามารถเพิ่มเมมโมรี่การ์ดจากภายนอกได้ จึงทำให้มีเยอะ แต่ก็ไม่สามารถเพิ่มไปมากกว่านี้ได้แล้ว แต่จริงๆ 32 GB มันเหลือเฟือครับ เพียงแต่คนที่ไม่พออาจจะเป็นคนบุคคลที่ชอบดูหนัง Hi-def ที่โหลดหนังจาก BitTorrent ขนาดไฟล์ 3-5 GB มาดูบนสมาร์ทโฟนเท่านั้น ในส่วนนี้อาจจะทำได้โดยการโหลดใส่เมมโมรี่การ์ด ซึ่งไม่สามารถทำได้บน Lumia 930 ใครชอบทำแบบนี้จึงไม่น่าจะเหมาะกับสมาร์ทโฟนที่ไม่สามารถเพิ่มควมจำภายนอกได้ครับ หรือถ้าชอบและอยากใช้ Lumia 930 จริงๆก็อาจจะต้องจัดสรรพื้นที่ว่างให้ดี
ความจำชั่วคราว หรือ แรม ( Ram )
สำหรับแรมนั่น Nokia ได้ใส่มาให้บน Nokia Lumia 930 ถึง 2 GB ซึ่งจริงๆต้องบอกก่อนเลยว่า บน Nokia Lumia หรือ Windows Phone ยี่ห้ออื่นๆที่มีแรมเพียง 1 GB นั้นด็สามารถทำงานได้อย่างไม่มีปัญหาแล้ว เพราะฉะนั้นแรม 2 GB นั้นจริงๆแล้วแทบจะไม่แตกต่างกับแรม 1 GB เลย (เฉพาะ Windows Phone) แต่การมีแรมมากขึ้นแบบนี้ ก็ยังมีข้อแตกต่างที่สังเกตุได้ด้านนิดนึงครับ คือเรื่องการสลับการใช้งานแอพพลิเคชั่นโดยใช้ Multi-tasking ซึ่งถ้าแรมน้อยกว่าจะทำการสลับนานกว่ามาก ซึ่งกล่าวคือระบบ Multi-tasking บน Windows Phone นั้นจะเป็นการหยุดการทำงานของแอพพลิเคชั่นนั้นๆไปเลยเมื่อเราพักไว้ แต่ไม่ได้ออกจากแอพพลิเคชั่น และเมื่อเราสลับมาใช้ใหม่ อาจจะต้องใช้เวลาสักพักในการเรียกแอพขึ้นมาใช้งาน ฉะนั้นบน Nokia Lumia 930 ที่มีแรมมากถึง 2 GB จึงจะสามารถเรียกได้ไวกว่ารุ่นที่มีแรม 1 GB ไม่ขึ้นหน้า Loading หรือ กำลังโหลด พื้นสีดำๆนานจนรู้สึกว่าช้า
หน้าจอ ( Display )
สำหรับหน้าจอนั้น Nokia ค่อนข้างจะไม่ค่อยได้ใส่ใจในเรื่องหน้าจอบนรุ่นนี้เท่าไรนัก เพราะได้เลือกใช้จอแบบ OLED ซึ่งจริงๆแล้วค่อนข้างมีราคาถูกกว่า IPS LCD และยิ่งรุ่นนี้ ไม่มี Glance screen ด้วย เพราะ Nokia เลือกใช้หน้าจอ OLED รุ่นที่ไม่มีหน่วยความจำ จึงไม่สามารถแสดงผล Glance ได้ สาเหตุก็เนื่องมาจากเป็นการลดต้นทุนนั่นเอง จริงอยู่ที่จอมันขนาดแค่ 5 นิ้วเอง ทำไมบน Lumia 1020 หรือแม้กระทั่ง Lumia 925 ยังสามารถแสดงผล Glance screen ได้เลย ? ต้องบอกว่าจอบน Lumia 930 นั้นเป็นแบบ Full HD ด้วย ในขณะที่บนรุ่น Lumia 1020 และ 