จากเรื่องน้องแก้ม ทำให้เรารู้สึกสลดหดหู่ แล้วความทรงจำ (ที่ไม่อยากจำ) ก็กลับมา ไม่เคยคิดจะเล่าให้ใครฟังแต่ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับน้องผู้หญิง และพ่อแม่
ครอบครัวเราค่อนข้างใหญ่ พ่อแม่มีลูก 5 คน เราเป็นคนสุดท้อง เราเป็นลูกบุญธรรมที่ครอบครัวเค้าเลี้ยงเรามาตั้งแต่วันแรกที่ลืมตา (เรื่องยาว เดี๋ยวค่อยกลับมาเล่า) เค้าเลี้ยงด้วยความรัก เรากับพี่ๆรักกันเหมือนพี่น้องแท้
ตอนเกิดเหตูจำไม่ได้ว่าอายุเท่าไร่ แต่เราน่าจะทำกำลังเรียน ปวช ที่บ้านอยู่กัน 7 คน พ่อแม่ พี่สาวพี่เขย พี่ชายและเรา พ่อกับพี่ชายรับราชการไปทำงานตั้งแต่ 7โมงครึ่ง (แบบนี้ทุกวัน) แม่ไปจ่ายตลาดแต่เช้าทุกวัน (ขายอาหารตามสั่งหน้าบ้าน) เพราพี่เขยทำงานโรงแรมเข้าเป็นกะ ถ้าวันหยุดเราจะตามไปช่วยแม่หิ้วของที่ตลาดประมาณ 8 โมง
วันเกิดเหตูพ่อกับพี่ไปทำงาน แม่ไปตลาด เราก็อาบน้ำจะไปช่วยแม่หิ้วของ ตอนเข้าห้องน้ำเรานุ่งผ้าเช็ดตัว เอาชุดชั้นในใหม่ไปใส่ในห้องน้ำ (บ้านมีห้องน้ำเดียว) พออาบเสร็จก็นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมา ตอนเปิดประตูแล้วกำลังจะก้าวออกมา มีแขนล๊อคคอแล้วลากเราถอยหลังเข้าห้องน้ำ เราล้มก้นจ้ำลงกับพื้นห้องน้ำ ผู้ชายที่ยืนอยู่หน้าเราคือพี่เขย (อายุห่างเราประมาณ 12 ปี) เค้าพยายามนั่งคล่อมแล้วถอมผ้าเช็ดตัวเราออก บอกเลยว่าตอนนั้นเราตกใจมาก สู้สุดฤทธิ์ ทั้งตกทั้งจิกข่วน ทำทุกอย่าง มือก็สั่น ใจก็สั่น ร้องกรี๊ดๆให้คนช่วย พอได้จังหวะหลุดออกมาจากห้องน้ำได้เราวิ่งไปเอามีดในครัว บอกมันว่า ถ้าเข้ากูจะฆ่า ตอนนั้นเสียงสั่น น้ำตาไหลไม่หยุด มันวิ่งหนีออกไปจากบ้าน เรารีบวิ่งไปบ้านๆข้าง (ป้าเค้ามีลูกสาว 2 คนเป็นเพื่อนเรา) พอเค้าให้สถาพเรา มีผ้าขนหนูผืนเดียว เค้าร้องไห้เลย ไม่ต้องเล่าก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วใครทำ เรารอจำแม่กลับมาป้าก็พากลับบ้านแล้วก็เล่าให้แม่ฟัง แม่บอกว่ารอพ่อกลับมาก่อน แม่ไม่ได้ปฏิกิริยาอะไร ไม่ตกใจ ไม่กอด ไม่ปลอบ แกก็ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เข้าครัวเตรียมของขาย พ่อเลิกงานตอน 4 โมงเย็น เราก็เล่าให้พ่อฟังพร้อมกับทุกคนในบ้าน รวมถึงพี่สาวก็อยู่ด้วย พี่สาวไม่พูดอะไร พ่อพูดว่า "ทำไมชอบหาแต่เรื่อง" ตอนนั้นเราร้องไห้แบบเบรกแตก เสียใจที่พ่อคิดว่าเป็นความผิดเรา พี่ชายก็เข้ามาบอกว่า "แล้วมันข่นขืนแล้วหรือยังล่ะ ก็ยังใช่มั้ย แล้วจะมาเล่าให้เป็นเรื่องทำไม" จากความทรงจำที่ขี่คอพ่อเที่ยว พ่อเล่านิทานให้ฟัง