ผมเป็นคน "สายตายาว" ครับ
ตั้งแต่เด็กจนโต ผมมองอะไรใกล้ๆไม่ค่อยเห็น
ผมมองเห็นแต่ที่ไกลๆ
พอมาเรียนมหาวิทยาลัย ก็กำหนดอนาคตตัวเองไว้เป็น 10 ปี 20 ปี
แล้วก็พยายามทำตามที่วางแผนไว้
พอเรียนจบก็เดินตามทางของตัวเองที่วางเอาไว้ คือ ต้องมีบริษัทเป็นของตัวเอง
ทำงาน ให้มีเงินเยอะๆ ไปเที่ยวให้ทั่วโลกเลย
ผมทำงานหนักมากครับ
และผมทำมาได้ครึ่งทางแล้ว
แต่นั่นก็แลกมาด้วยเวลาที่ไม่เหลือให้กับแฟนและตัวเองเลย
จนมาวันหนึ่ง...
เป็นช่วงตกต่ำที่สุดของเราครับ
ด้วยพิษการเมือง บอลโลก และ หลายๆอย่าง ทำให้เราขายของไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน
เราก็กลับมานอนที่บ้าน
ผมนั่งมองหน้าแฟนที่นอนหลับไปเพราะความเหนื่อยจากการทำงานหนักมาทั้งวัน
ไหนจะดูแลผม ดูแลบ้าน ดูแลงานตัวเอง
ผมนั่งน้ำตาไหลด้วยความสงสาร ว่า ทำไมเราต้องทำให้แฟนเราต้องเหนื่อยขนาดนี้
ที่เราขยันทำงานมาทุกวันนี้ ก็เพราะไม่อยากให้เค้าต้องเหนื่อยไม่ใช่หรอ?
แต่เค้าก็ไม่เคยบ่นเลยซักคำ แม้ว่าผมจะไม่มีเวลาพาเค้าไปเที่ยวพักผ่อนเลยก็ตาม
เราจะทำงานหนักไปเพื่ออะไร ในเมื่อคนที่รักไม่เคยได้ " ใช้ชีวิต " ที่อยากทำเลย
เรียนจบมาก็ทำธุรกิจส่วนตัวจนไม่มีเวลาไปพักผ่อน
รับแรงกดดันจากหลายๆทาง
ทำงานเพื่ออนาคต จนไม่สนใจตัวเองในปัจจุบัน
ผมมองแต่อนาคต ไม่เคยมองที่ที่ตัวเองยืนอยู่ในปัจจุบันเลย
เสแสร้งทำเป็นว่ามีความสุข ทั้งที่ความเครียดเต็มหัวไปหมด
วันนี้ ผมได้รู้แล้วว่า สิ่งที่สำคัญคือ ปัจจุบัน
เราควรวางแผนชีวิตไว้ทั้ง ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว
แต่ต้องให้ความสำคัญกับทุกๆวัน ให้เหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้าย
ผมไม่กล้าปล่อยให้แฟนขับรถไปไหนไกลๆคนเดียว
เพราะผมมองว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเค้า เราจะทำยังไง
ถ้าเค้าจะไปไหนไกลๆ ผมจะพาไปตลอด
เพราะผมตระหนักอยู่เสมอ ว่า "วันนี้ อาจจะเป็นวันสุดท้ายของเรา ทำวันนี้ให้มีความสุขที่สุด"
และแล้ว ผมก็รักษาโรค "สายตายาว" ของผมได้แล้วครับ
สุดท้าย ผมขอฝากเพลงนี้ไว้ให้ผู้หญิงที่อยู่เคียงข้างผมมาตลอด ขอบคุณมากๆครับที่อ่านกันจนจบ
ผมเป็นคนสายตายาว... ยาวเกินไปซะด้วยซ้ำ
ตั้งแต่เด็กจนโต ผมมองอะไรใกล้ๆไม่ค่อยเห็น
ผมมองเห็นแต่ที่ไกลๆ
พอมาเรียนมหาวิทยาลัย ก็กำหนดอนาคตตัวเองไว้เป็น 10 ปี 20 ปี
แล้วก็พยายามทำตามที่วางแผนไว้
พอเรียนจบก็เดินตามทางของตัวเองที่วางเอาไว้ คือ ต้องมีบริษัทเป็นของตัวเอง
ทำงาน ให้มีเงินเยอะๆ ไปเที่ยวให้ทั่วโลกเลย
ผมทำงานหนักมากครับ
และผมทำมาได้ครึ่งทางแล้ว
แต่นั่นก็แลกมาด้วยเวลาที่ไม่เหลือให้กับแฟนและตัวเองเลย
จนมาวันหนึ่ง...
เป็นช่วงตกต่ำที่สุดของเราครับ
ด้วยพิษการเมือง บอลโลก และ หลายๆอย่าง ทำให้เราขายของไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน
เราก็กลับมานอนที่บ้าน
ผมนั่งมองหน้าแฟนที่นอนหลับไปเพราะความเหนื่อยจากการทำงานหนักมาทั้งวัน
ไหนจะดูแลผม ดูแลบ้าน ดูแลงานตัวเอง
ผมนั่งน้ำตาไหลด้วยความสงสาร ว่า ทำไมเราต้องทำให้แฟนเราต้องเหนื่อยขนาดนี้
ที่เราขยันทำงานมาทุกวันนี้ ก็เพราะไม่อยากให้เค้าต้องเหนื่อยไม่ใช่หรอ?
แต่เค้าก็ไม่เคยบ่นเลยซักคำ แม้ว่าผมจะไม่มีเวลาพาเค้าไปเที่ยวพักผ่อนเลยก็ตาม
เราจะทำงานหนักไปเพื่ออะไร ในเมื่อคนที่รักไม่เคยได้ " ใช้ชีวิต " ที่อยากทำเลย
เรียนจบมาก็ทำธุรกิจส่วนตัวจนไม่มีเวลาไปพักผ่อน
รับแรงกดดันจากหลายๆทาง
ทำงานเพื่ออนาคต จนไม่สนใจตัวเองในปัจจุบัน
ผมมองแต่อนาคต ไม่เคยมองที่ที่ตัวเองยืนอยู่ในปัจจุบันเลย
เสแสร้งทำเป็นว่ามีความสุข ทั้งที่ความเครียดเต็มหัวไปหมด
วันนี้ ผมได้รู้แล้วว่า สิ่งที่สำคัญคือ ปัจจุบัน
เราควรวางแผนชีวิตไว้ทั้ง ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว
แต่ต้องให้ความสำคัญกับทุกๆวัน ให้เหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้าย
ผมไม่กล้าปล่อยให้แฟนขับรถไปไหนไกลๆคนเดียว
เพราะผมมองว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเค้า เราจะทำยังไง
ถ้าเค้าจะไปไหนไกลๆ ผมจะพาไปตลอด
เพราะผมตระหนักอยู่เสมอ ว่า "วันนี้ อาจจะเป็นวันสุดท้ายของเรา ทำวันนี้ให้มีความสุขที่สุด"
และแล้ว ผมก็รักษาโรค "สายตายาว" ของผมได้แล้วครับ
สุดท้าย ผมขอฝากเพลงนี้ไว้ให้ผู้หญิงที่อยู่เคียงข้างผมมาตลอด ขอบคุณมากๆครับที่อ่านกันจนจบ