Director: John Carney
Writer: John Carney
Stars: Keira Knightley, Mark Ruffalo, Adam Levine
สองอย่างที่ผู้กำกับ John Carney เก่งจนเราน้ำตาจะไหล คือ
1. วิธีการเลือกกำกับ acting ของนักแสดงให้ลึกกำลังดี และเกลี่ยพลังทางการแสดงของทุกคนได้ยอดเยี่ยม
2. การใช้เพลงมาเป็นตัวละครเอกตัวสำคัญได้อย่างทรงพลังระดับสูงสุด
Begin Again ว่าด้วย
‘แดน’ อดีตโปรดิวเซอร์ฝั่งเพลงมือทองที่ชีวิตถึงช่วงตกอับทั้งเรื่องการงานและเรื่องครอบครัว…. เราคิดว่าตลอดว่าคนทำงานศิลปะจะพังที่สุดเสมอยามไม่มีงานศิลปะได้ผลิตออกมาจากชีวิตเป็นเวลานานๆ
ตัวละครของแดน ยืนยันความเชื่อนั้นของเรา
‘เกรตต้า’ คนแต่งเพลงที่แดนเรียกว่า ‘อินดี้ๆ’ แทบไม่เคยเรียกตัวเองว่านักแต่งเพลง ไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะเป็น ‘ศิลปิน’ ได้ เธอแต่งเพลงเพื่อแสดงความรู้สึก แต่งเป็นของขวัญให้คนรัก … พอใจจะอยู่ในสถานะแฟนสาวของ Dave Kohl มาตั้งแต่ตอนที่เค้ายังไม่ดัง ทุกอย่างมันมาพังตอนมันดังแล้วมีเหตุให้เธอไม่ได้เป็นแฟนต่อไปแล้วนี่แหละ
สองคนนี้อยู่ในจังหวะประจวบเหมาะมาเจอกัน … สร้างงานศิลปะด้วยกัน
พล็อตเรื่องของ Begin Again ไม่มีอะไรซับซ้อนค่ะ มันว่าด้วยชีวิต ความรัก การเปลี่ยนแปลง การจบลง การเริ่มต้นใหม่ของมนุษย์สายดนตรี ที่มีความละมุน กลมกล่อม ตลก มากพอจะสัมผัสหัวใจผู้คนได้ในหลายเลเยอร์
คนที่เป็นนักดนตรีอินไป 1 แบบ คนเคยอยู่ในสถานะ ‘โดนทิ้ง’ อินไปหนึ่งอย่าง แล้วก็เชื่อว่ายังมีคนอินได้อีกหลายแบบแตกต่างตามแต่ประเด็นที่เป็นประสบการณ์ร่วมของชีวิตตัวเอง ซึ่งความดีงามเหล่านี้มีองค์ประกอบมาจากหลายสิ่งอย่าง ….2 ข้อข้างต้นบนสุดนั่นก็ใช่ในลำดับต้นๆ แน่นอน
เราชอบวิธีกำกับนักแสดงของ John Carney เหลือเกิน มีหลายซีนที่แอคติ้งของนักแสดงออกมาแล้วทำให้นึกการการแสดงของนักแสดงใน Once (ผลงานโด่งดังของผู้กำกับคนนี้ก่อนหน้านี้) มันลุ่มลึกแบบพอเหมาะพอเจาะ ไม่บดขยี้จนเกินไป แต่กุมหัวใจไว้แบบละการจดจ่อไม่ได้
ในมุมการแสดง ซีนที่น่าจะอยู่ในความทรงจำของเราไปอีกนานคือฉากตอน เกรตต้าเลิกกับเดฟ และซีนสุดท้ายของเรื่อง ดีงามน้ำตาจะไหล แทบปรบมือดังๆ ให้ตั้งแต่ตอนนั้น
ในแง่ของลายเซ็นโดดเด่นในความเป็นหนังที่มีเพลงเป็น 1 ในตัวละครหลัก ตัวละครสำคัญนำพาเรื่อง John Carney เจ๋งมากทั้งในฐานะนักแต่งเพลง (เค้าแต่งหลายๆ เพลงในเรื่องนี้เอง และมันเพราะเวอร์ๆ !) และในฐานะคนเขียนบท ที่ใส่เพลงเป็นชุดๆ เต็มสตรีมลงมาคลุกกับบทได้โดยไม่ทำให้เรารู้สึกว่ามันเยอะ มันเอียน มันเฝือ … รู้แต่ว่ามันเพราะ มันใช่
