สวัสดีค้าาาา ชาวพันทิปห้องที่ถูกแท็ก หรือท่านที่หลงเข้ามาทุกท่านนนน.. !!
วันนี้ก็ไม่มีไรมากนะฮ้ะ แค่อยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์สนุกๆ กับชีวิต10เดือนในลอนดอนกับทุกคน
หลายๆคนบอกว่าเราใช้ชีวิต10เดือนได้คุ้ม มีทั้งช่วงสูงสุด ต่ำสุด(ในชีวิตเลยก็ว่าได้) แต่เราก็ผ่านมาได้ส๊วยยยงามมมม(วิบัติเพื่อเสียงค่ะ)
เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่อยากไป กำลังจะไปหรือใครก็ได้ที่อยากอ่าน
ก่อนอื่นนะเราขอเกริ่นว่า บ้านเราไม่ได้ร่ำรวยอะไร(เราอยู่กับแม่) แต่ทางพ่อเค้าพอมีพอกินเหลือๆ(พ่อแม่อย่ากัน)
จบมาเราก็สมัครงาน ได้งานในแบรนด์แฟชั่นดังจากฝั่งอังกฤษ งานสนุก เงินดีแต่โตยาก
ทำไปทำมาก็ไม่รวยยยซักที เงินเดือนก็เยอะ แต่มันหายไปไหนหมดหว่า คิดไปคิดมา อ่อ..ค่าน้ำมัน ค่าปาร์ตี้ ค่าเสื้อผ้า ค่าภาษีสังคมเงินเดือนก็หายหม๊ดดดดด
ไม่ได้ล่ะ วันดีคืนดีเราก็อยากก้าวหน้า เลยตัดสินใจไปเรียนภาษาที่
"ลอนดอนนนนนนนนนนนน" กรี๊ดดดด กำลังจะเป็นเด็กนอกกกกก!!! เท่อ้ะะ!!!!
ว่าแล้วเราก็จัดแจงใช้มารยาร้อยเล่มเกวียนสวมบทลูกสาวที่แสนดี หัวก้าวหน้าขอเงินพ่อ กราบเรียนท่านพ่อไปว่า "พ่อจ๋าหนูอยากรวย อยากก้าวหน้า อยากเก่งอังกฤษ"
ว่าแล้วคุณพ่อที่แสนดีก็โอนเงินค่าครอส ค่าเครื่อง ค่าใช้จ่ายมาให้ ราวๆ6แสน (เป็นเงินที่พ่อให้เพื่อค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมทั้งค่ากินค่าอยู่) แล้วขอยืมstatement คุณพ่อย้อนหลัง6เดือนมายื่นวีซ่า (แต่แค่ยืมนะ เพราะเงินที่โชว์ในบัญชีนี้พ่อไม่ได้ให้!!)
เราลงครอสไป8เดือน+ค่าเครื่อง+วีซ่า+บลาๆๆๆ สรุปเราเหลือเงินที่เราใช้ได้ไม่ถึง 250000!!!!!!!
เอาไงละทีนี้ 250000 กับแปดเดือนในลอนดอนที่เค้าว่าค่าครองชีพสุดโหดไหนจะค่าเช่า ค่ากินอยู่ ค่าเสื้อผ้า อย่างต่ำเค้าว่ากันจะอยู่รอดต้องมี800ปอนด์(เดือนละเกือบ50000)
เท่ากับว่า... เรามีเงินพอใช้ไม่ถึง 5 เดือน!!!!!
ป.ล. ณ นาทีนั้นยังไม่เครียด เพราะคิดว่า แด็วถ้าเงินจะหมดละจะขอใหม่ อิอิ(เดี๋ยวเอ็งจะได้เรียนรู้ภายหลัง นังโลกยังสวยย)
ว่าแล้วเราก็เตรียมจัดกระเป๋ามุ่งสู่ลอนดอน คุ้ยตามกระทู้ต่างๆว่าอะไรควรเอาไปอะไรไม่ควรเอาไป
ทั้งกระเป๋าเดือนทางเราจึงเต็มไปด้วยของกิน ผ้าอนามัย ชุดชั้นใน ถุงน่อง สบู่มาดามเฮงเหยียบๆโหล แล้วของกินอีกรอบ
ไม่มีที่ว่างสำหรับเสื้อผ้าหน้าหนาว เพราะเราคิดว่า จำไปซื้อที่นุ้น ( ยัง ยังงงง ไม่สำนึกสำเหนียกกับเงินที่ตัวเองเหลือ ยังอยากไปช้อปต่อจ้าาาาาา!!)
