ถ้าคุณสร้างหนังแบบเค้าไม่ได้ คุณก็ไม่มีสิทธิ์วิจารณ์ - ในฐานะที่เป็นคนชอบรีวิวหนัง ขอให้ได้อธิบายหน่อยครับ



หมายเหตุ : บทความนี้ก็เขียนบ่นไปเรื่อย ไม่ได้เป็นคนมีความรู้ ไม่ได้จบเอกภาพยนตร์ ไม่ได้เป็นคนสร้างหนัง ไม่ได้จบอักษร เป็นแค่คนๆหนึ่งที่ชอบดูหนังแล้วก็เอามาเล่า มาบอกความคิดเห็นให้คนอื่นๆฟังเท่านั้นเอง

ทุกครั้งที่มีหนังกระแสหลัก หนังดัง หนังตลาดจ๋า เข้าโรงฉาย มักจะเกิด Drama กับผู้วิจารณ์หนังด้านลบกับหนังนั้นๆอย่างเลี่ยงไม่ได้เลยล่ะครับ

และเวลานี้ เหตุการณ์เหล่านี้ก็กำลังเกิดขึ้นกับการรีวิว Transformers 4 ทั่วทุกหัวระแหงการรีวิวหนังเรื่องนี้ในด้านลบ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

บทความสั้นๆนี้ก็เลยเขียนมาออกแนวบ่นจากการที่พบเห็นจากเพจอื่น กรุ๊ปหนัง และบอร์ดอื่นๆมากมายที่กำลังเกิด Drama เล็กๆน้อยๆกันอยู่

ปัญหาอย่างหนึ่งที่พบเจอเวลามีคนรีวิวหนัง แล้วจะมีคนมาเหน็บด้วยประโยคโคตรจะสุดแสนคลาสสิคมากๆว่า

"สร้างได้อย่างเขาไหมล่ะ"

ขอโทษนะครับ การวิจารณ์ การรีวิว มันก็เป็นการบอกเล่าเรื่องราวที่เราไปพบเจอ ที่เรารู้สึก แสดงออกมาเป็นคำพูด แสดงออกมาเป็นความเห็น ลองลดอีโก้ในใจ แล้วถอยมาดูภาพกว้างครับ ทุกอย่างที่เกิดในชีวิตประจำวันของเรา มันก็เกิดการรีวิวขึ้นแทบจะทุกนาทีด้วยซ้ำ เช่น "ไม่เห็นอร่อย" "รถคันนี้เครื่องไม่ดี" "การ์ตูนเรื่องนี้ไม่หนุก" "ไม่ชอบหัวหน้าเลยว่ะ" และอื่นๆอีกมากมาย

จำเป็นเหรือครับ การที่เราจะรีวิว หรือออกความเห็นเรื่องใดๆ เราจะต้องทำสิ่งนั้นเป็น ถ้าคุณจะเอาหลักการ "สร้างได้อย่างเขาไหมล่ะ" ถ้าอย่างนั้น เวลาที่คุณกินข้าวนอกบ้าน เราก็ไม่มีสิทธิ์ออกความเห็นในรสชาติอาหารและก้ต้องฝืนกินอาหารร้านนั้นต่อไปทั้งๆที่มันไม่อร่อยหรือ (ผมทำกับข้าวไม่เป็นครับ) ไม่ต้องเรื่องทำกับข้าวก็ได้ เรื่องการบริการของค่ายโทรศัพท์มือถือ สัญญาณหาย สัญญาณไม่ดี เราก็ต้องต่อว่าเค้าได้สิ แต่ถ้าจะเอาตรรกะว่า "สร้างได้อย่างเขาหรือเปล่าล่ะ" เอ่อ อย่างน้อยก็ต้องมีเงินเป็นหมื่นล้านนะครับถึงจะมีเงินสร้างเครือข่ายมือถือน่ะครับ

การรีวิว มันคือการออกความเห็น การออกความเห็น การติติง ซึ่งผู้ให้บริการ (รวมถึงตัวมนุษย์ทั่วๆไป) หากยอมรับความเห็น นำไปปรับปรุงมันก็เกิดสิ่งที่ดีๆต่อไป ในแง่ของธุรกิจ มันเกิดการแข่งขัน เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสิ่งที่ดีที่สุด

