สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 26
ป้าด.. อ่านๆ ไป เห็นมีเรื่องฟ้องๆๆๆๆๆๆ วิญญาณที่อยากเป็นนักกฎหมายรู้สึกตื่นขึ้นมาโดยพลัน..อิอิ
ไปค้นประมวลกฎหมายอาญา เพราะสงสัยว่า ถ้า จขกท โดนฟ้องจริง จะโดนความผิดมาตราอะไรบ้าง แน่นอนต้องโดน..
มาตรา 326* ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 330 ในกรณีหมิ่นประมาท ถ้าผู้ถูกหาว่ากระทำความผิด
พิสูจน์ได้ว่าข้อที่หาว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นความจริง ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ
แต่ห้ามไม่ให้พิสูจน์ ถ้าข้อที่หาว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นการใส่ความในเรื่องส่วนตัว
และการพิสูจน์จะไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน
แปลว่า ถ้า จขกท โดนฟ้องจริง ก็จะโดนข้อหาฐานหมิ่นประมาท มาตรา 326
เพราะเป็นการใส่ความต่อคนอื่น ทำให้คนนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือเกลียดชัง
แต่กฎหมายก็มีข้อยกเว้นว่า จขกท จะไม่ผิด ไม่ต้องรับโทษอะไรเลย ตาม มาตรา 330 ถ้า จขกท พิสูจน์ได้ว่าข้อความที่ จขกท พูดมาทั้งหมดนั้นเป็นความจริง และเป็นความจริงที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนทั่วไป
อันนี้ก็ต้องมาตีความว่า สิ่งที่ จขกท พูดมาทั้งหมด มันครบสองข้อหรือไม่ คือ
1. เป็นความจริงหรือไม่ และ 2. เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมหรือไม่
ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว ระหว่าง จขกท กับผู้เสียหาย และไม่มีประโยชน์กับส่วนรวมเลย จขกท ก็ผิดแน่นอน ถึงพูดเรื่องจริงก็ผิด
แต่ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง (จะส่วนตัวหรือไม่ก็ตาม) และมีประโยชน์ต่อส่วนรวม จขกท ก็รอด ชนะคดีใสๆ
แล้วถ้าฟ้องจะมีอะไรเกิดขึ้น.. เราว่า ถ้า จขกท พิสูจน์ได้ว่าเรื่องนี้มีประโยชน์ต่อส่วนรวม จขกท ก็ชนะ
ถ้า จขกท แพ้ ศาลก็ต้องสั่งให้ จขกท จ่ายค่าปรับ เป็นจำนวนเงิน ตั้งแต่ หนึ่งบาท ถึงสองหมื่นบาท
คือศาลห้ามปรับเกินสองหมื่นบาทเด็ดขาด แต่ศาลจะสั่งให้จ่ายค่าปรับ ห้าบาท ศาลก็ทำได้ นี่ยกตัวอย่างนะ
และคดีเล็กน้อยแบบนี้ ศาลไม่ให้ติดคุกแน่นอน อย่างมากก็จ่ายค่าปรับอย่างเดียว
แต่คนฟ้องจะเป็นยังไง ถ้าแพ้ ก็เสียชื่อ ถ้าชนะ ก็เสียชื่อ เพราะคงเป็นเรื่องดังออกไปในวงกว้างอีกเยอะ
หนังสือพิมพ์อาจจะเอาไปลงข่าว แล้วสื่ออีกหลายหลากอีกล่ะ... สรุปเรื่องนี้ ทนายความรวย..
และสปอนเซอร์ ก็จะเริ่มฉลาดขึ้น ว่ายอดไลค์ ยอดโหวต มหาศาลที่เห็นนั้น ไม่ใช่มาจากคนอ่านรีวิวอย่างเดียว
แต่มันมาจากการปั่นหุ้น..เอร๊ย..ปั่นกระทู้ ด้วยเทคนิควิธีการ ที่ จขกท แฉมาทั้งหมด
ไปค้นประมวลกฎหมายอาญา เพราะสงสัยว่า ถ้า จขกท โดนฟ้องจริง จะโดนความผิดมาตราอะไรบ้าง แน่นอนต้องโดน..