คือเราค่อนข้างสนิทกับพ่อมาก วินาทีนั้นเรารู้เลยว่าโลกนี้เราไม่มีใคร ยังไงเลือดก็ข้นกว่าน้ำ ไม่มีใครเห็นใจ ทุกคนไม่ยอมแม้แต่จะพาเราไปแจ้งความ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ประมาณอาทิตย์หลังจากนั้น ไอ้คนนั้นมันกลับมา มันเข้าบ้านโดยไม่พูดอะไร แล้วก็มากินข้าวเย็นร่วมโต๊ะกับทุกคนเหมือนไ่ม่มีอะไรเกิดขึ้น เราเลิกกินกำลังจะลุกเอาจานไปเก็บ พ่อก็ด่าว่าแล้วบอกว่านั่งกินให้หมด อย่าสร้างปัญหา
หลังจากนั้นเมื่อมีโอกาสที่เราต้องอยู่กับมันสองคนในบ้าน มันจะเปิดวิดีโอโป๊ในห้องรับแขก แล้วปิดประตูหน้าต่าง ทั้งๆที่มันก็รู้ว่าเราอยู่ในบ้าน เราไม่หนีแล้วก็ไม่กลัวมัน เราเดินไปเปิดประตูหน้าต่าง แล้วก็ตะโกนสียงดังให้ป้าข้างบ้านรู้ว่าเรารู้กับ ไอ้นรกสองคนในบ้าน มันก็จะปิดวิดีโอหนีเข้าห้อง บ้านเราเป็นบ้านเช่าแคบๆ มีแต่ห้องนอนเดียวซึ่งมันอยู่กับพี่สาว พ่อแม่ พี่ชายและเรานอนรวมกันให้ห้องรับแขก (กิน นอน นั่ง ในห้องเดียว) บางวัน ไอ้นรกมันก็จะเขียนโน๊ตใส่กระเป๋านักเรียนเรา ประมาณว่า รักน้องที่สุด แล้วก็มีเงิน 100 นึงพับไว้กับโน๊ต เราเอาไปให้พี่สาวดู เค้าฉีกทิ้ง จากนั้นเรารอว่าถ้ามันเขียนอีกเราจะเอาไปให้พ่อ แต่มันก็ไม่เขียนอีกเลย วันแรกๆที่เกิดเรื่องเราอาบน้ำไม่ได้เลย แค่เห็นห้องน้ำขาเราก็สั่น กลัวไปหมด ต้องไปอาศัยป้าข้างบ้านอาบน้ำอยู่เกือบอาทิตย์ พ่อก็ว่าเรา หาว่าเรื่องเยอะ นอกจากเรื่องนี้ที่บ้านก็ทำตัวปกติ ไม่ลำเอียง หรือด่าว่าอะไร
เราคงอยู่บ้านเดียวกับมันอีกหลายปี จนจบและทำงานเลยแยกออกมา ตอนนี้เราแต่งงานแล้วมีครอบครัวที่น่ารัก เราก็เล่าเรื่องนี้ให้สามีฟังด้วย เค้าโกรธแทนเราว่าทำไมครอบครัวเราถึงไม่ปกป้องแล้วก็เอาผิดไอ้นรกนั่น ถึงตอนนี้เราเข้าใจว่า พ่อแม่การศึกษาน้อย ปากกัดตีนทีบหลายปากท้อง แกก็ไม่รู้ว่าต้องจัดการยังงัยกับเรื่องแบบนี้ ไม่เคยคิดว่าจะเกิด คิดเอาง่ายๆว่า ถ้าไม่เลือดตกยางออกก็โอเค แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาหากินต่อไป ไม่เคยรู้ว่าเรื่องนั้นมันมีผลกับลูกสาวยังงัย ทุกครั้งที่มีข่าวข่มขื่นเรารู้สึกกลัว รู้สึกซึมเศร้า ใช้เวลามากกว่า 10 ปีถึงทำใจพูดถึงเรื่องนี้ได้ ตอนนี้เราให้อภัยพ่อกับและพี่ๆ แต่เราไม่มีให้อภัยไอ้นรกนั่น จนวันตาย
ขอให้ครอบครัวที่มีลูกสาวระวังภัยจากคนใกล้ตัวด้วย คุณไม่มีทางรู้เลยว่าคบรอบข้างคนจะเป็นอสูรกายเมื่อไหร่ ปิดช่องทาง ปิดโอกาสให้หมด ที่สำคัญสังเกตุ และรับฟัง อย่าให้เค้ารู้สึกว่าโลกนี้เค้าไม่มีใคร
เกือบโดนข่มขืนจากคนในครอบครัว....
