Transformers: Age of Extinction (Michael Bay,2014) คะแนน D+
By Form Corleone
“เลอะเทอะ สะเปะสะปะ น่าผิดหวัง” สำหรับการกลับมาของหนังฟอร์มยักษ์ที่สุดอีกเรื่องหนึ่งในซัมเมอร์นี้ และการกำกับอีกครั้งของ ‘ไมเคิล เบย์’ จัดออกไปในทางน่าผิดหวังแบบสุดๆ ถึงแม้ว่าจะได้นักแสดงนำอย่าง “มาร์ค วอห์ลเบิร์ก” ก็ไม่ได้ช่วยส่งให้ “ทรานส์ฟอร์เมอร์ส” ภาคใหม่ดีขึ้นมา ถ้าเทียบเป็นกราฟชีวิต คงจะเป็นกราฟเส้นตรงที่มีความชันติดลบ และคงจะดิ่งลงเรื่อยๆ ในภาคต่อไป แต่จะไปแคร์อะไรเพราะยังไงตัวหนังก็ “ทำเงิน” สบายๆแน่นอนอยู่แล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ไม่จำเป็นที่จะแคร์อะไรกับบทภาพยนตร์ การลำดับเรื่องราว การเล่าเรื่อง และการตัดภาพ เพราะแค่ “ฉากแอคชั่น” ก็เกินพอแม้ว่าภาคนี้จะ “เลอะเทอะ” แค่ไหนก็ตามที!!
ความยาวของภาคนี้ไม่ใช่เล่นๆ การใช้เวลา 165 นาที มีมากพอกับการเล่าเรื่อง และการลำดับเหตุการณ์ได้มากมาย น่าเสียดายที่‘ไมเคิล เบย์’ กลับทำออกมาได้น่าผิดหวังตามมาตรฐานชื่อผู้กำกับ แต่ก็อย่างที่ว่า จุดประสงค์หลักของทรานส์ฟอร์เมอร์ส คงเป็นฉาก “แอคชั่น” หุ่นยนต์ยักษ์สู้กัน แม้มันจะไม่ได้แตกต่างอะไรมากมายกับสามภาคที่แล้ว แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังชอบแบบนี้ และเต็มใจที่จะได้ดูมันอีกรอบ โดยที่จะแคร์อะไรกับเนื้อเรื่องรวมถึงตัวบทภาพยนตร์ หลายสิ่งหลายอย่างในภาคนี้ชวนให้ผมหงุดหงิด โดยเฉพาะการแทรกฉากตลกๆ มากมายโดยไร้ความจำเป็นและเสมือนการเพิ่มเวลาลงไปในฉากที่ไร้ค่า จนทำให้หนังมันยาวขึ้น แต่ตัวสาระ ความหมาย หาไม่เจอในภาคนี้ เป็นความพยายามมากกว่าความเพลิน ต้องอดทนให้ฉากเหล่านี้มันผ่านไป!!
บทภาพยนตร์เป็นสิ่งที่แย่มากที่สุดในทุกภาค จุดต่ำสุดของ “มหากาพย์ทรานส์ฟอร์เมอร์ส” ได้เริ่มต้นอย่างแท้จริงในภาคนี้ การตัดฉากก็เร็วเกินไปและขัดจังหวะกับอารมณ์มากจนเกินไป ไม่ทิ้งช่วงให้คนดูซึมซับกับเหตุการณ์หรือเรื่องราว จนทำให้ปวดตา และมึนหัวที่สุด การลำดับภาพก็ดูตื้นเกินไปในหลายจุด เข้าใจว่าตัว ‘ไมเคิล เบย์’ ต้องการ “เน้นเอามันส์” แต่ก็ควรเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ไว้บ้างเพราะคนดูจะได้ซึมซับได้มากขึ้น ผมดูแล้วรู้สึกว่า ก็มันส์ดีนะ แต่แล้วไง!! ก็แค่นั้นหรือเปล่า มันส์!! แต่จับประเด็นหรือสาระอะไรไม่ได้เลยแม้แต่อย่างเดียว “ความมันส์ ที่ไร้แก่นสาร” ผนวก “การตัดฉาก ที่ไร้แง่มุม” จนทำให้ “ทรานส์ฟอร์เมอร์ส” ภาคนี้เป็นภาคที่แย่ที่สุด!!