925 เป็นเพียง HD ธรรมดา ต้นทุกจึงต่างกันมากพอสมควร และความกดดันที่ทำให้ต้องวางขายราคาต่ำ จึงเลือกใช้จอที่มีต้นทุนน้อยๆมาใช้ แต่ข้อดีของมันคือ มีสีที่สดมากๆ และพื้นที่สีดำมันจะดำสนิท เพราะจอชนิดนี้ เม็ด Pixel สามารถเรืองแสงได้เองโดยไม่อาศัยแสง Backlight เมื่อจะแสดงสีดำก็แค่ไม่เรืองแสงเท่านั้น การแสดงผลสีดำจึงทำได้ดีกว่าบนจอ LCD ที่อาศัยแสง Backlight และข้อเสียอีกอย่างหนึ่งของจอ OLED คือ การเคลื่อนที่หรือการลำเลียงของเม็ดสีบนจอ คือหลายคนที่ Test Drive หรือซื้อมาใช้งานแล้วจะรู้สึกว่ามันหน่วงนิดๆ ซึ่งไม่ได้มีผลอะไรมากครับ แต่จะบอกว่ามันไม่ได้เป็นปัญหาที่เครื่อง แต่มันเป็นปัญหาในการลำเสียงสีบนจอ ซึ่งทำได้ไม่เนียนเท่า LCD เห็นเป็นสีเคลื่อนที่ไปช้าๆ ออกแนวหน่วงๆครับ
เครือข่ายที่รองรับ ( Support network )
สำหรับ Nokia Lumia 930 นั้นรองรับเครือข่ายสัญญาณ 2G หรือ GSM ที่ 850 , 900 , 1800 และ 1900 MHz รองรับเครือข่าย 3G ที่ 850 , 900 , 1800 และ 2100 MHz และแน่นอนครับ รุ่นเรือธงที่มาจาก Nokia นั้นรองรับ 4G LTE ทุกรุ่น เพราะฉะนั้นใครที่จะซื้อ Nokia Lumia 930 ไม่ต้องกังวลเรื่องการเลือกใช้ซิมของเครือข่ายไหนเลย เพราะเราสามารถใช้ได้ทั้ง 3G ของ AIS , Dtac และ Truemove ( ตอนนี้มีเครือข่ายใหม่อย่าง 365 ซึ่งตอนนี้ได้ใช้เสาปล่อยสัญญาณเดียวกับ Truemove H ซึ่งจะใช้สัญญาณ 3G ที่ 850 MHz เพราะฉะนั้นใช้ 365 ได้ไม่ต้องเป็นห่วงครับ )
แบตเตอร์รี่ ( Battery Life )
ในส่วนของแบตเตอร์รี่นั้น Nokia Lumia 930 มีขนาดแบตเตอร์รี่ที่มีความจุขนาด 2420 mAh ซึ่งจริงๆเรียกว่าน้อยพอสมควรถ้าเทียบกับรุ่นเรือธงในปัจจุบัน หลังจากการใช้งาน 1 สัปดาห์มีคำตอบว่ามันอึดหรือไม่มาบอกต่อครับ คือถามว่าอึดไหม ตอบว่าไม่อึดครับ ใช้งานครบ 1 วันแบบอึดอัด โดยเฉพาะช่วงแรก ในรอบการชาร์จแบตเตอร์รี่ 3-4 ครั้งแรกนี้ต้องบอกว่าแบตไหลออกเป็นน้ำ แต่หลังจากอะไรๆเข้าที่แบตเตอร์รี่ใข้งานผ่านมา 1 สัปดาห์ ก็อึดขึ้นครับ แต่เวลาใช้แล้วให้ความรู้สึกไม่เหมือน Nokia Lmia 1520 ที่ไม่ต้องกังวลอะไรเลย ใช้ Lumia 930 ต้องคิดเผื่อไว้หน่อย ปิด 3G ไว้ ใช้ตอนจำเป็น
