เมื่อวานป้าบี๊ เชฟหวาน-คาว ระดับครูได้มาตั้งกระทู้สอนวิธีทำปลาช่อนต้มเต้าเจี้ยว-เกี่ยมฉ่าย แบบอ่านไปน้ำลายหกไป
เราเองก็ระดับครูเหมือนกัน เพราะเป็นครูเก่า (ไม่เกี่ยวกันเลย) เห็นแล้วอยากลองทำตามบ้าง ถามครูบี๊ไปว่าไม่มีช่อนนา
ขอเป็นปลาของเค้าเองได้ไหม ครูบี๊บอกได้เลย
เช้านี้ก็เลยลองจัดดู ด้วยวัตถุดิบที่ขาดบ้าง เกินบ้าง อวดรู้เกินครูไปบ้าง ได้การบ้านมาส่งครูเรียบร้อย
งานต้มแบบนี้คิดว่าส่วนหัวตรงแก้ม น่าจะเหมาะสมที่สุดเพราะเนื้อเยอะ กระดูกก็พอมีให้ความหวาน จัดการออกฟรีซไว้
ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เอามาสับเป็นชิ้นพอเหมาะ
ครูทอดเราก็ทอดตาม แต่ดันนอกครูไปนิดตรงที่มีเผือกในตู้เย็นเหลือครึ่งหัว จัดการทอดตามหัวปลาไปด้วย
เตรียมเครื่องปรุงตามครูบอกทุกอย่าง มีแถมโลโก้สล่าปู่ไปด้วย 7-8 เม็ด น้ำตาลปิ๊บหมดครัวเอาน้ำตาลกรวดแทน
ไป 1 ก้อนเล็ก ๆ ขิงมีทั้งขิงแก่ทุบกับขิงอ่อนซอย ขิงแก่กะเอากลิ่นเต็มที่
ทุกอย่างพร้อมเอาปลาลงก่อน ตามด้วยเผือก เครื่องปรุง ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย เต้าเจี้ยว รวมทั้งเครื่องที่เตรียมไว้
ยกเว้นขิงอ่อนซอยกะใส่ทีหลัง
เติมน้ำเปล่าลงไป มั่นใจว่าหวานแน่ ๆ
ตั้งไฟจนน้ำเดือด ช้อนฟองทิ้ง
ลดเหลือไฟอ่อน ปิดฝา คอยลุ้นน้ำจะใสหรือไม่ใส กลัวเผือกทำพิษทำให้ขุ่น
เกือบชั่วโมง เปิดดู สีสันใช้ได้ ไม่ใสแต่ไม่ถึงกับขุ่น
ตักเอาขิงแก่กับรากผักชีออก ใส่ขิงอ่อนซอยฝอยลงไปแทน
รสชาติใช้ได้เลยครับ น้ำตาลกรวดกับลำไยอบแห้งให้ความหวานกำลังเหมาะ ความเปรี้ยวได้จาก
ผักกาดดองกำลังดี กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเผือกกับลำไยแห้งเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยอ่อนเค็มไปนิด
เติมซีอิ้วขาวปิดท้ายด้วยเหล้าจีนครึ่งฝา งานนี้ไม่มีกลิ่นคาวเลยครับ
ได้คะแนนสักเกินครึ่งก็พอใจแล้วครับครูบ่งบ๊ง
ตักพักในหม้อให้เข้าเนื้อเพื่อกินมื้อเย็นครับ
มื้อกลางวันนี่เลยครับ น้ำเงี้ยวแบบโบราณ แบบที่เขาใช้เลือดหมูสด ๆ เทลงคนในหม้อแกง
ดูสีไม่ค่อยสวยนะแบบนี้ แต่ความเข้มข้นใช้ได้ทีเดียว
สวัสดีครับ
ส่งการบ้านครูบ่งบ๊ง "หัวปลาค้าว (เค้า) ต้มเต้าเจี้ยว-เกี่ยมฉ่าย"
เราเองก็ระดับครูเหมือนกัน เพราะเป็นครูเก่า (ไม่เกี่ยวกันเลย) เห็นแล้วอยากลองทำตามบ้าง ถามครูบี๊ไปว่าไม่มีช่อนนา
ขอเป็นปลาของเค้าเองได้ไหม ครูบี๊บอกได้เลย
เช้านี้ก็เลยลองจัดดู ด้วยวัตถุดิบที่ขาดบ้าง เกินบ้าง อวดรู้เกินครูไปบ้าง ได้การบ้านมาส่งครูเรียบร้อย
งานต้มแบบนี้คิดว่าส่วนหัวตรงแก้ม น่าจะเหมาะสมที่สุดเพราะเนื้อเยอะ กระดูกก็พอมีให้ความหวาน จัดการออกฟรีซไว้
ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เอามาสับเป็นชิ้นพอเหมาะ
ครูทอดเราก็ทอดตาม แต่ดันนอกครูไปนิดตรงที่มีเผือกในตู้เย็นเหลือครึ่งหัว จัดการทอดตามหัวปลาไปด้วย
เตรียมเครื่องปรุงตามครูบอกทุกอย่าง มีแถมโลโก้สล่าปู่ไปด้วย 7-8 เม็ด น้ำตาลปิ๊บหมดครัวเอาน้ำตาลกรวดแทน
ไป 1 ก้อนเล็ก ๆ ขิงมีทั้งขิงแก่ทุบกับขิงอ่อนซอย ขิงแก่กะเอากลิ่นเต็มที่
ทุกอย่างพร้อมเอาปลาลงก่อน ตามด้วยเผือก เครื่องปรุง ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย เต้าเจี้ยว รวมทั้งเครื่องที่เตรียมไว้
ยกเว้นขิงอ่อนซอยกะใส่ทีหลัง
เติมน้ำเปล่าลงไป มั่นใจว่าหวานแน่ ๆ
ตั้งไฟจนน้ำเดือด ช้อนฟองทิ้ง
ลดเหลือไฟอ่อน ปิดฝา คอยลุ้นน้ำจะใสหรือไม่ใส กลัวเผือกทำพิษทำให้ขุ่น
เกือบชั่วโมง เปิดดู สีสันใช้ได้ ไม่ใสแต่ไม่ถึงกับขุ่น
ตักเอาขิงแก่กับรากผักชีออก ใส่ขิงอ่อนซอยฝอยลงไปแทน
รสชาติใช้ได้เลยครับ น้ำตาลกรวดกับลำไยอบแห้งให้ความหวานกำลังเหมาะ ความเปรี้ยวได้จาก
ผักกาดดองกำลังดี กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเผือกกับลำไยแห้งเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยอ่อนเค็มไปนิด
เติมซีอิ้วขาวปิดท้ายด้วยเหล้าจีนครึ่งฝา งานนี้ไม่มีกลิ่นคาวเลยครับ
ได้คะแนนสักเกินครึ่งก็พอใจแล้วครับครูบ่งบ๊ง
ตักพักในหม้อให้เข้าเนื้อเพื่อกินมื้อเย็นครับ
มื้อกลางวันนี่เลยครับ น้ำเงี้ยวแบบโบราณ แบบที่เขาใช้เลือดหมูสด ๆ เทลงคนในหม้อแกง
ดูสีไม่ค่อยสวยนะแบบนี้ แต่ความเข้มข้นใช้ได้ทีเดียว
สวัสดีครับ