ช่วงนี้มีเวลาเขียนรีวิว ก็เลยจัดซะหน่อยครับกับรีวิวครั้งที่สองของผม
ซึ่งเป็นทริปที่ผมเรียกกันว่า "ปุบปับทัวร์" จะปุบปับยังไง ที่ๆผมไปสวยแค่ไหน ตามมาชมกันเลยครับ
เริ่มแรกที่มาของทริปครับ...เกริ่นซะยาวหน่อยนะครับอย่าเพิ่งรำคาญผมนะๆๆๆๆ 555+
เรื่องมีอยู่ว่า ตอน 20.00 น. นิดๆ ผมออกไปทานข้าวริมแม่น้ำแถวพระราม 7 กับน้องคนนึงชื่อเจมส์(ซึ่งต่อมาเป็นช่างกล้องประจำทริปครับ) นั่งคุยไปคุยมา ผมก็ได้ชวนวกเข้ามาคุยเรื่องเที่ยว...ตามบทสนทนานี้ครับ.. (ดูจริงจัง) 55+
ผม : เห้ยเจมส์ พี่ว่าเราไม่ได้ไปเที่ยวกันนานแล้วนะ อยากไปเที่ยวๆๆ (แต่ที่จริงผมไปกันบ่อยมาก แบบปุบปับเนี่ยแหละครับ สนุกดี)
เจมส์ : ห๊ะ!!! พี่ นานอ่อ (คงนึกในใจกูก็ไปมากะบ่อยนะ 55) ไปไหนอ่า ผมก็ว่างๆอยู่ เบื่อๆๆเซ็งๆอยู่หอ
ผม : อันนี้เด็ด!! น้ำตกทอลูซี เอ้ย!! ทูลีซอ เอ๊ย!! ทีลอซู เอ๊ย!! ถูกแล้ว 55+ น่าไปมากๆๆ ดูเทยเที่ยวไทยมา โคตรสวยๆๆ
เจมส์ : น่าสนอยู่พี่ เดินทางลำบากอ่าดิ (คงคิดในใจว่าพี่ ไปไกลไปมั้ย)
ผม : งั้นไปน้ำตกม่ะ รถไฟสายมรณะ วันเดียว สวยๆๆ
เจมส์ : เออพี่ อันนี้น่าสน เอาดิ ไปก็ไป เมื่อไหร่ว่ามา.... (เจมส์คงคิดว่าอีกสัก 2 อาทิตย์มั้ง 55+)
ผม : พรุ่งนี้ป่าวหล่ะ ว่างๆๆ ไปเลย พี่พร้อมแล้ว 55+
เจมส์ : ห๊ะ!!! พี่เอาจริงอ่อ แต่ผมก็ว่างนะ โอเคๆๆๆ ลุย (ใจน้องผมมันได้)
ว่าแล้วหลังจากผมตกลงกันแค่ 2 คน ก็โทรไปชวนน้องอีกคนนึงซึ่งเป็นสมาชิกแก๊งค์ปุบปับทัวร์อยู่แล้ว...
