[ยาวและไม่อยากพูดเลย ไม่อยากเลยจริงๆ]
แน่นอนว่าคดีฆ่าข่มขืนที่เกิดขึ้นนี้
เป็นเรื่องที่เลวร้ายมากๆในสายตาของดิฉัน
อย่างไรก็ตามเรื่องโทษประหารชีวิตนี้
เป็นเรื่องที่พูดยากและละเอียดอ่อนมากๆ
ตัวดิฉันเอง รู้สึกกระอักกระอ่วนใจไม่น้อยกับ
"ทางสองแพร่งเชิงจริยธรรม" ที่เกิดในใจ
ระหว่างความยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน
ใครพูด/ตัดสินเรื่องนี้ได้อย่างไม่กระอัก-
กระอ่วนใจ ฉันขอนับถือ ขอกราบตีนรัวๆ
สิทธิมนุษยชนและความเป็นคนคือเรื่องหนึ่ง
แต่การละเมิดสิทธิมนุษยชน การพรากชีวิต
ของผู้อื่นอย่างโหดร้ายทารุณก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เรื่องหนึ่งสองเรื่อง สองเรื่องที่ทั้งเกี่ยวพัน
และย้อนแย้งกันอย่างถึงที่สุด ย้อนแย้งและ
พูดยากเหลือเกิน...
แม้สำหรับฉัน คนผิดสมควรได้รับโทษที่สาสม
และฉันไม่สามารถรู้สึกเห็นใจคนที่ไม่สามารถ
ทำเช่นเดียวกันนั้นกับเด็กตัวเล็กๆที่เขาขืนใจ
เด็กตัวเล็กๆที่เขาฆ่าตายอย่างโหดร้ายทารุณ
แน่นอนว่าฉันอยากให้เขาได้รับบทลงโทษ
ที่รุนแรง บทลงโทษที่จะทำให้เขาได้รู้ซึ้งถึง
ขั้วหัวใจว่าสิ่งที่เขาทำมันเลวร้ายเพียงใด
แต่โทษประหารชีวิต คือสิ่งที่ว่านั้นหรือไม่
ฉันตอบไม่ได้ ฉันไม่ขอตอบ เพราะโดยส่วนตัว
ฉันไม่เชื่อว่าฉัน มีอำนาจใดใดที่จะไปตัดสิน
ว่าใครควรจะมีชีวิต หรือใครควรจะต้องตาย
ดังนั้นจึงขอปล่อยไปให้เป็นหน้าที่ของกฎหมาย
และกระบวนการยุติธรรมของสังคม
(แต่ฉันก็ไม่สามารถตอบได้เช่นกัน ว่าถ้าคนที่
ถูกข่มขืนแล้วฆ่า เป็นแม่ หรือน้องสาวของฉัน
คำตอบที่ออกจากปากของฉันจะดิบ เถื่อน
ปราศจากการปรุงแต่งกว่านี้มากมายเพียงใด)
เรื่องน้องแก้มเป็นเรื่องที่น่าสลดหดหู่มากๆ
แต่เรื่องที่สลดหดหู่ไม่แพ้กันคือนิวส์ฟี้ด และ
กระแสสังคมในตอนนี้ และนี่คือสิ่งที่ฉันจะพูด
ตอนนี้สังคมกำลังขาดสติ คนส่วนใหญ่กำลัง
ตามน้ำ ปล่อยให้อารมณ์ความรู้สึกครอบงำ
เหตุผล เอาอารมณ์ความรู้สึกจากเรื่องนี้
ไปผูกโยงกับอีกเรื่องหนึ่งอย่างผิดฝาผิดตัว
คือเอาอารมณ์จาก"คดีฆ่าข่มขืน"
ไปผสมกับ "คดีข่มขืน" ได้อย่างน่าตกใจ
ใช่ค่ะ การข่มขืน ก็รุนแรง และเลวร้าย
แต่อยากให้เรามองด้วยเหตุผล ไม่ใช่อารมณ์
ว่าสเกลความรุนแรงมันคนละระดับกันเลยนะคะ
การเกิดกระแสที่คนในสังคมออกมาสนับ
สนุนการเพิ่มโทษ"คดีข่มขืน"ให้เป็นประหารชีวิต
(ขีดเส้นใต้"คดีข่มขืน"นะคะ ไม่ใช่ "ฆ่าข่มขืน")
มันสะท้อนให้เห็นเลยว่า เรามักง่าย และ
คิดอะไรง่ายๆเกินไป เอะอะฆ่ามัน เอะอะฆ่ามัน
มันสะท้อนให้เห็นว่าสังคมของเรา คือสังคมที่
เสพติดความรุนแรง เราจึงไม่ต้องแปลกใจเลย
ที่สังคมไทย รัฐไทย มักจะแก้ไขปัญหาต่างๆ
ด้วยการใช้ความรุนแรง โดยมีคนในสังคม
เป็นผู้สนับสนุน เช่น รัฐบาลฆ่าประชาชน
ทหารฆ่าประชาชน เพราะเห็นได้ชัดว่า เรามอง
ไม่เห็นเห็นความผิดปกติในความรุนแรงนั้นๆ
แต่ตรงกันข้าม เรากลับสนับสนุนความรุนแรง
การใช้ความรุนแรงเป็นตัวแก้ไขปัญหา
ได้อย่างหน้าชื่นตาบาน
เราเชื่อกันจริงๆเหรอคะ ว่าการเพิ่มโทษ
ประหารชีวิตในคดีข่มขืน จะป้องกันอาชญา-
กรรมเหล่านี้ได้จริงๆ ทำไมเราถึงไม่ยั้งคิดเลย
ว่า กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมมัน
ไม่ใช่แค่เรื่องของอารมณ์และความรู้สึก
มันไม่ได้ง่ายแบบนั้น
อยากให้คนไทยมีสติ ใช้เหตุผลเหนืออารมณ์
อย่าตามน้ำ ไม่รู้สิคะ ใครจะว่ายังไงไม่รู้
คดีฆ่าข่มขืนควรโดนประหารหรือไม่ฉันไม่รู้
แต่ดิฉันไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มโทษ "คดีข่มขืน"
เป็นประหารชีวิต ไม่เห็นด้วยจริงๆ
แต่ถ้าตัดจู๋ หรือฉีดหายให้จู๋เหี่ยวตลอดชีวิต
พร้อมโทษจำคุกสูงๆ นี่เห็นด้วยมากๆๆๆๆค่ะ
cr.by Artie Suptar
https://www.facebook.com/zerravie
ลักษณะ 9 ความผิดเกี่ยวกับเพศ
มาตรา 276
ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่นต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
การกระทำชำเราตามวรรคหนึ่ง หมายความว่าการกระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำโดย การใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น หรือการใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่น