ส่วนเรื่องที่พัก สองอาทิตย์แรกเราจองที่พักที่ทางโรงเรียนจัดให้ อยู่กับhost family ซึ่งเราได้ที่พักทางโซนสอง ราคามหาโหดรวมอาหารเช้า ตกสัปดาห์ละ185ปอนด์ ที่ถูกขนานนามว่า Brixton. ซึ่งเขาว่ากันว่า(ในเว็บว่ามา) มีแต่คนดำ นักเลง แก๊งค์ และอาชญากรรม เอาละเหว๋ยยยยยย .... ตายแน่ ไม่รอดแน่ กลัวจ้ะ ปอดหด ตับแล่บ วันๆเลยเอาแต่หมกมุ่น เครียด แต่ก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมไม่ขอทางร.ร. เปลี่ยน =*=
ส่วนหลังจากนั้นก็กะว่าจะแชร์แฟลตกับเพื่อนคนไทยที่ไปพร้อมกัน รู้จักกันผ่านเอเจนซี่
ตัดฉากฉึ่บมาวันบิน.. เรามุ่งสู่ลอนดอน โดยEtihad airline ต่อเครื่องที่ อบูดาบี รวมเวลาเสร็จสิ้นก็ประมาณ 15 ชั่วโมง ลงที่ Heathrow Airport ต่อแท็กซี่พี่ดีเจเคนสุดหล่อไปลงที่โรงแรมแถวearl's court ที่พักชั่วคราวระหว่างรอเข้าบ้านโฮสท์ ณ Brixton ที่เค้าว่ากันว่า เลี่ยงได้เลี่ยง..
.............
เรากับเพื่อนพักที่earl's court ประมาณสามวัน แถวนั้นส่วนมากจะเป็นโรงแรมตึกแถวขาวๆสวยๆเต็มไปหมด คนแถวนี้ส่วนมากก็เป็นเอเชีย กับคนขาวปะปนกันไป
ไม่ห่างจากโรงแรมที่เราอยู่มีร้านเจ๊หมวยชื่อดัง ขายอาหารและสินค้าไทย ครบครัน ขาดอะไรลองไปร้านเจ๊แล้วจะเจอ(แต่ราคายอมรับว่าทางร้านจีนในไชน่าทาวน์ถูกกว่า)
สองวันในลอนดอนผ่านไป วันเข้าบ้านโฮท์ก็มาถึง... เร็วจังแว๊!! กลัววววววว!!
เราก็หอบข้าวหอบของไปส่งเพื่อนเข้าบ้านโฮสท์ทางเหนือๆโซนสองของลอนดอน จำได้ว่าน่าจะ Kensal Rise แถวนั้นจะเป็นภูเขาเนินโนนเต็มไปหมด เราได้ว่าต้องผลัดกันจากกระเป๋าเดินทางของเพื่อนขึ้นเนินซึ่งไกลมากกกกกกก เล่นเอาหอบ!
ว่าแล้วก็ถึงตาเราที่เพื่อนต้องไปส่งที่ Brixton...
ครั้งแรกที่ไปถึง ... งง!!! คนเยอะมาก ตามTube ถนน คนเยอะไปหมด ทั้งรถหวอ ตำรวจ มาทำไมมมมกั๊นนนนน มาต้อนรับผมหรอก๊าบบบบบบ
แลดูท่าทางข้อมูลที่หามา คงจะจริง!!! คนดำประมาณ85% ที่เหลือเป็นคนขาววัยรุ่นแต่งตัวเซอร์ ส่วนคนเอเชีย... หายาก!!
ณ จุดนี้ ไม่ใช่แค่ปอดแหกค่ะ ... หัวใจหนูเดินทางกลับไทยเรียบร้อย!!