ครอบครัวเราค่อนข้างใหญ่ พ่อแม่มีลูก 5 คน เราเป็นคนสุดท้อง เราเป็นลูกบุญธรรมที่ครอบครัวเค้าเลี้ยงเรามาตั้งแต่วันแรกที่ลืมตา (เรื่องยาว เดี๋ยวค่อยกลับมาเล่า) เค้าเลี้ยงด้วยความรัก เรากับพี่ๆรักกันเหมือนพี่น้องแท้
ตอนเกิดเหตูจำไม่ได้ว่าอายุเท่าไร่ แต่เราน่าจะทำกำลังเรียน ปวช ที่บ้านอยู่กัน 7 คน พ่อแม่ พี่สาวพี่เขย พี่ชายและเรา พ่อกับพี่ชายรับราชการไปทำงานตั้งแต่ 7โมงครึ่ง (แบบนี้ทุกวัน) แม่ไปจ่ายตลาดแต่เช้าทุกวัน (ขายอาหารตามสั่งหน้าบ้าน) เพราพี่เขยทำงานโรงแรมเข้าเป็นกะ ถ้าวันหยุดเราจะตามไปช่วยแม่หิ้วของที่ตลาดประมาณ 8 โมง
วันเกิดเหตูพ่อกับพี่ไปทำงาน แม่ไปตลาด เราก็อาบน้ำจะไปช่วยแม่หิ้วของ ตอนเข้าห้องน้ำเรานุ่งผ้าเช็ดตัว เอาชุดชั้นในใหม่ไปใส่ในห้องน้ำ (บ้านมีห้องน้ำเดียว) พออาบเสร็จก็นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมา ตอนเปิดประตูแล้วกำลังจะก้าวออกมา มีแขนล๊อคคอแล้วลากเราถอยหลังเข้าห้องน้ำ เราล้มก้นจ้ำลงกับพื้นห้องน้ำ ผู้ชายที่ยืนอยู่หน้าเราคือพี่เขย (อายุห่างเราประมาณ 12 ปี) เค้าพยายามนั่งคล่อมแล้วถอมผ้าเช็ดตัวเราออก บอกเลยว่าตอนนั้นเราตกใจมาก สู้สุดฤทธิ์ ทั้งตกทั้งจิกข่วน ทำทุกอย่าง มือก็สั่น ใจก็สั่น ร้องกรี๊ดๆให้คนช่วย พอได้จังหวะหลุดออกมาจากห้องน้ำได้เราวิ่งไปเอามีดในครัว บอกมันว่า ถ้าเข้ากูจะฆ่า ตอนนั้นเสียงสั่น น้ำตาไหลไม่หยุด มันวิ่งหนีออกไปจากบ้าน เรารีบวิ่งไปบ้านๆข้าง (ป้าเค้ามีลูกสาว 2 คนเป็นเพื่อนเรา) พอเค้าให้สถาพเรา มีผ้าขนหนูผืนเดียว เค้าร้องไห้เลย ไม่ต้องเล่าก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วใครทำ เรารอจำแม่กลับมาป้าก็พากลับบ้านแล้วก็เล่าให้แม่ฟัง แม่บอกว่ารอพ่อกลับมาก่อน แม่ไม่ได้ปฏิกิริยาอะไร ไม่ตกใจ ไม่กอด ไม่ปลอบ แกก็ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เข้าครัวเตรียมของขาย พ่อเลิกงานตอน 4 โมงเย็น เราก็เล่าให้พ่อฟังพร้อมกับทุกคนในบ้าน รวมถึงพี่สาวก็อยู่ด้วย พี่สาวไม่พูดอะไร พ่อพูดว่า "ทำไมชอบหาแต่เรื่อง" ตอนนั้นเราร้องไห้แบบเบรกแตก เสียใจที่พ่อคิดว่าเป็นความผิดเรา พี่ชายก็เข้ามาบอกว่า "แล้วมันข่นขืนแล้วหรือยังล่ะ ก็ยังใช่มั้ย แล้วจะมาเล่าให้เป็นเรื่องทำไม" จากความทรงจำที่ขี่คอพ่อเที่ยว พ่อเล่านิทานให้ฟัง คือเราค่อนข้างสนิทกับพ่อมาก วินาทีนั้นเรารู้เลยว่าโลกนี้เราไม่มีใคร ยังไงเลือดก็ข้นกว่าน้ำ ไม่มีใครเห็นใจ ทุกคนไม่ยอมแม้แต่จะพาเราไปแจ้งความ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ประมาณอาทิตย์หลังจากนั้น ไอ้คนนั้นมันกลับมา มันเข้าบ้านโดยไม่พูดอะไร แล้วก็มากินข้าวเย็นร่วมโต๊ะกับทุกคนเหมือนไ่ม่มีอะไรเกิดขึ้น เราเลิกกินกำลังจะลุกเอาจานไปเก็บ พ่อก็ด่าว่าแล้วบอกว่านั่งกินให้หมด อย่าสร้างปัญหา
หลังจากนั้นเมื่อมีโอกาสที่เราต้องอยู่กับมันสองคนในบ้าน มันจะเปิดวิดีโอโป๊ในห้องรับแขก แล้วปิดประตูหน้าต่าง ทั้งๆที่มันก็รู้ว่าเราอยู่ในบ้าน เราไม่หนีแล้วก็ไม่กลัวมัน เราเดินไปเปิดประตูหน้าต่าง แล้วก็ตะโกนสียงดังให้ป้าข้างบ้านรู้ว่าเรารู้กับ ไอ้นรกสองคนในบ้าน มันก็จะปิดวิดีโอหนีเข้าห้อง บ้านเราเป็นบ้านเช่าแคบๆ มีแต่ห้องนอนเดียวซึ่งมันอยู่กับพี่สาว พ่อแม่ พี่ชายและเรานอนรวมกันให้ห้องรับแขก (กิน นอน นั่ง ในห้องเดียว) บางวัน ไอ้นรกมันก็จะเขียนโน๊ตใส่กระเป๋านักเรียนเรา ประมาณว่า รักน้องที่สุด แล้วก็มีเงิน 100 นึงพับไว้กับโน๊ต เราเอาไปให้พี่สาวดู เค้าฉีกทิ้ง จากนั้นเรารอว่าถ้ามันเขียนอีกเราจะเอาไปให้พ่อ แต่มันก็ไม่เขียนอีกเลย วันแรกๆที่เกิดเรื่องเราอาบน้ำไม่ได้เลย แค่เห็นห้องน้ำขาเราก็สั่น กลัวไปหมด ต้องไปอาศัยป้าข้างบ้านอาบน้ำอยู่เกือบอาทิตย์ พ่อก็ว่าเรา หาว่าเรื่องเยอะ นอกจากเรื่องนี้ที่บ้านก็ทำตัวปกติ ไม่ลำเอียง หรือด่าว่าอะไร
เราคงอยู่บ้านเดียวกับมันอีกหลายปี จนจบและทำงานเลยแยกออกมา ตอนนี้เราแต่งงานแล้วมีครอบครัวที่น่ารัก เราก็เล่าเรื่องนี้ให้สามีฟังด้วย เค้าโกรธแทนเราว่าทำไมครอบครัวเราถึงไม่ปกป้องแล้วก็เอาผิดไอ้นรกนั่น ถึงตอนนี้เราเข้าใจว่า พ่อแม่การศึกษาน้อย ปากกัดตีนทีบหลายปากท้อง แกก็ไม่รู้ว่าต้องจัดการยังงัยกับเรื่องแบบนี้ ไม่เคยคิดว่าจะเกิด คิดเอาง่ายๆว่า ถ้าไม่เลือดตกยางออกก็โอเค แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาหากินต่อไป ไม่เคยรู้ว่าเรื่องนั้นมันมีผลกับลูกสาวยังงัย ทุกครั้งที่มีข่าวข่มขื่นเรารู้สึกกลัว รู้สึกซึมเศร้า ใช้เวลามากกว่า 10 ปีถึงทำใจพูดถึงเรื่องนี้ได้ ตอนนี้เราให้อภัยพ่อกับและพี่ๆ แต่เราไม่มีให้อภัยไอ้นรกนั่น จนวันตาย
ขอให้ครอบครัวที่มีลูกสาวระวังภัยจากคนใกล้ตัวด้วย คุณไม่มีทางรู้เลยว่าคบรอบข้างคนจะเป็นอสูรกายเมื่อไหร่ ปิดช่องทาง ปิดโอกาสให้หมด ที่สำคัญสังเกตุ และรับฟัง อย่าให้เค้ารู้สึกว่าโลกนี้เค้าไม่มีใคร