เรื่องมีไม่เยอะค่ะ แต่ประทับใจกับความมีน้ำใจของคุณทหาร
แค่อยากประกาศก้องให้โลกรับรู้ว่า คนไทยยังมีน้ำใจให้แก่กันอยู่
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้นัดเพื่อนเจอกันที่อนุเสาวรีย์ชัยสรภูมิเพื่อที่จะไปวัดพระแก้วกัน
แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อนก็ได้เกิดขึ้นนั่นคือ แบตโทรศัทพ์หมดคราวนี้ทำไงดี จะเจอเพื่อนไหมล่ะคราวนี้ คิดไม่ออก
แล้วเมื่อวานมีงานตักบาตรพระ800 กว่ารูปตรงวงเวียนอนุเสาวรีย์ฯ คราวนี้หนักเลย เดินหาเพื่อนแล้วหาอีก ไปยืนรอตรงทางลงบันไดแล้ว
รอไปรอมาไม่ไหวแหล่ะ เดินหาร้านเน็ตก็ไม่มีเลย ก็เลยตัดสินใจเดินไปหานายท่ารถ เพื่อขอเปลี่ยนซิมโทรศัพท์กับนายท่า
เพื่อเอาเบอร์โทร.ออกมา แต่นายท่าคงจะ งง งง ว่าการเปลี่ยนซิมมันคงลำบากมากหรือแกคงทำไม่เป็น (อันนี้คิดเองนะ)
แกก็เลยอิดออด ไอ้เราก็หน้าเสีย เหงื่อแตกแหล่ะ บังเอิญมีคุณทหารเดินมาเสียบชาร์ทแบตกล้องถ่ายรูปตรงป้อมนายท่าพอดี
แล้วคงเห็นแล้วยืนขอร้องนายท่าอยู่ คุณทหารก็เลยแกะฝาโทรศัพท์ของตัวเองแล้วเอาซิมของเราไปใส่เพื่อดูเบอร์โทรศัพท์
แต่ความซวยยังไม่สิ้นสุดพอใส่แล้ว แต่นแต้นแต๊นนนนน ไม่มีเบอร์ใครเลยเพราะว่าไม่ได้บันทึกเบอร์ลงซิมแต่บันทึกลงเครื่องหมด
เฮ้อ สุดท้ายก็ยกมือไหว้ขอบคุณคุณทหารไปตามระเบียบ แล้วตัวเราก็ยืนรอเพื่อนอีกซักพักแล้วกระโดดขึ้นรถ 59 ไปสนามหลวง
แล้วหาร้านเน็ตอีก 1 ชั่วโมง เพื่อติดต่อกลุ่มเพื่อน สุดท้ายก็ได้เจอกันและไปไหว้พระกันเรียบร้อย อิ่มบุญ อิ่มความสุขและอิ่มน้ำใจ
<<จากเด็กหญิงตัวดำเสื้อส้ม>>

น้ำใจคุณทหารตากล้องที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (29 มิ.ย. 57)
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้นัดเพื่อนเจอกันที่อนุเสาวรีย์ชัยสรภูมิเพื่อที่จะไปวัดพระแก้วกัน
แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อนก็ได้เกิดขึ้นนั่นคือ แบตโทรศัทพ์หมดคราวนี้ทำไงดี จะเจอเพื่อนไหมล่ะคราวนี้ คิดไม่ออก
แล้วเมื่อวานมีงานตักบาตรพระ800 กว่ารูปตรงวงเวียนอนุเสาวรีย์ฯ คราวนี้หนักเลย เดินหาเพื่อนแล้วหาอีก ไปยืนรอตรงทางลงบันไดแล้ว
รอไปรอมาไม่ไหวแหล่ะ เดินหาร้านเน็ตก็ไม่มีเลย ก็เลยตัดสินใจเดินไปหานายท่ารถ เพื่อขอเปลี่ยนซิมโทรศัพท์กับนายท่า
เพื่อเอาเบอร์โทร.ออกมา แต่นายท่าคงจะ งง งง ว่าการเปลี่ยนซิมมันคงลำบากมากหรือแกคงทำไม่เป็น (อันนี้คิดเองนะ)
แกก็เลยอิดออด ไอ้เราก็หน้าเสีย เหงื่อแตกแหล่ะ บังเอิญมีคุณทหารเดินมาเสียบชาร์ทแบตกล้องถ่ายรูปตรงป้อมนายท่าพอดี
แล้วคงเห็นแล้วยืนขอร้องนายท่าอยู่ คุณทหารก็เลยแกะฝาโทรศัพท์ของตัวเองแล้วเอาซิมของเราไปใส่เพื่อดูเบอร์โทรศัพท์
แต่ความซวยยังไม่สิ้นสุดพอใส่แล้ว แต่นแต้นแต๊นนนนน ไม่มีเบอร์ใครเลยเพราะว่าไม่ได้บันทึกเบอร์ลงซิมแต่บันทึกลงเครื่องหมด
เฮ้อ สุดท้ายก็ยกมือไหว้ขอบคุณคุณทหารไปตามระเบียบ แล้วตัวเราก็ยืนรอเพื่อนอีกซักพักแล้วกระโดดขึ้นรถ 59 ไปสนามหลวง
แล้วหาร้านเน็ตอีก 1 ชั่วโมง เพื่อติดต่อกลุ่มเพื่อน สุดท้ายก็ได้เจอกันและไปไหว้พระกันเรียบร้อย อิ่มบุญ อิ่มความสุขและอิ่มน้ำใจ
<<จากเด็กหญิงตัวดำเสื้อส้ม>>