
BY INVITATION| OUR WORK TRIP
REBLOGGED FROM
WWW.OHHAPPYBEAR.COM
เดินทางไปทำงานสั้นๆ ที่สมุยมาค่ะ…
สมุยกำลังอยู่ในช่วงโลว์ นักท่องเที่ยวฝรั่งที่มาจากยุโรปส่วนใหญ่กลับบ้านไปแล้ว ที่เหลือคือชาวเอเชียเที่ยวกัน
ส่วนใหญ่จากที่ถามๆ มา มักเป็นคู่ฮันนีมูนเกาหลี จีน ฮ่องกง ที่ชอบทะเลเมืองไทยและมาเที่ยวพักรีสอร์ทดีๆ เป็นรางวัลชีวิตกัน
เราสองคนได้ไปพักที่บันยันทรี สมุยกันมา

สำหรับคนที่เป็นแฟนบันยันทรี ก็อาจคุ้นเคยดีอยู่แล้วว่าโรงแรมนี้มีชื่อเสียงมากมายจากการแนะนำ “พูลวิลล่า” เป็นที่แรกในประเทศไทยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว โดยเปิดตัวรีสอร์ทแห่งแรกในชื่อบันยันทรีที่ภูเก็ต ซึ่งจำได่ว่าตอนนั้นยังไม่มีใครคิดว่าจะใส่สระว่ายน้ำเข้าไปในห้องพัก แถมยังเป็นห้องพักแบบวิลล่า คือเป็นบ้านหลังเล็กๆ มีรั้วรอบขอบชิด บางแห่งเช่นที่ภูเก็ตจะมีจักรยานไว้ให้ใช้เผื่ออยากไปไหนมาไหนในรีสอร์ทโดยไม่ต้องรอเรียกรถกอล์ฟ
พูลวิลล่าที่สมุยตั้งอยู่ทั้งสองด้านของเชิงเขาของอ่าวครก วิลล่าทุกหลังเหมือนกันหมด คือมีสระว่ายน้ำ มีศาลาด้านนอก ด้านในแบ่งเป็นสามส่วนใหญ่ๆ คือ ห้องนั่งเล่น ห้องนอนและห้องน้ำ เพดานที่สูงโปร่งของแต่ละห้องรวมทั้งการตกแต่งประดับประดา อุปกรณ์เครื่องใช้ที่หรูหราเป็นมาตรฐานที่สำคัญของบันยันทรี ห้องพักคือใหญ่มากนะคะ เดินไปมาออกกำลังได้ หรือไม่ก็ต้องใช้เสียงนิดนึงเวลาคุยกัน ห้องที่เราพักคือ Royal Banyan Pool Villa คือนอกจากสระน้ำและศาลานั่งเล่นภายนอกแล้ว ยังมีจากุชชี่น้ำอุ่นด้วย ส่วนวิวก็อยู่ด้านหน้า เห็นทะเลจากแทบทุกมุม โดยเฉพาะยามเช้าที่พระอาทิคย์กำลังขึ้น เปลี่ยนแสงเปลี่ยนมุมเงาตลอดเวลา นั่งพักผ่อนไปดูวิวไปมีความสุขมากๆ ค่ะ ^_^

ก็เพราะมาเช้ามากๆๆๆ เราสองคนก็หิวมากเป็นธรรมดา อาหารเช้าที่ The Edge ที่อยู่ถัดจากล็อบบี้มานั้นอลังการมาก มีที่นั่งทั้งด้านใน ด้านนอก เราเลือกด้านนอกเพราะอากาศวันที่ไปดีมาก ไม่ร้อนเลย ลมเอื่อยๆ แดดอ่อนๆ นั่งผิงได้อย่างมีความสุข
ส่วนอาหารที่ว่าอลังการ ก็คือมีให้เลือกมากมายราวกับอาหารเที่ยง นอกจากมุมของร้อนสั่งทำ คือไข่แบบต่างๆ และก๋วยเตี๋ยวแล้ว ยังมีเครป ติ่มซำ อาหารเอเชีย เช่น โจ๊ก ก๋วยเตี๋ยวผัด ผัดผัก โยเกิร์ตรสต่างๆ ผลไม้มากมาย และมุมเบเกอรี่ที่มีทั้งขนมปังหลายแบบ ขนมอบนานาชนิด สามาถเลือกทานได้แบบว่าเรื่อยๆ ไม่รู้จบค่ะ
