สวัสดีค่ะเพื่อนๆ
เห็นกระทู้มนุษย์ป้าก็เยอะ กระทู้มนุษย์ลุงก็มี ก็เลยอยากจะมาแชร์เรื่องราวของมนุษย์ลุงคนนึงให้ฟังค่ะ
เรื่องนี้มันค่อนข้างยาวนะคะ เราจะเล่าแบบย่อๆ ให้ฟัง ถ้าไม่เข้าใจตรงไหน ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
เราเข้ามาอยู่กับแฟนที่ร้านเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว (ร้านเปิดได้ประมาณ 6 เดือน)
ร้านนี้มีหุ้นอยู่ 3 หุ้นด้วยกันค่ะ คือ แฟนเรา เพื่อนแฟน และ ลุงคนนี้ค่ะ
การทำงานในร้านจะแบ่งกันคือ แฟนเราดูแลร้านและขายของในร้าน เพื่อนแฟนหาของมาขาย และลุงจะทำประเภทเชื่อมเหล็ก หรืออ็อกเหล็กค่ะ
การวางแผนในร้าน แรกๆแฟนเราเล่าว่า จะทำร้านให้เป็นการบริการครบวงจร มาที่นี่ ที่เดียวจบ... ทั้งขาย ทั้งบริการ
ช่วงแรกๆ ที่ทำ ร้านก็อาศัยลูกค้าในอินเทอร์เน็ตค่ะ วันนึงแทบจะไม่มีลูกค้าเข้าร้านก็อาศัยลูกค้าในเว็บ ประชาสัมพันธ์ในเว็บอย่างเดียวเลย
มาเข้าเรื่องกันต่อนะคะ ตอนเปิดร้านช่วงปีแรก ลุงหมู (นามสมมติ) แกดีมากเลยค่ะ แม้ว่าเราจะมาอยู่กับแฟน แกก็ดีกับเราด้วย เวลาก็เข้าร้านก็จะมีของติดไม้ติดมือมาฝากเราเสมอค่ะ ลูกค้าคนไหนเข้ามาก็ยกมือไหว้ลุงหมู ลุงหมูก็ยิ้มทักทาย จนบางครั้งคุยกันจนสนิทกันเลยก็มีค่ะ
จนกระทั่งมาถึงช่วงนึงที่ แฟนเราไม่ส่งงานให้ลุงหมูค่ะ เพราะว่าลุงแกทำงานช้า (ช้ามากกกกก) แฟนเราก็เลยไปส่งงานให้ที่อื่น โดยที่ไม่บอกลุงค่ะ
ลุงรู้ก็โมโห หาว่ามาหยิบของๆ แกโดยไม่บอก จะเอาไปทำไมไม่บอก
**แฟนเราให้แกทำงานชิ้นนี้ ก็ใช้เวลาไป 8 เดือน งานยังไม่เสร็จเลยค่ะ จนแฟนเราต้องยกงานไปให้คนอื่นทำ (งานคนอื่นทำ 2 วันเสร็จ)
ตั้งแต่นั้นมา เรื่องนี้ก็เป็นปมให้ลุงเริ่ม แขวะแฟนเราค่ะ (จะแขวะให้ยังไง อ่านไปเรื่อยๆนะคะ)
ผ่านเหตุการณ์นี้ได้ประมาณ 2 เดือน ลุงหมูก็หาคนมาช่วยแฟนเรา แกก็มาคุยกับแฟนเราว่า "จะหาเด็กมาช่วยนะ เห็นงานเยอะ"
แฟนเราก็เออ ออ .. แต่รายละเอียดนอกจากนี้ก็ไม่ได้คุยกันค่ะ
