http://thaiinfonet.com/%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b9%84%e0%b8%9b/%e0%b8%9e%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99-%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b8%84%e0%b9%82%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%a5%e0%b8%94%e0%b9%8c/
ผมจะพยายามเขียนอธิบายให้เคลียร์ที่สุดนะ
เพราะเรื่องนี้มันเป้นเรื่องละเอียดอ่อนพอสมควร
ความจริงผมเห็นมานาน มีหลายเรื่องหลายเคสแล้ว ที่คนในโลกเชียลประนามใครสักคน
ที่เขาอาจมีความคิดเห็นที่"ต่าง" หรือเป็นมุม"Dark" ในตัวของเขา
แต่ดันเอาเรือไปขวางกระแสสังคมที่ไหลเชี่ยว ในโลกโซเชียลมักจะตีกลับคนที่มีความคิดต่าง ไม่ถูกใจตน
หลายครั้ง มันทำให้คนๆนั้นถึงกับไม่มีที่ยืนในชีวิตจริง
ซึ่งเรื่องนี้ในข่าว ผมเห็นด้วยกับทุกคน ว่าคนพูดมันเอาอะไรคิด
แต่ ผมมักเป็นชอบมองในอีกมุม
ผมมองว่าในเฟสบุ๊คสิ่งที่เราพูด หรือ ทำอะไรก็จะแชร์ในกลุ่มเพื่อน
แต่ก็ยังมีการcapกันไปขยายในวงกว้าง
ผมหรือใครหลายๆคน ก็มีบางครั้งที่เราอาจเห็น"ต่าง" จากกระแสสังคม
ซึ่งความเห็น"ต่าง"บางเรื่อง บางทีเขาก็อยากจะวิจารณ์ + กับบางคนมีความเกรียนส่วนตัว
แต่พอสวนกระแสไปก็โดนสับเละ แต่ยุคแห่งการแชร์นี้หลายๆครั้งน่ากลัวกว่ายุคเน็ทบ้านเมื่อสิบปีก่อนอย่างเด่นชัด
หลายครั้งที่ผมเห็นใครสักคนที่สวนกระแส พูดอะไรสักอย่างที่โลกโซเชียลรับไม่ได้ ก็จะมีคนที่เป็นนักสืบ
คนที่เป็นนักแชร์ ช่วยกันแชร์ ช่วยกันสืบ เล่นงานมัน มันอยู่ที่ไหน หาคลิปมัน หารูปมันในโปรไฟล์ แชร์ๆๆๆ ให้มันต้องออกจากงาน
บางทีผมว่ามันแรงไปที่ไปเล่นงานเขาจากความเกรียนแค่ครั้งเดียว
สมัยยังมีอมยิ้ม ผมเคยสวนกระแสสังคม เพราะผมเพียงแค่แสดงความคิด"ต่าง" แค่นั้นเอง แต่เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แบบกระแสข่าวนั้นมาแรงมาก สรุป โดนแบน โดนโขกสับ คนที่มาด่าผมบอกว่าผมมีความคิดโครตเลว ชั่วช้า สุดๆ เหมือนยังกะเรทำผิดอย่างมหันต์ ดีในยุคนั้นไม่มีการแชร์ ไม่มีนักสืบ ถ้างั้นคงโดนขุดเละแล้ว อย่างในเฟสบุ๊คยุคนี้ บางทีเคยมีอารมณ์เกรียนมั้ย ผมว่าหลายคนก็มีเขียนอะไรเกรียนๆในเฟสตัวเองที่เป็นความเห็นที่แย้งกับกระแสสังคมช่วงนั้น ก็โดนคนแคปรูปและโพสแชร์กันเป็นเรื่องเป็นราว เพราะเพื่อนผมมันเคยโดน แบบ อ้าวเฮ้ย มีรูป

