Set all time high ปีนี้

กระทู้คำถาม
ทองก็เป็นขาขึ้น ส่วนดอลล่าห์ปีนี้พักผ่อน
ส่วนสาเหตที่หุ้นไทยจะขึ้นแรงปีนี้(และตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาคเอเซียด้วย เช่นกัน) ก็เนื่องจากเหตผลโดยรวมยังคงเป็นลบ หรือค่อนข้างทรงตัว เช่น QE มีการลดลงอย่างต่อเนื่อง และ FED
เตรียมขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้าแล้ว สถาบันระดับโลก มีมุมมองเชิงค่อนข้างลบ ต่อตลาดหุ้น Dowjones และราคาสินทรัพย์ในประเทศอเมริกา เนื่องจากราคาขึ้นมาสูงแล้ว เมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน เมื่อรวมกับเหตผล เรื่องดอกเบี้ยที่เตรียมปรับตัวขึ้น จึงเกรงว่าจะมีการเทขายเกิดขึ้น
ส่วนประเทศไทย เศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ กำลังซื้อต่ำ หนี้ครัวเรือนสูง อสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว Bank เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ฯลฯ
เมื่อเหตผลต่างๆเป็นลบมากกว่าบวก ก็จะส่งผลให้ตลาดหุ้นไทย และในภูมิภาคเอเซีย รวมถึง Dowjones ก็จะปรับขึ้นได้อีก จากระบบผลประโยชน์ที่ซื้อ ในเวลาที่คนส่วนใหญ่ขาย โดยไม่คำนึงถึงเหตผลเป็นตัวนำ ก็จะไปเปลี่ยนสถาณการณ์ให้ดูดีขึ้น สร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้น กล้าลงทุนมากขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้นไปพร้อมๆกับราคาที่สูงขึ้น
เนื่องจากคนส่วนใหญ่ ไม่เข้าใจระบบผลประโยชน์ เมื่อเห็นราคาหุ้นขึ้น ก็คิดว่าคนอื่นๆมั่นใจในเศรษฐกิจ และกล้าซื้อกล้าลงทุนกันแล้ว ก็จะซื้อตามๆกันไป จากไม่จริงก็กลายเป็นจริง จากไม่ดีก็กลายเป็นดี ทั้งๆที่คนที่เข้าใจระบบผลประโยชน์ จะเข้าใจว่า ที่หุ้นปรับตัวขึ้นได้ ก็เพราะคนส่วนใหญ่ไม่กล้าซื้อ และทะยอยขายต่างหาก คนส่วนน้อยได้ซื้อ ราคาก็ปรับตัวขึ้นไปในทิศทางที่คนส่วนน้อยระดับโลก ได้ประโยชน์
ระบบผลประโยชน์อธิบายว่า ราคาจะเคลื่อนตัวจากจุดที่คนส่วนใหญ่กลัว เหตผลดูไม่ดีทุกข้อ (ที่ประมาณ 1200-1300 จุด เมื่อต้นปี 57) และกลไกรราคาก็จะดำเนินไปเรื่อยๆ ราคาขึ้นไปเรื่อยๆ เหตผลดูดีขึ้นเรื่อยๆ คนซื้อหุ้นจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดที่มีแต่เหตผลชัดเจน ทุกข้อ ว่าควรซื้อ แล้วจึงปรับตัวลง ซึ่งน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1700-1800 จุด หรืออาจสูงกว่า ตามที่ได้วิเคราะไว้ในหลายๆ post ก่อนหน้านี้และใน youtube ส่วนบริเวณราคาที่ประมาณ 1450นี้ เป็นช่วงกลางๆ ของวงจร ที่คงจะสลับขึ้นลงระยะหนึ่ง ก่อนที่จะพุ่งขึ้นไปสร้าง New High ในที่สุด
คนที่เข้าใจระบบผลประโยชน์ จึงควรซื้อไปนานแล้ว ไม่ควรportว่างถึงตรงนี้ และไม่ควรทะยอยขายหรือลดพอร์ท ส่วนคนที่ยังไม่ได้ซื้อ กลยุทย์คือ หุ้นลงให้ทะยอยซื้อ หุ้นขึ้นไม่ขาย รายละเอียดให้กะเก็งเอาเอง
ทองคำจะเป็นขาขึ้นในระยะกลางๆ 1-3 ปี ให้ซื่อเพิ่มได้ที่ประมาณ 1250 เหรียญ หรือต่ำกว่าื อย่าขายทิ้ง ตามเหตุผลต่างๆที่ชี้ให้ขาย เช่น เศรษฐกิจยุโรป อเมริกา ฟื้นแล้ว ช่วงวิกฤต ผ่านไปแล้ว กลองทุนระดับโลกต่างๆ เทขาย เงินเฟ้ออยู่ระดับต่ำ QE ทะยอยลด ฯลฯ ในมุมกลับ เมื่ออธิบายด้วยระบบผลประโยชน์ก็จะส่งผลให้ทองปรับตัวสลับขึ้นลง เป็น side way up ขึ้นไปได้ถึง 1450-1700 เหรียญ ภายใน 1-3 ปี ส่วน US Dollar ปีนี้ขอพักผ่อนหยุดแข็งซัก 1 ปี เนื่องจากต้นปีมีเหตผลมากมายที่ชี้ว่า เงินบาทจะอ่อนค่า ถึง 33.5-34 หรือ 35-36 ก็เริ่มมีคนพูดถึง แม้ว่าด้วยเหตผลจะถูกต้อง เช่น การเมืองวุ่นวาย เศรษฐกิจอ่อนแอ มีการลด QE เตรียมขึ้นดอกเบี้ย ฯลฯ แต่พอมีเหตผลชัดเจนว่า เงินบาทจะอ่อนค่าจาก 33 ขึ้นไปเป็น34 35 คนส่วนใหญ่ก็ซื้อ Dollar เงิน Dollar ก็กลับอ่อนลง เงินบาทก็กลับแข็งค่ามาที่ 32 บาทกว่าๆทันที สวนยทางกับเหตผลข้อเท็จจริง และสภาพเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม เมื่อเหตผลที่ชี้ว่าเงินบาทจะอ่อนค่า เริ่มลดลง จนหายไปในอนาคต เช่น ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นทั่วเอเซีย เศรษฐกิจฟื้น การลด QE และดขึ้นอกเบี้ยไม่มีผล ฯลฯ(ซึ่งสิ่งเหล่านี้กำลังจะเริ่มเกิดขึ้น) US Dollar ก็จะกลับมาเริ่มแข็งค่าอีกครั้ง ซึ่งน่าจะเป็นในปีหน้า ส่วนปีนี้ ถ้าเงินบาทจะแข็งค่ามาถึง 31.5 ก็ไม่แปลกอะไร เมื่ออธิบายด้วยระบบผลประโยชน์ และตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป เงินบาทจะอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง ตามหลักการณ์ในกรอบใหญ่ ที่ US Dollar Oversoldมากๆ และจะแข็งค่าในระยะยาว ซึ่งได้เคยอธิบายมาแล้ว

เครดิต : พิชัย จาวลา
นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มจาวลา เชียงใหม่ กรุ๊ป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่