สวัสดีค่ะ
เพิ่งหัดลงครั้งแรกเลย ปกติอ่านอย่างเดียว (สมัครมาเพื่อตั้งกระทู้เลยนะเนี่ย)
เห็นมีหลายคนทำงานหลายด้าน มีมุมมองหลายอย่างที่แตกต่างกันไป
ประสบการณ์ครั้งนี้ เราเลยอยากจะแชร์บ้าง
อันนี้ต้องขอบอกก่อนเลยว่า มีเพื่อนทำงานกลางคืนเยอะมาก ไม่ใช่ว่ามองงานกลางคืนไม่ดี แต่ที่เราเจอคือนายจ้างร้านนี้ค่ะ
ซึ่งร้านอื่นๆ คงไม่มีแบบนี้ (มั๊ง)
ทำเราเข็ดไม่อยากทำงานกลางคืนอีกเลย
แต่ที่เราเลือกที่จะทำ เพราะเราติดเรียนอยู่ค่ะ ไม่รู้จะทำอะไรช่วงว่างๆ
ไม่อยากให้เวลาทำงานไปเบียดเวลาเรียน หรือแม้แต่ตอนที่ทำงานกลุ่มเค้าจะนัดมาทำกันกลางวัน
อ้อ.. ลืมบอกไป เราเรียนเสาร์อาทิตย์ค่ะ
งานกลางวันระหว่างเรียน พวกงานประจำมักจะหาได้แต่งานที่ทำ 6 วัน เลยหางานกลางคืนทำไปก่อน คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะเพื่อนที่ทำงานกลางคืนก็ทำกันอย่างนั้น
ร้านที่เราเลือกที่จะทำ เป็นผับเพศที่ 3 ค่ะ
ซึ่งเรารู้สึกว่า อย่างน้อยมันก็เริ่มทำอะไรที่มัน Safe ตัวเองไปบ้าง ที่ผับจะมีแต่ทอมดี้เลส (เกย์กระเทยเข้าได้)
แต่เจ้าของร้านจริงๆ เป็นผู้ชายแท้ ที่ปล่อยให้แฟนเค้า มาบริหารอีกที
ผับนี้ ถ้าในกลุ่มทอมดี้ น่าจะรู้จักกันนะคะ อยู่ที่ทาวน์อินทาวน์น่ะค่ะ
เราสมัครงาน PR ที่ร้านนี้ไปค่ะ ซึ่งเราบอกทางเจ้าของร้านตรงๆ เลยว่า เรามีเรียนเสาร์อาทิตย์นะคะ
ว่าจะทำเป็น Part-Time ซึ่งทางเจ้าของร้านเค้าบอกว่า พี่อยากให้น้องทำ Full อ่ะ
แต่ถ้า Full จริงๆ พนักงานไม่มีวันหยุดในเดือนแรกช่วงของการทดลองงานนะคะ
ซึ่งเงื่อนไขนี้ เราบอกพี่เค้าตรงๆ เลยว่าเพราะเราต้องหยุดบ้างแหละ ทำ Full ไม่ได้หรอกพี่
หนูมีเรียนค่ะ บางวันอาจจะมาทำงานไม่ไหวก็ได้ ขอ Part-Time เถอะ
พี่เค้าบอกว่า งั้นทำไปก่อนละกัน เดี๋ยวพี่ขอคิดก่อน
ก็เลยโอเค แต่หนูขอหยุดวันอังคารแน่ๆ 1 วันละกัน (ขอวันหยุดตัวเอง เพื่อเวลาให้เพื่อนๆ นัดทำรายงานกลุ่ม)
แต่ถ้าจะหยุดเยอะกว่านี้ เดี๋ยวจะแจ้งพี่อีกที
พอหลังจากนั้น พี่เค้าบอกว่า พี่อยากให้หนูทำประจำค่ะ
พี่จะคิดเป็นเงินเดือนประจำให้ 8,000 บาท แล้วหักวันที่ไม่มาออกไปละกันนะ
ทิปก็เก็บไปเลย ส่วนค่าเปิดเหล้าไม่มีค่ะ
วันนึงได้ทิป 50 บาทก็ดีใจแล้วค่ะร้านนี้
เวลาเข้างาน คือต้องมาตอกบัตรก่อน 2 ทุ่ม ไม่งั้นโดนปรับตาม Rate
เวลาปิดร้าน คือ ตี3
แต่ถ้าลูกค้าเยอะ นั่งยาว หรือวันศุกร์เสาร์งี้ บางทีก็ ตี 5 เลยก็มี
วันแรก ที่เรามาทำงาน ก็งงนะ PR ร้านนี้ มีแค่เรากับ PR อีกคนที่มาใหม่ เข้ามาพร้อมกัน???
คนอื่นไปไหนอ่ะ?
วันแรก เราต้องจ่ายค่าเสื้อ PR กับบัตรพนักงาน 400 บาท
พี่การ์ดที่หน้าผับ ก็คุยนั่นคุยนี่ เลยถามเรื่อง PR คนอื่นๆ
พี่เค้าก็บอก อ่อ ที่นี่เค้าเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แหละ
ฟังดูแล้วก็ เอ๊ะ มันยังไง? เปลี่ยนเรื่อยๆ?