มาตรา 326* ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 330 ในกรณีหมิ่นประมาท ถ้าผู้ถูกหาว่ากระทำความผิด
พิสูจน์ได้ว่าข้อที่หาว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นความจริง ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ
แต่ห้ามไม่ให้พิสูจน์ ถ้าข้อที่หาว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นการใส่ความในเรื่องส่วนตัว
และการพิสูจน์จะไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน
แปลว่า ถ้า จขกท โดนฟ้องจริง ก็จะโดนข้อหาฐานหมิ่นประมาท มาตรา 326
เพราะเป็นการใส่ความต่อคนอื่น ทำให้คนนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือเกลียดชัง
แต่กฎหมายก็มีข้อยกเว้นว่า จขกท จะไม่ผิด ไม่ต้องรับโทษอะไรเลย ตาม มาตรา 330 ถ้า จขกท พิสูจน์ได้ว่าข้อความที่ จขกท พูดมาทั้งหมดนั้นเป็นความจริง และเป็นความจริงที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนทั่วไป
อันนี้ก็ต้องมาตีความว่า สิ่งที่ จขกท พูดมาทั้งหมด มันครบสองข้อหรือไม่ คือ
1. เป็นความจริงหรือไม่ และ 2. เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมหรือไม่
ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว ระหว่าง จขกท กับผู้เสียหาย และไม่มีประโยชน์กับส่วนรวมเลย จขกท ก็ผิดแน่นอน ถึงพูดเรื่องจริงก็ผิด
แต่ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง (จะส่วนตัวหรือไม่ก็ตาม) และมีประโยชน์ต่อส่วนรวม จขกท ก็รอด ชนะคดีใสๆ
แล้วถ้าฟ้องจะมีอะไรเกิดขึ้น.. เราว่า ถ้า จขกท พิสูจน์ได้ว่าเรื่องนี้มีประโยชน์ต่อส่วนรวม จขกท ก็ชนะ
ถ้า จขกท แพ้ ศาลก็ต้องสั่งให้ จขกท จ่ายค่าปรับ เป็นจำนวนเงิน ตั้งแต่ หนึ่งบาท ถึงสองหมื่นบาท
คือศาลห้ามปรับเกินสองหมื่นบาทเด็ดขาด แต่ศาลจะสั่งให้จ่ายค่าปรับ ห้าบาท ศาลก็ทำได้ นี่ยกตัวอย่างนะ
และคดีเล็กน้อยแบบนี้ ศาลไม่ให้ติดคุกแน่นอน อย่างมากก็จ่ายค่าปรับอย่างเดียว
แต่คนฟ้องจะเป็นยังไง ถ้าแพ้ ก็เสียชื่อ ถ้าชนะ ก็เสียชื่อ เพราะคงเป็นเรื่องดังออกไปในวงกว้างอีกเยอะ
หนังสือพิมพ์อาจจะเอาไปลงข่าว แล้วสื่ออีกหลายหลากอีกล่ะ... สรุปเรื่องนี้ ทนายความรวย..
และสปอนเซอร์ ก็จะเริ่มฉลาดขึ้น ว่ายอดไลค์ ยอดโหวต มหาศาลที่เห็นนั้น ไม่ใช่มาจากคนอ่านรีวิวอย่างเดียว
แต่มันมาจากการปั่นหุ้น..เอร๊ย..ปั่นกระทู้ ด้วยเทคนิควิธีการ ที่ จขกท แฉมาทั้งหมด
ความคิดเห็นที่ 32
ถ้าจะพูดกันตรงๆ ตามหลักฐานและเหตุผล แบบไม่เข้าข้างใครเลยนะ
ที่บอกว่านักรีวิวไม่ได้โกหก เพราะใช้ SR ในการรีวิว ก็ต้องตีความอีกล่ะ ว่า SR ในความหมายของพันทิพ คืออะไร..