จนกระทั่งเด็กมาช่วยงาน งานแรกที่เค้าทำ แฟนเรายกงานให้เค้าชิ้นนึง เสร็จงาน แฟนเราถามว่า คิดลูกค้าเท่าไหร่ (คือแฟนเราจะให้เค้าหมดเลยค่ะ)
คิดซักพัก "800 ครับพี่" แฟนเราทำตาลุกวาวเลยค่ะ (800 !!!) สรุป ลูกค้าต้องจ่ายค่ะ และแฟนเราก็เคลียกับลูกค้าคนนี้บอกว่า ให้เด็กมันทำนะ เด็กมันคิดเท่านี้ ลูกค้าก็ไม่ว่าอะไร ลูกค้าเข้าใจ จนตอนนี้ลูกค้าคนนี้เป็นลูกค้าประจำของร้านไปแล้วค่ะ
เราขอสรุปงานเกี่ยวกับเด็กคนนี้ให้ฟังนะคะ เรื่องนี้จะได้ไม่ยาว... คือ แฟนเราต้องจ้างเด็กคนนี้มาทำงาน คิดค่าแรงเป็นชิ้นงานค่ะ งานที่ร้านที่จะต้องทำตรงนี้วันๆนึงมันก็ไม่เยอะนะคะ เฉลี่ยวันนึงได้แค่ 100-200 บาทเองค่ะ เด็กคนนึงต้องนั่ง BTS มาจากสยาม ไป-กลับก็ 100 แล้ว ไหนจะค่าอาหารอีก วันนึงก็ประมาณ 2 มื้อ เที่ยงกับเย็นค่ะ แล้ววันนึงมันจะเหลืออะไรคะ?
**ถามว่า ทำไมเราไม่จ้างเป็นเดือนล่ะ? ทางเราไม่ไหวค่ะ เพราะงานที่ทำแฟนเรายังทำไหว ทำได้คนเดียวสบายๆ
**แล้วจะรับเด็กคนนี้มาทำไม? ก็ลุงหมู หามาให้ จะให้ทำยังไงล่ะ?
***เด็กคนนี้ ทำงานได้ประมาณ 2 อาทิตย์ค่ะ คือรู้เลยว่าเค้าไม่ไหว อาจจะเรื่องงานที่ไม่ค่อยมีให้เค้าทำ และเรื่องลุงอีก
หลังจากเรื่องนี้ผ่านไป ลุงหมูน่าจะเก็บไว้ในใจ ไม่พูดออกมาให้แฟนเรารู้
แต่.............ไปพูดกับข้างบ้าน!!! ประมาณว่า
"ไอ้นิด (แฟนเรา ชื่อนามสมมติ) มันไล่ไอ้น้อยออก (เด็กที่เคยทำงานที่ร้าน)" ทั้งที่เค้าออกไปเอง และตอนที่เด็กคนนี้ได้งานที่ใหม่ ผจก.ร้านนั้นก็โทรมาถามแฟนเราว่า เด็กคนนี้เป็นยังไง นิสัยใจคอเป็นยังไง ไว้ใจได้มั้ย? เห็นเค้าบอกว่าเคยทำงานที่โน่น..
"ไอ้นิด มันแย่ เชื่อถือไม่ได้ ชอบโกหกลูกค้า"
"ไอ้นิด อย่าไปเชื่อมันมากนะ ไอ้นี่มันเล่ห์เหลี่ยมเยอะ"
และอื่นๆ อีกมากมายที่ไปพูดกับข้างบ้าน ตีไข่ใส่สีเพียบ
เรื่องที่ลุงไปพูดกับข้างบ้านไม่ใช่บ้านเดียวนะคะ พูดทั้งเพื่อนบ้านด้านซ้าย ขวา หน้า หลัง คือพูดให้เค้าฟังล้อมๆร้านนั่นแหละค่ะ
อ่อ เรื่องที่ลุงแกไปพูด แฟนเรายังไม่รู้นะคะ
จนกระทั่ง.....เพื่อนบ้านคนนึงทนไม่ไหวจึงถามแฟนเราว่า ลุงหมู เป็นพ่อใครหรอ?
