ขอท้าวความก่อนนะค่ะ คือเมื่อปีก่อนเราได้รู้จักกับเพื่อนคนหนึ่ง รู้จักกันได้ประมาณ 9 เดือนกว่าๆ เรากับเพื่อนก็มีโอกาสได้เจอกัน คือบ้านเค้าอยู่ทางภาคใต้ และเราก็ได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ภาคใต้พอดี เข้าเรื่องเลยนะคะ คือพอเราไปถึง เพื่อนก็ขับรถมารับ แว๊บแรกที่เห็นเพื่อนคนนี้ เหมือนเราเคยเจอเค้าที่ไหนทั้งๆ ที่เพิ่งเคยเจอกันเป็นครั้งแรก (ที่ผ่านมาส่วนมากคุยโทรศัพท์ เคยเห็นหน้ากันทาง Skype ) พอเราขึ้นรถไปกับเค้า ความรู้สึกตอนนั้นคือ เหมือนเรากับเค้าเคยคุยกัน ตอนที่เราหันไปมองเค้าตอนขับรถ ภาพนี้เหมือนเราเคยเห็นมาก่อน เหมือนมันเคยเกิดขึ้นแล้ว ยังคะ ยังไม่หมด พอเราไปถึงบ้านเค้า ความรู้สึกเหมือนเราเคยมาบ้านหลังนี้มาก่อนมันคุ้นตามาก แล้วซักพักเค้าก็พาไปห้องพัก เราก็ไปอาบน้ำ พออาบน้ำเสร็จ เราก็มานั่งคุยกับเพื่อนต่อ คุยๆกันตาเราก็มองไปเจอกรอบรูปที่วางอยู่บนโต๊ะด้านข้างทีวี แล้วเราก็ถามเพื่อนว่า นั่นรูปแม่ของเธอหรอ เค้าตอบมาว่าใช่ เราก็เลยพูดไปว่าหน้าแม่เธอคุ้นมาก เหมือนเราเคยเจอที่ไหนเลย เค้าก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้หรอก แม่เค้าไม่เคยไปฝั่งอีสานเลย คือแม่เค้าอยู่สวิสเซอแลนด์ค่ะ และเราก็ไม่เคยไปภาคใต้เลย นี่เป็นครั้งเเรก พอซักพักเพื่อนก็พาเดินไปดูรอบๆบ้านของเค้า เพื่อนเราเลี้ยงน้องหมาไว้ 3 ตัว บางแก้วสองตัว เซนเบอร์นาดหนึ่งตัว แต่หมาทั้งสามตัวเห็นเรากลับไม่เห่าเราเลย ทั้งๆที่เพิ่งเคยเจอครั้งแรก ตอนแรกเพื่อนก็เตือนว่าอย่าไปใกล้มันนะ หมาบางแก้วมันดุ จนเพื่อนเราแปลกใจ เพราะปกติเจ้าสามตัวนี้ไม่ค่อยได้เจอคนเพื่อนเราจะล่ามไว้หลังบ้านตลอด นานๆจะพาไปเดินเล่นซักที และถ้ามีใครที่ไม่รู้จักผ่านมาหลังบ้านมันจะเห่าดังไป 3 บ้าน 8 บ้าน แม้แต่ลูกน้องเพื่อนเรา ที่มันเคยเจอทุกวันบางครั้งมันยังเห่า ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่เหมือนกับเคยเกิดขึ้นแล้ว ภาพบางภาพเหมือนเราเคยเห็น หรือแม้แต่คำพูดบางประโยคที่เพื่อนเราคุยกับเรา แล้วเราตอบแทนเค้า จนเค้าทำหน้างง ว่ารู้ได้ไง ว่าเค้ากำลังจะพูด อย่าว่าแต่เพื่อนมันงงเลยค่ะ ตัวเราเองก็งง ว่าเรารู้ได้ยังไง บางอิริยาบทเราคุ้นตามาก มันเหมือนกับว่าเราเคยผ่านเหตุการณ์นั้นมาแล้ว