สำหรับในสเปคส่วนอื่นๆที่ไม่ได้ลงรายละเอียดเพราะเป็นเรื่องพื้นฐาน ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากเดิมมากนักจึงไม่ได้นำมารแนะนำครับ หากสงสัยอะไรในส่วนนี้สามารถทิ้งคำถามไว้ได้เลย
ที่มา :
Nokialumiaclub
[SR] Review Nokia Lumia 930 กับการอยู่กันมา 1 สัปดาห์
สวัสดีครับทุกคน วันนี้ NokiaLumiaClub จะมา Review Nokia Lumia 930 ให้เพื่อนๆได้ชมกันครับ โดยทางเรานั้นได้ใช้งานมันมาแล้ว 1 สัปดาห์เต็มๆเพราะฉะนั้น วันนี้เราจะมาเฉลยข้อดีข้อเสีย เอาแบบสุดๆกันไปเลยครับ ไม่มีลำเอียง ไม่มี Bias เพราะเป็นเว็บที่เชียร์ Nokia Lumia เชื่อว่ารีวิวด้านล่างที่เพื่อนๆจะได้เห็นกันนี้ จะเป็นรีวิวที่สามารถเป็นที่ๆทำให้เพื่อนๆตัดสินใจเกี่ยวกับ Lumia 930 ได้ง่ายขึ้น ว่าจะเลือกหรือข้ามไปดี เชิญรับชมครับ
Specification Nokia Lumia 930 (ส่วนสเปคพื้นฐาน)
Hardware
CPU ( Chipset )
สำหรับเรื่องแรกเลยคือสเปคของ Nokia Lumia 930 มันมาพร้อมกับชิปเซ็ต CPU ที่เรียกว่าแรงที่สุดในปัจจุบันนี้ครับ จากค่าย Qualcomm ซึ่งก็คือ Snapdragon 800 แม้ในปัจจุบันหลายๆค่ายที่เป็น Android จะเริ่มขยับไปที่ Snapdragon 801 กันแล้ว แต่เราเชื่อว่ามันไม่ได้ต่างกันมากด้านผลลัพธ์ความเร็วและแรง อีกอย่างหนึ่งคือบน Windows Phone จริงๆ Snapdragon 800 นี้ก็เกินพอแล้วครับ จะใช้งานจริงๆแล้วเห็นผลคือ ตอนที่เล่นเกมส์กราฟฟิกสูงๆเท่านั้นครับ ถึงจะรู้ว่า Windows Phone รุ่นที่ไม่ได้ใช้ Snapdragon 800 จะแตกต่างกับรุ่นที่ไม่ใช่ Snapdragon 800 ยังไง (ลองใช้ Lumia 920 เล่นเกมสืกราฟฟิกสูงๆเทียบกับ Nokia Lumia 930 ดูแล้วยังมีความแตกต่างในเรื่อง Frame rate ในเกมส์)
ความจำภายใน หรือ รอม ( Rom )
เรื่องที่ 2 คือเรื่องความจำภายในหรือที่เรียกกันว่ารอม ( Rom ) โดยในส่วนนี้ Nokia ได้ออกแบบมาให้ Nokia Lumia 930 นั้นมีความจำภายในมากถึง 32 GB เลยทีเดียว ซึ่งเท่ากับฝาแฝดรุ่นพี่อย่าง Nokia Lumia 1520 ครับ แต่บน Nokia Lumia 930 นั้นไม่สามารถเพิ่มเมมโมรี่การ์ดจากภายนอกได้ จึงทำให้มีเยอะ แต่ก็ไม่สามารถเพิ่มไปมากกว่านี้ได้แล้ว แต่จริงๆ 32 GB มันเหลือเฟือครับ เพียงแต่คนที่ไม่พออาจจะเป็นคนบุคคลที่ชอบดูหนัง Hi-def ที่โหลดหนังจาก