เริ่มแรกที่ให้ทำ คือการนั่งหน้าร้าน ซึ่งเราก็เข้าใจว่าต้อนรับเชียร์ลูกค้าเปิดเหล้าเปิดโต๊ะนั่นแหละ
แต่พอดีเริ่มงานวันศุกร์ ซึ่งมีโปรโมชั่น ตอบคำถามบนหน้าเพจ แล้วจะได้รับสิทธิ์กินเหล้าฟรีกับโปรมิกซ์ฟรี
อ้อ... ลืมเล่าก่อนเปิดร้าน คือที่ร้านนี้ PR ก็ต้องเข้ามาช่วยกันเช็ดโต๊ะ จัดเก้าอี้ จัดโต๊ะ เปิดผ้าคลุม ฯลฯ ยกเว้นงานถูพื้นที่จะมีแม่บ้านถู กับโซนด้านในผับที่จะพนักงานเสิร์ฟอีกชุดคอยจัด
ตอนแรกเหมือนเจ้าของร้านจะบอกว่าไม่ต้องทำ แต่ไปๆ มาๆ ก็ทำยันเก็บร้านค่ะ ชินละ
ลูกค้าจะเริ่มมากันตอน 3-4 ทุ่ม ให้ทดลองโดยการลงไปคุยกับลูกค้าที่ได้รับสิทธิ์มา แล้วเรามีหน้าที่ จำราคาเหล้าให้ได้
(เพราะที่นี่จะไม่มีราคาให้ลูกค้าเห็นเลยทั้งราคาเหล้าเบียร์ อาหาร ฯลฯ)
แล้วทำการอัพเหล้าให้ลูกค้าจ่ายเพิ่ม ว่าง่ายๆ คือ จากที่ได้สิทธิ์กินฟรี ต้องให้ลูกค้าจ่ายเพิ่มจากเหล้าขวดเล็กให้เป็นขวดอื่นๆ ให้ได้นั่นแหละค่ะ
ลูกค้าบางคนก็ยอม บางคนก็ไม่ยอมหรอก
เราก็มีหน้าที่พยายาม ให้ลูกค้าจ่ายให้ได้ค่ะ
บางทีก็เจอลูกค้ามาแค่ 3 คน บอกก็จะมากินฟรีที่ได้สิทธิ์ ทำไมต้องจ่ายเพิ่ม เพราะกินกันไม่เยอะ
พอลูกค้าไม่อัพเหล้า PR ก็โดนค่ะ ว่าทำไมไม่อัพเหล้าให้ลูกค้าคะ
หลังจากนั้น ก็ช่วยทำการประชาสัมพันธ์งานปาร์ตี้กับดีเจที่มีชื่อคนหนึ่ง
เราก็ต้องยืนแจกใบปลิวยัดใส่มือทุกคนตอนกลับ
ซึ่งร้านนี้ พนักงานเสิร์ฟ บางทีก็ดูลูกค้าไม่ไหว
ร้านนี้มี 2 โซน คือโซนด้านนอกที่เป็นที่นั่งโปร่งๆ กับดนตรี Folk สดๆ พอถึงเวลา 5 ทุ่ม ก็เปิดโซนด้านในที่จะเป็นเพลง Dance ตื๊ดๆ ล่ะค่ะ
PR ที่เราทำ มีหน้าที่ เดินดูแลลูกค้าที่นั่งโซนด้านนอก หลังจากที่คนเข้าไปข้างในกันแล้ว เพราะข้างนอกไม่มีคนดูแล
ต้องคอยเดินชงเหล้า นั่งคุยกับทุกคน เดินไปหยอดเหรียญวาง Pool ให้ลูกค้า
รับคนเมาเดินไปเดินมา นั่งจำหน้าลูกค้าที่เมาออกมา แล้วบอกให้ช่วยตามเพื่อนข้างในให้หน่อย
พอลูกค้าเมาเดินเบลอจะกลับเมื่อไหร่ ต้องรีบวิ่งไปหน้าร้าน แล้วเอาใบปลิวประชาสัมพันธ์ยัดใส่มือให้ได้ทุกคน
เคยวิ่งไปยัดไม่ทัน โดนตำหนิค่ะ ว่า PR ทำงานยังไง ไม่เอาใบปลิวให้ลูกค้า
เราก็ช่วยประชาสัมพันธ์งานทางอื่นให้นะ ทั้งใน Facebook ทั้งในกลุ่มเพื่อนสมาคมชาวทอมดี้เลส ทุกกลุ่มที่เรารู้จัก
ทั้งนั่งตอบคำถามตามกลุ่ม ว่าร้านอยู่ที่ไหน
เพราะร้านนี้เคยเจ๊ง จากที่เก่าที่เกษตรนวมินทร์มาแล้วทีนึง
คนในกลุ่มแวดวงนี้ จะรู้จักกันดี แต่มีแต่ชื่อเสียๆ ซึ่งเราเองก็ไม่เคยสัมผัสหรอกค่ะ
ลูกค้าก็เล่าให้เราฟังเองแหละ ว่าร้านมันเคยปิดไป แล้วมาเปิดที่นี่ไง เราก็ออๆ เก็บเป็นข้อมูล