Keira Knightley โดดเด่นเป็นที่สุด … (ทีแรกหน้าหนังโปรโมตออกมาดูผู้ชายมาก เราแอบกลัวเคียร่าบทน้อย ปรากฏว่าไม่ค่ะ มาเต็ม )
Adam Levine สอบผ่านสำหรับการแสดงครั้งแรก
Mark Ruffalo อยู่ในมาตรฐานการแสดงของเค้า และทำให้เราเข้าใจว่าทำไมผู้ชายวัยกลางคน (ค่อนไปทางเริ่มแก่) แถมไม่หล่อโดดเด่นอะไรมาก ถึงยังจำเป็นในพื้นที่หนังรักเสมอ บทแบบนี้เด็กกว่านี้ หล่อกว่านี้ พังมากหรือน้อยกว่านี้ ประสบการณ์ทางการแสดงในพื้นที่หนังรักไม่เท่านี้ คงไม่ลงตัวได้เท่านี้
ในฐานะหนังทั้งเรื่อง … Begin Again เป็นหนังที่มนุษย์นิยมหนังว่าด้วยความสัมพันธ์ต้องการเป็นอย่างยิ่ง มันหวานแบบไม่เพ้อฝัน ไม่สรุปอะไรจบแบบเทพนิยาย ออกจากโรงมาแล้วเรารู้สึกได้ว่าอะไรแบบนี้มันอยู่ และต่อยอดได้จริงในชีวิตประจำวันเรานี่แหละ
สรุปทั้งหมดทั้งมวล ….. ไปหาดูกันซะนะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราว่าหลังจากนี้ไป เกรตต้าจะกลับไปคบกับเดฟ โคล อ่ะ เราว่าเราคุ้นกับเซ้นส์ผู้หญิงทรงนี้มาก ><
http://romcomsociety.com/
https://www.facebook.com/RomComSociety
นอกเหนือจาก Lost Stars ทุกเวอร์ชั่นแล้ว
ใครที่ดูแล้ว เรารู้ ว่าคุณรักเพลงนี้และซีนนี้ >< … Like A Fool
[SR] รีวิวหนัง : Begin Again ‘เพราะรัก…คือเพลงรัก’
Director: John Carney
Writer: John Carney
Stars: Keira Knightley, Mark Ruffalo, Adam Levine
สองอย่างที่ผู้กำกับ John Carney เก่งจนเราน้ำตาจะไหล คือ
1. วิธีการเลือกกำกับ acting ของนักแสดงให้ลึกกำลังดี และเกลี่ยพลังทางการแสดงของทุกคนได้ยอดเยี่ยม
2. การใช้เพลงมาเป็นตัวละครเอกตัวสำคัญได้อย่างทรงพลังระดับสูงสุด
Begin Again ว่าด้วย
‘แดน’ อดีตโปรดิวเซอร์ฝั่งเพลงมือทองที่ชีวิตถึงช่วงตกอับทั้งเรื่องการงานและเรื่องครอบครัว…. เราคิดว่าตลอดว่าคนทำงานศิลปะจะพังที่สุดเสมอยามไม่มีงานศิลปะได้ผลิตออกมาจากชีวิตเป็นเวลานานๆ
ตัวละครของแดน ยืนยันความเชื่อนั้นของเรา
‘เกรตต้า’ คนแต่งเพลงที่แดนเรียกว่า ‘อินดี้ๆ’ แทบไม่เคยเรียกตัวเองว่านักแต่งเพลง ไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะเป็น ‘ศิลปิน’ ได้ เธอแต่งเพลงเพื่อแสดงความรู้สึก แต่งเป็นของขวัญให้คนรัก … พอใจจะอยู่ในสถานะแฟนสาวของ Dave Kohl มาตั้งแต่ตอนที่เค้ายังไม่ดัง ทุกอย่างมันมาพังตอนมันดังแล้วมีเหตุให้เธอไม่ได้เป็นแฟนต่อไปแล้วนี่แหละ
สองคนนี้อยู่ในจังหวะประจวบเหมาะมาเจอกัน … สร้างงานศิลปะด้วยกัน