ใครๆก็บอกว่าฉันใช้ชีวิต10เดือนในลอนดอนคุ้ม..
วันนี้ก็ไม่มีไรมากนะฮ้ะ แค่อยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์สนุกๆ กับชีวิต10เดือนในลอนดอนกับทุกคน
หลายๆคนบอกว่าเราใช้ชีวิต10เดือนได้คุ้ม มีทั้งช่วงสูงสุด ต่ำสุด(ในชีวิตเลยก็ว่าได้) แต่เราก็ผ่านมาได้ส๊วยยยงามมมม(วิบัติเพื่อเสียงค่ะ)
เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่อยากไป กำลังจะไปหรือใครก็ได้ที่อยากอ่าน
ก่อนอื่นนะเราขอเกริ่นว่า บ้านเราไม่ได้ร่ำรวยอะไร(เราอยู่กับแม่) แต่ทางพ่อเค้าพอมีพอกินเหลือๆ(พ่อแม่อย่ากัน)
จบมาเราก็สมัครงาน ได้งานในแบรนด์แฟชั่นดังจากฝั่งอังกฤษ งานสนุก เงินดีแต่โตยาก
ทำไปทำมาก็ไม่รวยยยซักที เงินเดือนก็เยอะ แต่มันหายไปไหนหมดหว่า คิดไปคิดมา อ่อ..ค่าน้ำมัน ค่าปาร์ตี้ ค่าเสื้อผ้า ค่าภาษีสังคมเงินเดือนก็หายหม๊ดดดดด
ไม่ได้ล่ะ วันดีคืนดีเราก็อยากก้าวหน้า เลยตัดสินใจไปเรียนภาษาที่
"ลอนดอนนนนนนนนนนนน" กรี๊ดดดด กำลังจะเป็นเด็กนอกกกกก!!! เท่อ้ะะ!!!!
ว่าแล้วเราก็จัดแจงใช้มารยาร้อยเล่มเกวียนสวมบทลูกสาวที่แสนดี หัวก้าวหน้าขอเงินพ่อ กราบเรียนท่านพ่อไปว่า "พ่อจ๋าหนูอยากรวย อยากก้าวหน้า อยากเก่งอังกฤษ"
ว่าแล้วคุณพ่อที่แสนดีก็โอนเงินค่าครอส ค่าเครื่อง ค่าใช้จ่ายมาให้ ราวๆ6แสน (เป็นเงินที่พ่อให้เพื่อค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมทั้งค่ากินค่าอยู่) แล้วขอยืมstatement คุณพ่อย้อนหลัง6เดือนมายื่นวีซ่า (แต่แค่ยืมนะ เพราะเงินที่โชว์ในบัญชีนี้พ่อไม่ได้ให้!!)
เราลงครอสไป8เดือน+ค่าเครื่อง+วีซ่า+บลาๆๆๆ สรุปเราเหลือเงินที่เราใช้ได้ไม่ถึง 250000!!!!!!!
เอาไงละทีนี้ 250000 กับแปดเดือนในลอนดอนที่เค้าว่าค่าครองชีพสุดโหดไหนจะค่าเช่า ค่ากินอยู่ ค่าเสื้อผ้า อย่างต่ำเค้าว่ากันจะอยู่รอดต้องมี800ปอนด์(เดือนละเกือบ50000)
เท่ากับว่า... เรามีเงินพอใช้ไม่ถึง 5 เดือน!!!!!
ป.ล. ณ นาทีนั้นยังไม่เครียด เพราะคิดว่า แด็วถ้าเงินจะหมดละจะขอใหม่ อิอิ(เดี๋ยวเอ็งจะได้เรียนรู้ภายหลัง นังโลกยังสวยย)
ว่าแล้วเราก็เตรียมจัดกระเป๋ามุ่งสู่ลอนดอน คุ้ยตามกระทู้ต่างๆว่าอะไรควรเอาไปอะไรไม่ควรเอาไป
ทั้งกระเป๋าเดือนทางเราจึงเต็มไปด้วยของกิน ผ้าอนามัย ชุดชั้นใน ถุงน่อง สบู่มาดามเฮงเหยียบๆโหล แล้วของกินอีกรอบ
ไม่มีที่ว่างสำหรับเสื้อผ้าหน้าหนาว เพราะเราคิดว่า จำไปซื้อที่นุ้น ( ยัง ยังงงง ไม่สำนึกสำเหนียกกับเงินที่ตัวเองเหลือ ยังอยากไปช้อปต่อจ้าาาาาา!!)
