หลายคนอาจจะรู้จักกับ คริสติโน่ โรนัลโด้ หรือ cr7 สุดยอดผู้เล่นในยุคนี้ยืนคู่กับ ลิโอเนล เมสซี่ ซุปเปอร์สตาร์ชาวอาเจนไตน์ เวลาเรานึกถึงโด้เรามักนึกถึงลีลาอันแพรวพราว การสับขาหลอก เทคนิคชั้นเชิงและสวยงามแต่แฝงไปด้วยพิษสง โรนัลโด้นั้นเริ่มฉายแววเมื่อตอนสมัยอยู่ สปอตติ้ง ลิสบ้อน ด้วยด้วยการลงสนาม 25 นัด กดไป 3 ประตู
ด้วยในตอนนั้นโด้ถือว่าเป็นดาวรุ่งที่ถูกจับตามอง ด้วยลีลาการเลี้ยงที่ทั้งกระชากใจและมีความสวยงามแฝงอยู่ ทำให้ตอนนั้นแมนยูทุ่มซื้อโด้ในราคา 12.5 ล้านปอนด์(ถือว่าเยอะมากๆในสมัยนั้น) ลิเวอร์พูลก็เกือบได้แต่สุดท้ายก็ไม่ซื้อเพราะคิดจะไม่ทุ่มไปกับดาวรุ่งที่พึ่งฉายฟอร์มเด่นแค่ฤดูกาลเดียว แน่นอนเมื่อโด้มาใส่เสื้อของทีมปีศาจแดงแมนยู ก็ฉายฟอร์มเด่นทันที
แต่ด้วยลีลาหลายๆอย่างของโด้ ทั้งการชอบเล่นตุกติก ชอบพุ่งล้มเป็นที่สุด ชอบแสดงละครตบตาผู้ตัดสิน ชอบเล่นบอลชายเดี่ยวเลี้ยงไปมายิงอย่างเดียวไม่ชอบจ่าย ชอบยึกยักเล่นลีลา ทำให้หลายๆครั้งเกมเสีย เกมสวนกลับหรือเกมบุกชอบมาหยุดอยู่ที่โด้เพราะนอกจากจะถูกตัดฟาวล์บ่อยๆจนเกมหยุดบ่อยๆแล้ว ยังชอบโชว์และเลี้ยงไปไม่จ่ายจนเสียบอลให้กับกองหลังและเสียเวลาในเกมไปเยอะ ทำให้แฟนบอลหลายๆคนก่นด่าโด้กันเยอะมากในตอนนั้น
แต่ด้วยฝีมือของป๋าเฟอร์กี้ บวกกับคำวิจารณ์ของสื่อทำให้โด้ค่อยๆเปลี่ยนทัศนคติ บวกกับนิสัยที่ชอบพัฒนาตัวเอง ทำให้โด้แตกต่างจากนักเตะคนอื่นๆที่เมื่อถึงฟอร์มที่ดี่ที่สุดแล้วมักจะหยุดอยู่แค่นั้นไม่ไปต่อหรือบางทีก็ดรอปลงไปเลยก็มีเยอะ แต่ไม่ใช่กับโด้เพราะโด้นั้นเรียนรู้ที่จะพัฒนาตัวเองตลอดเวลา เขาไม่เคยพอใจกับฟอร์มของตัวเองแต่เขากลับพัฒนามันไปเรื่อยๆ จนเขากลายเป็นสุดยอดผู้เล่นไปในที่สุดโดยในก่อนปีสุดท้ายกับแมนยู(2008-2009) โด้ก็สามารถคว้าแชมป์ยุโรปถ้วยแรกสำหรับตัวเองมาประดับให้กับบ้านตัวเองในที่สุด
แน่นอนด้วยฟอร์มที่ถูกจับตามอง ทำให้เขาถูกเรอัลมาดริดทุมซื้อไปในราคา 80 ล้านปอนด์ และทีมนี้คือทีมที่สร้างโด้ให้กลายเป็นสุดยอดดาวเตะยุคปัจจุบัน
