
พรรคเดียวได้คะแนนเสียงแบบดินปลิ้น (Land Slide)

จะออกมากี่โพลต่อกี่โพล อีสานกับเหนือ ก็เป็นตัวตัดสินพรรครัฐบาลอยู่ดีว่าจะเป็นพรรคไหน?
ผมเคยเข้าร่วมประชุมภายหลังการก่อตั้งพรรคพลังงานไทยอยู่ครั้งหนึ่ง แม้ความตั้งใจจะดี แต่การเริ่มต้นสร้างฐานเสียงจากศูนย์เป็นอะไรที่ยากเกินกว่า จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกแผ่นดินได้ (ก่อนหน้านี้ผมหวังจากทหาร ตอนนี้ก็เริ่มจะไม่หวัง ^^" )
ความจริงแล้ว การที่พรรคการเมืองใหญ่ทั้งสองขั้ว จะได้เสียงประชาชนแบบที่เรียกกันว่า ดินปลิ้น หรือ Land Slide จนสามารถตั้งพรรครัฐบาลพรรคเดียวได้ (โดยไม่ต้องใช้วิธียุบรวมจากพรรคเล็กพรรคน้อยด้วย) ไม่ใช่เรื่องยากเลย!
เพราะอะไร?
๑. ฐานเสียงเดิมมีอยู่แล้ว การจะต่อยอดทำได้ง่าย
๒. ทั้งสองพรรคล้วนมีทีวีดาวเทียมของตนเอง ในการเผยแพร่แนวคิดนโยบายหาเสียง เพื่อชนะแบบเบ็ดเสร็จของตนเองได้
แต่มันติดอยู่นิดเดียว สมาชิกพรรคทั้งหมด หรือผู้กุมทิศทางและนโยบายพรรค ของพรรคใหญ่ทั้งสองขั้ว ท่านต้องถามตนเองในที่ประชุมพรรคว่า
๑. พรรคของเรา มีเป้าหมายเพื่อชนะเลือกตั้งแบบเบ็ดเสร็จ จนได้รับโอกาสให้ทำงานเพื่อประชาชนทั้งประเทศได้อยู่ดีกินดี และประเทศชาติเจริญรุ่งเรือง
หรือ?
๒. พรรคเราตั้งขึ้นมาเพื่อใช้การเมืองเป็นช่องทางในการแสวงหาอำนาจ เพื่อเข้าไปใช้งบประมาณแผ่นดิน และเข้าไปปกป้องและต่อยอดธุรกิจของพรรคพวกตนเอง
ถ้าคำตอบ คือ ๒ ก็ถือเป็นโชควาสนาของคนไทยทั่วหน้า
แต่ถ้าคำตอบเป็น ๑ ผมเชื่อว่า สิ่งที่ผมเสนอต่อกปปส.ในช่วงที่ผ่านมา สามารถโดนใจประชาชน และท่านก็สามารถทำได้จริง เมื่อท่านได้อำนาจเบ็ดเสร็จในสภาจากเสียงประชาชนที่จะเทให้พรรคท่านแบบถล่มทลาย
แล้วท่านก็ไม่จำเป็นต้องไปง๊อทุนใหญ่ที่คอยส่งเงินมาช่วยเหลือพวกท่าน แบบแทงกั๊กให้ทุกพรรค ขอแค่ท่านเสนอต่อพี่น้องประชาชนว่า พรรคเราขอคนไทยแค่ ๑๐ ล้านคน (จาก ๖๐ ล้านคน) สมัครเป็นสมาชิกกับพรรคเรา เราขอบริจาคเงินในกระเป๋าท่าน คนละ ๑ บาทต่อคนต่อวัน (หรือ ๓๐ บาทโอนเข้าบัญชีพรรคทุกๆเดือน)
พรรคเราขอสัญญาว่า จะจัดเต็มให้พี่น้องประชาชนแบบรับประโยชน์กันไม่หวาดไม่ไหว (เช่น ได้คืนปีละ ๓ แสนล้านบาทต่อปีจากนโยบายพลังงานของพรรค เด็กไทยเรียนฟรีจนจบมหาลัย คนไทยทุกคนรักษาพยาบาลฟรีทุกโรค ฯลฯ)
คราวนี้ประเทศไทย มันยังเปลี่ยนแบบพลิกฝ่ามือไม่ได้ ก็ให้มันรู้ไป
พรรคการเมืองของประชาชน
ปัญหาอย่างหนึ่งของสังคมไทยคือ เรายังไม่มีพรรคการเมืองของประชาชน มีแต่พรรคของทุน หรือพรรคที่ยังต้องแคร์ทุน มากกว่าประชาชนฐานเสียง
ทำให้เป้าหมายแฝงที่จำเป็นต้องทำอย่างหนึ่งของพรรคการเมืองทั้งหลาย คือ ทำงานหรือคิดนโยบายเพื่อเอื้อต่อการพัฒนาทุน แทนที่จะมุ่งการทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มุ่งเอาผลประโยชน์ของสังคมเป็นใหญ่ แต่จำเป็นต้องเอาผลประโยชน์ของกลุ่มทุน (ที่ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่พรรค) เป็นใหญ่
ในอนาคต ภาคประชาชนจำเป็นต้องช่วยกันยกระดับพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน (และสนใจจะยกระดับพรรคตนเอง) หรือพรรคเกิดใหม่ในอนาคตก็ตาม
ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นแค่แนวทางหนึ่งครับ
พรรคเดียวได้คะแนนเสียงแบบดินปลิ้น (Land Slide)
จะออกมากี่โพลต่อกี่โพล อีสานกับเหนือ ก็เป็นตัวตัดสินพรรครัฐบาลอยู่ดีว่าจะเป็นพรรคไหน?