บันยันทรีเค้ามีชื่อเสียงเรื่องสปา ที่ไปทำงานครั้งนี้ก็คือไปทดลองใช้โปรแกรมสปา Rainforest Indulgence ที่มีที่สมุยแห่งนี้แห่งเดียวในประเทศไทยสำหรับบันยันทรีสปาทั้งหมด ซึ่งในโลกนี้เค้าก็มีแค่สองที่เท่านั้น คือที่สมุยแห่งนี้และที่ Al Wadi ใน UAE เท่านั้น ก็เลยเป็นทรีตเม้นต์ที่พิเศษมากๆ สำหรับคนที่ชอบเล่นน้ำ ขี้เมื่อย และอยากเปลี่ยนบรรยากาศการทำสปาให้มีความตื่นเต้นขึ้นบ้างอะไรบ้าง
Rainforest Indulgence ใช้เวลา 150 นาที คือก่อนอื่นเราควรนำชุดว่ายน้ำไปเอง หรือหากไม่ได้นำไป ทางสปาก็มีชุดไว้ให้เปลี่ยน ตอนแรกจะเป็นการวอร์มอัพร่างกาย เริ่มต้นจากการเดินผ่านสายฝนเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสให้สดชื่นก่อน แล้วจึงเข้าห้องอบไอน้ำเปิดรูขุมขนซึ่งตอนนี้ทางเธอราพีสก็จะเข้ามาขัดตัวให้ค่ะ ขัดตัวเสร็จก็จะทิ้งเราไว้ให้อบไอน้ำต่อไป ซักห้านาทีก็ออกไปอาบน้ำ ทำเช่นนี้สองรอบ… แล้วก็เข้าห้องซาวน่าเพื่ออบร้อนต่อ … ออกมาดื่มน้ำและหากชอบก็ใช้น้ำแข็งลูบตัวเพื่อกระตุ้นระบบในร่างกายอีกที
ตอนที่สนุกมากๆ ก็คือตอนเล่นเครื่องนวดต่างๆ ในสระน้ำ เป็นสระที่ทำมาเพื่อการนวดโดยเฉพาะ เริ่มจากการนวดไหล่ (เป็นเครื่องเจ๊ตยิงน้ำออกมานวด) นวดศรีษะ นวดเท้า ไปเรื่อยๆ จนจบที่การนอนบนเตียงนวดทั้งตัว ในสระน้ำนี้บางจุดน้ำแรงมากๆ แนะนำว่าควรอย่างยิ่งที่จะจับที่จับที่เขามีไว้ให้ เพราะตัวจะลอยได้จากแรงน้ำที่พุ่งออกมา ซึ่งทั้งหมดทุกขั้นตอนมีพนักงาน (ซึ่งก็คือเธอราพีสของเรานั่นเอง) อยู่ดูแลความปลอดภัยให้คลอดทุกช๊อตค่ะ
เสร็จจากสระน้ำ ก็มานอนพักที่เตียงอุ่นต่อ ตอนนี้สบายมากๆ หน้าตาสดใสอย่างแรง (หรือคิดไปเอง..

) ก่อนเปลี่ยนชุดเข้าห้องนวดต่อไป ซึ่งสำหรับคนที่เคยนวดที่บันยันทรี ก็จะรู้เลยค่ะว่าเขานวดกันแบบดีและสบายมากๆๆๆๆ บันยันทรีมี academy การนวดตำรับของตนเอง ซึ่งส่งออกเธอราพีสไทยไปทั่วโลกตามสาขาของบันยันทรีที่มีกว่า 80 แห่ง ดิฉันเคยเข้าคลาสนวดสั้นๆ ที่เขามีให้แขกที่ Banyan Tree Spa Sanctuary ที่ภูเก็ต ทำให้รู้สึก appreciate คนนวดประจำของตนเองมากๆ ที่เรากำลังนอนให้เขานวดสบายๆ ได้นั้นเบื้องหลังก็คือการฝึกฝนหลายสิบชั่วโมงและหลายร้อยชั่วโมงเพื่อให้ได้มาซึ่งความเชี่ยวชาญของแต่ละคน
ก็นอนหลับไป คือมันสบายมาก..อีก 90 นาที ตื่นมาหิวพอดี

ทานอาหารยามบ่ายที่ Sands คือ บีชบาร์ที่เสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มสำหรับคนที่มานั่งทอดหุ่ยอยู่แถวชายหาด
เราสั่งอาหารสองอย่าง.. อร่อยมากๆๆ คือ พาร์ม่าพิซซ่า และแลงกวินี่ซีฟู๊ดซอสไวน์ขาว เขามีขนมปังอบเองอุ่นๆ มาเสิร์ฟให้แทะเล่นขณะชมวิวรออาหารไปก่อน