(จบนิติศาสตร์รามคำแหง มาหลายปี เพิ่งได้ใช้วิชาก็วันนี้แหละ.. 555555)
SR ในความหมายของพันทิพ ก็คือ
SR-Sponsored Review (ฉันไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้ฉัน
โดยที่ฉันไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว)
ก็ต้องมาดูอีกแหละ ว่าคนเขียนรีวิวที่พูดถึง ได้รับเงินจากการรีวิวนั้นหรือไม่ ซึ่งหลักฐานก็มีหลายอย่าง เช่น
จากใบเสียภาษีของนักรีวิว ไปขอได้ที่สรรพากร ว่ามีการจ่ายเงินจริงหรือไม่
และในบัญชีรายจ่ายของสปอนเซอร์ก็ต้องมีรายการนี้อยู่ด้วย ศาลสามารถสั่งให้เอาเอกสารพวกนี้มาดูได้
และหลักฐานจากที่ จขกท โพสต์ ว่าได้เงินภาษีคืนจากการรีวิว เพราะเป็นค่าวรรณกรรม ก็แปลว่ามีการจ่ายเงินกันแน่นอน
ดังนั้น แม้จะเขียน SR ในหัวกระทู้ มันก็ไม่ใช่ความหมาย SR ของพันทิพ เรื่องนี้จึงมีประโยชน์ต่อสาธารณชน
เราไม่แนะนำให้ฟ้องค่ะ แพ้แน่นอน และอย่างที่โบราณว่า เป็นความกันขึ้นโรงขึ้นศาล ไปกินขี้หมาดีกว่า
แต่เราขอเสนอทางออกให้กับพันทิพ ว่าไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอให้เพิ่ม BR (Business Review) ในการรีวิวอีกอัน
หมายถึง ผู้รีวิว ได้ไปเที่ยวฟรีหรือกินฟรีด้วย แล้วก็ได้รับเงินค่าจ้างในการรีวิวอีกต่างหาก แบบนี้ เราว่า แฟร์ๆ กับทุกฝ่ายนะ
ไม่ต้องมีปิดบังหมกเม็ดกันด้วย ไม่มีความลับให้ใครต้องมาแฉ คนเข้าไปอ่านก็รับรู้ก่อนคลิกเข้าไปชม
อิอิ.. มาเป็นขาเผือก เพราะกำลังจะไปสอบตั๋วทนาย และเรียน เนติบัณฑิต หลังจากจบปริญญาโทในเทอมนี้... หาเรื่องซ้อมมือค้าบบ.. 55555
ที่บอกว่านักรีวิวไม่ได้โกหก เพราะใช้ SR ในการรีวิว ก็ต้องตีความอีกล่ะ ว่า SR ในความหมายของพันทิพ คืออะไร..
(จบนิติศาสตร์รามคำแหง มาหลายปี เพิ่งได้ใช้วิชาก็วันนี้แหละ.. 555555)

SR ในความหมายของพันทิพ ก็คือ
SR-Sponsored Review (ฉันไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้ฉัน
โดยที่ฉันไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว)
ก็ต้องมาดูอีกแหละ ว่าคนเขียนรีวิวที่พูดถึง ได้รับเงินจากการรีวิวนั้นหรือไม่ ซึ่งหลักฐานก็มีหลายอย่าง เช่น
จากใบเสียภาษีของนักรีวิว ไปขอได้ที่สรรพากร ว่ามีการจ่ายเงินจริงหรือไม่
และในบัญชีรายจ่ายของสปอนเซอร์ก็ต้องมีรายการนี้อยู่ด้วย ศาลสามารถสั่งให้เอาเอกสารพวกนี้มาดูได้
และหลักฐานจากที่ จขกท โพสต์ ว่าได้เงินภาษีคืนจากการรีวิว เพราะเป็นค่าวรรณกรรม ก็แปลว่ามีการจ่ายเงินกันแน่นอน

ดังนั้น แม้จะเขียน SR ในหัวกระทู้ มันก็ไม่ใช่ความหมาย SR ของพันทิพ เรื่องนี้จึงมีประโยชน์ต่อสาธารณชน
เราไม่แนะนำให้ฟ้องค่ะ แพ้แน่นอน และอย่างที่โบราณว่า เป็นความกันขึ้นโรงขึ้นศาล ไปกินขี้หมาดีกว่า
แต่เราขอเสนอทางออกให้กับพันทิพ ว่าไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอให้เพิ่ม BR (Business Review) ในการรีวิวอีกอัน
