อยากจะพูดถึงการ "รับน้อง" บ้างครับ บางระบบมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปฎิรูปและการประยุกต์กันมากๆครับ
การ "รับน้อง" ในบ้านเรา สิ่งที่ควรมี คือการ "ใจเขาใจเรา" ของรุ่นพี่แล้วรุ่นให้ เพื่อให้เกิดการ WIN-WIN ทั้งสองฝ่าย
สเตตัสนี้อาจกระทบคนที่เป็นเฟรนด์กับผม ในทางตรง และ ทางอ้อมนะครับ แต่อยากให้ลองเปิดใจกันดู กับกระแสที่ แอนตี้ กับ เห็นด้วย มีปริมาณที่สูงกันทั้งคู่
วิธีนั้นง่ายมากๆ เพียงแค่ เปลี่ยนการสร้าง "ความรู้สึกกลัว" ให้กับ "รุ่นน้อง" ให้เป็นการสร้าง "ความรู้สึกที่จะเสียดาย โอกาสในชีวิต" ให้กับน้องๆแทน
โดยการพบกันครึ่งทางของกันและกัน
ความรู้สึกกลัว ที่เกิดขึ้น ถ้าไม่ได้ไปรับน้อง หรือ ร่วมกิจกรรม
1. พี่ๆ แบน ไม่รับรุ่น
2. เพื่อนๆ แบน เพราะเหนื่อยไม่เท่ากัน (พี่ๆปลูกฝังมาอีกที)
3. อาจจะโดนมองเหยียดหยาม ไม่ยุ่งด้วย ทั้งภาควิชา และ คณะ
4. กลายเป็นแกะดำ ตัวประหลาด คนที่นิสัยไม่ดี ฯลฯ
5. ไม่ได้รับการช่วยเหลือในอนาคต ในทุกๆด้าน จาก พี่ๆเพื่อนๆ ฯลฯ ทั้งในด้านกิจกรรม และ การเรียน
6. เพื่อนไม่รัก เพื่อนไม่คบ ต้องอยู่ตัวคนเดียว เร่ร่อนไปมา
7. ฯลฯ
.
.
.
เปลี่ยนให้เป็น โอกาสในด้านบวก ที่น้องจะเสียไป
1. เสียโอกาสที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ และ ความสนิทสนมที่จะเพิ่มขึ้น
2. เสียโอกาสที่จะได้ พบเจอคนน่ารัก และอาจได้เป็นเนื้อคู่กันในอนาคต
3. เสียโอกาสในการได้รู้จัก พี่ๆ เพื่อนๆ และ มหาลัยให้มากขึ้น
4. เสียโอกาสในการซึมซับ ประวัติศาสตร์ เพลง มหาลัย และ ความขลังของมันเพื่อเติ่มเต็มชีวิตมหาลัย
5. เสียโอกาส ประสบการณ์ครั้งนึงในชีวิตในมหาลัย ที่ไม่ได้หาได้ง่ายๆ และอาจเกิดขึ้นครั้งเดียว!!!
6. เสียโอกาส ในการได้เห็นอะไรแปลกใหม่ ที่เราไม่เคยเห็น และสร้างความตื่นเต้นให้กับชีวิต
7. เสียโอกาส ในการ สร้าง Connection
8. ฯลฯ
.
.
เปลี่ยน Perception ให้น้องมองกิจกรรมทุกๆอย่างให้ Positive ยิ่งขึ้น และ ยินดีที่จะร่วมอย่างเต็มใจ โดยไม่มีการนำไปนินทา ตั้งกระทู้ด่า ระบายใน Facebook หรือ โพสต์ Pantip
.
.
ทั้งนี้ทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับการ Design System นั่นเอง ให้เป็น ระบบแบบ Creative มากขึ้น บูรณาการมากขึ้น หรือ แฝงวิชาการไปด้วยก็ยังได้ โดยการเสริมกิจกรรมที่สนุกๆ แทน การรับน้องแบบเดิมๆ ที่มันล้าหลัง อย่างเช่น ผูกตา จับมือ เดิน บังคับร้องเพลง ขึ้นแสตนต์ บังคับให้ออกกำลังกาย (วิดพื้น,ลุกนั่ง) เป็นระบบที่มันสนุกกว่านี้ Team Building , Ignite , Cover Dance , สันทนาการ , Game Show , Running Man , Family Outing (เริ่มไปไกลละ) , เปิดผับบนรถทัวร์ บลาๆ อะไรก็ได้ ที่มันสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์กว่านี้ จะดีมากเลย แล้วน้องจะประทับใจสุดๆ
.
.
แม้จุดประสงค์สุดท้าย ของบางระบบมันดีๆมากๆ แต่ถ้าน้องเค้าไปไม่ถึงหละ? อินไม่เท่าเราหละ? นั่นแหละข้อเสียที่จะย้อนกลับมาหาน้อง และอาจกระทบทางด้านจิตใจ สุขภาพจิต สุขภาพกาย ก็เป็นได้
.
.
.
ถ้าทุกอย่างมันดีจริง คงไม่มีการต่อต้านมากมายขนาดนี้
.
.
นี่มันยุค สมัย 2014 แล้ว อินเตอร์เนืเข้าถึงทุกที่ เนื้อหาและความลับ ต่างๆสามารถค้นหาได้หมด ทุกซอกทุกมุม เราถึงเวลาที่จะเปลี่ยนแปลงแล้วหรือยัง?
ปล. คงติดอยู่อย่างเดียวนั่นคือคำว่า "ประเพณีที่สืบต่อกันมา ทุกเค้าเห็นว่าดี" (และถ้าไม่ทำก็จะโดน เล่น) ถ้ายึดติดในส่วนนี้ ก็คงไม่มีทางเปลีย่นอะไรได้จริงๆ
ระบบการรับน้อง(ในบางที่) ควรที่จะ ปฏิรูป ได้หรือยังฮะ?
