สวัสดีค่ะ
ดิฉันมีประสบการณ์ตรงอยากจะเล่า เนื่องจากโดนมาเยอะ สำหรับโปรแกรม ขายสินค้า pos ก่อนอื่นหากคิดจะซื้อโปรแกรมขายของ pos ต้องดูอะไรบ้าง สำหรับดิฉัน ก็มีข้อแนะนำส่วนตัวที่เคยใช้และโดนมา ดังนี้ค่ะ
1. ก่อนซื้อต้องดูทีม support หรือ ผู้ดูแลโปรแกรม หลังการขาย ข้อนี้สำคัญมากกกกก ว่าองค์หรือเจ้าของโปรแกรม มี คน support กี่คนค่ะ เปิดกี่โมงปิดกี่โมง วันหยุดปิดมั้ย หากมีปัญหาจะติดต่อใคร บางคนคิดว่าถามเรื่องมากไปรึป่าว แต่ไม่เลย ข้อนี้ต้องถามให้ครบทุกประเด็น หรือถ้ามีโอกาสก็ ไปดูองค์ที่ทำงานของโปรแกรม นั้นให้เห็นกับตาเลย เพราะเราจะได้รู้ว่า ทีมซับพอร์ต เค้าทำงานกันอย่างไร เพราะระบบการทำงานและจำนวนคน ซับพอร์ต มีผลมากในการตัดสินใจซื้อโปรแกรมนี้
2. การจัดเรียงข้อมูลเป็นแบบไหน ถ้าจะให้ดี แบบ Sql ก็ดีน่ะค่ะ ฐานข้อมูลใหญ่จะสามารถจัดเก็บรายการสินค้าได้เยอะ และการตัดสต็อก ใช้ระบบแบบไหน fifo (เข้าก่อน- ออกก่อน ) หรือ ค่าเฉลี่ย (เอาจำนวนสต็อกต่างๆมารวมกันแล้วหารด้วยรายการสินค้า ) หรือแบบอื่นๆ
3 จำไว้เสมอเลยว่า ต่อให้โปรแกรมจะแพงหรือเจ้าของโปรแกรม บอกว่า ดีแค่ไหน สต็อกก็สามารถเพื้ยนได้
คือไม่มีโปรแกรมไหนที่ดี 100% ไม่มีที่ติ จงเผื่อไว้ทำใจบ้าง เพราะมันคือโปรแกรม สำเร็จรูป ไม่สามารถได้ตรงเป๊ะตามแบบที่เราต้องการ นอกจากคุณจะจ้างเขียนโปรแกรมเอง หรือเขียนโปรแกรมเพิ่มถ้าเจ้าของโปรแกรมอนุญาติ
4. ดูโปรแกรม จากระบบร้านตัวเองเป็นหลัก ว่าร้านเราอยู่ใน ระดับไหน ใหญ่ เล็ก กลาง รายการสินค้าเยอะมั้ย รายการขายต่อวัน กี่บิล มีขายเชื่อมั้ย ขายสดมั้ย ถ้ามี ก็ให้พิจารณาดูว่า เราเหมาะกับโปรแกรมแบบไหน ซึ่งโปรแกรมส่วนใหญ่โดยทั่วไปจะมี 3 ขนาด คือ เล็ก กลาง ใหญ่
หรือจะมากกว่านั่นแล้วแต่ผู้พัฒนาโปรแกรม สำหรับร้านค้าปลีก ก็ควรเป็นโปรแกรม ขนาดกลาง และเล็ก ที่ไม่จำเป็นต้องมีขนาดเชื่อ หรือโปรแกรมบัญชี
เพราะการใช้งานก็จะซับซ้อนขึ้นมาก และอาจจะเหมาะกับเครื่อง stand alone เพราะราคาจะถูกลงตามความสามารถ อย่าคิดว่าซื้อไปเพื่ออนาคต เพราะอนาคตคุณอาจไม่สดใสกับการใช้โปรแกรมยี่ห้อนี่ หากทีม support เกิดเล่นตัวขึ้นมาไม่ดูแลเราเวลามีปัญหา ทุกอย่างจบเลย เพราะคนที่จะแก้ไขปัญหาได้
ก็คือทีมเจ้าของโปรแกรมเท่านั่น เพราะเค้าเป็นผู้สร้างโปรแกรมนี้ขึ้นมา ส่วนบางที โปรแกรมดี แต่เราใช้ไม่ถึง หรือมันดูยากเกินไป เราก็จะคิดว่าโปรแกรมตัวนี้ไม่ ซะงั้น