เจอลูกค้าคนอื่นๆ ก็เลยพยายามจะช่วยดันร้านให้ แล้วบอกว่า ปิดมาปรับปรุงเปิดใหม่เป็นที่นี่ (ซึ่งเปิดมาแล้ว กว่า 9 เดือน ตอนที่เราทำงานในช่วงนั้น)
ลูกค้ามาร้านน้อยมากกกกกก บางวัน ไม่มีลูกค้าเลย
เราก็ช่วยแก้ต่างให้ว่า คนยังไม่รู้ว่าร้านย้ายแล้วมาเปิดใหม่ค่ะ คนเลยไม่ค่อยมากัน ยังไงช่วยบอกเพื่อนๆ ต่อๆ กันด้วยค่ะ
พอเวลาผ่านไป โปรโมชั่นยิ่งเริ่มยุ่ง
มีโปรบุฟเฟ่ต์มิกซ์ ราคา 89 บาท สั่งสไปร์ โค้ก น้ำเปล่า โซดา ไม่อั้น
ซึ่งจะต้องให้ลูกค้า จ่าย 89 บาท เป็นค่าผ่านทางเข้าไปที่ร้านทุกคน
แต่ก่อนที่จะเข้าร้านได้นั้น เราต้องรับเงินหน้าร้านก่อน แล้วให้ลูกค้ารอหน้าร้านนั่นแหละ
PR ต้องวิ่งเข้าไปพร้อมเงิน ไปที่แคชเชียร์ แล้วบอกจำนวนว่ากี่คน แล้วยื่นเงินให้
ซึ่ง 89 บาท ค่าหัว กับค่าเหล้าต่างหาก ก็จะยื่นไปทีเดียว
แคชเชียร์จะนำบัตรผ่านประตูมาให้ตามจำนวน
เราก็วิ่งกลับไปที่หน้าร้าน เอาบัตรยื่นให้การ์ด เพื่อฉีกบัตรส่วนนึง หยอดใส่กล่องหน้าร้าน (พี่เค้าบอกว่าเป็นการนับจำนวนคนมาร้าน)
ส่วนที่เหลือให้ลูกค้าไป แล้วเราก็เชิญลูกค้าเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะ
ถ้าลูกค้ามา 2 คน จะโดนบังคับไม่ให้นั่งโต๊ะ เพราะโต๊ะมีไว้สำหรับ ลูกค้าที่มา 3 คนขึ้นไป
เว้นแต่ว่าลูกค้ามาน้อยแน่ๆ คือวันที่ไม่มีโปรสิทธิ์ตอบคำถามเหล้าฟรีนั่นแหละ ลูกค้าจะน้อยมาก
โปร 89 บาท แรกๆ ที่ออกมาใหม่ๆ นั้น ทำให้ PR มึนหัวตึ๊บๆ ค่ะ
ต้องคอยตอบคำถามลูกค้าหลายราย ว่าใครที่ฝากเหล้าฟรีไว้ ไม่สามารถใช้กับโปรนี้ได้ ต้องเปิดเหล้าใหม่เท่านั้น
อีกกลุ่มที่มา บอกจะดื่มเบียร์ค่ะ ทางเจ้าของร้าน กระซิบบอกเรา ว่าไม่ได้ค่ะ ต้องจ่าย
เราก็หันไปบอกเจ้าของร้าน ว่า พี่คะ... ลูกค้าจะกินเบียร์นะคะ ต้องจ่ายด้วยหรอ
พี่เค้ากระซิบบอกเรา ด้วยประโยคที่เราอึ๊งไปเลย
"เราบังคับเค้าเปิดเหล้าค่ะ"
ทางเจ้าของร้านเห็นลูกค้ายืนมึนอยู่หน้าร้าน ว่าทำไมต้องจ่าย 89 บาท เลยลงไปคุยบอกว่า
น้องคะ จะจ่าย 89 บาท อยู่แล้ว ก็เปิดเหล้าไปเลย คุ้มกว่าเยอะค่ะ จะสั่งเบียร์ มากินกับโค้กหรอ มันไม่คุ้มนะ
ก็ดึงลูกค้าเข้าร้านมาได้แบบงงๆ
แต่ลูกค้าบางกลุ่มก็บอกเราว่า ไร้สาระอ่ะ แล้วก็กลับกันไปก็มี
พอถึงวันงานปาร์ตี้ใหญ่
ซึ่งวันนี้ เป็นวันที่คนน่าจะมากันเยอะค่ะ เพราะใบปลิวบอกไว้ว่า มิกซ์ ลด 50% ทุกวัน
เราก็ประกาศตาม Facebook ไปตามใบปลิวแหละค่ะ
แต่ปัญหาเริ่มมาตั้งแต่ 2 ทุ่ม ที่เจ้าของร้านเอาราคาเหล้าใหม่ มาให้เราจำแล้วค่ะ
ราคาเหล้าใหม่ เหมาจ่ายรวมมิกซ์ ไม่รวมน้ำแข็ง ราคาสูงขึ้นปรี๊ดเลย
นั่งจำ 2 ทุ่ม จดใส่มือกันเต็มที่
แล้วเราก็เห็นราคามิกซ์ เป็นราคาเต็ม เลยถามเจ้าของร้านค่ะ ว่าวันนี้ไม่ลดหรอ 50% อ่ะพี่