ส่วนเรื่องที่พัก สองอาทิตย์แรกเราจองที่พักที่ทางโรงเรียนจัดให้ อยู่กับhost family ซึ่งเราได้ที่พักทางโซนสอง ราคามหาโหดรวมอาหารเช้า ตกสัปดาห์ละ185ปอนด์ ที่ถูกขนานนามว่า Brixton. ซึ่งเขาว่ากันว่า(ในเว็บว่ามา) มีแต่คนดำ นักเลง แก๊งค์ และอาชญากรรม เอาละเหว๋ยยยยยย .... ตายแน่ ไม่รอดแน่ กลัวจ้ะ ปอดหด ตับแล่บ วันๆเลยเอาแต่หมกมุ่น เครียด แต่ก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมไม่ขอทางร.ร. เปลี่ยน =*=
ส่วนหลังจากนั้นก็กะว่าจะแชร์แฟลตกับเพื่อนคนไทยที่ไปพร้อมกัน รู้จักกันผ่านเอเจนซี่
ตัดฉากฉึ่บมาวันบิน.. เรามุ่งสู่ลอนดอน โดยEtihad airline ต่อเครื่องที่ อบูดาบี รวมเวลาเสร็จสิ้นก็ประมาณ 15 ชั่วโมง ลงที่ Heathrow Airport ต่อแท็กซี่พี่ดีเจเคนสุดหล่อไปลงที่โรงแรมแถวearl's court ที่พักชั่วคราวระหว่างรอเข้าบ้านโฮสท์ ณ Brixton ที่เค้าว่ากันว่า เลี่ยงได้เลี่ยง..
.............
เรากับเพื่อนพักที่earl's court ประมาณสามวัน แถวนั้นส่วนมากจะเป็นโรงแรมตึกแถวขาวๆสวยๆเต็มไปหมด คนแถวนี้ส่วนมากก็เป็นเอเชีย กับคนขาวปะปนกันไป
ไม่ห่างจากโรงแรมที่เราอยู่มีร้านเจ๊หมวยชื่อดัง ขายอาหารและสินค้าไทย ครบครัน ขาดอะไรลองไปร้านเจ๊แล้วจะเจอ(แต่ราคายอมรับว่าทางร้านจีนในไชน่าทาวน์ถูกกว่า)
สองวันในลอนดอนผ่านไป วันเข้าบ้านโฮท์ก็มาถึง... เร็วจังแว๊!! กลัววววววว!!
เราก็หอบข้าวหอบของไปส่งเพื่อนเข้าบ้านโฮสท์ทางเหนือๆโซนสองของลอนดอน จำได้ว่าน่าจะ Kensal Rise แถวนั้นจะเป็นภูเขาเนินโนนเต็มไปหมด เราได้ว่าต้องผลัดกันจากกระเป๋าเดินทางของเพื่อนขึ้นเนินซึ่งไกลมากกกกกกก เล่นเอาหอบ!
ว่าแล้วก็ถึงตาเราที่เพื่อนต้องไปส่งที่ Brixton...
ครั้งแรกที่ไปถึง ... งง!!! คนเยอะมาก ตามTube ถนน คนเยอะไปหมด ทั้งรถหวอ ตำรวจ มาทำไมมมมกั๊นนนนน มาต้อนรับผมหรอก๊าบบบบบบ
แลดูท่าทางข้อมูลที่หามา คงจะจริง!!! คนดำประมาณ85% ที่เหลือเป็นคนขาววัยรุ่นแต่งตัวเซอร์ ส่วนคนเอเชีย... หายาก!!
ณ จุดนี้ ไม่ใช่แค่ปอดแหกค่ะ ... หัวใจหนูเดินทางกลับไทยเรียบร้อย!!