เฮ้ยยยย ลุงหมูไม่ใช่พ่อใครทั้งนั้นนะ..
แฟนเราก็เลยอธิบายให้เพื่อนบ้านฟังว่าแกเป็นแค่หุ้นส่วน แฟนเราก็เลยถามกลับว่า "ทำไมหรอ?"
เพื่อนบ้านก็พูดเลยค่ะว่า ลุงหมูพูดอะไรกับแกบ้าง? แฟนเราต้องมานั่งแก้ข่าว นั่งอธิบายเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนบ้านฟัง ไม่ใช่แค่คนนี้คนเดียวนะคะ
แต่เป็นเพื่อนบ้านทั้งหมดที่ลุงหมูไปพูดกับเค้า OK เรื่องนี้เพื่อนบ้านเข้าใจ จนลุงหมูพูดอะไร เพื่อนบ้านก็มักจะมาเล่าให้เราฟังเสมอ...
จุดพีคของเรื่องไม่ใช่ตรงนินทาเราให้เพื่อนบ้านฟังนะคะแต่เป็น
ด่าแฟนเราให้ลูกค้าฟัง!!!!!!
เวลาลูกค้าเดินออกจากร้าน ลุงหมูแกจะเดินตามลูกค้าเลยค่ะ เดินตามลูกค้าไปที่รถ..ไปพูดกับลูกค้าว่า
"ไอ้นิดไม่นิสัยไม่ดี อย่ามาทำกับมันเลย บลาๆๆๆ" ไม่ใช่ว่าแกพูดกับลูกค้าแค่คนเดียวนะคะ
ไม่พูดกับลูกค้าเกือบทุกคนที่แกเดินตามเค้าทัน
เรื่องนี้เรารู้จากปากลูกค้าเลยค่ะว่าลุงหมูไปพูดอะไรกับลูกค้า เกือบทุกคนจะมาเล่าให้แฟนเราฟังค่ะ แฟนเราก็ต้องตามแก้ข่าวที่แก้พูด
วันนึงแฟนเราทนไม่ไหว กลับมาจากขายของที่ตลาดแห่งนึง กลับถึงร้าน 4 ทุ่ม เรียกคุยเลยค่ะ
วันนั้นที่คุย มีหุ้นส่วนทั้ง 3 เลยค่ะ คุยกัน เคลียกันทุกเรื่อง
-เรื่องที่แฟนเรายกงานที่เคยให้แกทำไปให้คนอื่นทำ แฟนเราบอกว่า "ผมต้องใช้เงินนะลุง ลุงทำงานของผมเกือบปี แล้วผมจะเอาที่ไหนกิน ผมต้องใช้เงิน ผมต้องหมุนเงินนะ" ลุงหมูก็บอกว่า "แล้วทำไมไม่บอกล่ะว่ารีบ" (เฮ้ย....เรื่องงานต้องบอกหรอว่ะ ว่า ตูรีบนะ แหม..ลุง 8 เดือนที่ลุงทำ หนูไม่รีบเลยค่ะ)
-เรื่องที่ลุงแกหาว่า แฟนเราไล่เด็กออก ลุงแกก็บอกว่า "ทำไมคุณไล่เด็กมันออกล่ะ?" แฟนเราก็อธิบายไปว่า "งานที่มันมี มันไม่เยอะ มันไม่คุ้มหรอกที่เด็กมันจะเดินทางมาทำ แค่ค่าเดินทาง ค่ากิน ก็หมดแล้วลุง" แกก็เถียงข้างๆ คูๆ จนย้ายมาเรื่องใหม่
-เรื่องที่แกนินทา แฟนเราให้เพื่อนบ้าน และลูกค้าฟัง แกบอกว่า "ผมไม่เคยพูด" !!! ใครบอกคุณว่าผมพูด บอกมาซิ ใครๆๆๆๆๆ
แฟนเราก็ย้อนไปเลยค่ะ "ลุงพูดอะไร กับใคร ลุงรู้ดีแก่ใจ" ลุงเงียบเลยค่ะ
วันนั้นคุยกัน 3 เรื่อง หมดเวลาไป 4 ชั่วโมง แยกย้ายกันกลับตอนตี 2
คือเราสงสัยมากเลยค่ะว่า ทำธุรกิจร่วมกัน ทำไมต้องทำนิสัย ไฟในเอาออก ไฟนอกเอาเข้าด้วย?