เจ้าของร้านหันมา บอกว่า หนูคงยังไม่เคยจัดงานปาร์ตี้มาก่อน
ราคานี้เป็นราคาจัดปาร์ตี้ค่ะ
แล้วก็วันนี้ ไม่ลด 50% นะคะ เป็นราคาเต็ม
อืม................... ใบปลิวมันบอกว่า 50% นิ
แถมเราก็ช่วยบอกลูกค้าไปแล้วด้วย และก่อนหน้านั้น พี่แกเองก็บอกว่ามิกซ์ลดนะ ลูกค้าจะจำได้ไหมเนี่ย
ตอนจัดโต๊ะจัดผ้า วางของ ทำโต๊ะลงทะเบียนหน้าร้านเนี่ย
หลายรูหูได้ยินเต็มๆ เลยนะคะ
ว่าคุณเจ้าของร้านที่เป็นผู้ชาย ใช้คำพูดเสียงดังใส่ลูกน้องตัวเองว่ายังไงบ้าง
ทั้งว่าเรื่อง ไม่มีสมอง พูดใส่เราเต็มๆ ที่เราทำงานไม่ได้ดั่งใจ ทำงานช้า ไม่ทันใจแกแหละ
อีกคนเป็นพนักงานเสิร์ฟที่เป็นผู้ชาย ที่สั่งเอาเสื้อแขวน แต่แกดันพับใส่ถุง
ก็... ไ-่ ควาย ไปเต็มๆ หน้าร้านเลย
PR 3 คน ตอนนั้นรับไม่ได้ค่ะ
(PR ประจำตอนนั้นมีเรากับอีกคนที่ประจำอยู่ ส่วนอีกคนพี่เค้าเรียกมาช่วยงาน Part-Time)
ปัญหาที่เริ่มตามมาพร้อมลูกค้าที่เดินเข้ามาพร้อมบัตรฝากเหล้าค่ะ
เนื่องจาก ตอน 2 ทุ่ม เจ้าของร้านแจ้งกับ PR ไว้ว่า ใครที่ใช้บัตรฝากเหล้า ที่เป็นบัตรฝากจากการตอบคำถามได้เหล้าฟรี จะไม่สามารถใช้วันนี้ได้
แต่ถ้าใครเปิดเหล้า ใช้บัตรนั้น ได้วันนี้
แต่... ย้อนกลับไปก่อนวันงาน ที่เราช่วยประชาสัมพันธ์นะคะ เจ้าของร้านบอกว่า ให้ลูกค้าฝากเหล้าไว้ ไม่ว่าจะเหล้าอะไรก็แล้วแต่ แล้วให้ลูกค้ากลับมากินในวันปาร์ตี้ค่ะ
พอเป็นแบบนี้ ลูกค้าก็โวยวายหน้าร้านหลายกลุ่มเลย
บางคนแทบจะต่อยกับ PR หน้าร้านเลยค่ะ
แต่เจ้าของร้าน ก็ยืนมองอย่างเดียว ไม่ได้ลงมาคุย แถมกระซิบบอก PR ว่าถ้าเค้าไม่เปิดเหล้าใหม่ ก็ช่างเค้า
เอ่อ..อ่า... พี่จะไล่ลูกค้าไปง่ายๆ แบบนี้เลยหรอคะเนี่ย
ลูกค้าหลายท่าน เราไม่รู้จะตอบคำถามยังไงด้วยเรื่องกระดาษทิชชู่ค่ะ
เพราะได้รับคำสั่งมาว่า ถ้าลูกค้าไม่สั่งอาหาร จะไม่มีกระดาษให้
ถ้าลูกค้าจะเอา ตั้งจ่าย 20 บาท จะได้กระดาษ 1 กล่อง
เคยมีลูกค้าคนนึง บอกเราเลย ว่าถ้าจะต้องจ่ายค่าเหล้าเป็นพัน แล้วไม่มีกระดาษก็ไม่เป็นไร
ไปเอาในห้องน้ำก็ได้ ห้องน้ำกระดาษฟรีนิ -_-''
แต่เอาเถอะ หลังจากนั้น PR ทั้ง 3 คน ก็ไม่มาทำงานอีกเลย
ส่วนเรื่องเงินค่าจ้าง เดี๋ยวกลับมาเล่าต่อค่ะ พักก่อนนะคะ
มีทั้งเรื่องค่าจ้างของเรา กับค่าจ้างของ PR อีก 2 คน
ทุกวันนี้ PR คนนึงได้ไปแล้ว เหลือเรากับ PR ที่เป็น Part-Time ค่ะ แล้วก็คิดว่า ไม่เอาแล้วแหละ สุดๆ เลย ลาก่อยยยย
พยายามโทรไปอยากจะลาออกกับพี่เค้านะ ช่วงแรกๆ ก็เกรงใจ เลยบอกว่าติดเรียน ไม่ค่อยไหวละ
พี่เค้าพูดตามสายมาบอกว่า พี่ให้โอกาสน้องกับน้อง PR อีกคนนะ พี่ถึงไม่รับใครเข้ามาทำงาน
พี่อยากได้น้องทำงานประจำกับพี่นะคะ
อืม...