จากไอ้นักเตะแห้งๆดาวรุ่งที่ถือฟอร์มดีและดีกว่าดาวรุ่งฟอร์มแรงคนอื่นๆนิดหน่อยๆคนนึง ที่อาจจะดับหรือฉายแสง ก็กลายเป็นสุดยอดนักเตะคนหนึ่งด้วยพรแสวงที่ถือว่ามีเยอะมากสำหรับตัวเขา แต่ก็แน่นอนเขาไม่เคยทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กับประเทศบ้านเขานั่นก็คือการคว้าแชมป์โลกนั่นเอง และในบอลโลกครั้งหน้าปีกที่ใช้ความเร็วอย่างเขาฟอร์มก็น่าจะดรอปลงไปเยอะเพราะตอนนั้นเขาคง 33 - 34 แล้วก็ยากที่จะกลับมาฉายฟอร์มเหมือนตอนยังดาวรุ่งได้อีกครั้ง แต่ด้วยแชมป์ที่เขาคว้ามามากมายบวกกับค่าสถิติต่างๆ ก็น่าจะพิสูจน์ฝีมือเขาได้ระดับหนึ่ง ผมคงเอาเค้าไปเปรียบเทียบกับ ราชาไร้มงกุฎอีกคนอย่าง หลุยส์ ฟิโก้ สุดยอดปีกตำนานแห่งโปรตุเกสที่ถึงแม้จะเก่งแค่ไหนก็ไม่สามารถพาทีมบ้านเกิดตัวเองคว้าแชมป์โลกได้เลย หรือ ดิ สเตฟาโน่ สุดยอดกองหน้าแห่งมาดริด แน่นอนฝีมือโด้อาจเป็นรอง(เพราะกองหลังในยุคนั้นเล่นหนักกว่าสมัยนี้มากๆ และสมัยนั้นมียอดกองหลังมากมายที่ผมให้เครดิตที่เก่งกว่าสมัยนี้เยอะ)แต่ด้วยสถิติกับราวัลต่างๆ และแชมป์ที่โด้คว้ามาได้ผมเชื่อโด้ไม่เป็นรอง 2 คนนี้แน่นอนครับ
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ราชาผู้ไร้มงกุฎ
ด้วยในตอนนั้นโด้ถือว่าเป็นดาวรุ่งที่ถูกจับตามอง ด้วยลีลาการเลี้ยงที่ทั้งกระชากใจและมีความสวยงามแฝงอยู่ ทำให้ตอนนั้นแมนยูทุ่มซื้อโด้ในราคา 12.5 ล้านปอนด์(ถือว่าเยอะมากๆในสมัยนั้น) ลิเวอร์พูลก็เกือบได้แต่สุดท้ายก็ไม่ซื้อเพราะคิดจะไม่ทุ่มไปกับดาวรุ่งที่พึ่งฉายฟอร์มเด่นแค่ฤดูกาลเดียว แน่นอนเมื่อโด้มาใส่เสื้อของทีมปีศาจแดงแมนยู ก็ฉายฟอร์มเด่นทันที
แต่ด้วยลีลาหลายๆอย่างของโด้ ทั้งการชอบเล่นตุกติก ชอบพุ่งล้มเป็นที่สุด ชอบแสดงละครตบตาผู้ตัดสิน ชอบเล่นบอลชายเดี่ยวเลี้ยงไปมายิงอย่างเดียวไม่ชอบจ่าย ชอบยึกยักเล่นลีลา ทำให้หลายๆครั้งเกมเสีย เกมสวนกลับหรือเกมบุกชอบมาหยุดอยู่ที่โด้เพราะนอกจากจะถูกตัดฟาวล์บ่อยๆจนเกมหยุดบ่อยๆแล้ว ยังชอบโชว์และเลี้ยงไปไม่จ่ายจนเสียบอลให้กับกองหลังและเสียเวลาในเกมไปเยอะ ทำให้แฟนบอลหลายๆคนก่นด่าโด้กันเยอะมากในตอนนั้น
