โดยทางนายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กล่าวว่า "การที่น้องครีมเข้ามาฝึกซ้อมที่สมาคมจะยิ่งทำให้สะดวกต่อการฝึกซ้อม เพราะไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ยิ่งช่วงเปิดเทอมในเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งครีมจะเข้าเรียนเป็นนิสิตชั้นปีที่ 1 คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ฯ อีกทั้งทาง อ.ปริญญา ที่ดูแลทีมแบดฯ จุฬาฯ ก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารสมาคมแบดฯ ก็พร้อมที่จะดูแลและให้คำปรึกษาอย่างเต็มที่อีกด้วย แต่สิ่งที่หลายๆ คนยังคงกังวลเกี่ยวกับน้องครีม ก็คือเรื่องสภาพจิตใจในช่วงลงสนามแข่งขันมากกว่า เพราะเมื่อเข้ารอบลึกๆ
รวมไปถึงแมตช์ที่คู่คี่สูสีกันมากๆ น้องครีมมักจะออกอาการเกร็งและกดดันตนเองจนเล่นผิดพลาด ส่งผลให้พลาดหวังหลายครั้ง จึงมีผู้ใหญ่หลายคนให้คำปรึกษาเรื่องนักจิตวิทยาเข้ามาช่วย แน่นอนว่ายูธโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ น้องครีมจะต้องแบกเอาความกดดันมากกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา เพราะไปแข่งขันคนเดียว และเป็นความหวังด้วย ทางสมาคมแบดฯ จึงได้ปรึกษาผู้ใหญ่หลายคนด้านนักจิตวิทยามาช่วยอีกทางหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องดี แต่ก็ไม่ได้เน้นเพียงครีมคนเดียว เพราะอยากให้หลายคนได้ทำ และน่าจะเป็นผลดีต่อนักแบดมินตันไทยทุกคน"
ด้านบุศนันทน์กล่าวว่า "สภาพร่างกายถือว่าสมบูรณ์มากไม่มีอะไรให้ต้องกังวล แม้เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้ามาในช่วงแข่งขันที่ออสเตรเลียก็ตาม การฝึกซ้อมในช่วงนี้มีนักวิทยาศาสตร์ของสมาคมฯ คอยดูแลอย่างใกล้ชิดจึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหาเรื่องของสภาพร่างกาย ส่วนเทคนิคการเล่นนั้นทางทีมโค้ชก็คอยดูแลให้คำแนะนำอย่างดีเยี่ยมมาโดยตลอด ทำให้ไม่รู้สึกเครียดหรือกดดันแต่อย่างไร แม้ครั้งนี้จะเป็นตัวแทนของนักแบดมินตันไทยไปแข่งขันเพียงคนเดียว เพราะปีที่แล้วก็ไปได้เหรียญเงินเอเชียนยูธเกมส์ ครั้งที่ 2 มาแล้ว"
น้องครีมเข้าพบนักจิตวิทยา แก้อาการเกร็งเมื่อเข้ารอบลึก สมาคมน่าจะให้น้องเมไปอีกคนนะครับ55
รวมไปถึงแมตช์ที่คู่คี่สูสีกันมากๆ น้องครีมมักจะออกอาการเกร็งและกดดันตนเองจนเล่นผิดพลาด ส่งผลให้พลาดหวังหลายครั้ง จึงมีผู้ใหญ่หลายคนให้คำปรึกษาเรื่องนักจิตวิทยาเข้ามาช่วย แน่นอนว่ายูธโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ น้องครีมจะต้องแบกเอาความกดดันมากกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา เพราะไปแข่งขันคนเดียว และเป็นความหวังด้วย ทางสมาคมแบดฯ จึงได้ปรึกษาผู้ใหญ่หลายคนด้านนักจิตวิทยามาช่วยอีกทางหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องดี แต่ก็ไม่ได้เน้นเพียงครีมคนเดียว เพราะอยากให้หลายคนได้ทำ และน่าจะเป็นผลดีต่อนักแบดมินตันไทยทุกคน"
ด้านบุศนันทน์กล่าวว่า "สภาพร่างกายถือว่าสมบูรณ์มากไม่มีอะไรให้ต้องกังวล แม้เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้ามาในช่วงแข่งขันที่ออสเตรเลียก็ตาม การฝึกซ้อมในช่วงนี้มีนักวิทยาศาสตร์ของสมาคมฯ คอยดูแลอย่างใกล้ชิดจึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหาเรื่องของสภาพร่างกาย ส่วนเทคนิคการเล่นนั้นทางทีมโค้ชก็คอยดูแลให้คำแนะนำอย่างดีเยี่ยมมาโดยตลอด ทำให้ไม่รู้สึกเครียดหรือกดดันแต่อย่างไร แม้ครั้งนี้จะเป็นตัวแทนของนักแบดมินตันไทยไปแข่งขันเพียงคนเดียว เพราะปีที่แล้วก็ไปได้เหรียญเงินเอเชียนยูธเกมส์ ครั้งที่ 2 มาแล้ว"