อีกทีค่ะ
ลาก่อยยยย
เดี๋ยวกลับมาต่อค่ะ
ทำงานกลางคืนครั้งแรก โดนเบี้ยวค่าแรง เหนื่อยฟรีค่ะ
เพิ่งหัดลงครั้งแรกเลย ปกติอ่านอย่างเดียว (สมัครมาเพื่อตั้งกระทู้เลยนะเนี่ย)
เห็นมีหลายคนทำงานหลายด้าน มีมุมมองหลายอย่างที่แตกต่างกันไป
ประสบการณ์ครั้งนี้ เราเลยอยากจะแชร์บ้าง
อันนี้ต้องขอบอกก่อนเลยว่า มีเพื่อนทำงานกลางคืนเยอะมาก ไม่ใช่ว่ามองงานกลางคืนไม่ดี แต่ที่เราเจอคือนายจ้างร้านนี้ค่ะ
ซึ่งร้านอื่นๆ คงไม่มีแบบนี้ (มั๊ง)
ทำเราเข็ดไม่อยากทำงานกลางคืนอีกเลย
แต่ที่เราเลือกที่จะทำ เพราะเราติดเรียนอยู่ค่ะ ไม่รู้จะทำอะไรช่วงว่างๆ
ไม่อยากให้เวลาทำงานไปเบียดเวลาเรียน หรือแม้แต่ตอนที่ทำงานกลุ่มเค้าจะนัดมาทำกันกลางวัน
อ้อ.. ลืมบอกไป เราเรียนเสาร์อาทิตย์ค่ะ
งานกลางวันระหว่างเรียน พวกงานประจำมักจะหาได้แต่งานที่ทำ 6 วัน เลยหางานกลางคืนทำไปก่อน คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะเพื่อนที่ทำงานกลางคืนก็ทำกันอย่างนั้น
ร้านที่เราเลือกที่จะทำ เป็นผับเพศที่ 3 ค่ะ
ซึ่งเรารู้สึกว่า อย่างน้อยมันก็เริ่มทำอะไรที่มัน Safe ตัวเองไปบ้าง ที่ผับจะมีแต่ทอมดี้เลส (เกย์กระเทยเข้าได้)
แต่เจ้าของร้านจริงๆ เป็นผู้ชายแท้ ที่ปล่อยให้แฟนเค้า มาบริหารอีกที
ผับนี้ ถ้าในกลุ่มทอมดี้ น่าจะรู้จักกันนะคะ อยู่ที่ทาวน์อินทาวน์น่ะค่ะ
เราสมัครงาน PR ที่ร้านนี้ไปค่ะ ซึ่งเราบอกทางเจ้าของร้านตรงๆ เลยว่า เรามีเรียนเสาร์อาทิตย์นะคะ
ว่าจะทำเป็น Part-Time ซึ่งทางเจ้าของร้านเค้าบอกว่า พี่อยากให้น้องทำ Full อ่ะ
แต่ถ้า Full จริงๆ พนักงานไม่มีวันหยุดในเดือนแรกช่วงของการทดลองงานนะคะ
ซึ่งเงื่อนไขนี้ เราบอกพี่เค้าตรงๆ เลยว่าเพราะเราต้องหยุดบ้างแหละ ทำ Full ไม่ได้หรอกพี่
หนูมีเรียนค่ะ บางวันอาจจะมาทำงานไม่ไหวก็ได้ ขอ Part-Time เถอะ
พี่เค้าบอกว่า งั้นทำไปก่อนละกัน เดี๋ยวพี่ขอคิดก่อน
ก็เลยโอเค แต่หนูขอหยุดวันอังคารแน่ๆ 1 วันละกัน (ขอวันหยุดตัวเอง เพื่อเวลาให้เพื่อนๆ นัดทำรายงานกลุ่ม)
แต่ถ้าจะหยุดเยอะกว่านี้ เดี๋ยวจะแจ้งพี่อีกที
พอหลังจากนั้น พี่เค้าบอกว่า พี่อยากให้หนูทำประจำค่ะ
พี่จะคิดเป็นเงินเดือนประจำให้ 8,000 บาท แล้วหักวันที่ไม่มาออกไปละกันนะ
ทิปก็เก็บไปเลย ส่วนค่าเปิดเหล้าไม่มีค่ะ
วันนึงได้ทิป 50 บาทก็ดีใจแล้วค่ะร้านนี้
เวลาเข้างาน คือต้องมาตอกบัตรก่อน 2 ทุ่ม ไม่งั้นโดนปรับตาม Rate
เวลาปิดร้าน คือ ตี3
แต่ถ้าลูกค้าเยอะ นั่งยาว หรือวันศุกร์เสาร์งี้ บางทีก็ ตี 5 เลยก็มี
วันแรก ที่เรามาทำงาน ก็งงนะ PR ร้านนี้ มีแค่เรากับ PR อีกคนที่มาใหม่ เข้ามาพร้อมกัน???
คนอื่นไปไหนอ่ะ?
วันแรก เราต้องจ่ายค่าเสื้อ PR กับบัตรพนักงาน 400 บาท
พี่การ์ดที่หน้าผับ ก็คุยนั่นคุยนี่ เลยถามเรื่อง PR คนอื่นๆ
พี่เค้าก็บอก อ่อ ที่นี่เค้าเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แหละ
ฟังดูแล้วก็ เอ๊ะ มันยังไง? เปลี่ยนเรื่อยๆ?