ผม : เห้ย!! ทิด พรุ่งนี้ว่างป่าววว
ทิด : ไปไหนอ่าพี่ ว่างอยู่ โยนโบว์อ่อ (ปกติผมชอบไปโยนโบว์กัน โยนกันที่ตั้งแต่ 4 โมงกว่าๆจนห้างปิด 55+)
ผม : ป่าวไปเที่ยวกัน ไปดิๆๆไปๆๆๆนะ
ทิด : ไปไหนอ่าพี่??? ด้วยความสงสัย แต่ผมคิดว่ายังไงมันก็ต้องไป 55+
ผม : กาญจนบุรี วันเดียว น้ำตก ไปรถไฟ 55+ สนมั้ย
ทิด : เอาจริงอ่อพี่ ผมค้างไม่ได้นะ ไม่ได้บอกน้าก่อน
ผม : เออหน่า เดี๋ยวขอให้ 55 บอกไปค่ายอาสา ไปทำโครงการอะไรก็ได้ ไม่ค้างหรอก
หลังจากนั้นเมื่อทิดคุยกับน้าเสร็จ สรุปตกลงกันว่า ไปก็ไปๆๆๆๆๆๆๆ
และแล้วทริปนี้ก็เกิดขึ้นด้วยความใจร้อนและเป็นไปตามสโลแกนจริงๆ "ปุบปับทัวร์" ด้วยสมาชิกสามคน ผม เจมส์ แล้วก็ทิด
หลังจากกินข้าวเสร็จก็จัดการหาวิธีไปทันที สรุปว่า มีรถไฟฟรี(ย้ำว่าฟรี) ไปถึงน้ำตกเลย รอบ 7.50 น. เช้ามากๆ แต่พวกผมก็ไม่หวั่น..ลุยครับ พูดเลย
(ย้ำว่า ขากลับ พวกผมไม่ได้หาวิธีกลับเลย กะว่าไปผจญภัยได้สนุกๆๆๆ ไม่มีรถก็โบกเข้าเมืองเอา ชิวๆๆ)
ตามมาๆๆเลยครับ เช้าวันใหม่เริ่มขึ้น สามทหารเสือพร้อมด้วยสภาพง่วงกันทุกๆคน........
เช้าวันใหม่ เช้ามากๆๆ ปกติไม่ค่อยเจอแสงอาทิตย์ตอนเช้าเท่าไรครับ 555+ ถ่างตาไปครับ พูดเลยยย...
เย้ๆๆ ในที่สุดพี่แท็กซี่ก็พาเรามาถึงสถานีรถไฟต้นสาย "สถานีรถไฟธนบุรี" รอจนถึงเวลา 07.50 น. รถไฟก็มาเทียบชานชาลาครับ
รถไฟที่เราโดยสาร เป้นรถไฟฟรี ชั้น 3 ครับ แต่สะอาดใช้ได้ไม่สกปรกครับ
และแล้วการเดินทางก็ได้เริ่มขึ้นครับ บนรถไฟคนไม่เยอะมากครับ เพราะเป็นวันธรรมดา ส่วนมากจะเป็นคนทำงานทั้งนั้น
บรรยากาศข้างทางแบบฟินๆครับ จำไม่ได้ว่าสถานีไหนมาก่อนมาหลังเอาเป็นว่าไปดูกันเลยครับ
ส่วนตัวผมกินเยอะมาครับ ใครขายอะไรผมก็ซื้อ สนุกดีครับ ของกินบนรถไฟเพียบ
ขอแทรกเรื่องเล่าซึ้งๆ ที่พวกผมไม่เคยคิดว่าจะเจอเลยบนรถไฟนะครับ
ตอนนั้นรู้สึกว่าพวกผมจะขึ้นรถไฟมาได้สักพักๆๆแล้ว นะครับ เป็นปกติที่รถไฟฟรีจะจอดเกือบทุกสถานีครับ และแล้วเรื่องก็เกิดขึ้น เมื่อมีคุณยายแก่ๆท่านหนึ่งเดินขึ้นมาบนรถไฟ พร้อมด้วยตระกร้า 1 ใบ กับถุงใส่ของหลายๆสีอีก 1 ใบเช่นเดียวกัน คุณยายท่านนั้นก็เดินมานั่งตรงข้างกับน้องผม ซึ่งก้คือเจมส์ (กำลังถ่ายรูปอยู่) แล้วเจมส์ก็ชวนคุณยายคุย ผมกับทิดเข้าไปสมทบคุยทีหลัง จนได้ใจความว่า...............
