สมัยตอนที่เคนนี่ เดลกริช กลับมาคุมทีมลิเวอร์พูล ก่อนแยกย้ายได้ปิดดีลนักเตะที่ชื่อ "หลุย ซัวเรส"
อาจจะเพราะโลกทัศน์ในบอลโลกผมค่อนข้างแคบบ้าง...บอกตามตรง จำชื่อชายคนนี้ได้เพียงแค่ บุรุษผู้เอามือปัดบอลในรอบ 8 ทีม
ก่อนที่อุรุกวัยจะรอดพ้นจุดโทษ และผ่านเข้าไปตกรอบ 4 ทีม...และจบลงด้วยอันดันที่ 4 ในปีนั้น
กับฟอร์มของเหยินในลีกฮอลแลนด์ แทบจะไม่ได้ข่าวหรือติดตามเลย
นอกจากเมื่อมาอยู่กับลิเวอร์พูลแล้ว ถึงทราบว่าหมอนี่มันค่อนข้างเกรียน ออกแนวแบดบอย ไปกัดหูนักเตะคู่แข่ง...โหดสลัด
ช่วงแรกๆ ฝีเท้าก็เอาแน่นอนยังไม่ชัดเจน รู้แต่ขี้เลี้ยง ลากๆ มุดๆ ไปเรื่อยเปื่อย...มันโคตระคนละอารมณ์กับตอนเห็น "ตอเรส" หล่อขายิงเลย
อาจจะเพราะเสพความคมของเทพตอมาก จนเป็นภาพติดตาของศูนย์หน้าที่ไม่มากจังหวะ ขอคิลเลอร์พาสเด็ด ตอจัดให้
เหยินกลายเป็นหน้าเป้าที่วิ่งไม่หยุด วิ่งไม่หมด จนกว่าจะหมดเวลา...อารมณ์เห็นรอบเบนในบอลโลก 2014 นี้
เหมือนคนกินยาม้า พลังเต็มร้อยต่อให้เล่น 120 ก็ไม่มีวันหมด
ไม่น่าเชื่อเพียงแค่สองฤดูกาล...ชายที่ชื่อ "หลุย ซัวเรส" จะกลายเป็นนักเตะที่ครบเครื่องระดับโลกคนหนึ่ง
คนที่ที่สามารถเป็นความหวัง รับผิดชอบความหวังของทีมได้อย่างดี
ที่สุดยอดคือ...ดันทำลายความหวังได้เพิ่มเข้ามาอีก เวร...นึกว่าจะอยู่กะทีมตูนานๆ 555+
พังความฝันที่เห็นมันสวมปลอกแขน "กัปตันทีม"วันที่เจิดรีไทร์ซะงั้น
คำว่าระดับโลก...เหมาะสมกับซัวเรสจริงๆ
ทั้งในแง่ฝีเท้า ที่เป็นที่ต้องการของหลากหลายสโมสรทั้งในเกาะอังกฤษ และยุโรป
ความสามารถการันตีประตูกว่า 30 ลูกต่อฤดูกาลของเขา ไม่ไกลเกินจริงสำหรับสโมสรนั้น
ที่สำคัญ...ลีลาชีวิตในโลกฟุตบอลนอกเหนือจากฝีเท้าการเล่นก็สุดติ่ง
ทั้งกัดหู มือปัดบอล กัดแขน...จนถึง "กัดไหล่" ยังมีเหตุการณ์แบบนี้ให้ดูชม พร้อมเกิดคำถาม..."

กัดทำไมวะ???"
ปรากฏการณ์แบบนี้...
ผมสาบานได้เลยว่า ไม่คิดว่าตลอดชีวิตในดูฟุตบอลที่ผ่านมา
จะได้อยู่ร่วมสมัยและประวัติศาสตร์ ตลอดจนเหตุการณ์มหัศจรรย์น่าถีบของชายคนนี้
มันเป็นเรื่องที่น่าขำจริงๆ นึกแล้วก็อมยิ้มตาม
ที่น่าขำกว่า...