หมายถึง ผู้รีวิว ได้ไปเที่ยวฟรีหรือกินฟรีด้วย แล้วก็ได้รับเงินค่าจ้างในการรีวิวอีกต่างหาก แบบนี้ เราว่า แฟร์ๆ กับทุกฝ่ายนะ
ไม่ต้องมีปิดบังหมกเม็ดกันด้วย ไม่มีความลับให้ใครต้องมาแฉ คนเข้าไปอ่านก็รับรู้ก่อนคลิกเข้าไปชม
อิอิ.. มาเป็นขาเผือก เพราะกำลังจะไปสอบตั๋วทนาย และเรียน เนติบัณฑิต หลังจากจบปริญญาโทในเทอมนี้... หาเรื่องซ้อมมือค้าบบ.. 55555
ความคิดเห็นที่ 30
อยากให้เรื่องดำเนินการถึงขั้นศาลจริงเลย จะได้เรื่องในทุกด้าน
ถึงจขกท ถ้ามีการฟ้องร้องและคุณต้องพิสูจน์เรื่อง 1. รับเงินจริงหรือเปล่า 2. เป็นประโยชน์ต่อสังคมหรือไม่
เรื่องแรกพิสูจน์ไม่ยาก ขอหมายศาลไปถึงที่ที่ถูก SR เช่น โรงแรม หรือสายการบินว่าให้ส่งหลักฐานการจ่ายเงิน (ในใบหักภาษีแจงว่าเป็นค่าอะไร ค่าจ้างเหมา?) และสัญญามาให้ศาล (อย่าลืมส่งถึงสรรพากรด้วย เอาใบหักภาษีมา cross-check) =>เบิกความเท็จต่อศาลติกคุกได้
ตามความเป็นจริงบริษัทใหญ่ๆ นะอยู่ดีๆ จะจ่ายเงินโดยไม่มีสัญญาไม่ได้หรอก (ผิดหลักธรรมภิบาล ตามเฉพาะพวกมหาชนทั้งหลาย) เราไม่รู้หรอกนะที่เขาได้เงินเป็นค่าจ้างเขียน blog อย่างเดียวหรือต้องเขียนรีวิวด้วย ถ้าเราเป็นฝ่ายโรงแรมนะ สัญญาเราต้องรัดกุมมากว่าต้องทำอะไรบ้าง ไม่เปิดกว้างหรอก ในสัญญาต้องระบุว่าต้องเขียนรีวิวใน pantip ด้วย
เรื่องที่สอง เราเคยลงเรื่องนี้ http://pantip.com/topic/31482877
http://hbr.org/2014/01/what-marketers-misunderstand-about-online-reviews/ar/1
เรื่องผลของการรีวิวที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคมันมีอยู่จริง
pantip ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า SR ต้องไม่มีการรับเงิน แต่ถ้ามารีวิวโดยใส่ SR ทั้งที่มีการรับเงินแล้วทำให้คนอื่นเข้าใจผิด (mislead) หรือเปล่า
เราจำได้เลย Hilton pattaya ที่ช่วงหนึ่งมี SR กระหน่ำน่าดู ผ่านไปไม่นานก็มีคนมาบ่นกันหลายกระทู้เลย
http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2012/09/E12700072/E12700072.html
http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2012/05/E12110563/E12110563.html
http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E13052025/E13052025.html
http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2010/12/E10007190/E10007190.html
http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E13028724/E13028724.html
อยากรู้จังว่าพวก SR ที่รับเงินมาเขียนรีวิวรู้สึกยังไงบ้างกับกระทู้แบบด้านบน =>เขาบริการผมดี (กับจ่ายเงินผม) ก็พอแล้ว
ถึงจขกท ถ้ามีการฟ้องร้องและคุณต้องพิสูจน์เรื่อง 1. รับเงินจริงหรือเปล่า 2. เป็นประโยชน์ต่อสังคมหรือไม่
เรื่องแรกพิสูจน์ไม่ยาก ขอหมายศาลไปถึงที่ที่ถูก SR เช่น โรงแรม หรือสายการบินว่าให้ส่งหลักฐานการจ่ายเงิน (ในใบหักภาษีแจงว่าเป็นค่าอะไร ค่าจ้างเหมา?) และสัญญามาให้ศาล (อย่าลืมส่งถึงสรรพากรด้วย เอาใบหักภาษีมา cross-check) =>เบิกความเท็จต่อศาลติกคุกได้
