ความเห็นของผมที่ไม่เห็นด้วย กับคนที่ไม่เห็นด้วยในการเพิ่มโทษคดีข่มขืน

เผยจดหมายเปิดผนึกจากเหยื่อถูกพนักงานรถไฟข่มขืนเมื่อปี2544 ระบุ 13 ปียังไม่ได้รับเงินเยียวยา เมื่อวันที่ 8 ก.ค.เว็บไซต์ผู้จัดการรายงานว่า ผู้เสียหายจากเหตุการณ์ถูกพนักงานการรถไฟฯข่มขืนกระทำชำเรา เมื่อปี2544....... อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1n4ax56

ลองอ่านดูครับ ข้อความจากโพสต์ทูเดย์ ความรู้สึกและความเจ็บปวดทรมานของเธอผู้เป็นเหยื่อของการข่มขืน ถึงแม้เราจะพยายามจินตนาการแค่ไหนก็ไม่มีทางเข้าถึงความรู้สึกของเธอได้แน่นอน แค่เราอ่านน้ำตาเราก็ซึมออกมา แต่เธอต้องทนทุกข์ทรมานกับมันและต้องเข้มแข็งเพื่ออยู่กับอดีตอันน่าขมขื่นนี้ไปอีกนานเท่านาน
การแสดงความคิดเห็นของหลายๆคนในเรื่องของการเพิ่มโทษคดีข่มขืนให้เป็นโทษประหารชีวิตนั้น ส่วนตัวแล้วผมเห็นด้วย ไม่ว่าโทษจะเป็นอย่างไรก็ตามจะประหารชีวิตหรือไม่ประหารชีวิตนั้น แต่บทลงโทษจะต้องหนักและเฉียบขาดและมั่นใจว่านักโทษนั้นๆจะไม่สามารถกลับมากระทำการเยี่ยงนี้อีก
ตัวอย่างเช่น 1. ประหารชีวิต 2. ตัดอวัยวะเพศ 3.ฉีดยาให้ฝ่อทำให้ความต้องการทางเพศนั้นหายไปตลอดกาล(แบบนักโทษเกาหลี) 4.ขังเดี่ยวตลอดชีวิตโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆในการลดโทษ ฯลฯ ซึ่งโทษทั้งหมดนั้นคงต้องไปผ่านกระบวนการกลั่นกรองในหลายๆด้านและถูกคิดอย่างละเอียดรอบครอบเสียก่อนจึงจะมาแก้บทลงโทษกันได้ ตรงนี้ผมเข้าใจดี

แต่ !!!!!

ผมไม่เห็นด้วย "กับการที่ผู้ชายบางคนมาแสดงความคิดเห็นว่าตนเองนั้นไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มโทษคดีข่มขีนให้เป็นโทษประหารชีวิต" แล้วนำความคิดของตนเองนั้นมาขยายความให้คนอื่นฟัง เช่น
1. ถ้ามีการช่มขืน1ครั้ง จะต้องมีคนเสียชีวิต1คน
2. ถ้าผู้หญิงหมั่นไส้ผู้ชาย ก็ไปฟ้องร้องว่าถูกข่มขืน ทั้งๆที่อาจจะเป็นการสมยอมก็ได้
3. ยกว่าสังคมเราสมัยนี้ต่างหากเป็นผู้ทำให้คดีข่มขืนเพิ่มมากขึ้น
4. ไปโทษผู้จำหน่ายยาเสพติดว่าเป็นต้นเหตุของคดีข่มขืน ควรจะไปลงโทษคนเหล่านั้น
5. ที่หนักที่สุดคือ เอาเรื่องคดีข่มขืนนี้ไปผูกกับการเมือง โดยอ้างว่าทีอดีตนายกฯโดนกล่าวหาเรื่องทางเพศในหลายๆครั้ง ไม่เห็นมีใครไปลงโทษคนที่กล่าวหาอดีตนายกฯเลย

ผมว่าตรรกะของคนเหล่านี้มีปัญหาแล้วครับ คุณแสดงความเห็นที่ดูเหมือนจะฉลาด แต่แท้จริงแล้วคือแค่อวดฉลาดเท่านั้น คุณสามารถคิดได้ว่าต้นเหตุของการข่มขืนคืออะไร แค่การลงโทษผู้กระทำผิดก็ยังจะต้องมีการลงโทษต่อไป ไม่ใช่ว่าใครไปข่มขืนใครแล้วมาอ้างว่า ถูกเลี้ยงดูมาอย่างผิดๆ ที่บ้านไม่อบอุ่น มีปัญหามาตั้งแต่เด็กแล้วจะหลบพ้นจากการลงโทษทางคดีได้
ทุกเรื่องราวที่มีการกระทำผิด ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายยาเสพติด หรือเรื่องอื่นใดมันก็มีบทลงโทษในตัวของมันอยู่แล้ว คุณจะไปเอาเรื่อง A ไปผูกกับเรื่อง B แล้วบอกว่าไปลงโทษที่ A คนเดียวไม่ได้  มันก็ต้องโทษทั้ง A ทั้ง B ตามความเหมาะสมของมัน