เริ่มแรกที่ให้ทำ คือการนั่งหน้าร้าน ซึ่งเราก็เข้าใจว่าต้อนรับเชียร์ลูกค้าเปิดเหล้าเปิดโต๊ะนั่นแหละ
แต่พอดีเริ่มงานวันศุกร์ ซึ่งมีโปรโมชั่น ตอบคำถามบนหน้าเพจ แล้วจะได้รับสิทธิ์กินเหล้าฟรีกับโปรมิกซ์ฟรี
อ้อ... ลืมเล่าก่อนเปิดร้าน คือที่ร้านนี้ PR ก็ต้องเข้ามาช่วยกันเช็ดโต๊ะ จัดเก้าอี้ จัดโต๊ะ เปิดผ้าคลุม ฯลฯ ยกเว้นงานถูพื้นที่จะมีแม่บ้านถู กับโซนด้านในผับที่จะพนักงานเสิร์ฟอีกชุดคอยจัด
ตอนแรกเหมือนเจ้าของร้านจะบอกว่าไม่ต้องทำ แต่ไปๆ มาๆ ก็ทำยันเก็บร้านค่ะ ชินละ
ลูกค้าจะเริ่มมากันตอน 3-4 ทุ่ม ให้ทดลองโดยการลงไปคุยกับลูกค้าที่ได้รับสิทธิ์มา แล้วเรามีหน้าที่ จำราคาเหล้าให้ได้
(เพราะที่นี่จะไม่มีราคาให้ลูกค้าเห็นเลยทั้งราคาเหล้าเบียร์ อาหาร ฯลฯ)
แล้วทำการอัพเหล้าให้ลูกค้าจ่ายเพิ่ม ว่าง่ายๆ คือ จากที่ได้สิทธิ์กินฟรี ต้องให้ลูกค้าจ่ายเพิ่มจากเหล้าขวดเล็กให้เป็นขวดอื่นๆ ให้ได้นั่นแหละค่ะ
ลูกค้าบางคนก็ยอม บางคนก็ไม่ยอมหรอก
เราก็มีหน้าที่พยายาม ให้ลูกค้าจ่ายให้ได้ค่ะ
บางทีก็เจอลูกค้ามาแค่ 3 คน บอกก็จะมากินฟรีที่ได้สิทธิ์ ทำไมต้องจ่ายเพิ่ม เพราะกินกันไม่เยอะ
พอลูกค้าไม่อัพเหล้า PR ก็โดนค่ะ ว่าทำไมไม่อัพเหล้าให้ลูกค้าคะ
หลังจากนั้น ก็ช่วยทำการประชาสัมพันธ์งานปาร์ตี้กับดีเจที่มีชื่อคนหนึ่ง
เราก็ต้องยืนแจกใบปลิวยัดใส่มือทุกคนตอนกลับ
ซึ่งร้านนี้ พนักงานเสิร์ฟ บางทีก็ดูลูกค้าไม่ไหว
ร้านนี้มี 2 โซน คือโซนด้านนอกที่เป็นที่นั่งโปร่งๆ กับดนตรี Folk สดๆ พอถึงเวลา 5 ทุ่ม ก็เปิดโซนด้านในที่จะเป็นเพลง Dance ตื๊ดๆ ล่ะค่ะ
PR ที่เราทำ มีหน้าที่ เดินดูแลลูกค้าที่นั่งโซนด้านนอก หลังจากที่คนเข้าไปข้างในกันแล้ว เพราะข้างนอกไม่มีคนดูแล
ต้องคอยเดินชงเหล้า นั่งคุยกับทุกคน เดินไปหยอดเหรียญวาง Pool ให้ลูกค้า
รับคนเมาเดินไปเดินมา นั่งจำหน้าลูกค้าที่เมาออกมา แล้วบอกให้ช่วยตามเพื่อนข้างในให้หน่อย
พอลูกค้าเมาเดินเบลอจะกลับเมื่อไหร่ ต้องรีบวิ่งไปหน้าร้าน แล้วเอาใบปลิวประชาสัมพันธ์ยัดใส่มือให้ได้ทุกคน
เคยวิ่งไปยัดไม่ทัน โดนตำหนิค่ะ ว่า PR ทำงานยังไง ไม่เอาใบปลิวให้ลูกค้า
เราก็ช่วยประชาสัมพันธ์งานทางอื่นให้นะ ทั้งใน Facebook ทั้งในกลุ่มเพื่อนสมาคมชาวทอมดี้เลส ทุกกลุ่มที่เรารู้จัก
ทั้งนั่งตอบคำถามตามกลุ่ม ว่าร้านอยู่ที่ไหน
เพราะร้านนี้เคยเจ๊ง จากที่เก่าที่เกษตรนวมินทร์มาแล้วทีนึง
คนในกลุ่มแวดวงนี้ จะรู้จักกันดี แต่มีแต่ชื่อเสียๆ ซึ่งเราเองก็ไม่เคยสัมผัสหรอกค่ะ
ลูกค้าก็เล่าให้เราฟังเองแหละ ว่าร้านมันเคยปิดไป แล้วมาเปิดที่นี่ไง เราก็ออๆ เก็บเป็นข้อมูล