ด่าเราให้ลูกค้าฟัง ทั้งๆที่เป็นลูกค้าร้านเดียวกัน (ถ้าเราเดาไม่ผิด เราคิดว่าแกอิจฉาแฟนเราที่ลูกค้าเริ่มเยอะ แต่แกไม่มีงานทำ)
เดี๋ยวเรามาต่อนะคะ เรื่องนิสัยแก อยากจะลิสมาเป็นข้อๆ ถ้าพูดไป มันจะยาวมากเลยค่ะ
ตลอดระยะเวลา 2 ปีกว่าๆ เกือบ 3 ปี เรารู้สึกอึดอัดมาก (แต่พูดไปไม่ได้เพราะเราไม่ใช่หุ้นส่วนที่นี่) พูดไปเดี๋ยวเค้าหาว่า เสื อก
ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยเจอมนุษย์ลุงคนไหน นิสัยแย่ขนาดนี้เลยค่ะ
เกริ่นตอนที่จะพูดตอนต่อไปดีกว่า
-เรื่องการรับฝากขายของในร้าน
-เรื่องการเข้าห้องน้ำของเรา (จนเราเป็นน้องลิสซี่)
-เรื่องการกินส้มตำให้ร้าน
3 เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ จนต้องมานั่งคุยกันรอบที่สอง
แต่..ตอนนี้เราขอตัวไปเก็บกวาด เช็ดถูร้านก่อนนะคะ เดี๋ยวมาต่อเน้อออออ
มนุษย์ลุง : เรื่องเศร้าเคล้าดราม่า อยู่ร่วมกันมา 2 ปีกว่าๆ ทนไปได้ยังไง?
เห็นกระทู้มนุษย์ป้าก็เยอะ กระทู้มนุษย์ลุงก็มี ก็เลยอยากจะมาแชร์เรื่องราวของมนุษย์ลุงคนนึงให้ฟังค่ะ
เรื่องนี้มันค่อนข้างยาวนะคะ เราจะเล่าแบบย่อๆ ให้ฟัง ถ้าไม่เข้าใจตรงไหน ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
เราเข้ามาอยู่กับแฟนที่ร้านเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว (ร้านเปิดได้ประมาณ 6 เดือน)
ร้านนี้มีหุ้นอยู่ 3 หุ้นด้วยกันค่ะ คือ แฟนเรา เพื่อนแฟน และ ลุงคนนี้ค่ะ
การทำงานในร้านจะแบ่งกันคือ แฟนเราดูแลร้านและขายของในร้าน เพื่อนแฟนหาของมาขาย และลุงจะทำประเภทเชื่อมเหล็ก หรืออ็อกเหล็กค่ะ
การวางแผนในร้าน แรกๆแฟนเราเล่าว่า จะทำร้านให้เป็นการบริการครบวงจร มาที่นี่ ที่เดียวจบ... ทั้งขาย ทั้งบริการ
ช่วงแรกๆ ที่ทำ ร้านก็อาศัยลูกค้าในอินเทอร์เน็ตค่ะ วันนึงแทบจะไม่มีลูกค้าเข้าร้านก็อาศัยลูกค้าในเว็บ ประชาสัมพันธ์ในเว็บอย่างเดียวเลย