ตามความเป็นจริงบริษัทใหญ่ๆ นะอยู่ดีๆ จะจ่ายเงินโดยไม่มีสัญญาไม่ได้หรอก (ผิดหลักธรรมภิบาล ตามเฉพาะพวกมหาชนทั้งหลาย) เราไม่รู้หรอกนะที่เขาได้เงินเป็นค่าจ้างเขียน blog อย่างเดียวหรือต้องเขียนรีวิวด้วย ถ้าเราเป็นฝ่ายโรงแรมนะ สัญญาเราต้องรัดกุมมากว่าต้องทำอะไรบ้าง ไม่เปิดกว้างหรอก ในสัญญาต้องระบุว่าต้องเขียนรีวิวใน pantip ด้วย
เรื่องที่สอง เราเคยลงเรื่องนี้ http://pantip.com/topic/31482877
http://hbr.org/2014/01/what-marketers-misunderstand-about-online-reviews/ar/1
เรื่องผลของการรีวิวที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคมันมีอยู่จริง
pantip ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า SR ต้องไม่มีการรับเงิน แต่ถ้ามารีวิวโดยใส่ SR ทั้งที่มีการรับเงินแล้วทำให้คนอื่นเข้าใจผิด (mislead) หรือเปล่า
เราจำได้เลย Hilton pattaya ที่ช่วงหนึ่งมี SR กระหน่ำน่าดู ผ่านไปไม่นานก็มีคนมาบ่นกันหลายกระทู้เลย
http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2012/09/E12700072/E12700072.html
http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2012/05/E12110563/E12110563.html
http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E13052025/E13052025.html
http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2010/12/E10007190/E10007190.html
http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E13028724/E13028724.html
อยากรู้จังว่าพวก SR ที่รับเงินมาเขียนรีวิวรู้สึกยังไงบ้างกับกระทู้แบบด้านบน =>เขาบริการผมดี (กับจ่ายเงินผม) ก็พอแล้ว
ความคิดเห็นที่ 5
มาเตือนนะครับ เนื่องจากบางท่านมีการ แจ้งความไว้แล้ว ในฐานะที่ทำลายชื่อเสียงนะครับ เพราะเรื่องบางเรื่อง มันไม่ใช่เรื่องจริง และข้อความที่นำมา มันนำมาจากกลุ่มปิดนะครับ ซึ่งไม่ได้ เปิดเผย ต่อที่อื่นๆ
ดังนั้นตามข้อกฎหมายถ้าท่านยังไม่รู้ข้อมูลจริงๆอย่าเพิ่งแชร์นะครับ ล่าสุดมีกรณีของ คุ๊กกี้ ฟ้องดำเนินคดีกับคนในพันทิป เมื่อวันก่อนเหมือนกันครับ ผมว่าน่าจะ หาข้อสรุปก่อนมาโพสแบบนี้นะครับ ไม่ใช่ มาโดนคดีไม่รู้ตัวนะครับ
แล้ว สมัคร ล็อคอินใหม่ เพื่อมาดราม่า มันสืบได้ จากบัตรนะครับ
ดังนั้นตามข้อกฎหมายถ้าท่านยังไม่รู้ข้อมูลจริงๆอย่าเพิ่งแชร์นะครับ ล่าสุดมีกรณีของ คุ๊กกี้ ฟ้องดำเนินคดีกับคนในพันทิป เมื่อวันก่อนเหมือนกันครับ ผมว่าน่าจะ หาข้อสรุปก่อนมาโพสแบบนี้นะครับ ไม่ใช่ มาโดนคดีไม่รู้ตัวนะครับ
แล้ว สมัคร ล็อคอินใหม่ เพื่อมาดราม่า มันสืบได้ จากบัตรนะครับ
ความคิดเห็นที่ 34
เพิ่มเติม และถ้าฟ้องขึ้นมาจริงๆ ก็ต้องเอาข้อมูลจากสรรพากร ไปแสดงให้ศาลดูอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วย ว่ามีรายได้จากการเขียนรีวิวเท่าไร