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง หรือกระทำกับชายในลักษณะเดียวกันต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำความผิดระหว่างคู่สมรสและคู่สมรสนั้น ยังประสงค์จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เพียงใดก็ได้ หรือจะกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติแทนการลงโทษก็ได้ ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุก และคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ประสงค์จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาต่อไป และประสงค์จะหย่า ให้คู่สมรสฝ่ายนั้นแจ้งให้ศาลทราบ และให้ศาลแจ้งพนักงานอัยการให้ดำเนินการฟ้องหย่าให้
*หมายเหตุอ่านมาตรา 276 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมปอ. (ฉบับที่ 19) พ.ศ.2550
มาตรา 277
ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
การกระทำชำเราตามวรรคหนึ่ง หมายความว่าการกระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำ โดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น หรือการใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่น
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่เจ็ดปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นสี่พันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสามได้กระทำโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกัน อันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กหญิงหรือกระทำกับเด็กชายในลักษณะเดียวกันและเด็กนั้นไม่ยินยอม หรือได้กระทำโดยมีอาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยใช้อาวุธ ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต
ความผิดตามที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง ถ้าเป็นการกระทำโดยบุคคลอายุไม่เกินสิบแปดปีกระทำ ต่อเด็กซึ่งมีอายุกว่าสิบสามปี แต่ยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นยินยอม และภายหลังศาลอนุญาตให้ทั้งสองฝ่ายสมรสกัน ผู้กระทำผิดไม่ต้องรับโทษ ถ้าศาลอนุญาตให้สมรสในระหว่างที่ผู้กระทำผิดกำลังรับโทษในความผิดนั้นอยู่ ให้ศาลปล่อยผู้กระทำความผิดนั้นไป
หมายเหตุอ่านมาตรา 277 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมปอ. (ฉบับที่ 19) พ.ศ.2550
มาตรา 277ทวิ ถ้าการกระทำความผิดตาม
มาตรา 276 วรรคหนึ่ง หรือ มาตรา 277 วรรคหนึ่งหรือวรรคสาม เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำ
(1) รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปีและปรับตั้งแต่ สามหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต
(2) ถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
สิ่งที่ผมต้องการนำเสนอมีเท่านี้ล่ะครับ ผมมีน้องสาวอายุ10 ขวบ
ผมไม่ได้เข้าข้างผู้ต้องหา แค่อยากให้มองกันที่เหตุผล ฆ่าข่มขืน กับ ข่มขืน มันไม่เหมือนกัน
อย่าให้กฎหมายระวางโทษ
ข่มขืนมีความรุนแรงเท่ากับ
ฆ่าข่มขืนเลยครับ
ป.ล.ใครเก่งกฎหมายมีอะไรแนะนำเชิญเลยครับ
ขอสวนกระแสสังคมนิดนึงนะครับ [คดีฆ่าข่มขืนน้องแก้ม]
แน่นอนว่าคดีฆ่าข่มขืนที่เกิดขึ้นนี้
เป็นเรื่องที่เลวร้ายมากๆในสายตาของดิฉัน
อย่างไรก็ตามเรื่องโทษประหารชีวิตนี้
เป็นเรื่องที่พูดยากและละเอียดอ่อนมากๆ
ตัวดิฉันเอง รู้สึกกระอักกระอ่วนใจไม่น้อยกับ
"ทางสองแพร่งเชิงจริยธรรม" ที่เกิดในใจ
ระหว่างความยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน
ใครพูด/ตัดสินเรื่องนี้ได้อย่างไม่กระอัก-
กระอ่วนใจ ฉันขอนับถือ ขอกราบตีนรัวๆ
สิทธิมนุษยชนและความเป็นคนคือเรื่องหนึ่ง
แต่การละเมิดสิทธิมนุษยชน การพรากชีวิต
ของผู้อื่นอย่างโหดร้ายทารุณก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เรื่องหนึ่งสองเรื่อง สองเรื่องที่ทั้งเกี่ยวพัน
และย้อนแย้งกันอย่างถึงที่สุด ย้อนแย้งและ
พูดยากเหลือเกิน...