มาเข้าเรื่องกันต่อนะคะ ตอนเปิดร้านช่วงปีแรก ลุงหมู (นามสมมติ) แกดีมากเลยค่ะ แม้ว่าเราจะมาอยู่กับแฟน แกก็ดีกับเราด้วย เวลาก็เข้าร้านก็จะมีของติดไม้ติดมือมาฝากเราเสมอค่ะ ลูกค้าคนไหนเข้ามาก็ยกมือไหว้ลุงหมู ลุงหมูก็ยิ้มทักทาย จนบางครั้งคุยกันจนสนิทกันเลยก็มีค่ะ
จนกระทั่งมาถึงช่วงนึงที่ แฟนเราไม่ส่งงานให้ลุงหมูค่ะ เพราะว่าลุงแกทำงานช้า (ช้ามากกกกก) แฟนเราก็เลยไปส่งงานให้ที่อื่น โดยที่ไม่บอกลุงค่ะ
ลุงรู้ก็โมโห หาว่ามาหยิบของๆ แกโดยไม่บอก จะเอาไปทำไมไม่บอก
**แฟนเราให้แกทำงานชิ้นนี้ ก็ใช้เวลาไป 8 เดือน งานยังไม่เสร็จเลยค่ะ จนแฟนเราต้องยกงานไปให้คนอื่นทำ (งานคนอื่นทำ 2 วันเสร็จ)
ตั้งแต่นั้นมา เรื่องนี้ก็เป็นปมให้ลุงเริ่ม แขวะแฟนเราค่ะ (จะแขวะให้ยังไง อ่านไปเรื่อยๆนะคะ)
ผ่านเหตุการณ์นี้ได้ประมาณ 2 เดือน ลุงหมูก็หาคนมาช่วยแฟนเรา แกก็มาคุยกับแฟนเราว่า "จะหาเด็กมาช่วยนะ เห็นงานเยอะ"
แฟนเราก็เออ ออ .. แต่รายละเอียดนอกจากนี้ก็ไม่ได้คุยกันค่ะ
จนกระทั่งเด็กมาช่วยงาน งานแรกที่เค้าทำ แฟนเรายกงานให้เค้าชิ้นนึง เสร็จงาน แฟนเราถามว่า คิดลูกค้าเท่าไหร่ (คือแฟนเราจะให้เค้าหมดเลยค่ะ)
คิดซักพัก "800 ครับพี่" แฟนเราทำตาลุกวาวเลยค่ะ (800 !!!) สรุป ลูกค้าต้องจ่ายค่ะ และแฟนเราก็เคลียกับลูกค้าคนนี้บอกว่า ให้เด็กมันทำนะ เด็กมันคิดเท่านี้ ลูกค้าก็ไม่ว่าอะไร ลูกค้าเข้าใจ จนตอนนี้ลูกค้าคนนี้เป็นลูกค้าประจำของร้านไปแล้วค่ะ
เราขอสรุปงานเกี่ยวกับเด็กคนนี้ให้ฟังนะคะ เรื่องนี้จะได้ไม่ยาว... คือ แฟนเราต้องจ้างเด็กคนนี้มาทำงาน คิดค่าแรงเป็นชิ้นงานค่ะ งานที่ร้านที่จะต้องทำตรงนี้วันๆนึงมันก็ไม่เยอะนะคะ เฉลี่ยวันนึงได้แค่ 100-200 บาทเองค่ะ เด็กคนนึงต้องนั่ง BTS มาจากสยาม ไป-กลับก็ 100 แล้ว ไหนจะค่าอาหารอีก วันนึงก็ประมาณ 2 มื้อ เที่ยงกับเย็นค่ะ แล้ววันนึงมันจะเหลืออะไรคะ?