เจอลูกค้าคนอื่นๆ ก็เลยพยายามจะช่วยดันร้านให้ แล้วบอกว่า ปิดมาปรับปรุงเปิดใหม่เป็นที่นี่ (ซึ่งเปิดมาแล้ว กว่า 9 เดือน ตอนที่เราทำงานในช่วงนั้น)
ลูกค้ามาร้านน้อยมากกกกกก บางวัน ไม่มีลูกค้าเลย
เราก็ช่วยแก้ต่างให้ว่า คนยังไม่รู้ว่าร้านย้ายแล้วมาเปิดใหม่ค่ะ คนเลยไม่ค่อยมากัน ยังไงช่วยบอกเพื่อนๆ ต่อๆ กันด้วยค่ะ
พอเวลาผ่านไป โปรโมชั่นยิ่งเริ่มยุ่ง
มีโปรบุฟเฟ่ต์มิกซ์ ราคา 89 บาท สั่งสไปร์ โค้ก น้ำเปล่า โซดา ไม่อั้น
ซึ่งจะต้องให้ลูกค้า จ่าย 89 บาท เป็นค่าผ่านทางเข้าไปที่ร้านทุกคน
แต่ก่อนที่จะเข้าร้านได้นั้น เราต้องรับเงินหน้าร้านก่อน แล้วให้ลูกค้ารอหน้าร้านนั่นแหละ
PR ต้องวิ่งเข้าไปพร้อมเงิน ไปที่แคชเชียร์ แล้วบอกจำนวนว่ากี่คน แล้วยื่นเงินให้
ซึ่ง 89 บาท ค่าหัว กับค่าเหล้าต่างหาก ก็จะยื่นไปทีเดียว
แคชเชียร์จะนำบัตรผ่านประตูมาให้ตามจำนวน
เราก็วิ่งกลับไปที่หน้าร้าน เอาบัตรยื่นให้การ์ด เพื่อฉีกบัตรส่วนนึง หยอดใส่กล่องหน้าร้าน (พี่เค้าบอกว่าเป็นการนับจำนวนคนมาร้าน)
ส่วนที่เหลือให้ลูกค้าไป แล้วเราก็เชิญลูกค้าเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะ
ถ้าลูกค้ามา 2 คน จะโดนบังคับไม่ให้นั่งโต๊ะ เพราะโต๊ะมีไว้สำหรับ ลูกค้าที่มา 3 คนขึ้นไป
เว้นแต่ว่าลูกค้ามาน้อยแน่ๆ คือวันที่ไม่มีโปรสิทธิ์ตอบคำถามเหล้าฟรีนั่นแหละ ลูกค้าจะน้อยมาก
โปร 89 บาท แรกๆ ที่ออกมาใหม่ๆ นั้น ทำให้ PR มึนหัวตึ๊บๆ ค่ะ
ต้องคอยตอบคำถามลูกค้าหลายราย ว่าใครที่ฝากเหล้าฟรีไว้ ไม่สามารถใช้กับโปรนี้ได้ ต้องเปิดเหล้าใหม่เท่านั้น
อีกกลุ่มที่มา บอกจะดื่มเบียร์ค่ะ ทางเจ้าของร้าน กระซิบบอกเรา ว่าไม่ได้ค่ะ ต้องจ่าย
เราก็หันไปบอกเจ้าของร้าน ว่า พี่คะ... ลูกค้าจะกินเบียร์นะคะ ต้องจ่ายด้วยหรอ
พี่เค้ากระซิบบอกเรา ด้วยประโยคที่เราอึ๊งไปเลย
"เราบังคับเค้าเปิดเหล้าค่ะ"
ทางเจ้าของร้านเห็นลูกค้ายืนมึนอยู่หน้าร้าน ว่าทำไมต้องจ่าย 89 บาท เลยลงไปคุยบอกว่า
น้องคะ จะจ่าย 89 บาท อยู่แล้ว ก็เปิดเหล้าไปเลย คุ้มกว่าเยอะค่ะ จะสั่งเบียร์ มากินกับโค้กหรอ มันไม่คุ้มนะ
ก็ดึงลูกค้าเข้าร้านมาได้แบบงงๆ
แต่ลูกค้าบางกลุ่มก็บอกเราว่า ไร้สาระอ่ะ แล้วก็กลับกันไปก็มี
พอถึงวันงานปาร์ตี้ใหญ่
ซึ่งวันนี้ เป็นวันที่คนน่าจะมากันเยอะค่ะ เพราะใบปลิวบอกไว้ว่า มิกซ์ ลด 50% ทุกวัน
เราก็ประกาศตาม Facebook ไปตามใบปลิวแหละค่ะ
แต่ปัญหาเริ่มมาตั้งแต่ 2 ทุ่ม ที่เจ้าของร้านเอาราคาเหล้าใหม่ มาให้เราจำแล้วค่ะ
ราคาเหล้าใหม่ เหมาจ่ายรวมมิกซ์ ไม่รวมน้ำแข็ง ราคาสูงขึ้นปรี๊ดเลย
นั่งจำ 2 ทุ่ม จดใส่มือกันเต็มที่
แล้วเราก็เห็นราคามิกซ์ เป็นราคาเต็ม เลยถามเจ้าของร้านค่ะ ว่าวันนี้ไม่ลดหรอ 50% อ่ะพี่