อ้อ!! มีอยู่วันนึง เรากับเพื่อนขับรถไปในเมืองระหว่างทางเราก็มองนั่นมองนี่ไปเรื่อยเปื่อย สองข้างทางเป็นภูเขาเขียวขจี อยู่ดีดี เราก็ถามเพื่อนว่าเธอขับรถผ่านเส้นนี้บ่อยมั้ย เค้าก็ตอบว่า บ่อยเกือบทุกวัน เราก็พูดต่อว่า ไม่เคยเจองูเหลือมบ้างเลยหรอ เพราะภูเขามันเต็มไปด้วยต้นไม้ น่าจะเจองูเหลือมหรืองูหลามบ้างนะ เพื่อนก็บอกว่าอยู่ที่มาหลายปี ขับรถมาเส้นนี้ ไปกลับเกือบร้อยโล ไม่เคยเจองูเลย ไม่ว่างูอะไรก็ช่าง แต่พอขากลับประมาณสองทุ่มได้ ปรากฎว่าเรากับเพื่อนเจองูเหลือมมันกำลังเลื้อยอยู่ริมถนนค่ะ อยู่ตรงสะพาน ห่างจากบ้านของเพื่อนเราประมาณ 1 กิโลเมตร แต่มีพวกที่ขับรถตามหลังเราเป็นวัยรุ่น ผู้ชาย 4 คนมาจับไป เรากับเพื่อนเห็นก่อน แต่ช่วยงูตัวนั้นไม่ได้ เพราะกลัวมีเรื่อง ก็เลยขับรถกลับบ้าน พอมาถึงบ้านเพื่อนเราก็พูดกับเราว่า เฮ้ย!!อยู่ที่นี่มา 8 ปีไม่เคยเห็นงูเหลือมเลย แต่พอเราถามถึงงูเหลือม มันก็ออกมาเลย พูดจบเพื่อนเราก็หัวเราะ (อันนี้เล่าให้ฟังเฉยๆค่ะ ว่าบังเอิญมาก คงไม่เกี่ยวกับอาการเดจาวูหรอกมั้ง)
ก็เลยอยากถามว่าอาการที่เราเป็นเนี่ยมันคืออาการเดจาวู หรือเป็นเพราะเราคิดไปเองคะ ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะค่ะ
ปอลิง ไม่รู้ถามถูกห้องมั้ย
อาการเดจาวู
อ้อ!! มีอยู่วันนึง เรากับเพื่อนขับรถไปในเมืองระหว่างทางเราก็มองนั่นมองนี่ไปเรื่อยเปื่อย สองข้างทางเป็นภูเขาเขียวขจี อยู่ดีดี เราก็ถามเพื่อนว่าเธอขับรถผ่านเส้นนี้บ่อยมั้ย เค้าก็ตอบว่า บ่อยเกือบทุกวัน เราก็พูดต่อว่า ไม่เคยเจองูเหลือมบ้างเลยหรอ เพราะภูเขามันเต็มไปด้วยต้นไม้ น่าจะเจองูเหลือมหรืองูหลามบ้างนะ เพื่อนก็บอกว่าอยู่ที่มาหลายปี ขับรถมาเส้นนี้ ไปกลับเกือบร้อยโล ไม่เคยเจองูเลย ไม่ว่างูอะไรก็ช่าง แต่พอขากลับประมาณสองทุ่มได้ ปรากฎว่าเรากับเพื่อนเจองูเหลือมมันกำลังเลื้อยอยู่ริมถนนค่ะ อยู่ตรงสะพาน ห่างจากบ้านของเพื่อนเราประมาณ 1 กิโลเมตร แต่มีพวกที่ขับรถตามหลังเราเป็นวัยรุ่น ผู้ชาย 4 คนมาจับไป เรากับเพื่อนเห็นก่อน แต่ช่วยงูตัวนั้นไม่ได้ เพราะกลัวมีเรื่อง ก็เลยขับรถกลับบ้าน พอมาถึงบ้านเพื่อนเราก็พูดกับเราว่า เฮ้ย!!อยู่ที่นี่มา 8 ปีไม่เคยเห็นงูเหลือมเลย แต่พอเราถามถึงงูเหลือม มันก็ออกมาเลย พูดจบเพื่อนเราก็หัวเราะ (อันนี้เล่าให้ฟังเฉยๆค่ะ ว่าบังเอิญมาก คงไม่เกี่ยวกับอาการเดจาวูหรอกมั้ง)
ก็เลยอยากถามว่าอาการที่เราเป็นเนี่ยมันคืออาการเดจาวู หรือเป็นเพราะเราคิดไปเองคะ ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะค่ะ
ปอลิง ไม่รู้ถามถูกห้องมั้ย