ผมได้เกิดกรณีรถเฉี่ยวชนขึ้น โดยคู่กรณีเป็นทหารซึ่งพึ่งเลิกงานออกจากปากทางเข้าค่ายก็ตรงข้ามทางเข้าก็จะเป็นยูเทรินพอดีครับ ซึ่งมีเกาะกลางเป็นคอนกรีตเล็ก ๆ อยู่ ซึ่งรถคู่กรณีได้ออกทางซอยแล้วตรงข้ามมาอยู่เกาะกลางเพื่อจะเลี้ยวรถ แต่เนื่องจากเกาะกลางเล็ก + กับการเข้ามาจอดเป็นแนวขวาง จึงทำให้รถคู่กรณีมีด้านท้ายโพล่ออกมาอีกช่องทางหนึ่ง
รถผมทางทางตรงเดินรถสองช่องทาง ผมอยู่เลนขวาสุดแต่ซ้ายมีรถอีกคันวิ่งอยู่ ซึ่งรถผมกำลังจะแซงคันซ้ายออกไป แต่ก็มีรถคู่กรณีวิ่งออกมาเพื่อจะยูเทรินกลับ แต่ไปไม่ได้เนื่องจากฝั่งตรงข้ามก็มีรถอยู่ คู่กรณีจึงต้องจอดรอ รถผมที่วิ่งด้วยความเร็วจึงไม่สามารถเบรคอยู่ได้โดยได้เบรคจนเห็นรอยยางอยู่กลางถนนแล้วแต่ก็รถยังหยุดไม่อยู่ จึงชนฝั่งแก้มหลังขวาอย่างแรง
ผม : โทษทีครับพี่ที่ทำให้พี่เสียเวลา รถพี่มีประกันไหม เดี๋ยวผมขอเรียกประกันก่อน
ทหาร : มีครับ (เค้าก็โทรอะไรของเค้าไป)
สักพักผมก็เดินไปคุยกับเค้าโดยผมไม่ได้คิดอะไร แต่ผมก็ขอโทษขอโพยเค้า และก็คุยกันดีปกติเพราะผมคิดว่าจะถูกจะผิดไม่รู้ แต่รู้ว่ารถทั้งคู่มีประกันเลยไม่กังวลอะไร สักพักประกันมาก็ถ่ายรูปแล้วจดรายละเอียด ประกันคุยกันสักพักแล้วประกันเราบอกว่าทางพี่ทหารเป็นฝ่ายผิด แต่ทางพี่ทหารกลับไม่ยอมรับ
ทหาร : อะไรกัน คุยกันเมื่อกี้น้องเค้ายังบอกว่าเค้ามาชนอยู่เลย (ตรูบอกตอนใหนว่ะ)
ผม : ผมไม่ได้บอกว่าผมผิดหรือถูกนะครับพี่ แต่ผมขอโทษที่ทำให้เสียเวลา
ทหาร : ผมพูดคำใหนคำนั้น ไม่คืนคำ เพราะผมมีเลือดทหาร ถ้างั้นผมปกครองลูกน้องไม่ได้หรอก
ประกันเรา : พี่ผิดเพราะว่าพี่หยุดรถโดยกีดขวางช่องทางเดินรถ
ประกันคู่กรณี : เงียบ ไม่พูด
ทหาร : คุณขับรถเร็ว ขับมาชนผม ผมจอดอยู่ตั้งนานแล้ว
และพูดอีกหลายอย่างครับ สรุปไม่จบ ร้อยเวรเลยให้ไปคุยที่โรงพักโดยประกันบอกว่าถ้างั้นให้ร้อยเวรเป็นผู้ชี้ขาด แต่ร้อยเวรบอกว่าให้ประกันตกลงกันเอง แต่แล้วผมก็พึ่งจะรู้ว่ารถคู่กรณีเป็นประกันชั้น 2 ทางพี่ทหารจึงไม่ยอมท่าเดียว ในที่สุดก็ตกลงกันได้ว่าประมาทร่วม โดยประกันผมบอกว่าให้ผมเตรียมเงิน 400 ไว้เป็นค่าปรับ แต่แล้วพี่ทหารบอกว่าทำยังไงก็ได้ที่ผมไม่ต้องจ่ายตังค์เพราะผมไม่ผิด แค่นั้นคำเดียวไม่รู้ว่าร้อยเวรทำไงเป็นไม่ต้องจ่ายทั้งสองคน