โอเค ถ้าสิ่งที่เราได้รับมันฟรี เราคงไม่มีสิทธิ์ไปบ่น ไปรีวิวอะไรมาก เพราะมันเป็นเรื่องของน้ำใจที่หยิบยืนให้แก่กัน แต่กับการบริการที่เราต้องเสียค่าใช้จ่าย เราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะออกความเห็นครับ ยกเว้นเพียงแต่การรีวิวบางอย่างก็แน่นอนว่าอาจจะเป็นวิธีที่ผิด เช่น การใส่สีตีไข่เพื่อโจมตีให้แย่กว่าความเป็นจริง การรีวิวโดยที่รู้เท่าไม่ถึงการ การรีวิวโดย-ดันและต่อว่าความคิดเห็นของผู้อื่นในลักษณะเสียหาย แบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดีครับ เห็นด้วย

พออ่านข้างบนทั้งหมดจบ ลองเปลี่ยนมาเป็นหนัง มันก็สินค้าอย่างหนึ่งถูกมะ ไม่เห็นจะแปลกถ้าเราจะออกความเห็นว่าหนังเรื่องนี้สนุกหรือไม่สนุก

"รีวิวว่าหนังไม่ดี เพราะคนรีวิว มีอคติ"

ข้อความตรงนี้ยอมรับว่าถูกต้องส่วนหนึ่ง หากการรีวิวมันเต็มไปด้วยอคติส่วนตัวของคนรีวิว มันก็เป็นรีวิวที่ไม่ดี เช่น หนังเรื่องนี้ยิ้มห่วยเพราะกูไม่ชอบหนัง Scifi หรือหากคุณเป็นคนแพ้อาหารทะเล แต่ดันไปกินต้มยำกุ้งแล้วไปบอกว่าต้มยำกุ้งห่วย อันนี้ก็ไม่ถูกต้อง แต่หากมันเป็นการรีวิวที่เต็มไปด้วยเหตุผล ผมว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร อย่างที่บอกครับ การรีวิวมันคือการแสดงความคิดเห็นของคนๆหนึ่ง ความคิดเห็นที่เกิดขึ้นมันเกิดจากการสั่งสมประสบการณ์ การเรียนรู้ การศึกษา ชีวิต ครอบครัว เพื่อน และอีกมากมายล้านแปดมาสู่เหตุและผล และแนวทางการคิดของคนๆนั้นที่เป็นเฉพาะตัว มันไม่ใช่เรื่องของอคติ หากคนที่รีวิวมีเหตุผลต่างๆมาอธิบาย

คนที่ฟังรีวิวก็ลองรับฟังเหตุผลนั้น แล้วเอามาเปรียบเทียบกับเหตุผลตนเองดูครับว่าตรงกับคุณ หรือแย้งกับคุณอย่างไร มันตรงกับลักษณะนิสัย ความชอบ หรือเปล่า ซึ่งคุณอยากจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เป็นสิทธิ์ของคุณอยู่แล้ว

อย่างกรณี TF4 ผมก็รีวิวไว้แย่มาก แต่ถามว่าผมมีอคติหรือไม่ หากใครได้อ่านรีวิวผมแล้ว จะบอกว่าผมเนี่ยอยู่ฝั่งตรงข้ามของคำว่า "อคติ" ด้วยซ้ำ เพราะผมเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ด้วยใจรักในแนวทางการกำกับของไมเคิล เบย์ อีกต่างหาก แถมหนังหลายๆเรื่องที่คนว่าห่วยกัน ผมยังชอบเลย

บางทีคำว่า "อคติ" มันเกิดจากตัวคนที่อ่านรีวิวหรือเปล่า คุณรู้สึกอคติที่มีคนมาบ่นหนังที่คุณชอบ หนังที่คุณหนัง แล้วคุณไปว่าคนรีวิวว่าอคติแทน น่าคิดนะครับ

"พวกนักวิจารณ์ ชอบไปจับผิด"

ผมขอเถียงแทนนักวิจารณ์ตรงนี้เลย ที่ผมกล้าเถียงแทน เพราะตัวผมเองไม่ใช่นักวิจารณ์มืออาชีพอะไรเลย โคตรจะสมัครเล่นด้วยซ้ำ แต่ที่มานั่งเขียนรีวิว ก็เป็นเพราะเป็นคนรักหนัง เป็นคนชอบคิด ชอบเก็บอะไรจากหนังให้ได้เยอะ อยากรู้ว่าหนังต้องการสื่ออะไร หนังพูดถึงอะไร พอหนังไม่สนุก ก็มานั่งคิดตอนหลังดูจบว่า หนังมันสนุกตรงไหน ไม่สนุกตรงไหน พยายามหาเหตุผล หาสาเหตุ แล้วก็เอามาอธิบาย