**ถามว่า ทำไมเราไม่จ้างเป็นเดือนล่ะ? ทางเราไม่ไหวค่ะ เพราะงานที่ทำแฟนเรายังทำไหว ทำได้คนเดียวสบายๆ
**แล้วจะรับเด็กคนนี้มาทำไม? ก็ลุงหมู หามาให้ จะให้ทำยังไงล่ะ?
***เด็กคนนี้ ทำงานได้ประมาณ 2 อาทิตย์ค่ะ คือรู้เลยว่าเค้าไม่ไหว อาจจะเรื่องงานที่ไม่ค่อยมีให้เค้าทำ และเรื่องลุงอีก
หลังจากเรื่องนี้ผ่านไป ลุงหมูน่าจะเก็บไว้ในใจ ไม่พูดออกมาให้แฟนเรารู้
แต่.............ไปพูดกับข้างบ้าน!!! ประมาณว่า
"ไอ้นิด (แฟนเรา ชื่อนามสมมติ) มันไล่ไอ้น้อยออก (เด็กที่เคยทำงานที่ร้าน)" ทั้งที่เค้าออกไปเอง และตอนที่เด็กคนนี้ได้งานที่ใหม่ ผจก.ร้านนั้นก็โทรมาถามแฟนเราว่า เด็กคนนี้เป็นยังไง นิสัยใจคอเป็นยังไง ไว้ใจได้มั้ย? เห็นเค้าบอกว่าเคยทำงานที่โน่น..
"ไอ้นิด มันแย่ เชื่อถือไม่ได้ ชอบโกหกลูกค้า"
"ไอ้นิด อย่าไปเชื่อมันมากนะ ไอ้นี่มันเล่ห์เหลี่ยมเยอะ"
และอื่นๆ อีกมากมายที่ไปพูดกับข้างบ้าน ตีไข่ใส่สีเพียบ
เรื่องที่ลุงไปพูดกับข้างบ้านไม่ใช่บ้านเดียวนะคะ พูดทั้งเพื่อนบ้านด้านซ้าย ขวา หน้า หลัง คือพูดให้เค้าฟังล้อมๆร้านนั่นแหละค่ะ
อ่อ เรื่องที่ลุงแกไปพูด แฟนเรายังไม่รู้นะคะ
จนกระทั่ง.....เพื่อนบ้านคนนึงทนไม่ไหวจึงถามแฟนเราว่า ลุงหมู เป็นพ่อใครหรอ?
เฮ้ยยยย ลุงหมูไม่ใช่พ่อใครทั้งนั้นนะ..
แฟนเราก็เลยอธิบายให้เพื่อนบ้านฟังว่าแกเป็นแค่หุ้นส่วน แฟนเราก็เลยถามกลับว่า "ทำไมหรอ?"
เพื่อนบ้านก็พูดเลยค่ะว่า ลุงหมูพูดอะไรกับแกบ้าง? แฟนเราต้องมานั่งแก้ข่าว นั่งอธิบายเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนบ้านฟัง ไม่ใช่แค่คนนี้คนเดียวนะคะ
แต่เป็นเพื่อนบ้านทั้งหมดที่ลุงหมูไปพูดกับเค้า OK เรื่องนี้เพื่อนบ้านเข้าใจ จนลุงหมูพูดอะไร เพื่อนบ้านก็มักจะมาเล่าให้เราฟังเสมอ...
จุดพีคของเรื่องไม่ใช่ตรงนินทาเราให้เพื่อนบ้านฟังนะคะแต่เป็น
ด่าแฟนเราให้ลูกค้าฟัง!!!!!!