แม้สำหรับฉัน คนผิดสมควรได้รับโทษที่สาสม
และฉันไม่สามารถรู้สึกเห็นใจคนที่ไม่สามารถ
ทำเช่นเดียวกันนั้นกับเด็กตัวเล็กๆที่เขาขืนใจ
เด็กตัวเล็กๆที่เขาฆ่าตายอย่างโหดร้ายทารุณ
แน่นอนว่าฉันอยากให้เขาได้รับบทลงโทษ
ที่รุนแรง บทลงโทษที่จะทำให้เขาได้รู้ซึ้งถึง
ขั้วหัวใจว่าสิ่งที่เขาทำมันเลวร้ายเพียงใด
แต่โทษประหารชีวิต คือสิ่งที่ว่านั้นหรือไม่
ฉันตอบไม่ได้ ฉันไม่ขอตอบ เพราะโดยส่วนตัว
ฉันไม่เชื่อว่าฉัน มีอำนาจใดใดที่จะไปตัดสิน
ว่าใครควรจะมีชีวิต หรือใครควรจะต้องตาย
ดังนั้นจึงขอปล่อยไปให้เป็นหน้าที่ของกฎหมาย
และกระบวนการยุติธรรมของสังคม
(แต่ฉันก็ไม่สามารถตอบได้เช่นกัน ว่าถ้าคนที่
ถูกข่มขืนแล้วฆ่า เป็นแม่ หรือน้องสาวของฉัน
คำตอบที่ออกจากปากของฉันจะดิบ เถื่อน
ปราศจากการปรุงแต่งกว่านี้มากมายเพียงใด)
เรื่องน้องแก้มเป็นเรื่องที่น่าสลดหดหู่มากๆ
แต่เรื่องที่สลดหดหู่ไม่แพ้กันคือนิวส์ฟี้ด และ
กระแสสังคมในตอนนี้ และนี่คือสิ่งที่ฉันจะพูด
ตอนนี้สังคมกำลังขาดสติ คนส่วนใหญ่กำลัง
ตามน้ำ ปล่อยให้อารมณ์ความรู้สึกครอบงำ
เหตุผล เอาอารมณ์ความรู้สึกจากเรื่องนี้
ไปผูกโยงกับอีกเรื่องหนึ่งอย่างผิดฝาผิดตัว
คือเอาอารมณ์จาก"คดีฆ่าข่มขืน"
ไปผสมกับ "คดีข่มขืน" ได้อย่างน่าตกใจ
ใช่ค่ะ การข่มขืน ก็รุนแรง และเลวร้าย
แต่อยากให้เรามองด้วยเหตุผล ไม่ใช่อารมณ์
ว่าสเกลความรุนแรงมันคนละระดับกันเลยนะคะ
การเกิดกระแสที่คนในสังคมออกมาสนับ
สนุนการเพิ่มโทษ"คดีข่มขืน"ให้เป็นประหารชีวิต
(ขีดเส้นใต้"คดีข่มขืน"นะคะ ไม่ใช่ "ฆ่าข่มขืน")
มันสะท้อนให้เห็นเลยว่า เรามักง่าย และ
คิดอะไรง่ายๆเกินไป เอะอะฆ่ามัน เอะอะฆ่ามัน
มันสะท้อนให้เห็นว่าสังคมของเรา คือสังคมที่
เสพติดความรุนแรง เราจึงไม่ต้องแปลกใจเลย
ที่สังคมไทย รัฐไทย มักจะแก้ไขปัญหาต่างๆ
ด้วยการใช้ความรุนแรง โดยมีคนในสังคม
เป็นผู้สนับสนุน เช่น รัฐบาลฆ่าประชาชน
ทหารฆ่าประชาชน เพราะเห็นได้ชัดว่า เรามอง
ไม่เห็นเห็นความผิดปกติในความรุนแรงนั้นๆ
แต่ตรงกันข้าม เรากลับสนับสนุนความรุนแรง
การใช้ความรุนแรงเป็นตัวแก้ไขปัญหา
ได้อย่างหน้าชื่นตาบาน
เราเชื่อกันจริงๆเหรอคะ ว่าการเพิ่มโทษ
ประหารชีวิตในคดีข่มขืน จะป้องกันอาชญา-
กรรมเหล่านี้ได้จริงๆ ทำไมเราถึงไม่ยั้งคิดเลย
ว่า กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมมัน
ไม่ใช่แค่เรื่องของอารมณ์และความรู้สึก
มันไม่ได้ง่ายแบบนั้น
อยากให้คนไทยมีสติ ใช้เหตุผลเหนืออารมณ์
อย่าตามน้ำ ไม่รู้สิคะ ใครจะว่ายังไงไม่รู้
คดีฆ่าข่มขืนควรโดนประหารหรือไม่ฉันไม่รู้
แต่ดิฉันไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มโทษ "คดีข่มขืน"
เป็นประหารชีวิต ไม่เห็นด้วยจริงๆ
แต่ถ้าตัดจู๋ หรือฉีดหายให้จู๋เหี่ยวตลอดชีวิต
พร้อมโทษจำคุกสูงๆ นี่เห็นด้วยมากๆๆๆๆค่ะ
cr.by Artie Suptar
https://www.facebook.com/zerravie
ลักษณะ 9 ความผิดเกี่ยวกับเพศ
มาตรา 276 ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่นต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
การกระทำชำเราตามวรรคหนึ่ง หมายความว่าการกระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำโดย การใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น หรือการใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่น
