จำได้ว่าสมัยก่อนบ้านจขกท.จะมีกิจกรรมที่ให้ทำร่วมกันอย่างหนึ่งคือ ดูทีวี ครับ
เวลาดูทีวีเป็นเวลาที่ทุกคนในบ้านจะมาอยู่ร่วมกัน ฉากไหนสนุกเราก็หัวเราะ ฉากไหนตื่นเต้นเราก็ช่วยกันลุ้น
ช่วงเวลาพักโฆษณาจะเป็นช่วงที่ทุกคนในบ้านได้คุยกันครับ อย่างเช่น
วันนี้ที่โรงเรียนผมเรียนอะไรบ้าง กินข้าวกับอะไร แม่ทำงานเหนื่อยไหม พักเที่ยงกี่โมง เป็นต้น
ผมจำได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่อบอุ่นแล้วมีความสุขมากๆ
เนื่องจากครอบครัวเราไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันเท่าไหร่ เวลาไปทานข้าวนอกบ้าน
บางครั้งช่วงรออาหารนานๆ เราก็จะคุยกันครับว่า ที่โรงเรียนผมเป็นอย่างไหร่ หรือ พ่อทำงานเครียดไหม
ถ้ากินข้าวเสร็จแล้วเราจะไปไหนกันต่อดี หรือ บางทีก็คุยกันถึงว่าหยุดยาวปีนี้ไปเที่ยวต่างจังหวัดที่ไหน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พ่อผมเค้างานยุ่งมากครับ ทำตั้งแต่เช้าเลิกดึกทุกวัน
นอกจากเรื่องครอบครัวที่จขกท.นึกถึงแล้วก็ยังมีเรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่งครับ นั่นคือเรื่อง "จีบสาว" ครับ
สมัยก่อนเวลาเจอใครที่ถูกใจแล้วอยากจะสานต่อ จขกท.ยอมรับว่ายากพอสมควรครับ
คำถามแรกๆจะเป็น "พรุ่งนี้จะได้เจอกันไหม" "เธอมาแถวนี้บ่อยหรือปล่าว" "ขอเบอร์ได้ไหมครับ"<<คำถามท้ายนี่มีสิทธิ์โดนมองหน้านะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซึ่งค่าโทรศัพท์ก็แสนแพงชนิดที่ว่า ต้องยอมอดข้าวกลางวันเติมเงินเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ
หากเป็นสมัยไม่มีโทรศัพท์หรือยังมีแต่โทรศัพท์สาธารณะและโทรศัพท์บิ๊กเบิ้ม
คำถามก็อาจเปลี่ยนเป็นที่อยู่ "เพื่อให้เขียนจดหมายหากัน"
คำพูดที่ว่า "ไว้เราเขียนถึงเธอนะ" สำหรับจขกท.มันโรแมนติคมากเลยครับ ><
มีใครคิดถึงเหตุการณ์ตอนไม่มี smartphone หรือ internet เหมือนจขกท.บ้างครับ
ถ้าถามความเห็นส่วนตัว จขกท.คิดว่า smartphone ก็เป็นเพียงแค่เทคโนโลยีหนึ่ง
สิ่งสำคัญนั้นอยู่ที่ตัวเราว่าเราจะยอมให้เทคโนโลยีมามีบทบาทเหนือความสัมพันธ์จริงๆหรือไม่
ใครคิดถึงสมัยก่อนตอนไม่มี smartphone หรือ internet บ้างครับ มาแชร์ความรู้สึกกันครับ
เวลาดูทีวีเป็นเวลาที่ทุกคนในบ้านจะมาอยู่ร่วมกัน ฉากไหนสนุกเราก็หัวเราะ ฉากไหนตื่นเต้นเราก็ช่วยกันลุ้น
ช่วงเวลาพักโฆษณาจะเป็นช่วงที่ทุกคนในบ้านได้คุยกันครับ อย่างเช่น
วันนี้ที่โรงเรียนผมเรียนอะไรบ้าง กินข้าวกับอะไร แม่ทำงานเหนื่อยไหม พักเที่ยงกี่โมง เป็นต้น
ผมจำได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่อบอุ่นแล้วมีความสุขมากๆ
เนื่องจากครอบครัวเราไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันเท่าไหร่ เวลาไปทานข้าวนอกบ้าน
บางครั้งช่วงรออาหารนานๆ เราก็จะคุยกันครับว่า ที่โรงเรียนผมเป็นอย่างไหร่ หรือ พ่อทำงานเครียดไหม
ถ้ากินข้าวเสร็จแล้วเราจะไปไหนกันต่อดี หรือ บางทีก็คุยกันถึงว่าหยุดยาวปีนี้ไปเที่ยวต่างจังหวัดที่ไหน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นอกจากเรื่องครอบครัวที่จขกท.นึกถึงแล้วก็ยังมีเรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่งครับ นั่นคือเรื่อง "จีบสาว" ครับ
สมัยก่อนเวลาเจอใครที่ถูกใจแล้วอยากจะสานต่อ จขกท.ยอมรับว่ายากพอสมควรครับ
คำถามแรกๆจะเป็น "พรุ่งนี้จะได้เจอกันไหม" "เธอมาแถวนี้บ่อยหรือปล่าว" "ขอเบอร์ได้ไหมครับ"<<คำถามท้ายนี่มีสิทธิ์โดนมองหน้านะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หากเป็นสมัยไม่มีโทรศัพท์หรือยังมีแต่โทรศัพท์สาธารณะและโทรศัพท์บิ๊กเบิ้ม
คำถามก็อาจเปลี่ยนเป็นที่อยู่ "เพื่อให้เขียนจดหมายหากัน"
คำพูดที่ว่า "ไว้เราเขียนถึงเธอนะ" สำหรับจขกท.มันโรแมนติคมากเลยครับ ><
มีใครคิดถึงเหตุการณ์ตอนไม่มี smartphone หรือ internet เหมือนจขกท.บ้างครับ
ถ้าถามความเห็นส่วนตัว จขกท.คิดว่า smartphone ก็เป็นเพียงแค่เทคโนโลยีหนึ่ง
สิ่งสำคัญนั้นอยู่ที่ตัวเราว่าเราจะยอมให้เทคโนโลยีมามีบทบาทเหนือความสัมพันธ์จริงๆหรือไม่