“ดู่ใต้” คือสัมผัสอันอบอุ่นของธรรมชาติ และคำบอกเล่าในหน้าประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล
ความงดงามของพื้นที่พิเศษเมืองเก่าน่าน ช่วยบอกเล่าเรื่องราวในตำนาน กระทั่งวิถีชีวิตจากอดีตจนปัจจุบันได้อย่างดี นานเท่าไหร่แล้วที่เราไม่ได้เดินทางไปสัมผัสอากาศแสนบริสุทธิ์ กับวิถีชีวิตของชุมชนในพื้นที่ โดยเฉพาะหนึ่งตำบลของจังหวัดน่าน ที่เสียงลือเสียงเล่าอ้างทางด้านประวัติศาสตร์กล่าวว่าอาจเป็นศูนย์กลางของเมืองเก่า “ตำบลดู่ใต้” อยู่ในพื้นที่ของอำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน เมืองเก่าแห่งนี้เป็นแหล่งรวบรวมโบราณสถานที่สำคัญ เสมือนเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของชาวพุทธ ให้มาหยุดอยู่ที่ตำบลดู่ใต้ วัดวาอารามที่อยู่เขตพื้นที่นี้ อาทิ วัดพญาวัด ซึ่งมีหลักฐานบ่งบอกว่าพื้นที่ของวัดแห่งนี้เคยเป็นเขตศูนย์กลางของเมืองน่านมาก่อน ครั้งสมัยที่ย้ายเมืองมาจากพระบรมธาตุแช่แห้งมาตั้งอยู่ที่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำน่าน ตัวเจดีย์สร้างด้วยศิลาแลงสมัยพระนางจามเทวี มีลักษณะคล้ายเจดีย์กู่กุด ในจังหวัดลำพูน ลักษณะเป็นทรงซุ้มสี่เหลี่ยมซ้อนกัน 5 ชั้น โดยแต่ละชั้นเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนซึ่งได้รับอิทธิพลจากศิลปะสุโขทัย ตัวยอดซุ้มมีการก่ออิฐเป็นแนวโค้งในลักษณะของรูปแบบการก่อสร้างสมัยพระเจ้าติโลกราชแห่งนครเชียงใหม่ จากตรงนี้บ่งบอกว่ามีการบูรณะเกิดขึ้นในสมัยนั้น เนื่องจากเป็นสมัยที่อิทธิพลของศิลปะการก่อสร้างของเชียงใหม่เข้ามาแทนที่ศิลปะของสุโขทัยแล้ว ด้านในพระอุโบสถยังเป็นที่ประดิษฐานของ “พระเจ้าฝนเสน่หา” พระที่ชาวน่านให้ความศรัทธาในการนำมาแห่ขอฝน นอกจากนี้ภายในยังเต็มไปด้วยงานฝีมือการแกะสลักธรรมาสน์จากช่างฝีมือพื้นเมืองของน่านที่ได้ชื่อว่าเป็นธรรมาสน์ที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองน่านอีกด้วย
โบราณสถานต่อมาของตำบลดู่ใต้ ที่บอกเล่าวิถีชีวิตความเป็นมาของชุมชนในอดีตได้อย่างดี เหมาะแก่ผู้ที่ต้องการไปท่องเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิตของชุมชน ได้แก่ วัดกู่เสี้ยว หรือสำนักปฏิบัติธรรมกู่เสี้ยว ซึ่งปัจจุบันถือเป็นแหล่งศึกษาวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ภายใต้การดูแลของระครูธรรมธร จิรพงศ์ ภายในนั้นมีศาสนสถานอันสำคัญ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญทางด้านโบราณคดี นั่นคือ พระธาตุเจ้าชัยชนะ และยังได้มมีกิจกรรมวิถีชุมชนมากมายที่ได้รวบรวมเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา ทั้งการปั่นผ้าฝ้ายแบบโบราณ อันเป็นตำนานด้านวิถีชีวิตที่งดงามของคนเมืองน่าน การเล่นดนตรีไทย ที่แสดงถึงวัฒนธรรมอันอ่อนช้อยของชาวบ้าน และมีการผลิตงานฝีมือที่เกิดขึ้นจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ด้วยเหตุนี้เองทำให้สำนักปฏิบัติธรรมกู่เสี้ยวแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่ยั่งยืน