คุณยายท่านนี้อายุ 88 ปีแล้ว ท่านต้องขึ้นรถไฟฟรีที่สถานีในกรุงเทพสักแห่งเพื่อมาลงสถานีนครปฐมทุกวัน เพื่อมารับจ้างขายของกินเปอร์เซ็นต์ หลังจากขายเสร็จคุณยายก็จะหาเก็บของเก่าขาย ใส่ถุงที่คุณยายได้เตรียมไว้ เพื่อเอามาขายประทังชีวิต หลังจากนั้นคุณยายก็นั่งรถไฟฟรีกลับบ้านแก พวกผมถามคุณยายว่า คุณยายเหนื่อยมั้ย ทำมานานยัง คุณยายไม่ตอบว่าเหนื่อยหรือไม่เหนื่อย (แต่พวกผมก็พอเดาออกว่าคงเหนื่อยน่าดู เพราะท่านแก่แล้ว แล้วก็เดินหลังค่อม ขึ้นๆลงทุกวัน TT แต่คุณยายพูดแค่เพียงว่า จะทำยังไงได้ ก็ในเมื่อมันจำเป็นต้องทำ (พอคุณยายพูดคำนี้พวกผม อึ้ง!! พร้อมคิดในใจว่า คุณยายคนนี้สุดยอดจริงๆ ถึงร่างกายคุณยายจะไม่ค่อยแข็งแรง แต่ใจยายสุดยอดมากๆ) คุณยายยังสอนพวกผมอีกว่า เรามีหน้าที่ศึกษาเล่าเรียน ก็ตั้งใจซะ เดี่ยวจะลำบากเหมือนยาย ยายไม่มีพี่ ไม่มีน้อง ไม่มีครอบครัว อยู่คนเดียว ก้ต้องลำบากอย่างนี้แหละ ขยันๆเข้า ก่อนออกไปเรียนก็ไหว้พ่อแม่ซะ พ่อแม่คือพระที่ประเสริฐที่สุดรู้ไหม ให้ทั้งชีวิต ให้ทุกๆอย่างเลย (น้ำตาผมคลอแล้วๆๆ) แล้วคุณยายก็สอนอะไรอีกหลายๆอย่าง จนกระทั่งถึงสถานีต้นสน นครปฐม ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ คุณยายก็ขอตัวลงไป พวกผมมองตามคุณยายไปๆ คุณยายเอาตะกร้ากับของวางไว้ที่เก้าอี้ที่ชานชาลา แล้วเดินไปที่ถังขยะ หาเก็บขวดเปล่าๆขึ้นมา ณ เวลานั้นผมรู้สึกสงสารคุณยายจับใจ เพราะถ้าเป็นครอบครัวผม พ่อแม่ผม ผมจะไม่ให้ท่านลำบากอย่างคุณยายคนนี้เลย พวกผลก้เลยตัดสินใจวิ่งเอาเงินไปให้ยายจำนวนหนึ่งซึ่งไม่มากครับ ทีแรกคุรยายก้จะไม่รับ แต่พวกผมก้ยืนยันว่าจะให้ แล้วบอกคุณยายว่าเก็บไว้หาของกินอร่อยๆนะคุณยาย แล้วพวกผมก้วิ่งขึ้นรถ พร้อมกับคำอวยพรที่ตามมาว่า เจริญๆนะไอ้หนู!!!! ผมรู้สึกดีมากจริงๆๆๆ และคิดว่า ถ้าเราเลือกไปโดยรถตู้หรือรถบัส เราคงไม่ได้เจอคุณยายใจเข้มแข็งคนนี้เป็นแน่ๆ ว่างๆพวกผมจะไปหาอีกนะครับ...............
ซึ่งไปแล้วๆๆๆ เดินทางกันต่อครับ ตลอดทางลมดชยมาแรงดีครับ ถึงแม้อากาศข้างนอกจะร้อน ข้างในก็ร้อนไม่แพ้กันครับ 55+ ดีที่มีพัดลมของรถไฟ ซึ่งไม่ค่อยหมุน และเป็นลมร้อน ช่วยบรรเทาความร้อนอีกแรงครับ 555+
ผ่านบ้านผมแล้ว 55+ บ้านโป่ง ราชบุรี ครับผม ^___^
เย้ๆในที่สุดก็ถึงกาญจนบุรีแล้วครับอีก 2 ชั่วโมงได้เราจะถึงน้ำตกแล้วๆๆๆๆๆ
สวยมั้ยล่ะครับ อะเมซอนเมืองไทย..