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง หรือกระทำกับชายในลักษณะเดียวกันต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำความผิดระหว่างคู่สมรสและคู่สมรสนั้น ยังประสงค์จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เพียงใดก็ได้ หรือจะกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติแทนการลงโทษก็ได้ ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุก และคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ประสงค์จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาต่อไป และประสงค์จะหย่า ให้คู่สมรสฝ่ายนั้นแจ้งให้ศาลทราบ และให้ศาลแจ้งพนักงานอัยการให้ดำเนินการฟ้องหย่าให้
*หมายเหตุอ่านมาตรา 276 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมปอ. (ฉบับที่ 19) พ.ศ.2550
มาตรา 277 ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
การกระทำชำเราตามวรรคหนึ่ง หมายความว่าการกระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำ โดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น หรือการใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่น
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่เจ็ดปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นสี่พันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสามได้กระทำโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกัน อันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กหญิงหรือกระทำกับเด็กชายในลักษณะเดียวกันและเด็กนั้นไม่ยินยอม หรือได้กระทำโดยมีอาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยใช้อาวุธ ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต
ความผิดตามที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง ถ้าเป็นการกระทำโดยบุคคลอายุไม่เกินสิบแปดปีกระทำ ต่อเด็กซึ่งมีอายุกว่าสิบสามปี แต่ยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นยินยอม และภายหลังศาลอนุญาตให้ทั้งสองฝ่ายสมรสกัน ผู้กระทำผิดไม่ต้องรับโทษ ถ้าศาลอนุญาตให้สมรสในระหว่างที่ผู้กระทำผิดกำลังรับโทษในความผิดนั้นอยู่ ให้ศาลปล่อยผู้กระทำความผิดนั้นไป
หมายเหตุอ่านมาตรา 277 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมปอ. (ฉบับที่ 19) พ.ศ.2550
มาตรา 277ทวิ ถ้าการกระทำความผิดตาม มาตรา 276 วรรคหนึ่ง หรือ มาตรา 277 วรรคหนึ่งหรือวรรคสาม เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำ
(1) รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปีและปรับตั้งแต่ สามหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต
(2) ถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
สิ่งที่ผมต้องการนำเสนอมีเท่านี้ล่ะครับ ผมมีน้องสาวอายุ10 ขวบ
ผมไม่ได้เข้าข้างผู้ต้องหา แค่อยากให้มองกันที่เหตุผล ฆ่าข่มขืน กับ ข่มขืน มันไม่เหมือนกัน
อย่าให้กฎหมายระวางโทษข่มขืนมีความรุนแรงเท่ากับฆ่าข่มขืนเลยครับ
ป.ล.ใครเก่งกฎหมายมีอะไรแนะนำเชิญเลยครับ