การดู “ทรานส์ฟอร์เมอร์ส” ให้สนุกนั้น คงไม่มีอะไรมากครับ แค่คุณลืมความ “สมเหตุ สมผล” ทิ้งไปก่อนที่จะก้าวขาเข้าไปดู แค่นี้คุณก็สนุกแบบสุดๆ ได้แล้ว แต่สำหรับคนที่ดูแล้วใส่ใจไปไกลเกินกว่านั้น คงดูไปส่ายหัวไป และอึดอัดเอามาก เรียกได้ว่าต้องทนดูกันเลยทีเดียว เมื่อไหร่จะจบครับผมไม่ไหวแล้ว!! จะมองว่าตัวหนังในภาคนี้มีความดราม่าเล็กๆ ระหว่างพ่อลูก แต่มันก็ดูไม่สมเหตุสมผล ชวนไปในทาง ตลกขำขันสะมากกว่า ข้อดีคงเป็น ฉากต่อสู้ ที่เหมือนจะเก็บรายละเอียดและพัฒนารูปแบบได้ดีกว่าภาคก่อนๆ การถ่ายลองเทคให้เห็นสเกลกว้างๆ ของฉาก ก็ทำออกมาได้ดีในครั้งนี้!!
สุดท้าย Transformers: Age of Extinction คงเป็นหนังที่น่าผิดหวังเกือบจะทุกด้าน และคงเป็นหนังทำเงินมหาศาลอีกตามเคยในเวลาเดียวกัน การกระทำของตัวหนังต่อคนดูเป็นสิ่งสำคัญและเป็นจุดขายของมหากาพย์ทรานส์ฟอร์เมอร์ส ไม่ว่าจะ “เลอะเทอะ” มากแค่ไหนในความสมเหตุสมผล หรือมันจะ “สะเปะสะปะ” แค่ไหนในบทภาพยนตร์ จนทำให้หนังจัดไปในทาง “น่าผิดหวัง” มากน้อยแค่ไหน แต่เราทุกคนคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า “ทรานส์ฟอร์เมอร์ส” คือหนังที่ประสบความสำเร็จ ในแง่ “รายได้” มากแค่ไหนจนไม่ต้องแคร์ใครว่าหนังจะ “ไร้สาระ” แค่ไหนก็ตามที >< ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
อ่านเรื่องอิ่น
http://moviesdelightclub.blogspot.com/ 
Review: Transformers: Age of Extinction (Michael Bay,2014)
By Form Corleone
“เลอะเทอะ สะเปะสะปะ น่าผิดหวัง” สำหรับการกลับมาของหนังฟอร์มยักษ์ที่สุดอีกเรื่องหนึ่งในซัมเมอร์นี้ และการกำกับอีกครั้งของ ‘ไมเคิล เบย์’ จัดออกไปในทางน่าผิดหวังแบบสุดๆ ถึงแม้ว่าจะได้นักแสดงนำอย่าง “มาร์ค วอห์ลเบิร์ก” ก็ไม่ได้ช่วยส่งให้ “ทรานส์ฟอร์เมอร์ส” ภาคใหม่ดีขึ้นมา ถ้าเทียบเป็นกราฟชีวิต คงจะเป็นกราฟเส้นตรงที่มีความชันติดลบ และคงจะดิ่งลงเรื่อยๆ ในภาคต่อไป แต่จะไปแคร์อะไรเพราะยังไงตัวหนังก็ “ทำเงิน” สบายๆแน่นอนอยู่แล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ไม่จำเป็นที่จะแคร์อะไรกับบทภาพยนตร์ การลำดับเรื่องราว การเล่าเรื่อง และการตัดภาพ เพราะแค่ “ฉากแอคชั่น” ก็เกินพอแม้ว่าภาคนี้จะ “เลอะเทอะ” แค่ไหนก็ตามที!!
ความยาวของภาคนี้ไม่ใช่เล่นๆ การใช้เวลา 165 นาที มีมากพอกับการเล่าเรื่อง และการลำดับเหตุการณ์ได้มากมาย น่าเสียดายที่‘ไมเคิล เบย์’ กลับทำออกมาได้น่าผิดหวังตามมาตรฐานชื่อผู้กำกับ แต่ก็อย่างที่ว่า จุดประสงค์หลักของทรานส์ฟอร์เมอร์ส คงเป็นฉาก “แอคชั่น” หุ่นยนต์ยักษ์สู้กัน แม้มันจะไม่ได้แตกต่างอะไรมากมายกับสามภาคที่แล้ว แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังชอบแบบนี้ และเต็มใจที่จะได้ดูมันอีกรอบ โดยที่จะแคร์อะไรกับเนื้อเรื่องรวมถึงตัวบทภาพยนตร์ หลายสิ่งหลายอย่างในภาคนี้ชวนให้ผมหงุดหงิด โดยเฉพาะการแทรกฉากตลกๆ มากมายโดยไร้ความจำเป็นและเสมือนการเพิ่มเวลาลงไปในฉากที่ไร้ค่า จนทำให้หนังมันยาวขึ้น แต่ตัวสาระ ความหมาย หาไม่เจอในภาคนี้ เป็นความพยายามมากกว่าความเพลิน ต้องอดทนให้ฉากเหล่านี้มันผ่านไป!!