การข่มขืน 1 ครั้ง จะต้องมีการเสียชีวิต 1 คน  ส่วนตัวผมคิดว่า การที่เหยื่อถูกกระทำอย่างนั้น มันยิ่งกว่าการเสียชีวิตซะอีก มันคือตายทั้งเป็น ตายซ้ำตายซาก วันละหลายร้อยครั้ง เพราะความทุกข์ทรมานของเหยื่อนั้นมันเทียบไม่ได้เลยกับการประหารชีวิตเพียง 1 ครั้งของผู้ที่กระทำผิด
สมมุตว่ามี 2 ทางเลือก ให้คุณเลือกเท่านั้น
1. ให้คุณเป็นเหยื่อ แล้วถูกข่มขืน แล้วก็ทนอยู่กับความทุกข์ทรมานนั้นไปตลอดชีวิต
2. ให้คุณเป็นผู้กระทำ ข่มขืนเหยื่อ แล้วไปสู้คดีในศาล
เป็นใครๆก็เลือกข้อ2.ครับ เพราะกฏหมายมันยังไม่แข็งพอ บทลงโทษมันต้องหนักและเฉียบขาด เพื่อไม่ให้มีการเกิดตั้วเลือกอย่างที่ผมได้ยกตัวอย่างมาทั้ง 2 ข้อนี้ขึ้น เมื่อบทลงโทษหนักแล้ว คดีข่มขืนก็จะลดลงเพราะตระหนักได้ว่าโทษนั้นร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิต อย่างน้อยก็มีสติฉุกคิดได้ว่าไม่ควรทำ

หากพูดถึงการใส่ร้าย ผู้หญิงอาจจะสมยอมแล้วมาใส่ร้ายว่าโดนข่มขืน คุณคิดได้แต่หัวเรื่อง แต่คุณไม่ลงรายละเอียดของมันเลย คุณดูถูกศาล คุณดูถูกกฏหมาย ดูถูกทุกๆคน คุณคิดว่าตัวคุณเองคิดได้คนเดียวหรือไงเรื่องแบบนี้ ? กฏหมาย ศาล การพิจารณาคดี มันก็มีขั้นมีตอนของมัน สืบหาว่ากระทำผิดจริงหรือไม่ ไม่ใช่ว่าใครจะใส่ร้ายใครง่ายๆ กลับกันหากเกิดกรณีใส่ร้ายขึ้นจริง ผู้ที่ใส่ร้ายก็จะต้องโดนข้อหาพยายามฆ่าแน่นอนอยู่แล้ว คุณได้คิดถึงตรงนี้หรือไม่ !!

การที่คุณนำมาโยงเข้ากับการเมือง แล้วมากล่าวโทษผู้ที่พูดถึงอดีตนายกฯนั้น มันคนละเรื่องกันแบบสุดๆ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลย คุณมั่วมาก ไม่ต่างอะไรกับการที่ออกนโยบายโกงเงินชาวนา แล้วไปโทษธนาคารธกส.เลยครับ

สุดท้ายผมมีความเห็นว่า 100% ของการตัดสินว่าจะต้องเพิ่มโทษในคดีข่มขืนหรือไม่ ควรจะให้เพศหญิงเป็นผู้ตัดสิน 100% เลยดีกว่าครับ (ติดแบบนามธรรมนะครับ ซึ่งทราบดีว่าในรูปธรรมแล้วจะต้องเป็นไปตามกฏเกณฑ์และขั้นตอนที่ถูกต้องของกฏหมาย)
ตัวผมเองก็เห็นด้วยว่าจะต้องเพิ่มโทษให้หนักและเป็นข้อเตือนสติผู้ชายทุกคนว่า การล่วงละเมิดทางเพศนั้นเป็นเรื่องที่ผิดร้ายแรงและไม่ควรกระทำไม่ว่าจะกรณีใดๆ แต่การที่เพศชายจะมาแสดงความคิดเห็นว่าไม่เห็นด้วย ผมคิดว่าเราไม่มีสิทธิครับ ลองคิดว่าเหยื่อเป็นแม่ เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นลูกสาวของคุณสิ คุณยังจะมีความคิดแบบนี้อยู่หรือไม่ อย่าคิดถึงแต่ตัวเองครับ !
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่