BitTorrent ขนาดไฟล์ 3-5 GB มาดูบนสมาร์ทโฟนเท่านั้น ในส่วนนี้อาจจะทำได้โดยการโหลดใส่เมมโมรี่การ์ด ซึ่งไม่สามารถทำได้บน Lumia 930 ใครชอบทำแบบนี้จึงไม่น่าจะเหมาะกับสมาร์ทโฟนที่ไม่สามารถเพิ่มควมจำภายนอกได้ครับ หรือถ้าชอบและอยากใช้ Lumia 930 จริงๆก็อาจจะต้องจัดสรรพื้นที่ว่างให้ดี
ความจำชั่วคราว หรือ แรม ( Ram )
สำหรับแรมนั่น Nokia ได้ใส่มาให้บน Nokia Lumia 930 ถึง 2 GB ซึ่งจริงๆต้องบอกก่อนเลยว่า บน Nokia Lumia หรือ Windows Phone ยี่ห้ออื่นๆที่มีแรมเพียง 1 GB นั้นด็สามารถทำงานได้อย่างไม่มีปัญหาแล้ว เพราะฉะนั้นแรม 2 GB นั้นจริงๆแล้วแทบจะไม่แตกต่างกับแรม 1 GB เลย (เฉพาะ Windows Phone) แต่การมีแรมมากขึ้นแบบนี้ ก็ยังมีข้อแตกต่างที่สังเกตุได้ด้านนิดนึงครับ คือเรื่องการสลับการใช้งานแอพพลิเคชั่นโดยใช้ Multi-tasking ซึ่งถ้าแรมน้อยกว่าจะทำการสลับนานกว่ามาก ซึ่งกล่าวคือระบบ Multi-tasking บน Windows Phone นั้นจะเป็นการหยุดการทำงานของแอพพลิเคชั่นนั้นๆไปเลยเมื่อเราพักไว้ แต่ไม่ได้ออกจากแอพพลิเคชั่น และเมื่อเราสลับมาใช้ใหม่ อาจจะต้องใช้เวลาสักพักในการเรียกแอพขึ้นมาใช้งาน ฉะนั้นบน Nokia Lumia 930 ที่มีแรมมากถึง 2 GB จึงจะสามารถเรียกได้ไวกว่ารุ่นที่มีแรม 1 GB ไม่ขึ้นหน้า Loading หรือ กำลังโหลด พื้นสีดำๆนานจนรู้สึกว่าช้า
หน้าจอ ( Display )
สำหรับหน้าจอนั้น Nokia ค่อนข้างจะไม่ค่อยได้ใส่ใจในเรื่องหน้าจอบนรุ่นนี้เท่าไรนัก เพราะได้เลือกใช้จอแบบ OLED ซึ่งจริงๆแล้วค่อนข้างมีราคาถูกกว่า IPS LCD และยิ่งรุ่นนี้ ไม่มี Glance screen ด้วย เพราะ Nokia เลือกใช้หน้าจอ OLED รุ่นที่ไม่มีหน่วยความจำ จึงไม่สามารถแสดงผล Glance ได้ สาเหตุก็เนื่องมาจากเป็นการลดต้นทุนนั่นเอง จริงอยู่ที่จอมันขนาดแค่ 5 นิ้วเอง ทำไมบน Lumia 1020 หรือแม้กระทั่ง Lumia 925 ยังสามารถแสดงผล Glance screen ได้เลย ? ต้องบอกว่าจอบน Lumia 930 นั้นเป็นแบบ Full HD ด้วย ในขณะที่บนรุ่น Lumia 1020 และ 925 เป็นเพียง HD ธรรมดา ต้นทุกจึงต่างกันมากพอสมควร และความกดดันที่ทำให้ต้องวางขายราคาต่ำ จึงเลือกใช้จอที่มีต้นทุนน้อยๆมาใช้ แต่ข้อดีของมันคือ มีสีที่สดมากๆ และพื้นที่สีดำมันจะดำสนิท