ส่วนอาหารเย็น ทางโรงแรมได้จองห้องอาหาร Saffron ไว้ให้ ก็แต่งตัวสวยนิดนุงไปดินเนอร์โรแมนติกๆ กัน ห้องอาหารนี้อยู่บนเขาห่างจากวิลล่าของเราไปไม่ไกลค่ะ สวยงามเห็นวิวรอบด้าน พระอาทิตย์ตกแสงระเรื่อๆ สวยมากๆ
ที่ Saffron คืออาหารไทยเลยค่ะ มีทั้งอาหารภาคใต้และอาหารภาคกลาง พ่อครัวใหญ่ของทุกสาขาทั้วโลกเป็นชาวไทยทั้งหมดและปรุงอาหารโดยใช้สูตรอาหารตำรับ Saffron เหมือนกันทั่วโลก ในภาพจะเห็นว่าเราสองคนทานได้เพียงนิดหน่อยแต่ก็ประทับใจมาก อาหารคุณภาพดีและอร่อยมาก เราสั่งแกงเนื้อปูซึ่งมากับขนมจีน ส้มตำปูนิ่ม และลาบปลาทูน่า รสชาติกลมกล่อมมาก และการบริการสุดยอดคือดีเยี่ยม friendly และ informative ..ที่ชอบมากๆ อีกอย่างคือข้าวสวยที่เขาหุงนุ่มๆ ขึ้นเป็นพิเศษถึง 5 รส ได้แก่ มะพร้าว (อร่อยมากๆ ข้าวนุ่มๆ หอมๆ ทานกับส้มตำเข้ากันที่สุด) หญ้าฝรั่นใบมะกรูด ใบเตย และข้าวกล้อง และ appetizer ทานเล่นที่เขาเสิร์ฟล้อแบบอินเดียแต่เป็นแป้งทองม้วนบางๆ ทานกับน้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง …

ขอปิดท้ายด้วยภาพต้นมะพร้าวสวยๆ ที่โรงแรมบันยันทรีสมุย อย่างที่ทราบนะคะ สมุยขึ้นชื่อเรื่องมะพร้าวและเรื่องลิง..
มาทำงานเหมือนได้มาพักผ่อน..รู้สึกโชคดีและมีความสุขมากๆ
คราวหน้าจะมาเล่าอีกโรงแรม ซึ่งก็คือ Six Senses Samui ค่ะ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบันยันทรี สมุย สามารถดูได้ที่นี่ค่ะ
[SR] บันยันทรี สมุย
BY INVITATION| OUR WORK TRIP
REBLOGGED FROM WWW.OHHAPPYBEAR.COM
เดินทางไปทำงานสั้นๆ ที่สมุยมาค่ะ…
สมุยกำลังอยู่ในช่วงโลว์ นักท่องเที่ยวฝรั่งที่มาจากยุโรปส่วนใหญ่กลับบ้านไปแล้ว ที่เหลือคือชาวเอเชียเที่ยวกัน
ส่วนใหญ่จากที่ถามๆ มา มักเป็นคู่ฮันนีมูนเกาหลี จีน ฮ่องกง ที่ชอบทะเลเมืองไทยและมาเที่ยวพักรีสอร์ทดีๆ เป็นรางวัลชีวิตกัน
เราสองคนได้ไปพักที่บันยันทรี สมุยกันมา
สำหรับคนที่เป็นแฟนบันยันทรี ก็อาจคุ้นเคยดีอยู่แล้วว่าโรงแรมนี้มีชื่อเสียงมากมายจากการแนะนำ “พูลวิลล่า” เป็นที่แรกในประเทศไทยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว โดยเปิดตัวรีสอร์ทแห่งแรกในชื่อบันยันทรีที่ภูเก็ต ซึ่งจำได่ว่าตอนนั้นยังไม่มีใครคิดว่าจะใส่สระว่ายน้ำเข้าไปในห้องพัก แถมยังเป็นห้องพักแบบวิลล่า คือเป็นบ้านหลังเล็กๆ มีรั้วรอบขอบชิด บางแห่งเช่นที่ภูเก็ตจะมีจักรยานไว้ให้ใช้เผื่ออยากไปไหนมาไหนในรีสอร์ทโดยไม่ต้องรอเรียกรถกอล์ฟ