อันนี้แล้วครับๆๆ ไฮไลท์อีกอย่าง เราจะผ่านถ้ำกระแซ กับ ทางรถไฟสายมรณะ ที่สร้างด้วยไม้ทั้งหมด ไปดูกันครับว่าเสียวไหมๆๆ
เป็นไงครับ ทั้งสูง มั้งทำด้วยไม้ รถไฟต้องไปแบบช้าๆครับ ใจหวั่นๆเลยพวกผม
ผ่านไปสักพักเราก้ถึงที่หมาย สถานีน้ำตกไทรโยคน้อยโดยสวัสดิภาพ.....

เหมารถแดงวิ่งมาส่งที่น้ำตกคนละ 10 บาทครับ ถูกมากๆๆ แนะนำอย่าเดินเลยครับ ไกลสุดๆๆ ถึงแล้ว น้ำตกๆๆๆของพวกผม 55+
น้ำ+คนไม่ค่อยเยอะครับ แต่เราก็จะลงเล่นครับ มาทั้งที 55+
คนละ 1 act 55+ จัดไปครับ
จริงๆแล้วเป้าหมายทริปผมก้มีแค่นี้แหละครับ อยากนั่งรถไฟ อยากเล่นน้ำตก เพราะมันร้อนๆๆ 55+ เล่นเสร็จเราก็กลับกันครับ แต่ไม่รู้กลับยังไง ถามพี่ๆร้านค้าเค้าบอกว่ามีรถเมล์ไปถึงตัวเมือง หมดรอบ 16.00 น. พวกผมก้รอๆๆ 16.30 น. ก้ยังไม่มา โบกก้ไม่มีใครจอด TT จนความหวังสุดท้ายเห็นรถเมลมาไกลลิบๆๆ เย้ๆๆ ขึ้นรถได้ หลับเป็นตายเลยครับ ตื่นมาอีกทีตัวเมืองแบ้ว ลงตรงไหน ขึ้นรถตรงไหนก้ไม่รู้ เดาเอาครับ 555+ เห็นมีรถบัสลงไว้ก่อน ในที่สุดก็ได้นั่งรถกลับ กทม. แล้ว เย้ๆๆ เป็นอันสิ้นสุดกับทริปนี้ครับ สนุก ตื่นเต้น ประหยัดมากๆ (ถ้าไม่รวมค่ากิน 500 ก็อยู่ครับ) แล้วก็ได้ไปกันเองแบบผจญภัย พี่ๆคนไหนชอบแนวๆธรรมชาตื ผจญภัน ตื่นเต้นนิดๆ ผมแนะนำครับ...
ก่อนปิดกระทู้ฝากไว้รูปนึงครับ..... 55+ ผมเห็นแล้วฮาดีๆๆ

พี่ๆคนไหนเดาได้ช่วยบอกทีนะครับ ขอบคุณครับผม ^_____^
K-JAMMIEZ-SATHIT
(ปุบปับทัวร์กำลังสอง-สามทหารเสือ)
[CR] 3 หนุ่มผจญภัย กับทริปรถไฟ(ฟรี) ที่ไม่ได้วางแผนล่วงหน้าอะไรเลย ไทรโยค-กาญจนบุรี
เริ่มแรกที่มาของทริปครับ...เกริ่นซะยาวหน่อยนะครับอย่าเพิ่งรำคาญผมนะๆๆๆๆ 555+
เรื่องมีอยู่ว่า ตอน 20.00 น. นิดๆ ผมออกไปทานข้าวริมแม่น้ำแถวพระราม 7 กับน้องคนนึงชื่อเจมส์(ซึ่งต่อมาเป็นช่างกล้องประจำทริปครับ) นั่งคุยไปคุยมา ผมก็ได้ชวนวกเข้ามาคุยเรื่องเที่ยว...ตามบทสนทนานี้ครับ.. (ดูจริงจัง) 55+