เจ้าของร้านหันมา บอกว่า หนูคงยังไม่เคยจัดงานปาร์ตี้มาก่อน
ราคานี้เป็นราคาจัดปาร์ตี้ค่ะ
แล้วก็วันนี้ ไม่ลด 50% นะคะ เป็นราคาเต็ม
อืม................... ใบปลิวมันบอกว่า 50% นิ
แถมเราก็ช่วยบอกลูกค้าไปแล้วด้วย และก่อนหน้านั้น พี่แกเองก็บอกว่ามิกซ์ลดนะ ลูกค้าจะจำได้ไหมเนี่ย
ตอนจัดโต๊ะจัดผ้า วางของ ทำโต๊ะลงทะเบียนหน้าร้านเนี่ย
หลายรูหูได้ยินเต็มๆ เลยนะคะ
ว่าคุณเจ้าของร้านที่เป็นผู้ชาย ใช้คำพูดเสียงดังใส่ลูกน้องตัวเองว่ายังไงบ้าง
ทั้งว่าเรื่อง ไม่มีสมอง พูดใส่เราเต็มๆ ที่เราทำงานไม่ได้ดั่งใจ ทำงานช้า ไม่ทันใจแกแหละ
อีกคนเป็นพนักงานเสิร์ฟที่เป็นผู้ชาย ที่สั่งเอาเสื้อแขวน แต่แกดันพับใส่ถุง
ก็... ไ-่ ควาย ไปเต็มๆ หน้าร้านเลย
PR 3 คน ตอนนั้นรับไม่ได้ค่ะ
(PR ประจำตอนนั้นมีเรากับอีกคนที่ประจำอยู่ ส่วนอีกคนพี่เค้าเรียกมาช่วยงาน Part-Time)
ปัญหาที่เริ่มตามมาพร้อมลูกค้าที่เดินเข้ามาพร้อมบัตรฝากเหล้าค่ะ
เนื่องจาก ตอน 2 ทุ่ม เจ้าของร้านแจ้งกับ PR ไว้ว่า ใครที่ใช้บัตรฝากเหล้า ที่เป็นบัตรฝากจากการตอบคำถามได้เหล้าฟรี จะไม่สามารถใช้วันนี้ได้
แต่ถ้าใครเปิดเหล้า ใช้บัตรนั้น ได้วันนี้
แต่... ย้อนกลับไปก่อนวันงาน ที่เราช่วยประชาสัมพันธ์นะคะ เจ้าของร้านบอกว่า ให้ลูกค้าฝากเหล้าไว้ ไม่ว่าจะเหล้าอะไรก็แล้วแต่ แล้วให้ลูกค้ากลับมากินในวันปาร์ตี้ค่ะ
พอเป็นแบบนี้ ลูกค้าก็โวยวายหน้าร้านหลายกลุ่มเลย
บางคนแทบจะต่อยกับ PR หน้าร้านเลยค่ะ
แต่เจ้าของร้าน ก็ยืนมองอย่างเดียว ไม่ได้ลงมาคุย แถมกระซิบบอก PR ว่าถ้าเค้าไม่เปิดเหล้าใหม่ ก็ช่างเค้า
เอ่อ..อ่า... พี่จะไล่ลูกค้าไปง่ายๆ แบบนี้เลยหรอคะเนี่ย
ลูกค้าหลายท่าน เราไม่รู้จะตอบคำถามยังไงด้วยเรื่องกระดาษทิชชู่ค่ะ
เพราะได้รับคำสั่งมาว่า ถ้าลูกค้าไม่สั่งอาหาร จะไม่มีกระดาษให้
ถ้าลูกค้าจะเอา ตั้งจ่าย 20 บาท จะได้กระดาษ 1 กล่อง
เคยมีลูกค้าคนนึง บอกเราเลย ว่าถ้าจะต้องจ่ายค่าเหล้าเป็นพัน แล้วไม่มีกระดาษก็ไม่เป็นไร
ไปเอาในห้องน้ำก็ได้ ห้องน้ำกระดาษฟรีนิ -_-''
แต่เอาเถอะ หลังจากนั้น PR ทั้ง 3 คน ก็ไม่มาทำงานอีกเลย
ส่วนเรื่องเงินค่าจ้าง เดี๋ยวกลับมาเล่าต่อค่ะ พักก่อนนะคะ
มีทั้งเรื่องค่าจ้างของเรา กับค่าจ้างของ PR อีก 2 คน
ทุกวันนี้ PR คนนึงได้ไปแล้ว เหลือเรากับ PR ที่เป็น Part-Time ค่ะ แล้วก็คิดว่า ไม่เอาแล้วแหละ สุดๆ เลย ลาก่อยยยย
พยายามโทรไปอยากจะลาออกกับพี่เค้านะ ช่วงแรกๆ ก็เกรงใจ เลยบอกว่าติดเรียน ไม่ค่อยไหวละ
พี่เค้าพูดตามสายมาบอกว่า พี่ให้โอกาสน้องกับน้อง PR อีกคนนะ พี่ถึงไม่รับใครเข้ามาทำงาน
พี่อยากได้น้องทำงานประจำกับพี่นะคะ
อืม...
อีกทีค่ะ
ลาก่อยยยย
เดี๋ยวกลับมาต่อค่ะ