เพราะจอชนิดนี้ เม็ด Pixel สามารถเรืองแสงได้เองโดยไม่อาศัยแสง Backlight เมื่อจะแสดงสีดำก็แค่ไม่เรืองแสงเท่านั้น การแสดงผลสีดำจึงทำได้ดีกว่าบนจอ LCD ที่อาศัยแสง Backlight และข้อเสียอีกอย่างหนึ่งของจอ OLED คือ การเคลื่อนที่หรือการลำเลียงของเม็ดสีบนจอ คือหลายคนที่ Test Drive หรือซื้อมาใช้งานแล้วจะรู้สึกว่ามันหน่วงนิดๆ ซึ่งไม่ได้มีผลอะไรมากครับ แต่จะบอกว่ามันไม่ได้เป็นปัญหาที่เครื่อง แต่มันเป็นปัญหาในการลำเสียงสีบนจอ ซึ่งทำได้ไม่เนียนเท่า LCD เห็นเป็นสีเคลื่อนที่ไปช้าๆ ออกแนวหน่วงๆครับ
เครือข่ายที่รองรับ ( Support network )
สำหรับ Nokia Lumia 930 นั้นรองรับเครือข่ายสัญญาณ 2G หรือ GSM ที่ 850 , 900 , 1800 และ 1900 MHz รองรับเครือข่าย 3G ที่ 850 , 900 , 1800 และ 2100 MHz และแน่นอนครับ รุ่นเรือธงที่มาจาก Nokia นั้นรองรับ 4G LTE ทุกรุ่น เพราะฉะนั้นใครที่จะซื้อ Nokia Lumia 930 ไม่ต้องกังวลเรื่องการเลือกใช้ซิมของเครือข่ายไหนเลย เพราะเราสามารถใช้ได้ทั้ง 3G ของ AIS , Dtac และ Truemove ( ตอนนี้มีเครือข่ายใหม่อย่าง 365 ซึ่งตอนนี้ได้ใช้เสาปล่อยสัญญาณเดียวกับ Truemove H ซึ่งจะใช้สัญญาณ 3G ที่ 850 MHz เพราะฉะนั้นใช้ 365 ได้ไม่ต้องเป็นห่วงครับ )
แบตเตอร์รี่ ( Battery Life )
ในส่วนของแบตเตอร์รี่นั้น Nokia Lumia 930 มีขนาดแบตเตอร์รี่ที่มีความจุขนาด 2420 mAh ซึ่งจริงๆเรียกว่าน้อยพอสมควรถ้าเทียบกับรุ่นเรือธงในปัจจุบัน หลังจากการใช้งาน 1 สัปดาห์มีคำตอบว่ามันอึดหรือไม่มาบอกต่อครับ คือถามว่าอึดไหม ตอบว่าไม่อึดครับ ใช้งานครบ 1 วันแบบอึดอัด โดยเฉพาะช่วงแรก ในรอบการชาร์จแบตเตอร์รี่ 3-4 ครั้งแรกนี้ต้องบอกว่าแบตไหลออกเป็นน้ำ แต่หลังจากอะไรๆเข้าที่แบตเตอร์รี่ใข้งานผ่านมา 1 สัปดาห์ ก็อึดขึ้นครับ แต่เวลาใช้แล้วให้ความรู้สึกไม่เหมือน Nokia Lmia 1520 ที่ไม่ต้องกังวลอะไรเลย ใช้ Lumia 930 ต้องคิดเผื่อไว้หน่อย ปิด 3G ไว้ ใช้ตอนจำเป็น
สำหรับในสเปคส่วนอื่นๆที่ไม่ได้ลงรายละเอียดเพราะเป็นเรื่องพื้นฐาน ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากเดิมมากนักจึงไม่ได้นำมารแนะนำครับ หากสงสัยอะไรในส่วนนี้สามารถทิ้งคำถามไว้ได้เลย
ที่มา : Nokialumiaclub