ผม : เห้ยเจมส์ พี่ว่าเราไม่ได้ไปเที่ยวกันนานแล้วนะ อยากไปเที่ยวๆๆ (แต่ที่จริงผมไปกันบ่อยมาก แบบปุบปับเนี่ยแหละครับ สนุกดี)
เจมส์ : ห๊ะ!!! พี่ นานอ่อ (คงนึกในใจกูก็ไปมากะบ่อยนะ 55) ไปไหนอ่า ผมก็ว่างๆอยู่ เบื่อๆๆเซ็งๆอยู่หอ
ผม : อันนี้เด็ด!! น้ำตกทอลูซี เอ้ย!! ทูลีซอ เอ๊ย!! ทีลอซู เอ๊ย!! ถูกแล้ว 55+ น่าไปมากๆๆ ดูเทยเที่ยวไทยมา โคตรสวยๆๆ
เจมส์ : น่าสนอยู่พี่ เดินทางลำบากอ่าดิ (คงคิดในใจว่าพี่ ไปไกลไปมั้ย)
ผม : งั้นไปน้ำตกม่ะ รถไฟสายมรณะ วันเดียว สวยๆๆ
เจมส์ : เออพี่ อันนี้น่าสน เอาดิ ไปก็ไป เมื่อไหร่ว่ามา.... (เจมส์คงคิดว่าอีกสัก 2 อาทิตย์มั้ง 55+)
ผม : พรุ่งนี้ป่าวหล่ะ ว่างๆๆ ไปเลย พี่พร้อมแล้ว 55+
เจมส์ : ห๊ะ!!! พี่เอาจริงอ่อ แต่ผมก็ว่างนะ โอเคๆๆๆ ลุย (ใจน้องผมมันได้)
ว่าแล้วหลังจากผมตกลงกันแค่ 2 คน ก็โทรไปชวนน้องอีกคนนึงซึ่งเป็นสมาชิกแก๊งค์ปุบปับทัวร์อยู่แล้ว...
ผม : เห้ย!! ทิด พรุ่งนี้ว่างป่าววว
ทิด : ไปไหนอ่าพี่ ว่างอยู่ โยนโบว์อ่อ (ปกติผมชอบไปโยนโบว์กัน โยนกันที่ตั้งแต่ 4 โมงกว่าๆจนห้างปิด 55+)
ผม : ป่าวไปเที่ยวกัน ไปดิๆๆไปๆๆๆนะ
ทิด : ไปไหนอ่าพี่??? ด้วยความสงสัย แต่ผมคิดว่ายังไงมันก็ต้องไป 55+
ผม : กาญจนบุรี วันเดียว น้ำตก ไปรถไฟ 55+ สนมั้ย
ทิด : เอาจริงอ่อพี่ ผมค้างไม่ได้นะ ไม่ได้บอกน้าก่อน
ผม : เออหน่า เดี๋ยวขอให้ 55 บอกไปค่ายอาสา ไปทำโครงการอะไรก็ได้ ไม่ค้างหรอก
หลังจากนั้นเมื่อทิดคุยกับน้าเสร็จ สรุปตกลงกันว่า ไปก็ไปๆๆๆๆๆๆๆ
และแล้วทริปนี้ก็เกิดขึ้นด้วยความใจร้อนและเป็นไปตามสโลแกนจริงๆ "ปุบปับทัวร์" ด้วยสมาชิกสามคน ผม เจมส์ แล้วก็ทิด
หลังจากกินข้าวเสร็จก็จัดการหาวิธีไปทันที สรุปว่า มีรถไฟฟรี(ย้ำว่าฟรี) ไปถึงน้ำตกเลย รอบ 7.50 น. เช้ามากๆ แต่พวกผมก็ไม่หวั่น..ลุยครับ พูดเลย
(ย้ำว่า ขากลับ พวกผมไม่ได้หาวิธีกลับเลย กะว่าไปผจญภัยได้สนุกๆๆๆ ไม่มีรถก็โบกเข้าเมืองเอา ชิวๆๆ)
ตามมาๆๆเลยครับ เช้าวันใหม่เริ่มขึ้น สามทหารเสือพร้อมด้วยสภาพง่วงกันทุกๆคน........