ผมเคยเข้าร่วมประชุมภายหลังการก่อตั้งพรรคพลังงานไทยอยู่ครั้งหนึ่ง แม้ความตั้งใจจะดี แต่การเริ่มต้นสร้างฐานเสียงจากศูนย์เป็นอะไรที่ยากเกินกว่า จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกแผ่นดินได้ (ก่อนหน้านี้ผมหวังจากทหาร ตอนนี้ก็เริ่มจะไม่หวัง ^^" )
ความจริงแล้ว การที่พรรคการเมืองใหญ่ทั้งสองขั้ว จะได้เสียงประชาชนแบบที่เรียกกันว่า ดินปลิ้น หรือ Land Slide จนสามารถตั้งพรรครัฐบาลพรรคเดียวได้ (โดยไม่ต้องใช้วิธียุบรวมจากพรรคเล็กพรรคน้อยด้วย) ไม่ใช่เรื่องยากเลย!
เพราะอะไร?
๑. ฐานเสียงเดิมมีอยู่แล้ว การจะต่อยอดทำได้ง่าย
๒. ทั้งสองพรรคล้วนมีทีวีดาวเทียมของตนเอง ในการเผยแพร่แนวคิดนโยบายหาเสียง เพื่อชนะแบบเบ็ดเสร็จของตนเองได้
แต่มันติดอยู่นิดเดียว สมาชิกพรรคทั้งหมด หรือผู้กุมทิศทางและนโยบายพรรค ของพรรคใหญ่ทั้งสองขั้ว ท่านต้องถามตนเองในที่ประชุมพรรคว่า
๑. พรรคของเรา มีเป้าหมายเพื่อชนะเลือกตั้งแบบเบ็ดเสร็จ จนได้รับโอกาสให้ทำงานเพื่อประชาชนทั้งประเทศได้อยู่ดีกินดี และประเทศชาติเจริญรุ่งเรือง
หรือ?
๒. พรรคเราตั้งขึ้นมาเพื่อใช้การเมืองเป็นช่องทางในการแสวงหาอำนาจ เพื่อเข้าไปใช้งบประมาณแผ่นดิน และเข้าไปปกป้องและต่อยอดธุรกิจของพรรคพวกตนเอง
ถ้าคำตอบ คือ ๒ ก็ถือเป็นโชควาสนาของคนไทยทั่วหน้า
แต่ถ้าคำตอบเป็น ๑ ผมเชื่อว่า สิ่งที่ผมเสนอต่อกปปส.ในช่วงที่ผ่านมา สามารถโดนใจประชาชน และท่านก็สามารถทำได้จริง เมื่อท่านได้อำนาจเบ็ดเสร็จในสภาจากเสียงประชาชนที่จะเทให้พรรคท่านแบบถล่มทลาย
แล้วท่านก็ไม่จำเป็นต้องไปง๊อทุนใหญ่ที่คอยส่งเงินมาช่วยเหลือพวกท่าน แบบแทงกั๊กให้ทุกพรรค ขอแค่ท่านเสนอต่อพี่น้องประชาชนว่า พรรคเราขอคนไทยแค่ ๑๐ ล้านคน (จาก ๖๐ ล้านคน) สมัครเป็นสมาชิกกับพรรคเรา เราขอบริจาคเงินในกระเป๋าท่าน คนละ ๑ บาทต่อคนต่อวัน (หรือ ๓๐ บาทโอนเข้าบัญชีพรรคทุกๆเดือน)
พรรคเราขอสัญญาว่า จะจัดเต็มให้พี่น้องประชาชนแบบรับประโยชน์กันไม่หวาดไม่ไหว (เช่น ได้คืนปีละ ๓ แสนล้านบาทต่อปีจากนโยบายพลังงานของพรรค เด็กไทยเรียนฟรีจนจบมหาลัย คนไทยทุกคนรักษาพยาบาลฟรีทุกโรค ฯลฯ)
คราวนี้ประเทศไทย มันยังเปลี่ยนแบบพลิกฝ่ามือไม่ได้ ก็ให้มันรู้ไป
พรรคการเมืองของประชาชน
ปัญหาอย่างหนึ่งของสังคมไทยคือ เรายังไม่มีพรรคการเมืองของประชาชน มีแต่พรรคของทุน หรือพรรคที่ยังต้องแคร์ทุน มากกว่าประชาชนฐานเสียง
ทำให้เป้าหมายแฝงที่จำเป็นต้องทำอย่างหนึ่งของพรรคการเมืองทั้งหลาย คือ ทำงานหรือคิดนโยบายเพื่อเอื้อต่อการพัฒนาทุน แทนที่จะมุ่งการทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มุ่งเอาผลประโยชน์ของสังคมเป็นใหญ่ แต่จำเป็นต้องเอาผลประโยชน์ของกลุ่มทุน (ที่ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่พรรค) เป็นใหญ่
ในอนาคต ภาคประชาชนจำเป็นต้องช่วยกันยกระดับพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน (และสนใจจะยกระดับพรรคตนเอง) หรือพรรคเกิดใหม่ในอนาคตก็ตาม
ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นแค่แนวทางหนึ่งครับ