บทเรียนจากปี 56:ตลาดหุ้นไม่แน่นอน

กระทู้ข่าว
ตลาดหุ้นไม่แน่นอน จงยิ้มรับการเปลี่ยนแปลง

เดือน 2 ปี2556 ตลาดหุ้นไทยคึกคักอย่างยิ่ง
เพราะราคาหุ้นพุ่งทะยานต่อเนื่องมา2 ปี เต็มๆ
นักลงทุนฟาดกำไรกันพุ่งปลิ้น
บางคนกำไรหลายร้อย% พลิกชีวิตจากคนธรรมดา
เป็นเศรษฐี ขี่รถเบนซ์ ซื้อบ้านหลังใหญ่

ความหอมหวานนี้ ดึงดูดนักลงทุนรุ่นใหม่
ซึ่งกลัวตกขบวนรถไฟความร่ำรวย
เข้าตลาดหุ้นจำนวนมาก
โดยตลาดยังคงร้อนแรง เดือน 5 ปี2556
ราคาหุ้นพุ่งกระฉูดไปถึง 1,650 จุด

ช่วงนั้นข่าวดีท่วมท้น เศรษฐกิจไทยฟื้น
เงินฝรั่งทะลักเข้าหุ้นไทย
นักวิเคราะห์ทุกสำนักฟันธง
ราคาจะพุ่งทะยานถึง 1800
คนส่วนใหญ่เกิดความมั่นใจสุดขีด
ขนเงินสดมาซื้อแพงหวังขายแพงกว่า

แต่แล้วก็พลิกล็อค
ราคาหุ้นสวนทางกับความหวังแบบ 180 องศา
แค่เดือนเดียว ราคาหุ้นตกฮวบฮาบ
ลงถล่มทลายกว่า 300 จุด
และเกิดแนวโน้มราคาลดลงต่อเนื่องยาวนานกว่า8เดือน
ส่งผลให้คนที่อัดเงินเต็มเหนี่ยวตอน 1,650
และไม่ยอมปรับพอร์ตตามสถานการณ์
ขาดทุนเละเทะอ่วมอรทัย สูญเสียเงินจำนวนมาก

บทเรียนของเรื่องนี้คือ ราคาหุ้นจะไม่เพิ่มขึ้นตลอดไป
แต่จะผันแปรเหมือนฤดูกาล
คือ จากฤดูหนึ่ง สักพักเปลี่ยนสู่อีกฤดู
วนเวียนเป็นวัฎจักร







เวลานี้ตลาดหุ้นเสมือนฤดูใบไม้ผลิ
ทุกอย่างดูสดใส กำไรง่าย ซื้อหุ้นตัวไหนก็ขึ้นหมด
จึงดึงดูดนักลงทุนรุ่นใหม่เข้าตลาดหุ้น
เพราะคิดว่า เล่นหุ้นไม่ยาก
กำไรง่ายๆ ไม่ต้องศึกษามากมาย
สถานการณ์คล้ายๆกับช่วงเดือน 2 ปี 2556

ผมจึงอยากสื่อสารกับผู้เริ่มลงทุนว่า
ฤดูกาลแห่งความสุขของตลาดหุ้น
จะไม่อยู่ยงคงกระพัน
วันหนึ่งก็จะเข้าสู่ ฤดูหนาวอันโหดร้าย
ท้องฟ้าไม่สดใส ราคาหุ้นลดฮวบฮาบ
หากำไรยากเย็นแสนเข็ญ เหมือนช่วงเดือน5ปี 2556

ซึ่งการผันแปรนี้ คือกฎเหล็กของตลาด
ไม่ว่าใครก็เปลี่ยนไม่ได้
สิ่งที่นักลงทุนทำได้คือ ไม่ประมาท
และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น

แล้วคุณละครับ มีแผนฉุกเฉิน
เมื่อราคาหุ้นลงลงแบบไม่คาดฝันหรือยัง ??

นักเก็งกำไรด้วยปัจจัยพื้นฐาน
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่