พูลวิลล่าที่สมุยตั้งอยู่ทั้งสองด้านของเชิงเขาของอ่าวครก วิลล่าทุกหลังเหมือนกันหมด คือมีสระว่ายน้ำ มีศาลาด้านนอก ด้านในแบ่งเป็นสามส่วนใหญ่ๆ คือ ห้องนั่งเล่น ห้องนอนและห้องน้ำ เพดานที่สูงโปร่งของแต่ละห้องรวมทั้งการตกแต่งประดับประดา อุปกรณ์เครื่องใช้ที่หรูหราเป็นมาตรฐานที่สำคัญของบันยันทรี ห้องพักคือใหญ่มากนะคะ เดินไปมาออกกำลังได้ หรือไม่ก็ต้องใช้เสียงนิดนึงเวลาคุยกัน ห้องที่เราพักคือ Royal Banyan Pool Villa คือนอกจากสระน้ำและศาลานั่งเล่นภายนอกแล้ว ยังมีจากุชชี่น้ำอุ่นด้วย ส่วนวิวก็อยู่ด้านหน้า เห็นทะเลจากแทบทุกมุม โดยเฉพาะยามเช้าที่พระอาทิคย์กำลังขึ้น เปลี่ยนแสงเปลี่ยนมุมเงาตลอดเวลา นั่งพักผ่อนไปดูวิวไปมีความสุขมากๆ ค่ะ ^_^
ก็เพราะมาเช้ามากๆๆๆ เราสองคนก็หิวมากเป็นธรรมดา อาหารเช้าที่ The Edge ที่อยู่ถัดจากล็อบบี้มานั้นอลังการมาก มีที่นั่งทั้งด้านใน ด้านนอก เราเลือกด้านนอกเพราะอากาศวันที่ไปดีมาก ไม่ร้อนเลย ลมเอื่อยๆ แดดอ่อนๆ นั่งผิงได้อย่างมีความสุข
ส่วนอาหารที่ว่าอลังการ ก็คือมีให้เลือกมากมายราวกับอาหารเที่ยง นอกจากมุมของร้อนสั่งทำ คือไข่แบบต่างๆ และก๋วยเตี๋ยวแล้ว ยังมีเครป ติ่มซำ อาหารเอเชีย เช่น โจ๊ก ก๋วยเตี๋ยวผัด ผัดผัก โยเกิร์ตรสต่างๆ ผลไม้มากมาย และมุมเบเกอรี่ที่มีทั้งขนมปังหลายแบบ ขนมอบนานาชนิด สามาถเลือกทานได้แบบว่าเรื่อยๆ ไม่รู้จบค่ะ
บันยันทรีเค้ามีชื่อเสียงเรื่องสปา ที่ไปทำงานครั้งนี้ก็คือไปทดลองใช้โปรแกรมสปา Rainforest Indulgence ที่มีที่สมุยแห่งนี้แห่งเดียวในประเทศไทยสำหรับบันยันทรีสปาทั้งหมด ซึ่งในโลกนี้เค้าก็มีแค่สองที่เท่านั้น คือที่สมุยแห่งนี้และที่ Al Wadi ใน UAE เท่านั้น ก็เลยเป็นทรีตเม้นต์ที่พิเศษมากๆ สำหรับคนที่ชอบเล่นน้ำ ขี้เมื่อย และอยากเปลี่ยนบรรยากาศการทำสปาให้มีความตื่นเต้นขึ้นบ้างอะไรบ้าง
Rainforest Indulgence ใช้เวลา 150 นาที คือก่อนอื่นเราควรนำชุดว่ายน้ำไปเอง หรือหากไม่ได้นำไป ทางสปาก็มีชุดไว้ให้เปลี่ยน ตอนแรกจะเป็นการวอร์มอัพร่างกาย เริ่มต้นจากการเดินผ่านสายฝนเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสให้สดชื่นก่อน แล้วจึงเข้าห้องอบไอน้ำเปิดรูขุมขนซึ่งตอนนี้ทางเธอราพีสก็จะเข้ามาขัดตัวให้ค่ะ ขัดตัวเสร็จก็จะทิ้งเราไว้ให้อบไอน้ำต่อไป ซักห้านาทีก็ออกไปอาบน้ำ ทำเช่นนี้สองรอบ… แล้วก็เข้าห้องซาวน่าเพื่ออบร้อนต่อ … ออกมาดื่มน้ำและหากชอบก็ใช้น้ำแข็งลูบตัวเพื่อกระตุ้นระบบในร่างกายอีกที