แชร์มาได้ไงวะ แล้วคนที่แชร์ก็ด่า ก็โขกสับเพื่อนผม ผมโทรไปหามัน มันบอกมันแค่เกรียนแตกแต่โดนกระแสสังคมเล่นไปซะแล้ว ดีไม่ได้แชร์ไปถึงที่ทำงาน หรือ ที่บ้าน ไม่งั้นอาจโดนกระแสสังคมทำให้ออกจากงานก็ได้ ช่วงหลังๆผมระวังตัวอย่างมาก เพราะผมมีหลายเรื่องที่เห้็ต่างกับกระแสสังคม เพราะต่อไปนี้ถ้ามีความเห็นอะไรต่างกับกระแส แม้โพสในฟีดfbของตัวเอง ก็อาจจะมีหน้าเราไปโผล่ในเน็ทโดนแชร์ต่อๆกันไปไม่หยุดก็เป็นไปได้
ผมว่าบทลงทัณฑ์ของในโลกโซเชียล ที่สืบหาตัวตนจริง หรือ ทำให้เขาออกจากงานในชีวิตจริง ถ้าเกิดไปสวนกระแสอะไรสักอย่าง
ผมจะพยายามเขียนอธิบายให้เคลียร์ที่สุดนะ
เพราะเรื่องนี้มันเป้นเรื่องละเอียดอ่อนพอสมควร
ความจริงผมเห็นมานาน มีหลายเรื่องหลายเคสแล้ว ที่คนในโลกเชียลประนามใครสักคน
ที่เขาอาจมีความคิดเห็นที่"ต่าง" หรือเป็นมุม"Dark" ในตัวของเขา
แต่ดันเอาเรือไปขวางกระแสสังคมที่ไหลเชี่ยว ในโลกโซเชียลมักจะตีกลับคนที่มีความคิดต่าง ไม่ถูกใจตน
หลายครั้ง มันทำให้คนๆนั้นถึงกับไม่มีที่ยืนในชีวิตจริง
ซึ่งเรื่องนี้ในข่าว ผมเห็นด้วยกับทุกคน ว่าคนพูดมันเอาอะไรคิด
แต่ ผมมักเป็นชอบมองในอีกมุม
ผมมองว่าในเฟสบุ๊คสิ่งที่เราพูด หรือ ทำอะไรก็จะแชร์ในกลุ่มเพื่อน
แต่ก็ยังมีการcapกันไปขยายในวงกว้าง
ผมหรือใครหลายๆคน ก็มีบางครั้งที่เราอาจเห็น"ต่าง" จากกระแสสังคม
ซึ่งความเห็น"ต่าง"บางเรื่อง บางทีเขาก็อยากจะวิจารณ์ + กับบางคนมีความเกรียนส่วนตัว
แต่พอสวนกระแสไปก็โดนสับเละ แต่ยุคแห่งการแชร์นี้หลายๆครั้งน่ากลัวกว่ายุคเน็ทบ้านเมื่อสิบปีก่อนอย่างเด่นชัด
หลายครั้งที่ผมเห็นใครสักคนที่สวนกระแส พูดอะไรสักอย่างที่โลกโซเชียลรับไม่ได้ ก็จะมีคนที่เป็นนักสืบ
คนที่เป็นนักแชร์ ช่วยกันแชร์ ช่วยกันสืบ เล่นงานมัน มันอยู่ที่ไหน หาคลิปมัน หารูปมันในโปรไฟล์ แชร์ๆๆๆ ให้มันต้องออกจากงาน
บางทีผมว่ามันแรงไปที่ไปเล่นงานเขาจากความเกรียนแค่ครั้งเดียว
สมัยยังมีอมยิ้ม ผมเคยสวนกระแสสังคม เพราะผมเพียงแค่แสดงความคิด"ต่าง" แค่นั้นเอง แต่เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แบบกระแสข่าวนั้นมาแรงมาก สรุป โดนแบน โดนโขกสับ คนที่มาด่าผมบอกว่าผมมีความคิดโครตเลว ชั่วช้า สุดๆ เหมือนยังกะเรทำผิดอย่างมหันต์ ดีในยุคนั้นไม่มีการแชร์ ไม่มีนักสืบ ถ้างั้นคงโดนขุดเละแล้ว อย่างในเฟสบุ๊คยุคนี้ บางทีเคยมีอารมณ์เกรียนมั้ย ผมว่าหลายคนก็มีเขียนอะไรเกรียนๆในเฟสตัวเองที่เป็นความเห็นที่แย้งกับกระแสสังคมช่วงนั้น ก็โดนคนแคปรูปและโพสแชร์กันเป็นเรื่องเป็นราว เพราะเพื่อนผมมันเคยโดน แบบ อ้าวเฮ้ย มีรูป