บทภาพยนตร์เป็นสิ่งที่แย่มากที่สุดในทุกภาค จุดต่ำสุดของ “มหากาพย์ทรานส์ฟอร์เมอร์ส” ได้เริ่มต้นอย่างแท้จริงในภาคนี้ การตัดฉากก็เร็วเกินไปและขัดจังหวะกับอารมณ์มากจนเกินไป ไม่ทิ้งช่วงให้คนดูซึมซับกับเหตุการณ์หรือเรื่องราว จนทำให้ปวดตา และมึนหัวที่สุด การลำดับภาพก็ดูตื้นเกินไปในหลายจุด เข้าใจว่าตัว ‘ไมเคิล เบย์’ ต้องการ “เน้นเอามันส์” แต่ก็ควรเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ไว้บ้างเพราะคนดูจะได้ซึมซับได้มากขึ้น ผมดูแล้วรู้สึกว่า ก็มันส์ดีนะ แต่แล้วไง!! ก็แค่นั้นหรือเปล่า มันส์!! แต่จับประเด็นหรือสาระอะไรไม่ได้เลยแม้แต่อย่างเดียว “ความมันส์ ที่ไร้แก่นสาร” ผนวก “การตัดฉาก ที่ไร้แง่มุม” จนทำให้ “ทรานส์ฟอร์เมอร์ส” ภาคนี้เป็นภาคที่แย่ที่สุด!!
การดู “ทรานส์ฟอร์เมอร์ส” ให้สนุกนั้น คงไม่มีอะไรมากครับ แค่คุณลืมความ “สมเหตุ สมผล” ทิ้งไปก่อนที่จะก้าวขาเข้าไปดู แค่นี้คุณก็สนุกแบบสุดๆ ได้แล้ว แต่สำหรับคนที่ดูแล้วใส่ใจไปไกลเกินกว่านั้น คงดูไปส่ายหัวไป และอึดอัดเอามาก เรียกได้ว่าต้องทนดูกันเลยทีเดียว เมื่อไหร่จะจบครับผมไม่ไหวแล้ว!! จะมองว่าตัวหนังในภาคนี้มีความดราม่าเล็กๆ ระหว่างพ่อลูก แต่มันก็ดูไม่สมเหตุสมผล ชวนไปในทาง ตลกขำขันสะมากกว่า ข้อดีคงเป็น ฉากต่อสู้ ที่เหมือนจะเก็บรายละเอียดและพัฒนารูปแบบได้ดีกว่าภาคก่อนๆ การถ่ายลองเทคให้เห็นสเกลกว้างๆ ของฉาก ก็ทำออกมาได้ดีในครั้งนี้!!
สุดท้าย Transformers: Age of Extinction คงเป็นหนังที่น่าผิดหวังเกือบจะทุกด้าน และคงเป็นหนังทำเงินมหาศาลอีกตามเคยในเวลาเดียวกัน การกระทำของตัวหนังต่อคนดูเป็นสิ่งสำคัญและเป็นจุดขายของมหากาพย์ทรานส์ฟอร์เมอร์ส ไม่ว่าจะ “เลอะเทอะ” มากแค่ไหนในความสมเหตุสมผล หรือมันจะ “สะเปะสะปะ” แค่ไหนในบทภาพยนตร์ จนทำให้หนังจัดไปในทาง “น่าผิดหวัง” มากน้อยแค่ไหน แต่เราทุกคนคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า “ทรานส์ฟอร์เมอร์ส” คือหนังที่ประสบความสำเร็จ ในแง่ “รายได้” มากแค่ไหนจนไม่ต้องแคร์ใครว่าหนังจะ “ไร้สาระ” แค่ไหนก็ตามที >< ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
อ่านเรื่องอิ่น http://moviesdelightclub.blogspot.com/