การ "รับน้อง" ในบ้านเรา สิ่งที่ควรมี คือการ "ใจเขาใจเรา" ของรุ่นพี่แล้วรุ่นให้ เพื่อให้เกิดการ WIN-WIN ทั้งสองฝ่าย
สเตตัสนี้อาจกระทบคนที่เป็นเฟรนด์กับผม ในทางตรง และ ทางอ้อมนะครับ แต่อยากให้ลองเปิดใจกันดู กับกระแสที่ แอนตี้ กับ เห็นด้วย มีปริมาณที่สูงกันทั้งคู่
วิธีนั้นง่ายมากๆ เพียงแค่ เปลี่ยนการสร้าง "ความรู้สึกกลัว" ให้กับ "รุ่นน้อง" ให้เป็นการสร้าง "ความรู้สึกที่จะเสียดาย โอกาสในชีวิต" ให้กับน้องๆแทน
โดยการพบกันครึ่งทางของกันและกัน
ความรู้สึกกลัว ที่เกิดขึ้น ถ้าไม่ได้ไปรับน้อง หรือ ร่วมกิจกรรม
1. พี่ๆ แบน ไม่รับรุ่น
2. เพื่อนๆ แบน เพราะเหนื่อยไม่เท่ากัน (พี่ๆปลูกฝังมาอีกที)
3. อาจจะโดนมองเหยียดหยาม ไม่ยุ่งด้วย ทั้งภาควิชา และ คณะ
4. กลายเป็นแกะดำ ตัวประหลาด คนที่นิสัยไม่ดี ฯลฯ
5. ไม่ได้รับการช่วยเหลือในอนาคต ในทุกๆด้าน จาก พี่ๆเพื่อนๆ ฯลฯ ทั้งในด้านกิจกรรม และ การเรียน
6. เพื่อนไม่รัก เพื่อนไม่คบ ต้องอยู่ตัวคนเดียว เร่ร่อนไปมา
7. ฯลฯ
.
.
.
เปลี่ยนให้เป็น โอกาสในด้านบวก ที่น้องจะเสียไป
1. เสียโอกาสที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ และ ความสนิทสนมที่จะเพิ่มขึ้น
2. เสียโอกาสที่จะได้ พบเจอคนน่ารัก และอาจได้เป็นเนื้อคู่กันในอนาคต
3. เสียโอกาสในการได้รู้จัก พี่ๆ เพื่อนๆ และ มหาลัยให้มากขึ้น
4. เสียโอกาสในการซึมซับ ประวัติศาสตร์ เพลง มหาลัย และ ความขลังของมันเพื่อเติ่มเต็มชีวิตมหาลัย
5. เสียโอกาส ประสบการณ์ครั้งนึงในชีวิตในมหาลัย ที่ไม่ได้หาได้ง่ายๆ และอาจเกิดขึ้นครั้งเดียว!!!
6. เสียโอกาส ในการได้เห็นอะไรแปลกใหม่ ที่เราไม่เคยเห็น และสร้างความตื่นเต้นให้กับชีวิต
7. เสียโอกาส ในการ สร้าง Connection
8. ฯลฯ
.
.
เปลี่ยน Perception ให้น้องมองกิจกรรมทุกๆอย่างให้ Positive ยิ่งขึ้น และ ยินดีที่จะร่วมอย่างเต็มใจ โดยไม่มีการนำไปนินทา ตั้งกระทู้ด่า ระบายใน Facebook หรือ โพสต์ Pantip
.
.
ทั้งนี้ทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับการ Design System นั่นเอง ให้เป็น ระบบแบบ Creative มากขึ้น บูรณาการมากขึ้น หรือ แฝงวิชาการไปด้วยก็ยังได้ โดยการเสริมกิจกรรมที่สนุกๆ แทน การรับน้องแบบเดิมๆ ที่มันล้าหลัง อย่างเช่น ผูกตา จับมือ เดิน บังคับร้องเพลง ขึ้นแสตนต์ บังคับให้ออกกำลังกาย (วิดพื้น,ลุกนั่ง) เป็นระบบที่มันสนุกกว่านี้ Team Building , Ignite , Cover Dance , สันทนาการ , Game Show , Running Man , Family Outing (เริ่มไปไกลละ) , เปิดผับบนรถทัวร์ บลาๆ อะไรก็ได้ ที่มันสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์กว่านี้ จะดีมากเลย แล้วน้องจะประทับใจสุดๆ
.
.
แม้จุดประสงค์สุดท้าย ของบางระบบมันดีๆมากๆ แต่ถ้าน้องเค้าไปไม่ถึงหละ? อินไม่เท่าเราหละ? นั่นแหละข้อเสียที่จะย้อนกลับมาหาน้อง และอาจกระทบทางด้านจิตใจ สุขภาพจิต สุขภาพกาย ก็เป็นได้
.
.
.
ถ้าทุกอย่างมันดีจริง คงไม่มีการต่อต้านมากมายขนาดนี้
.
.
นี่มันยุค สมัย 2014 แล้ว อินเตอร์เนืเข้าถึงทุกที่ เนื้อหาและความลับ ต่างๆสามารถค้นหาได้หมด ทุกซอกทุกมุม เราถึงเวลาที่จะเปลี่ยนแปลงแล้วหรือยัง?
ปล. คงติดอยู่อย่างเดียวนั่นคือคำว่า "ประเพณีที่สืบต่อกันมา ทุกเค้าเห็นว่าดี" (และถ้าไม่ทำก็จะโดน เล่น) ถ้ายึดติดในส่วนนี้ ก็คงไม่มีทางเปลีย่นอะไรได้จริงๆ