เวลาลูกค้าเดินออกจากร้าน ลุงหมูแกจะเดินตามลูกค้าเลยค่ะ เดินตามลูกค้าไปที่รถ..ไปพูดกับลูกค้าว่า
"ไอ้นิดไม่นิสัยไม่ดี อย่ามาทำกับมันเลย บลาๆๆๆ" ไม่ใช่ว่าแกพูดกับลูกค้าแค่คนเดียวนะคะ
ไม่พูดกับลูกค้าเกือบทุกคนที่แกเดินตามเค้าทัน
เรื่องนี้เรารู้จากปากลูกค้าเลยค่ะว่าลุงหมูไปพูดอะไรกับลูกค้า เกือบทุกคนจะมาเล่าให้แฟนเราฟังค่ะ แฟนเราก็ต้องตามแก้ข่าวที่แก้พูด
วันนึงแฟนเราทนไม่ไหว กลับมาจากขายของที่ตลาดแห่งนึง กลับถึงร้าน 4 ทุ่ม เรียกคุยเลยค่ะ
วันนั้นที่คุย มีหุ้นส่วนทั้ง 3 เลยค่ะ คุยกัน เคลียกันทุกเรื่อง
-เรื่องที่แฟนเรายกงานที่เคยให้แกทำไปให้คนอื่นทำ แฟนเราบอกว่า "ผมต้องใช้เงินนะลุง ลุงทำงานของผมเกือบปี แล้วผมจะเอาที่ไหนกิน ผมต้องใช้เงิน ผมต้องหมุนเงินนะ" ลุงหมูก็บอกว่า "แล้วทำไมไม่บอกล่ะว่ารีบ" (เฮ้ย....เรื่องงานต้องบอกหรอว่ะ ว่า ตูรีบนะ แหม..ลุง 8 เดือนที่ลุงทำ หนูไม่รีบเลยค่ะ)
-เรื่องที่ลุงแกหาว่า แฟนเราไล่เด็กออก ลุงแกก็บอกว่า "ทำไมคุณไล่เด็กมันออกล่ะ?" แฟนเราก็อธิบายไปว่า "งานที่มันมี มันไม่เยอะ มันไม่คุ้มหรอกที่เด็กมันจะเดินทางมาทำ แค่ค่าเดินทาง ค่ากิน ก็หมดแล้วลุง" แกก็เถียงข้างๆ คูๆ จนย้ายมาเรื่องใหม่
-เรื่องที่แกนินทา แฟนเราให้เพื่อนบ้าน และลูกค้าฟัง แกบอกว่า "ผมไม่เคยพูด" !!! ใครบอกคุณว่าผมพูด บอกมาซิ ใครๆๆๆๆๆ
แฟนเราก็ย้อนไปเลยค่ะ "ลุงพูดอะไร กับใคร ลุงรู้ดีแก่ใจ" ลุงเงียบเลยค่ะ
วันนั้นคุยกัน 3 เรื่อง หมดเวลาไป 4 ชั่วโมง แยกย้ายกันกลับตอนตี 2
คือเราสงสัยมากเลยค่ะว่า ทำธุรกิจร่วมกัน ทำไมต้องทำนิสัย ไฟในเอาออก ไฟนอกเอาเข้าด้วย?
ด่าเราให้ลูกค้าฟัง ทั้งๆที่เป็นลูกค้าร้านเดียวกัน (ถ้าเราเดาไม่ผิด เราคิดว่าแกอิจฉาแฟนเราที่ลูกค้าเริ่มเยอะ แต่แกไม่มีงานทำ)
เดี๋ยวเรามาต่อนะคะ เรื่องนิสัยแก อยากจะลิสมาเป็นข้อๆ ถ้าพูดไป มันจะยาวมากเลยค่ะ
ตลอดระยะเวลา 2 ปีกว่าๆ เกือบ 3 ปี เรารู้สึกอึดอัดมาก (แต่พูดไปไม่ได้เพราะเราไม่ใช่หุ้นส่วนที่นี่) พูดไปเดี๋ยวเค้าหาว่า เสื อก
ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยเจอมนุษย์ลุงคนไหน นิสัยแย่ขนาดนี้เลยค่ะ
เกริ่นตอนที่จะพูดตอนต่อไปดีกว่า
-เรื่องการรับฝากขายของในร้าน
-เรื่องการเข้าห้องน้ำของเรา (จนเราเป็นน้องลิสซี่)
-เรื่องการกินส้มตำให้ร้าน
3 เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ จนต้องมานั่งคุยกันรอบที่สอง
แต่..ตอนนี้เราขอตัวไปเก็บกวาด เช็ดถูร้านก่อนนะคะ เดี๋ยวมาต่อเน้อออออ