พล็อตเรื่องของ Begin Again ไม่มีอะไรซับซ้อนค่ะ มันว่าด้วยชีวิต ความรัก การเปลี่ยนแปลง การจบลง การเริ่มต้นใหม่ของมนุษย์สายดนตรี ที่มีความละมุน กลมกล่อม ตลก มากพอจะสัมผัสหัวใจผู้คนได้ในหลายเลเยอร์
คนที่เป็นนักดนตรีอินไป 1 แบบ คนเคยอยู่ในสถานะ ‘โดนทิ้ง’ อินไปหนึ่งอย่าง แล้วก็เชื่อว่ายังมีคนอินได้อีกหลายแบบแตกต่างตามแต่ประเด็นที่เป็นประสบการณ์ร่วมของชีวิตตัวเอง ซึ่งความดีงามเหล่านี้มีองค์ประกอบมาจากหลายสิ่งอย่าง ….2 ข้อข้างต้นบนสุดนั่นก็ใช่ในลำดับต้นๆ แน่นอน
เราชอบวิธีกำกับนักแสดงของ John Carney เหลือเกิน มีหลายซีนที่แอคติ้งของนักแสดงออกมาแล้วทำให้นึกการการแสดงของนักแสดงใน Once (ผลงานโด่งดังของผู้กำกับคนนี้ก่อนหน้านี้) มันลุ่มลึกแบบพอเหมาะพอเจาะ ไม่บดขยี้จนเกินไป แต่กุมหัวใจไว้แบบละการจดจ่อไม่ได้
ในมุมการแสดง ซีนที่น่าจะอยู่ในความทรงจำของเราไปอีกนานคือฉากตอน เกรตต้าเลิกกับเดฟ และซีนสุดท้ายของเรื่อง ดีงามน้ำตาจะไหล แทบปรบมือดังๆ ให้ตั้งแต่ตอนนั้น
ในแง่ของลายเซ็นโดดเด่นในความเป็นหนังที่มีเพลงเป็น 1 ในตัวละครหลัก ตัวละครสำคัญนำพาเรื่อง John Carney เจ๋งมากทั้งในฐานะนักแต่งเพลง (เค้าแต่งหลายๆ เพลงในเรื่องนี้เอง และมันเพราะเวอร์ๆ !) และในฐานะคนเขียนบท ที่ใส่เพลงเป็นชุดๆ เต็มสตรีมลงมาคลุกกับบทได้โดยไม่ทำให้เรารู้สึกว่ามันเยอะ มันเอียน มันเฝือ … รู้แต่ว่ามันเพราะ มันใช่
Keira Knightley โดดเด่นเป็นที่สุด … (ทีแรกหน้าหนังโปรโมตออกมาดูผู้ชายมาก เราแอบกลัวเคียร่าบทน้อย ปรากฏว่าไม่ค่ะ มาเต็ม )
Adam Levine สอบผ่านสำหรับการแสดงครั้งแรก
Mark Ruffalo อยู่ในมาตรฐานการแสดงของเค้า และทำให้เราเข้าใจว่าทำไมผู้ชายวัยกลางคน (ค่อนไปทางเริ่มแก่) แถมไม่หล่อโดดเด่นอะไรมาก ถึงยังจำเป็นในพื้นที่หนังรักเสมอ บทแบบนี้เด็กกว่านี้ หล่อกว่านี้ พังมากหรือน้อยกว่านี้ ประสบการณ์ทางการแสดงในพื้นที่หนังรักไม่เท่านี้ คงไม่ลงตัวได้เท่านี้
ในฐานะหนังทั้งเรื่อง … Begin Again เป็นหนังที่มนุษย์นิยมหนังว่าด้วยความสัมพันธ์ต้องการเป็นอย่างยิ่ง มันหวานแบบไม่เพ้อฝัน ไม่สรุปอะไรจบแบบเทพนิยาย ออกจากโรงมาแล้วเรารู้สึกได้ว่าอะไรแบบนี้มันอยู่ และต่อยอดได้จริงในชีวิตประจำวันเรานี่แหละ
สรุปทั้งหมดทั้งมวล ….. ไปหาดูกันซะนะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
http://romcomsociety.com/
https://www.facebook.com/RomComSociety
นอกเหนือจาก Lost Stars ทุกเวอร์ชั่นแล้ว
ใครที่ดูแล้ว เรารู้ ว่าคุณรักเพลงนี้และซีนนี้ >< … Like A Fool