สำหรับร้านค้าส่ง ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องซื้อแพง เพราะ เรา ซื้อ โปรแกรม J-compile มา 15,000 ใช้มาก 4 ปี โดยรวมไม่ซับซ้อน แต่ พอใช้ไปนานยิ่งซับซ้อนมาก เพราะมันรวนค่ะ รวนเองด้วย ทีมซับพอร์ ห่วยแตก มากกกกก ย่ำว่า มากก เพราะเราโทรไปหลายรอบ ด้วยความที่เราไม่เข้าใจ จนทางเค้ารำคาญก็ อารมณ์เสียใส่ ตอนนั้นซื้อมา ทั้งหมด รวมเครื่องอุปกรณ์ทุกอย่าง 90,000 กว่าบาทค่ะ และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกอย่างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นค่าโทรศัพท์นี่เดือนนึง ล่อเป็นพันเลยค่ะ เฉพาะโทรหามัน แถมพอโทรไปเรื่องปัญหา พอมันยุ่งก็บอก อีกสักพักค่อยโทรมาน่ะค่ะ แถมโทรไปทุกครั้งไม่เคยจำได้ว่าลูกค้าเป็นอะไรมาก่อน เก็บประวัติลูกค้าไว้เลย ซื่งจริงต้องมี โปรแกรมละ 15000 น่ะค่ะ ทุกวันนี้บอกได้ว่าผิดหวังมาก พ่อแม่ก็ไม่ยอมให้ซื้อ เพราะเสียดาย โปรแกรมที่ซื้อไป เลยต้องทนใช้มัน แต่ตอนนี้กำลังจะเปลี่ยนโปรแกรมแล้วซึงราคาไม่แพง
ฉะนั้นร้านค้าส่ง ควรอย่างมากที่จะศึกษาโปรแกรมแต่ละตัวก่อนให้ดีก่อนการใช้งาน แนะเว็บ Thaiware เป็นเว็บสำหรับเปิดโอกาสให้ผู้พัฒนาระบบที่ทุนน้อยได้เข้ามาขายโปรแกรมที่เค้าเขียนขึ้นเอง โดยไม่ผ่านนายหน้า
ยังไงก็ฝากไว้แค่นี้น่ะค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ถ้ามีอะไรก็สอบถาม เพิ่มเติมได้น่ะค่ะ หลังไมค์ก็ได้ค่ะ
โปรแกรม pos ขายหน้าร้าน คิดก่อนซื้อระวังให้ดีน่ะค่ะ
ดิฉันมีประสบการณ์ตรงอยากจะเล่า เนื่องจากโดนมาเยอะ สำหรับโปรแกรม ขายสินค้า pos ก่อนอื่นหากคิดจะซื้อโปรแกรมขายของ pos ต้องดูอะไรบ้าง สำหรับดิฉัน ก็มีข้อแนะนำส่วนตัวที่เคยใช้และโดนมา ดังนี้ค่ะ
1. ก่อนซื้อต้องดูทีม support หรือ ผู้ดูแลโปรแกรม หลังการขาย ข้อนี้สำคัญมากกกกก ว่าองค์หรือเจ้าของโปรแกรม มี คน support กี่คนค่ะ เปิดกี่โมงปิดกี่โมง วันหยุดปิดมั้ย หากมีปัญหาจะติดต่อใคร บางคนคิดว่าถามเรื่องมากไปรึป่าว แต่ไม่เลย ข้อนี้ต้องถามให้ครบทุกประเด็น หรือถ้ามีโอกาสก็ ไปดูองค์ที่ทำงานของโปรแกรม นั้นให้เห็นกับตาเลย เพราะเราจะได้รู้ว่า ทีมซับพอร์ต เค้าทำงานกันอย่างไร เพราะระบบการทำงานและจำนวนคน ซับพอร์ต มีผลมากในการตัดสินใจซื้อโปรแกรมนี้
2. การจัดเรียงข้อมูลเป็นแบบไหน ถ้าจะให้ดี แบบ Sql ก็ดีน่ะค่ะ ฐานข้อมูลใหญ่จะสามารถจัดเก็บรายการสินค้าได้เยอะ และการตัดสต็อก ใช้ระบบแบบไหน fifo (เข้าก่อน- ออกก่อน ) หรือ ค่าเฉลี่ย (เอาจำนวนสต็อกต่างๆมารวมกันแล้วหารด้วยรายการสินค้า ) หรือแบบอื่นๆ
3 จำไว้เสมอเลยว่า ต่อให้โปรแกรมจะแพงหรือเจ้าของโปรแกรม บอกว่า ดีแค่ไหน สต็อกก็สามารถเพื้ยนได้