[CR] “ดู่ใต้” คือสัมผัสอันอบอุ่นของธรรมชาติ และคำบอกเล่าในหน้าประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล
ความงดงามของพื้นที่พิเศษเมืองเก่าน่าน ช่วยบอกเล่าเรื่องราวในตำนาน กระทั่งวิถีชีวิตจากอดีตจนปัจจุบันได้อย่างดี นานเท่าไหร่แล้วที่เราไม่ได้เดินทางไปสัมผัสอากาศแสนบริสุทธิ์ กับวิถีชีวิตของชุมชนในพื้นที่ โดยเฉพาะหนึ่งตำบลของจังหวัดน่าน ที่เสียงลือเสียงเล่าอ้างทางด้านประวัติศาสตร์กล่าวว่าอาจเป็นศูนย์กลางของเมืองเก่า “ตำบลดู่ใต้” อยู่ในพื้นที่ของอำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน เมืองเก่าแห่งนี้เป็นแหล่งรวบรวมโบราณสถานที่สำคัญ เสมือนเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของชาวพุทธ ให้มาหยุดอยู่ที่ตำบลดู่ใต้ วัดวาอารามที่อยู่เขตพื้นที่นี้ อาทิ วัดพญาวัด ซึ่งมีหลักฐานบ่งบอกว่าพื้นที่ของวัดแห่งนี้เคยเป็นเขตศูนย์กลางของเมืองน่านมาก่อน ครั้งสมัยที่ย้ายเมืองมาจากพระบรมธาตุแช่แห้งมาตั้งอยู่ที่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำน่าน ตัวเจดีย์สร้างด้วยศิลาแลงสมัยพระนางจามเทวี มีลักษณะคล้ายเจดีย์กู่กุด ในจังหวัดลำพูน ลักษณะเป็นทรงซุ้มสี่เหลี่ยมซ้อนกัน 5 ชั้น โดยแต่ละชั้นเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนซึ่งได้รับอิทธิพลจากศิลปะสุโขทัย ตัวยอดซุ้มมีการก่ออิฐเป็นแนวโค้งในลักษณะของรูปแบบการก่อสร้างสมัยพระเจ้าติโลกราชแห่งนครเชียงใหม่ จากตรงนี้บ่งบอกว่ามีการบูรณะเกิดขึ้นในสมัยนั้น เนื่องจากเป็นสมัยที่อิทธิพลของศิลปะการก่อสร้างของเชียงใหม่เข้ามาแทนที่ศิลปะของสุโขทัยแล้ว ด้านในพระอุโบสถยังเป็นที่ประดิษฐานของ “พระเจ้าฝนเสน่หา” พระที่ชาวน่านให้ความศรัทธาในการนำมาแห่ขอฝน นอกจากนี้ภายในยังเต็มไปด้วยงานฝีมือการแกะสลักธรรมาสน์จากช่างฝีมือพื้นเมืองของน่านที่ได้ชื่อว่าเป็นธรรมาสน์ที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองน่านอีกด้วย
โบราณสถานต่อมาของตำบลดู่ใต้ ที่บอกเล่าวิถีชีวิตความเป็นมาของชุมชนในอดีตได้อย่างดี เหมาะแก่ผู้ที่ต้องการไปท่องเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิตของชุมชน ได้แก่ วัดกู่เสี้ยว หรือสำนักปฏิบัติธรรมกู่เสี้ยว ซึ่งปัจจุบันถือเป็นแหล่งศึกษาวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ภายใต้การดูแลของระครูธรรมธร จิรพงศ์ ภายในนั้นมีศาสนสถานอันสำคัญ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญทางด้านโบราณคดี นั่นคือ พระธาตุเจ้าชัยชนะ และยังได้มมีกิจกรรมวิถีชุมชนมากมายที่ได้รวบรวมเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา ทั้งการปั่นผ้าฝ้ายแบบโบราณ อันเป็นตำนานด้านวิถีชีวิตที่งดงามของคนเมืองน่าน การเล่นดนตรีไทย ที่แสดงถึงวัฒนธรรมอันอ่อนช้อยของชาวบ้าน และมีการผลิตงานฝีมือที่เกิดขึ้นจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ด้วยเหตุนี้เองทำให้สำนักปฏิบัติธรรมกู่เสี้ยวแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่ยั่งยืน