แต่ด้วยฝีมือของป๋าเฟอร์กี้ บวกกับคำวิจารณ์ของสื่อทำให้โด้ค่อยๆเปลี่ยนทัศนคติ บวกกับนิสัยที่ชอบพัฒนาตัวเอง ทำให้โด้แตกต่างจากนักเตะคนอื่นๆที่เมื่อถึงฟอร์มที่ดี่ที่สุดแล้วมักจะหยุดอยู่แค่นั้นไม่ไปต่อหรือบางทีก็ดรอปลงไปเลยก็มีเยอะ แต่ไม่ใช่กับโด้เพราะโด้นั้นเรียนรู้ที่จะพัฒนาตัวเองตลอดเวลา เขาไม่เคยพอใจกับฟอร์มของตัวเองแต่เขากลับพัฒนามันไปเรื่อยๆ จนเขากลายเป็นสุดยอดผู้เล่นไปในที่สุดโดยในก่อนปีสุดท้ายกับแมนยู(2008-2009) โด้ก็สามารถคว้าแชมป์ยุโรปถ้วยแรกสำหรับตัวเองมาประดับให้กับบ้านตัวเองในที่สุด
แน่นอนด้วยฟอร์มที่ถูกจับตามอง ทำให้เขาถูกเรอัลมาดริดทุมซื้อไปในราคา 80 ล้านปอนด์ และทีมนี้คือทีมที่สร้างโด้ให้กลายเป็นสุดยอดดาวเตะยุคปัจจุบัน
จากไอ้นักเตะแห้งๆดาวรุ่งที่ถือฟอร์มดีและดีกว่าดาวรุ่งฟอร์มแรงคนอื่นๆนิดหน่อยๆคนนึง ที่อาจจะดับหรือฉายแสง ก็กลายเป็นสุดยอดนักเตะคนหนึ่งด้วยพรแสวงที่ถือว่ามีเยอะมากสำหรับตัวเขา แต่ก็แน่นอนเขาไม่เคยทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กับประเทศบ้านเขานั่นก็คือการคว้าแชมป์โลกนั่นเอง และในบอลโลกครั้งหน้าปีกที่ใช้ความเร็วอย่างเขาฟอร์มก็น่าจะดรอปลงไปเยอะเพราะตอนนั้นเขาคง 33 - 34 แล้วก็ยากที่จะกลับมาฉายฟอร์มเหมือนตอนยังดาวรุ่งได้อีกครั้ง แต่ด้วยแชมป์ที่เขาคว้ามามากมายบวกกับค่าสถิติต่างๆ ก็น่าจะพิสูจน์ฝีมือเขาได้ระดับหนึ่ง ผมคงเอาเค้าไปเปรียบเทียบกับ ราชาไร้มงกุฎอีกคนอย่าง หลุยส์ ฟิโก้ สุดยอดปีกตำนานแห่งโปรตุเกสที่ถึงแม้จะเก่งแค่ไหนก็ไม่สามารถพาทีมบ้านเกิดตัวเองคว้าแชมป์โลกได้เลย หรือ ดิ สเตฟาโน่ สุดยอดกองหน้าแห่งมาดริด แน่นอนฝีมือโด้อาจเป็นรอง(เพราะกองหลังในยุคนั้นเล่นหนักกว่าสมัยนี้มากๆ และสมัยนั้นมียอดกองหลังมากมายที่ผมให้เครดิตที่เก่งกว่าสมัยนี้เยอะ)แต่ด้วยสถิติกับราวัลต่างๆ และแชมป์ที่โด้คว้ามาได้ผมเชื่อโด้ไม่เป็นรอง 2 คนนี้แน่นอนครับ