แค่ที่บอกว่าได้เงินคืนสองหมื่นบาท สมาชิกพันทิพที่คำนวณอัตราภาษีเป็น ก็บอกได้คร่าวๆ แล้วว่า มีรายได้เท่าไร
เห็นมีคนบอกว่า ได้ถึง เจ็ดแสนบาท คนฟ้องต้องคิดดีๆ นะคะ ว่าถ้าแฟนคลับรู้ว่าทำรีวิวแล้วมีรายได้ถึง เจ็ดแสนบาท
แต่ยืนยันบอกพวกแฟนคลับว่า ไม่ได้เงินสักบาทเดียว บรรดาแฟนๆ จะคิดยังไง
และถ้าพิสูจน์ได้จริงในศาลว่า ยอดกิฟท์ ยอดโหวต ส่วนหนึ่ง (อาจจะเป็นส่วนมาก) มาจากการแลกกันในเว็ป โดยที่ไม่มีการอ่านรีวิวตามจริง
สปอนเซอร์จะคิดยังไง จะยังเชื่อถือจะยอมจ้างคนรีวิวอีกต่อไปหรือไม่ ตามหลักฐานที่คนแฉ แปะมาให้ดู
เราว่าไปแก้ไข โดยขอให้พันทิพเพิ่มช่อง BR ( Business Review) โดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินให้พันทิพ และรีวิวได้อยู่ในห้องบลูเหมือนเดิมจะดีกว่า
เพราะตอนนี้คิดว่าพันทิพมี BR แต่ต้องไปอยู่ห้องอื่นซึ่งไม่มีใครเข้าไปดู และต้องจ่ายเงินให้พันทิพ หรือยังไงนี่แหละ เราก็ไม่รู้ละเอียด
เว็ปที่มีการแลกโหวตกัน โดยไม่ต้องมีการอ่านรีวิว เพื่อดันกระทู้ให้ขึ้นแนะนำ ตามที่คนแฉแปะรูปให้ดู นี่ก็เป็นหลักฐานขึ้นศาลได้อีกอย่าง
แค่ที่บอกว่าได้เงินคืนสองหมื่นบาท สมาชิกพันทิพที่คำนวณอัตราภาษีเป็น ก็บอกได้คร่าวๆ แล้วว่า มีรายได้เท่าไร
เห็นมีคนบอกว่า ได้ถึง เจ็ดแสนบาท คนฟ้องต้องคิดดีๆ นะคะ ว่าถ้าแฟนคลับรู้ว่าทำรีวิวแล้วมีรายได้ถึง เจ็ดแสนบาท
แต่ยืนยันบอกพวกแฟนคลับว่า ไม่ได้เงินสักบาทเดียว บรรดาแฟนๆ จะคิดยังไง
และถ้าพิสูจน์ได้จริงในศาลว่า ยอดกิฟท์ ยอดโหวต ส่วนหนึ่ง (อาจจะเป็นส่วนมาก) มาจากการแลกกันในเว็ป โดยที่ไม่มีการอ่านรีวิวตามจริง
สปอนเซอร์จะคิดยังไง จะยังเชื่อถือจะยอมจ้างคนรีวิวอีกต่อไปหรือไม่ ตามหลักฐานที่คนแฉ แปะมาให้ดู
เราว่าไปแก้ไข โดยขอให้พันทิพเพิ่มช่อง BR ( Business Review) โดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินให้พันทิพ และรีวิวได้อยู่ในห้องบลูเหมือนเดิมจะดีกว่า
เพราะตอนนี้คิดว่าพันทิพมี BR แต่ต้องไปอยู่ห้องอื่นซึ่งไม่มีใครเข้าไปดู และต้องจ่ายเงินให้พันทิพ หรือยังไงนี่แหละ เราก็ไม่รู้ละเอียด
เว็ปที่มีการแลกโหวตกัน โดยไม่ต้องมีการอ่านรีวิว เพื่อดันกระทู้ให้ขึ้นแนะนำ ตามที่คนแฉแปะรูปให้ดู นี่ก็เป็นหลักฐานขึ้นศาลได้อีกอย่าง

แสดงความคิดเห็น
[กระทู้เผือก] [กดไลก์กด+ด้วยแจ้ะ] ถอดรหัสล๊อกอินดังBPที่ถูกแฉจากกระทู้แนะนำสุดร้อนแรง
ดังกระฉ่อนกว่าเดิมมมมมม
เจนสัมผัสได้ว่าแต่ละคนไม่ธรรมดา บางคนถึงกับหลังไมขอไลก์ขอโหวตตั้งแต่ยังไม่ดังเชียวน๊ะ เดี๋ยวนี้ชื่อเสียงเงินทองมันชั่งหอมหวานจิงๆ
ความรักในการท่องเที่ยวคือการได้พักฟรีเที่ยวฟรี เอารูปมาลงอวดจร้าาาาาาา แล้วรีวิวแบบนี้จะเชื่อถือได้หระ ขอความเห็นหน่อย นี่มันสมาคมลับนักรีวิวเพื่อมวลชนและพวกพ้องเราเองใช่มั้ยยยยยยย
เผือกร้อนเจงๆๆๆ