ตอนที่สนุกมากๆ ก็คือตอนเล่นเครื่องนวดต่างๆ ในสระน้ำ เป็นสระที่ทำมาเพื่อการนวดโดยเฉพาะ เริ่มจากการนวดไหล่ (เป็นเครื่องเจ๊ตยิงน้ำออกมานวด) นวดศรีษะ นวดเท้า ไปเรื่อยๆ จนจบที่การนอนบนเตียงนวดทั้งตัว ในสระน้ำนี้บางจุดน้ำแรงมากๆ แนะนำว่าควรอย่างยิ่งที่จะจับที่จับที่เขามีไว้ให้ เพราะตัวจะลอยได้จากแรงน้ำที่พุ่งออกมา ซึ่งทั้งหมดทุกขั้นตอนมีพนักงาน (ซึ่งก็คือเธอราพีสของเรานั่นเอง) อยู่ดูแลความปลอดภัยให้คลอดทุกช๊อตค่ะ
เสร็จจากสระน้ำ ก็มานอนพักที่เตียงอุ่นต่อ ตอนนี้สบายมากๆ หน้าตาสดใสอย่างแรง (หรือคิดไปเอง..
ก็นอนหลับไป คือมันสบายมาก..อีก 90 นาที ตื่นมาหิวพอดี
ทานอาหารยามบ่ายที่ Sands คือ บีชบาร์ที่เสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มสำหรับคนที่มานั่งทอดหุ่ยอยู่แถวชายหาด
เราสั่งอาหารสองอย่าง.. อร่อยมากๆๆ คือ พาร์ม่าพิซซ่า และแลงกวินี่ซีฟู๊ดซอสไวน์ขาว เขามีขนมปังอบเองอุ่นๆ มาเสิร์ฟให้แทะเล่นขณะชมวิวรออาหารไปก่อน
ส่วนอาหารเย็น ทางโรงแรมได้จองห้องอาหาร Saffron ไว้ให้ ก็แต่งตัวสวยนิดนุงไปดินเนอร์โรแมนติกๆ กัน ห้องอาหารนี้อยู่บนเขาห่างจากวิลล่าของเราไปไม่ไกลค่ะ สวยงามเห็นวิวรอบด้าน พระอาทิตย์ตกแสงระเรื่อๆ สวยมากๆ
ที่ Saffron คืออาหารไทยเลยค่ะ มีทั้งอาหารภาคใต้และอาหารภาคกลาง พ่อครัวใหญ่ของทุกสาขาทั้วโลกเป็นชาวไทยทั้งหมดและปรุงอาหารโดยใช้สูตรอาหารตำรับ Saffron เหมือนกันทั่วโลก ในภาพจะเห็นว่าเราสองคนทานได้เพียงนิดหน่อยแต่ก็ประทับใจมาก อาหารคุณภาพดีและอร่อยมาก เราสั่งแกงเนื้อปูซึ่งมากับขนมจีน ส้มตำปูนิ่ม และลาบปลาทูน่า รสชาติกลมกล่อมมาก และการบริการสุดยอดคือดีเยี่ยม friendly และ informative ..ที่ชอบมากๆ อีกอย่างคือข้าวสวยที่เขาหุงนุ่มๆ ขึ้นเป็นพิเศษถึง 5 รส ได้แก่ มะพร้าว (อร่อยมากๆ ข้าวนุ่มๆ หอมๆ ทานกับส้มตำเข้ากันที่สุด) หญ้าฝรั่นใบมะกรูด ใบเตย และข้าวกล้อง และ appetizer ทานเล่นที่เขาเสิร์ฟล้อแบบอินเดียแต่เป็นแป้งทองม้วนบางๆ ทานกับน้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง …
ขอปิดท้ายด้วยภาพต้นมะพร้าวสวยๆ ที่โรงแรมบันยันทรีสมุย อย่างที่ทราบนะคะ สมุยขึ้นชื่อเรื่องมะพร้าวและเรื่องลิง..
มาทำงานเหมือนได้มาพักผ่อน..รู้สึกโชคดีและมีความสุขมากๆ
คราวหน้าจะมาเล่าอีกโรงแรม ซึ่งก็คือ Six Senses Samui ค่ะ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบันยันทรี สมุย สามารถดูได้ที่นี่ค่ะ