คือไม่มีโปรแกรมไหนที่ดี 100% ไม่มีที่ติ จงเผื่อไว้ทำใจบ้าง เพราะมันคือโปรแกรม สำเร็จรูป ไม่สามารถได้ตรงเป๊ะตามแบบที่เราต้องการ นอกจากคุณจะจ้างเขียนโปรแกรมเอง หรือเขียนโปรแกรมเพิ่มถ้าเจ้าของโปรแกรมอนุญาติ
4. ดูโปรแกรม จากระบบร้านตัวเองเป็นหลัก ว่าร้านเราอยู่ใน ระดับไหน ใหญ่ เล็ก กลาง รายการสินค้าเยอะมั้ย รายการขายต่อวัน กี่บิล มีขายเชื่อมั้ย ขายสดมั้ย ถ้ามี ก็ให้พิจารณาดูว่า เราเหมาะกับโปรแกรมแบบไหน ซึ่งโปรแกรมส่วนใหญ่โดยทั่วไปจะมี 3 ขนาด คือ เล็ก กลาง ใหญ่
หรือจะมากกว่านั่นแล้วแต่ผู้พัฒนาโปรแกรม สำหรับร้านค้าปลีก ก็ควรเป็นโปรแกรม ขนาดกลาง และเล็ก ที่ไม่จำเป็นต้องมีขนาดเชื่อ หรือโปรแกรมบัญชี
เพราะการใช้งานก็จะซับซ้อนขึ้นมาก และอาจจะเหมาะกับเครื่อง stand alone เพราะราคาจะถูกลงตามความสามารถ อย่าคิดว่าซื้อไปเพื่ออนาคต เพราะอนาคตคุณอาจไม่สดใสกับการใช้โปรแกรมยี่ห้อนี่ หากทีม support เกิดเล่นตัวขึ้นมาไม่ดูแลเราเวลามีปัญหา ทุกอย่างจบเลย เพราะคนที่จะแก้ไขปัญหาได้
ก็คือทีมเจ้าของโปรแกรมเท่านั่น เพราะเค้าเป็นผู้สร้างโปรแกรมนี้ขึ้นมา ส่วนบางที โปรแกรมดี แต่เราใช้ไม่ถึง หรือมันดูยากเกินไป เราก็จะคิดว่าโปรแกรมตัวนี้ไม่ ซะงั้น
สำหรับร้านค้าส่ง ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องซื้อแพง เพราะ เรา ซื้อ โปรแกรม J-compile มา 15,000 ใช้มาก 4 ปี โดยรวมไม่ซับซ้อน แต่ พอใช้ไปนานยิ่งซับซ้อนมาก เพราะมันรวนค่ะ รวนเองด้วย ทีมซับพอร์ ห่วยแตก มากกกกก ย่ำว่า มากก เพราะเราโทรไปหลายรอบ ด้วยความที่เราไม่เข้าใจ จนทางเค้ารำคาญก็ อารมณ์เสียใส่ ตอนนั้นซื้อมา ทั้งหมด รวมเครื่องอุปกรณ์ทุกอย่าง 90,000 กว่าบาทค่ะ และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกอย่างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นค่าโทรศัพท์นี่เดือนนึง ล่อเป็นพันเลยค่ะ เฉพาะโทรหามัน แถมพอโทรไปเรื่องปัญหา พอมันยุ่งก็บอก อีกสักพักค่อยโทรมาน่ะค่ะ แถมโทรไปทุกครั้งไม่เคยจำได้ว่าลูกค้าเป็นอะไรมาก่อน เก็บประวัติลูกค้าไว้เลย ซื่งจริงต้องมี โปรแกรมละ 15000 น่ะค่ะ ทุกวันนี้บอกได้ว่าผิดหวังมาก พ่อแม่ก็ไม่ยอมให้ซื้อ เพราะเสียดาย โปรแกรมที่ซื้อไป เลยต้องทนใช้มัน แต่ตอนนี้กำลังจะเปลี่ยนโปรแกรมแล้วซึงราคาไม่แพง
ฉะนั้นร้านค้าส่ง ควรอย่างมากที่จะศึกษาโปรแกรมแต่ละตัวก่อนให้ดีก่อนการใช้งาน แนะเว็บ Thaiware เป็นเว็บสำหรับเปิดโอกาสให้ผู้พัฒนาระบบที่ทุนน้อยได้เข้ามาขายโปรแกรมที่เค้าเขียนขึ้นเอง โดยไม่ผ่านนายหน้า
ยังไงก็ฝากไว้แค่นี้น่ะค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ถ้ามีอะไรก็สอบถาม เพิ่มเติมได้น่ะค่ะ หลังไมค์ก็ได้ค่ะ