หากให้ผมตอบแทนนักวิจารณ์ไม่ว่าจะมืออาชีพหรือสมัครเล่น (หากตอบแทนแล้วไม่ใช่ ก็เข้ามาช่วยกันแก้ด้วยนะครับ) ผมว่าคนวิจารณ์ที่มานั่งเขียนบทความ เขียนรีวิวอะไรที่มันยาวๆเนี่ย คือเค้าเป็นคนชอบเขียน ชอบพูดคุย ชอบแสดงความคิดเห็นครับ ก็เหมือนผมนี่แหละ คือบางทีดูอะไรดีๆ (รวมถึงแย่ๆ) ก็อยากเอามาเล่าให้คนอื่นฟังบ้าง และก็อยากรู้ด้วยว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร

แล้วยิ่งนักวิจารณ์มืออาชีพ ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านหนังมากี่พันเรื่อง บางคนเป็นเซียน เป็นกูรูด้านหนัง จบเอกภาพยนตร์ มันก็ทำให้นักวิจารณ์เหล่านี้มีมุมมอง มีความเห็น มีความคิดที่ละเอียดและลึกซึ้ง สามารถกระเทาะหนังเรื่องหนึ่งออกมาเป็นบทความยาวหลายๆหน้าได้ และผมก็มั่นใจว่าพวกเค้าเหล่านี้ไม่ได้เข้าไปจับผิดหนังหรอกครับ

ทำไมผมกล้าพูดแบบนี้

เอาอย่างนี้ครับ ลองถอยออกมาอีกครั้ง ลองมามองอะไรที่ไม่ใช่หนัง สมมติคุณเชี่ยวชาญการขับรถมากๆ และไปนั่งรถคนที่ขับรถไม่เป็นเลย หรือเพิ่งขับเป็นได้ใหม่ๆ สังเกตุไหมครับ คุณก็แค่นั่งรถเขาไปธรรมดาเท่านั้นแหละ แต่คุณวิจารณ์การขับรถจนคนขับมือใหม่แทบจะด่าเราว่า "นี่จับผิดกูป่าวเนี่ย"

เห็นภาพไหมครับ คุณขับรถมาจนชินมากๆ คุณจะเลี้ยว ต้องเปิดไฟเลี้ยว แต่พอคนขับมือใหม่ ไม่เปิด คุณจะรู้ได้ในทันทีเลย ทั้งๆที่คุณไม่ได้จับผิดเลยแม้แต่น้อย

มันก็คนละเรื่องเดียวกันนั่นแหละครับ

นักวิจารณ์มืออาชีพเค้าไม่ได้เข้าไปจับผิดหรอก เค้าแค่เห็นอะไรจากหนังมากกว่าเราเท่านั้นเอง

แน่นอนว่าคนรีวิวก็ต้องมีความผิดพลาดบ้าง มีอคติบ้าง มีความไม่รู้บ้าง (ยิ่งผมมือใหม่ก็มีเต็มไปหมด ผมรู้ตัวดี) คนที่ไม่เห็นด้วยก็ควรจะหาเหตุผล คำอธิบายคุยกันแบบมีตรรกะที่ถูกต้อง แถมสุดท้ายมันจะยังส่งผลดีซะอีก เพราะมันจะเกิดการสนทนาที่ดี คุยกันมีความสุข แถมยังได้เพื่อน ได้รู้จักคนมากหน้าหลายตา ได้รู้จักเปิดโลกให้มันกว้างขึ้น

แต่พอเถอะครับ การเอาตรรกะประเภท "สร้างได้อย่างเขาหรอ" มาใช้

และทิ้งท้ายไว้นิดหน่อยเป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ

เดี๋ยวนี้คนเราแปลกนะ ผู้บริโภคดันกลายเป็นคนปกป้องผู้จำหน่าย ผู้ให้บริการซะเอง แทนที่ผู้บริโภคจะยืนอยู่ข้างเดียวกันเพื่อให้ผลประโยชน์ตกอยู่กับผู้บริโภคอย่างยุติธรรมและเหมาะสมกับเงินที่จ่ายไป

อีกหน่อย สคบ. คงไม่จำเป็นต้องมีอีกแล้วล่ะมั๊ง

ปล. ไม่ได้ต้องการจะสร้างดราม่า เพียงแต่อยากให้ทั้งคนรีวิว และคนอ่านรีวิว เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน คุยกันแบบเป็นเหตุเป็นผล หากเราได้ถกเถียง พูดคุยกันในสิ่งที่เราชอบ อย่างในกรณีนี้พวกเราก็เป็นคนรักหนังเหมือนๆกัน อย่าทะเลาะกันเลยครับ

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=899616480055397&set=a.261764163840635.83587.246975608652824&type=1&relevant_count=1
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่