สรุปเคสนี้ น่าจะเป็นใครผิดครับ แล้วถ้าพี่ทหารผิดประกันผมยอมให้เป็นประมาทร่วมได้ไงเพราะประกันต้องมีค่าซ่อมรถ
กรณีแบบนี้ ใครผิดใครถูกครับ
รถผมทางทางตรงเดินรถสองช่องทาง ผมอยู่เลนขวาสุดแต่ซ้ายมีรถอีกคันวิ่งอยู่ ซึ่งรถผมกำลังจะแซงคันซ้ายออกไป แต่ก็มีรถคู่กรณีวิ่งออกมาเพื่อจะยูเทรินกลับ แต่ไปไม่ได้เนื่องจากฝั่งตรงข้ามก็มีรถอยู่ คู่กรณีจึงต้องจอดรอ รถผมที่วิ่งด้วยความเร็วจึงไม่สามารถเบรคอยู่ได้โดยได้เบรคจนเห็นรอยยางอยู่กลางถนนแล้วแต่ก็รถยังหยุดไม่อยู่ จึงชนฝั่งแก้มหลังขวาอย่างแรง
ผม : โทษทีครับพี่ที่ทำให้พี่เสียเวลา รถพี่มีประกันไหม เดี๋ยวผมขอเรียกประกันก่อน
ทหาร : มีครับ (เค้าก็โทรอะไรของเค้าไป)
สักพักผมก็เดินไปคุยกับเค้าโดยผมไม่ได้คิดอะไร แต่ผมก็ขอโทษขอโพยเค้า และก็คุยกันดีปกติเพราะผมคิดว่าจะถูกจะผิดไม่รู้ แต่รู้ว่ารถทั้งคู่มีประกันเลยไม่กังวลอะไร สักพักประกันมาก็ถ่ายรูปแล้วจดรายละเอียด ประกันคุยกันสักพักแล้วประกันเราบอกว่าทางพี่ทหารเป็นฝ่ายผิด แต่ทางพี่ทหารกลับไม่ยอมรับ
ทหาร : อะไรกัน คุยกันเมื่อกี้น้องเค้ายังบอกว่าเค้ามาชนอยู่เลย (ตรูบอกตอนใหนว่ะ)
ผม : ผมไม่ได้บอกว่าผมผิดหรือถูกนะครับพี่ แต่ผมขอโทษที่ทำให้เสียเวลา
ทหาร : ผมพูดคำใหนคำนั้น ไม่คืนคำ เพราะผมมีเลือดทหาร ถ้างั้นผมปกครองลูกน้องไม่ได้หรอก
ประกันเรา : พี่ผิดเพราะว่าพี่หยุดรถโดยกีดขวางช่องทางเดินรถ
ประกันคู่กรณี : เงียบ ไม่พูด
ทหาร : คุณขับรถเร็ว ขับมาชนผม ผมจอดอยู่ตั้งนานแล้ว
และพูดอีกหลายอย่างครับ สรุปไม่จบ ร้อยเวรเลยให้ไปคุยที่โรงพักโดยประกันบอกว่าถ้างั้นให้ร้อยเวรเป็นผู้ชี้ขาด แต่ร้อยเวรบอกว่าให้ประกันตกลงกันเอง แต่แล้วผมก็พึ่งจะรู้ว่ารถคู่กรณีเป็นประกันชั้น 2 ทางพี่ทหารจึงไม่ยอมท่าเดียว ในที่สุดก็ตกลงกันได้ว่าประมาทร่วม โดยประกันผมบอกว่าให้ผมเตรียมเงิน 400 ไว้เป็นค่าปรับ แต่แล้วพี่ทหารบอกว่าทำยังไงก็ได้ที่ผมไม่ต้องจ่ายตังค์เพราะผมไม่ผิด แค่นั้นคำเดียวไม่รู้ว่าร้อยเวรทำไงเป็นไม่ต้องจ่ายทั้งสองคน
สรุปเคสนี้ น่าจะเป็นใครผิดครับ แล้วถ้าพี่ทหารผิดประกันผมยอมให้เป็นประมาทร่วมได้ไงเพราะประกันต้องมีค่าซ่อมรถ