หมดเหยินศักดิ์ไปแล้ว...ใครจะมีคาแรคเตอร์เท่ๆ แบบนี้มาร่วมทีม (ไม่เอาที่กัดๆๆๆนะ)
หน้าเป้า ที่เล่นฟุตบอลได้แบบเหยิน เอนเทอร์เทนสุดๆ ลุ้นตลอดว่าแต่ละเกมนั้น
เขาจะสำแดงฤทธิ์เดชแบบไหนให้ดู
หาตัวแทนแบบนี้คงไม่ได้อีกนาน...เหยดดดดดด
คิดถึงหลุย ซัวเรสตอนมา...และตอนกำลังจะไป...คิดแล้วก็ขำ
อาจจะเพราะโลกทัศน์ในบอลโลกผมค่อนข้างแคบบ้าง...บอกตามตรง จำชื่อชายคนนี้ได้เพียงแค่ บุรุษผู้เอามือปัดบอลในรอบ 8 ทีม
ก่อนที่อุรุกวัยจะรอดพ้นจุดโทษ และผ่านเข้าไปตกรอบ 4 ทีม...และจบลงด้วยอันดันที่ 4 ในปีนั้น
กับฟอร์มของเหยินในลีกฮอลแลนด์ แทบจะไม่ได้ข่าวหรือติดตามเลย
นอกจากเมื่อมาอยู่กับลิเวอร์พูลแล้ว ถึงทราบว่าหมอนี่มันค่อนข้างเกรียน ออกแนวแบดบอย ไปกัดหูนักเตะคู่แข่ง...โหดสลัด
ช่วงแรกๆ ฝีเท้าก็เอาแน่นอนยังไม่ชัดเจน รู้แต่ขี้เลี้ยง ลากๆ มุดๆ ไปเรื่อยเปื่อย...มันโคตระคนละอารมณ์กับตอนเห็น "ตอเรส" หล่อขายิงเลย
อาจจะเพราะเสพความคมของเทพตอมาก จนเป็นภาพติดตาของศูนย์หน้าที่ไม่มากจังหวะ ขอคิลเลอร์พาสเด็ด ตอจัดให้
เหยินกลายเป็นหน้าเป้าที่วิ่งไม่หยุด วิ่งไม่หมด จนกว่าจะหมดเวลา...อารมณ์เห็นรอบเบนในบอลโลก 2014 นี้
เหมือนคนกินยาม้า พลังเต็มร้อยต่อให้เล่น 120 ก็ไม่มีวันหมด
ไม่น่าเชื่อเพียงแค่สองฤดูกาล...ชายที่ชื่อ "หลุย ซัวเรส" จะกลายเป็นนักเตะที่ครบเครื่องระดับโลกคนหนึ่ง
คนที่ที่สามารถเป็นความหวัง รับผิดชอบความหวังของทีมได้อย่างดี
ที่สุดยอดคือ...ดันทำลายความหวังได้เพิ่มเข้ามาอีก เวร...นึกว่าจะอยู่กะทีมตูนานๆ 555+
พังความฝันที่เห็นมันสวมปลอกแขน "กัปตันทีม"วันที่เจิดรีไทร์ซะงั้น
คำว่าระดับโลก...เหมาะสมกับซัวเรสจริงๆ
ทั้งในแง่ฝีเท้า ที่เป็นที่ต้องการของหลากหลายสโมสรทั้งในเกาะอังกฤษ และยุโรป
ความสามารถการันตีประตูกว่า 30 ลูกต่อฤดูกาลของเขา ไม่ไกลเกินจริงสำหรับสโมสรนั้น
ที่สำคัญ...ลีลาชีวิตในโลกฟุตบอลนอกเหนือจากฝีเท้าการเล่นก็สุดติ่ง
ทั้งกัดหู มือปัดบอล กัดแขน...จนถึง "กัดไหล่" ยังมีเหตุการณ์แบบนี้ให้ดูชม พร้อมเกิดคำถาม..."
ปรากฏการณ์แบบนี้...
ผมสาบานได้เลยว่า ไม่คิดว่าตลอดชีวิตในดูฟุตบอลที่ผ่านมา
จะได้อยู่ร่วมสมัยและประวัติศาสตร์ ตลอดจนเหตุการณ์มหัศจรรย์น่าถีบของชายคนนี้
มันเป็นเรื่องที่น่าขำจริงๆ นึกแล้วก็อมยิ้มตาม
ที่น่าขำกว่า...
หมดเหยินศักดิ์ไปแล้ว...ใครจะมีคาแรคเตอร์เท่ๆ แบบนี้มาร่วมทีม (ไม่เอาที่กัดๆๆๆนะ)
หน้าเป้า ที่เล่นฟุตบอลได้แบบเหยิน เอนเทอร์เทนสุดๆ ลุ้นตลอดว่าแต่ละเกมนั้น
เขาจะสำแดงฤทธิ์เดชแบบไหนให้ดู
หาตัวแทนแบบนี้คงไม่ได้อีกนาน...เหยดดดดดด