ตอนนั้นรู้สึกว่าพวกผมจะขึ้นรถไฟมาได้สักพักๆๆแล้ว นะครับ เป็นปกติที่รถไฟฟรีจะจอดเกือบทุกสถานีครับ และแล้วเรื่องก็เกิดขึ้น เมื่อมีคุณยายแก่ๆท่านหนึ่งเดินขึ้นมาบนรถไฟ พร้อมด้วยตระกร้า 1 ใบ กับถุงใส่ของหลายๆสีอีก 1 ใบเช่นเดียวกัน คุณยายท่านนั้นก็เดินมานั่งตรงข้างกับน้องผม ซึ่งก้คือเจมส์ (กำลังถ่ายรูปอยู่) แล้วเจมส์ก็ชวนคุณยายคุย ผมกับทิดเข้าไปสมทบคุยทีหลัง จนได้ใจความว่า...............
ซึ่งไปแล้วๆๆๆ เดินทางกันต่อครับ ตลอดทางลมดชยมาแรงดีครับ ถึงแม้อากาศข้างนอกจะร้อน ข้างในก็ร้อนไม่แพ้กันครับ 55+ ดีที่มีพัดลมของรถไฟ ซึ่งไม่ค่อยหมุน และเป็นลมร้อน ช่วยบรรเทาความร้อนอีกแรงครับ 555+
ผ่านไปสักพักเราก้ถึงที่หมาย สถานีน้ำตกไทรโยคน้อยโดยสวัสดิภาพ.....
เหมารถแดงวิ่งมาส่งที่น้ำตกคนละ 10 บาทครับ ถูกมากๆๆ แนะนำอย่าเดินเลยครับ ไกลสุดๆๆ ถึงแล้ว น้ำตกๆๆๆของพวกผม 55+
จริงๆแล้วเป้าหมายทริปผมก้มีแค่นี้แหละครับ อยากนั่งรถไฟ อยากเล่นน้ำตก เพราะมันร้อนๆๆ 55+ เล่นเสร็จเราก็กลับกันครับ แต่ไม่รู้กลับยังไง ถามพี่ๆร้านค้าเค้าบอกว่ามีรถเมล์ไปถึงตัวเมือง หมดรอบ 16.00 น. พวกผมก้รอๆๆ 16.30 น. ก้ยังไม่มา โบกก้ไม่มีใครจอด TT จนความหวังสุดท้ายเห็นรถเมลมาไกลลิบๆๆ เย้ๆๆ ขึ้นรถได้ หลับเป็นตายเลยครับ ตื่นมาอีกทีตัวเมืองแบ้ว ลงตรงไหน ขึ้นรถตรงไหนก้ไม่รู้ เดาเอาครับ 555+ เห็นมีรถบัสลงไว้ก่อน ในที่สุดก็ได้นั่งรถกลับ กทม. แล้ว เย้ๆๆ เป็นอันสิ้นสุดกับทริปนี้ครับ สนุก ตื่นเต้น ประหยัดมากๆ (ถ้าไม่รวมค่ากิน 500 ก็อยู่ครับ) แล้วก็ได้ไปกันเองแบบผจญภัย พี่ๆคนไหนชอบแนวๆธรรมชาตื ผจญภัน ตื่นเต้นนิดๆ ผมแนะนำครับ...
ก่อนปิดกระทู้ฝากไว้รูปนึงครับ..... 55+ ผมเห็นแล้วฮาดีๆๆ
พี่ๆคนไหนเดาได้ช่วยบอกทีนะครับ ขอบคุณครับผม ^_____^
K-JAMMIEZ-SATHIT
(ปุบปับทัวร์กำลังสอง-สามทหารเสือ)